ข้อมูลผิดพลาดที่ทางแบงค์สีเขียวมอบให้กับลูกค้า และลูกค้าต้องรับผิดชอบเอง

ข้อมูลผิดพลาดที่ทางแบงค์สีเขียวมอบให้กับลูกค้า และลูกค้าต้องรับผิดชอบเอง

กระทู้นี้ยาวหน่อยนะครับ แต่อ่านเถอะ เพราะจะทำให้คนที่กำลังจะกู้ หรือกู้ไปแล้ว ได้ข้อมูลส่วนนี้ไปเพิ่ม

     เริ่มเรื่องเลยนะครับเอาแต่เนื้อๆ และเอาเรื่องที่มีปัญหา เรื่องไหนไม่มีปัญหาผมขอข้ามนะครับ
คือเมื่อปี2555 ผมได้ทำการกู้เงินจากแบงค์สีเขียวเพื่อมาชื้อบ้านเป็นจำนวลเงิน 3.8 ล้าน จากแบงค์สีเขียวสาขาบางขุนเทียน จากพนักงานชื่อวัน (นามสมมุติ) รายละเอียดที่คุยกัน (ด้วยปากเปล่า) คือการไถ่ถอนบ้าน ทางคุณวันได้บอกว่า ผมสามารถไถ่ถอนได้เมื่อครบกำหมด 3ปี โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 3%  ตามที่คุณวัน บอกผม ผมก็OK จึงเซ็นสัญญา

    ก่อนที่ผมจะเซ็นสัญญา ผมถามคุณวันเรื่องนี่หลายครั้งมาก คำถามที่ผมถามก็
1.    ผมสามารถปล่อยเช่าได้มั้ย (คำตอบคือ ได้)
2.    ถ้าผมจะต่อเติมบ้านได้มั้ย ในระหว่างที่อยู่แบงค์ (คำตอบคือ ได้)
3.    ถ้าผมโปะก่อน 3ปี ได้มั้ย (ได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของจำนวลเงินกู้)
4.    ใน 3ปี ถ้าผมขายบ้านได้มั้ย (ได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของจำนวลเงินกู้ เหมือนกัน)
5.    และถ้าหลังจากสามปี ผมสามารถโปะให้หมดเลย และไม่เสียค่าธรรมเนียม 3% ใช่มั้ย (ใช่)
ผมถามคำถามเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อความแน่ใจ เพราะผมกลัวโดนค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จะต้องมาเพิ่มภาระโดนใช่เหตุ

     เมื่อได้คำตามที่ผมกระจ่าง ด้วยความเชื่อใจในตัวองค์กร และผมได้ถามยำหลายครั้งกับคุณวันแล้ว ผมจึงเซ็นเอกสารกู้เงินของทางแบงค์สีเขียว พร้อมประกันที่พ่วงมาด้วย

     หลังจากนั้นผมก็ทำหน้าที่ของผมไปคือ จ่ายค่างวด + ประกัน เดือนละ 52,200.-  เดือนแรกที่จ่ายไปคือ  เงินต้น18,113.32-,ดอกเบี้ย 31,886.68- อีก 2,200 คือค่าประกัน เมื่อเห็นบิลมาอย่างนี้ ผมจึงพยายามโปะเงิน เพื่อจะได้ลดดอกลงมา เพราะดอกแพงเหลือเกิน
ในช่วงเวลาที่ผมผ่อนเงินกู้นั้น (ผมจำวันเวลาไม่ได้) ผมได้รับโทรศัพท์ แนะนำตัวจากคุณ ภพ (นามสมมุติ) ว่าจะมาแทนคุณวัน เพราะคุณวันย้ายสาขา ถ้ามีอะไรสามารถติดต่อคุณภพได้เลย พร้อมกับจะเข้ามาแนะนำตัว ซึ่งเราก็นัดวันเวลากัน แต่พอถึงเวลา สรุปผมรอเก้อ ผมก็เป็นคนง่ายๆ ไม่มาก็ไม่มา ไม่เป็นไร เพราะคงไมมีอะไรต้องคุยกันมากมาย หรือเขาอาจจะติดธุระ และลืมโทรมาบอก (เรื่องนี้ไม่มีอะไรแค่อยากบอก เพราะไหนๆ ก็จะเล่าและ ก็เอาประสบการณ์ที่เจอมาทุกเรื่องเล่าให้หมด)

     ผมทำหน้าที่ของผมดีมาโดยตลอด ไม่เคยขาดตกบกพร่อง จนเมื่อการกู้เงินปีที่ 3ผ่านไป ช่วงกลางเดือน 7/58 ผมได้ส่งเอกสารไปให้กับทางธนาคารว่าผมจะขอปิดบัญชีเงินกู้ พร้อมให้ทางธนาคารสลักหลัง เพราะจะได้ไปทำเรื่องเปลี่ยนชื่อที่กรมที่ดิน

     27/7/58 เวลาประมาณ 14.00น. ผมได้รับโทรศัพท์จากทางแบงค์สีเขียวสาขาบางขุนเทียน เราได้คุยกันว่า ผมจะปิดยอดวันไหน เพราะทาง ธ. จะต้องทำเรื่องไปให้ที่สำนักงานใหญ่ และอยากรู้เหตุผลว่าผมปิดเพราะอะไร ผมรีไฟแนนซ์กับ ธ. อื่นหรือเปล่า เพราะเขาต้องเขียนรายละเอียดส่งไปด้วย เราคุยกันผ่านไปด้วยดี เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     29/7/58 เวลาประมาณ 12.47น. ทางเจ้าหน้าที่โทรมาถามผมว่า ผมจะไปปิดวันไหน ผมตอบไป ผมจะไปปิดวันนี้ จริงๆ ผมจะปิดตั้งแต่เมื่อวานแต่เมื่อวานผมทำแคชเชียร์เช็คไป ผมไม่รู้ว่าในกรณีนี้ ธ. ไม่รับแคชเชียร์เช็ค ผมเลยฝากเข้าบัญชีของแบงค์สีเขียวก่อน เพื่อรอเคลียริ่ง น่าจะได้เงินช่วงบ่าย เดี่ยวถ้าได้เงินแล้วผมจะออกไปทำเรื่องเลย



     ***เรื่องมาเกินตอนนี้ครับ***
     29/7/58 เวลาประมาณ 13.01น.  เธอโทรกับมาบอกว่า (ขอสรุปใจความเลยนะครับ) พอดีได้อ่านสัญญาแล้ว สัญญาบอกว่าผมทำเรื่องกู้ เป็นเวลา 10ปี ถ้าในเวลา 10ปีนี้ผมจะไถ่ถอน ผมต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ตามที่สัญญากำหนด
ผม : แต่ตอนที่ผมคุยกับคุณวัน เขาบอกว่าหลังจาก 3ปี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแล้วนี่
พนักงาน : พอดีเพิ่งได้อ่านสัญญา และพี่(เพื่อนที่ทำงาน) เขาบอกว่าให้รีบโทรบอกลูกค้า เพราะกลัวมีปัญหาคุณลูกค้าลองอ่านในสัญญาก็ได้คะ ที่ข้อ 4.
ผม : งั้นถ้าต้องเสียนี่ เท่าไหร่หรอครับ
น้องพนักงาน : ประมาณ 114,000.- อะค่ะ
ผม : OK ถ้างั้นเดี่ยวผม ติดต่อกลับ

     ผมวางสายแล้วผมรีบไปเอาสัญญามาอ่านดู ในสัญญาระบุไว้อย่างนั้นจริงๆ แต่!!! เป็นภาษากฎหมาย ที่อ่านแล้วต้องมาแปล และอ่านข้อ 4. เสร็จต้องวนกลับมาอ่านที่ข้อ 3. อีก และตอนที่ทำสัญญา ผมก็ถามกับคุณวัน เพื่อยืนยันเรื่องนี้แล้ว แปลว่า ถ้าคุณวันไม่ได้ตั้งใจโกหกผม ก็แปลว่าทางคุณวันศึกษาข้อมูลมาไม่ดี และมาขายให้ลูกค้า และอีกประเด็ดก็คือ ผมไว้ใจเขามากเกินไป


(ขึ้นหน้าใหม่)

///เพิ่มรูปแล้วนะครับ และยอมรับครับว่าเชื่อใจพนักงานมาก และอ่านข้อความในสัญญาไม่ละเอียดด้วย เพราะมีหลายหน้า///


     เวลา 13.17น. ผมตัดสินใจโทรไปคุยกับคุณวัน เพราะเขาเป็นคนทำสัญญานี้ “ทางคุณวันก็ยังยืนยันว่า ถ้าเกินกำหนด 3ปี แล้วจะไม่มีค่าธรรมเนียม” ให้ลองอ่านในสัญญาดีๆ ครับ ผมก็ OK  มาช่วยกันอ่านกะที่บ้าน อ่านกัน 3คน ก็ไม่เจอจริงๆ

     เวลา 14.00น. จึงตัดสินใจ โทรกับไปทาง ธ. และบอกว่า ทางคุณวันยืนยัน หลังปีที่ 3 ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแล้ว ซึ่งทางน้องพนักงานก็ยืนยันว่า “แต่ในสัญญามันเขียนมาแบบนี้จริงๆ” (ผมคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจและหาคนช่วยรับผิดชอบเพราะเงินแสนกว่าบาท ผมสามารถแดรกข้าวได้ทั้งปีเลย)
ผม : และผมจะทำยังไงได้บ้าง ผมจะฟ้อง จะcomplain ทางไหนได้ เพราะผมไม่ OK เลย
น้องพนักงาน : งั้นเดี๋ยวสักครู่นะคะ (น้องโอนสายไปให้อีกคนนึงคุย)

     หลังจากนั้นผมก็คุยกับอีกคนนึง ซึ่งคนนี้ผมไม่รู้จักชื่อ ขอเรียกว่า 1 และกันนะครับ
     ผมคุยกับคุณ 1 ประมาณ 10นาที เพื่อบอกเจตนารมณ์ของผมไปว่า ผมรู้ว่าทางคุณ 1ไม่ผิด เพราะแค่มาทำหน้าที่ต่อจากคนอื่น หรือมาประสานงานให้เพื่ออำนวยความสะดวก แต่สิ่งที่ผมต้องการ ผมต้องการคนที่จะมารับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะผมก็ไม่ผิด ในความคิดผมคนที่ผิดคือ คุณวัน เพราะเขาให้ข้อมูลผิดพลาด ทำให้เกิดการเข้าใจผิด และคุณวันที่เป็นคนของแบงค์สีเขียวก็ให้ข้อมูลมาผิดเช่นกัน และบอกไปว่าสัญญาจะมีกี่แบบ กี่ประเภท ผมไม่รู้ไม่ต้องมาอธิบายให้ผมฝัง เพราะยังไงผมก็ไม่เข้าใจอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมต้องการรู้ว่าทางแบงค์ จะช่วยอะไรผมได้บ้าง

     และผมก็ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องสัญญา เพราะผมไม่เข้าใจสัญญาที่ว่า สัญญา 10ปี ห้ามไถ่ถอนก่อน 10ปี หมายความว่ายังไง คุณ1 อธิบายให้ฟังแบบง่ายๆคือ ใน 10ปี ถ้าลูกค้า โปะหมดก่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็หยุดจ่ายไป (ในระบบจะขึ้นว่าจ่ายหมดแล้ว) แต่ไม่สามารถทำเรื่องเปลี่ยนชื่อได้ ถ้าจะเปลี่ยนต้องหลังจากปีที่ 10 ไปแล้ว กรณีนี้จะไม่เสียค่าธรรมเนี่ยม
     แต่ ถ้าใน 10ปี ผมโปะหมด และอยากไปเปลี่ยนชื่อ ผมต้องยอมเสียค่าธรรมเนียม 3% (นี่เป็นข้อมูลใหม่ที่ผมได้จากทางคุณ1 ผมเพิ่งรู้ว่ามีเงื่อนไขแบบนี้ด้วย)


1 : งั้นขออนุญาตยื่นเรื่องนี้ให้ ผู้การ ตัดสินใจนะคะ แต่ตอนนี้ผู้การออกไปพบลูกค้า พรุ่งนี้ (30/7/58 วันอาสาฬหบูชา) ก็วันหยุด เปิดทำการวันที่ 31
ผม : ได้ครับ และสรุปให้ผมฝังด้วยนะครับว่าได้เรื่องยังไงบ้าง

     หลังจากนั้นประมาณ 20นาที ทางคุณ 1 ติดต่อกลับมาบอกประมาณว่า จะยื่นเรื่องให้ก่อนจะได้ไม่เสียเวลา เรื่องที่ยื่นให้ก่อน คือเสียค่าธรรมเนียม จาก 3% เหลือ 1.5% (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอนุมัติหรือไม่) จะเหลือประมาณ 57,000.-  
ผมบอกว่าผมไม่ OK  ผมต้องการให้ลดมากกว่านี้  
เธอบอกว่า งั้นยังไม่ยื่นเรื่องให้นะคะ รอให้ผู้การเข้ามาก่อนนะคะ (ผู้การออกไปพบลูกค้า)

     วันที่ 30/7/58 (สาขาในห้าง) ผมตัดสินใจไปโปะเงินเพิ่มอีกจำนวน 2ล้าน  เพื่อจะได้ลดเงินต้นลง และมีส่วนที่คงเหลือไว้เพื่อรอให้ทางแบงค์สรุปให้ผมว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ยังไงให้ผมได้บ้าง



     ผมอยากบอกกับทางแบงค์สีเขียวว่า องค์กรของคุณเป็นองค์กรที่ใหญ่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ มีความน่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ในกรณีของผมพนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของทางแบงค์สีเขียว ให้ข้อมูลผมมาผิดพลาด และซึ่งผมก็ถามย้ำหลายครั้งแล้วด้วย แต่ข้อมูลที่ได้ก็ยังผิดอยู่ดี ผมอยากให้ทางแบงค์สีเขียว โปรดให้พนักงานในองค์กรของคุณ ศึกษาข้อมูลมาให้ดีซะก่อนที่จะมาขายให้สินค้าให้กับลูกค้า ไม่ว่าสินค้านั้นจะเป็นตัวไหนก็ตาม เพราะข้อมูลที่คุณให้มาผิดนั้น มันสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของคุณ ทำให้องค์กรของคุณหมดความน่าเชื่อถือ หมดความไว้วางใจได้

     ที่ผมเอามาตั้งกระทู้ เพราะว่าผมไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจอปัญหาแบบผม ผมมาเตือนว่าถ้าเป็นไปได้
1.    สัญญาที่เราจะได้อ่านตอนทำเรื่องกู้เงิน จะเป็นภาษากฎหมาย (ซึ่งต้องมานั่งแปลใจความให้ละเอียดอีกที) และมีประมาณ 10กว่าหน้าได้ ถ้าเป็นไปได้ให้ขอสัญญามาอ่านก่อน 1-2 วัน ค่อยๆอ่าน ค่อยๆ ทำความเข้าใจ และค่อยเรียกเจ้าหน้าที่เข้ามาเซ็นเอกสาร เพราะที่ผมเจอมาคืน เจ้าหน้าที่นัดมาทำเอกสารที่ร้านผมเลยจึงทำให้มีเวลาอ่านไม่นานนัก
2.    อย่าเชื่อคำพูดของคนที่ทำเรื่องกู้ให้เรา เด็ดขาด! สิ่งเดียวที่เราเชื่อได้คือ เอกสารที่เราต้องอ่านและทำความเข้าใจเอง ดังนั้น ย้อนกลับไปอ่านข้อที่ 1. อีกที!

ทุกวันนี้ คุณวัน ย้ายสาขาไปอยู่สาขาอื่นแล้ว
คุณภพ ย้ายแผนก ไปทำส่วนอื่น (คุณ 1 บอก)
น้องพนักงานที่คุยด้วยทั้ง2 คนพูดจาดีมาก ให้ข้อมูล และพยายามหาข้อมูลมาตอบให้ และโทรกลับมาตามที่ตกลงไว้ตลอก

*** สัญญาที่ผมได้ชื่อ เท็น (TEN) อะไรก็ไม่รู้ผมจำชื่อไม่ได้ ข้อกำหนดที่ทางพนักงานบอกมาคือ
-    ระยะเวลาการกู้คือ 10ปี ใน10ปีห้ามไถ่ถอน
-    สามารถโปะหมดได้ แต่ไม่สามารถโอนชื่อได้ (ถ้าไม่อยากเสีย 3%)
-    ถ้าโปะหมด และจะโอนชื่อก่อน 10ปี ต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของวงเงินกู้
-    เท่ากับว่าในระยะเวลา 10ปี บ้านหลังนี้ขายไม่ได้ อยู่ได้อย่างเดียว


     เพิ่มเติมนะครับ
     วันที่ 31/7/58 หลังจากที่วันที่ 29/7/58 ได้ตกลงกันว่าจะติดต่อกลับในวันนี้ วันนี้ผมไม่ได้รับสายจากทาง ธ. เลยครับ ปิด เสาร์ อาทิตย์ คงต้องรอวันจันทร์ ให้เขาติดต่อกลับมา

     UPDATE วันที่ 3/8/58 ทาง ธ. ติดต่อกลับมาบอกว่า กำลังดูเอกสารและเสนอเรื่องไปให้ทางผู้ใหญ่พิจารณา พร้อมกับทางผม ได้ขอความเห็นใจไปว่า ไม่ว่าจำนวนเงินจะมากจะน้อยก็ตาม แต่กว่าจะหามาได้มันเป็นเรื่องลำบาก (แอบมีหวังเล็กๆ ว่า ถ้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเลยได้ยิ่งดี จะขอบคุณทางแบงค์มากๆ)

     UPDATE วันที่ 4,5/8/58 ธ. ติดต่อมาว่ากำลังเสนอเรื่องไปให้ทางผู้ใหญ่พิจารณา ขอให้ทางลูกค้ารอหน่อย

     และขอเพิ่มเติมนะครับ คือผม อยากรู้ว่า สินเชื่อกู้บ้าน กับสินเชื่อ SME มันมีความต่างและเหมือนกันตรงไหนบ้างอะครับ ใครมีความรู้เรื่องนี้ช่วยอธิบายให้ทีครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการกู้ หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อคนที่กำลังจะกู้ควรจะรู้เอาไว้ และจะได้รู้ว่าเขาควรจะทำเรื่องกู้แบบไหน (สำหรับคนที่สามารถเลือกได้) อะครับ ขอบคุณครับ

     UPDATE ตามไปอ่าน ความเห็นที่ 47 นะครับ  ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
โดนเหมือนกัน ของเราโดน 4 แสนกว่า แบงค์เขียวเหมือนกัน สัญญาผูกมัดมาก

ของเราไม่มีกำหนดเวลาด้วยนะในสัญญา คือ ถ้าเอาโฉนดออกเมื่อไหร่ โดนทันที 3% ของเงินต้น
บางวงกู้มา 4 ล้าน ค้างชำระ 7 แสน ขอโปะ ไม่ได้โฉนดคืน ต้องโดนปรับ 3% ของ 4 ล้านก่อน

กรณีนี้เป็น SME นะ แต่ถ้าสัญญาซื้อขายบ้านทั่วไปไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้กู้บ้านกับแบงค์เขียว

ใครมีสัญญาลองเอามาเปิดดู ว่าเป็นเหมือนกันหรือป่าว มันน่ากลัวมากพูดเลย ร้องไห้หนักมาก ทนายก็ช่วยไม่ได้นะ เราเซ็นต์เองกับมือ

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่อ่าน สัญญาพวกนี้เค้าไม่ได้ให้คุณอ่านก่อนเลย ถึงวันทำสัญญาเซ็นต์อย่างเดียว 20แผ่น 2-3 ชุด อ่านตอนไหนดี SME เล็กๆ ก้มหน้ารับชะตาไป
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เคยจำนอง ธ.อาคารสงเคราะห์ 3 ปีไปขอลดดอกเบี้ยทำเป็นบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญา
ปีที่ 5 รีไฟแนนซ์ไป ธ.ออมสิน
จนท.บอกไม่เสียค่าปรับ ตอนเซ็นเอกสารขอไถ่ถอนก็ไม่มีค่าปรับ แต่เช้าวันที่จะจำนองใหม่ กำลังเซ็นสัญญากับธ.ออมสิน พนักงานโทรมาบอกว่าต้องจ่ายค่าปรับ 37,500 ถ้าไม่จ่ายพี่ก็ไม่ได้โฉนด เราโต้แย้งไปหลายอย่าง ตอนแรกบอกไม่มีไง ในเอกสารที่เซ็นก็ไม่ระบุ ทำให้เราคำนวณวางแผนเงินผิดพลาด  พนักงานไม่ยอม บอกว่าเป็นการเริ่มสัญญาใหม่  เราเลยจำใจจ่ายค่าปรับเพราะทำเรื่องไปหมดทุกอย่างแล้ว
วันนั้นเลยไปร้องเรียนในเว็บธ.อาคารสงเคราะห์ เที่ยงนั้นสนง.ใหญ่โทร.มาสอบถามรายละเอียด สุดท้ายได้เงินคืนค่ะ..เป็นการตีความผิดทำให้โมโหด้วยพูดจาแบบขู่เรา สุดท้ายพูดดีมากขอโทษขอโพย คงจะโดนตำหนิมา
แล้วคิดดูว่าคนที่ไม่รู้อีกตั้งเท่าไหร่โดนเอาเปรียบ
ความคิดเห็นที่ 1
ก็แบงก์เค้าดักทาง  ไง
คนฉลาดในอดีต กู้ซื้อบ้าน ได้เงินกู้ราคาถูก คือดอกเบี้ยต่ำ  
...จากนั้นก็เอาไปลงทุน เช่น ปั่นหุ้น  ทุ่มประมูลที่จากกรมบังคับคดี  
พอได้กำไร ก็เอามาไถ่ถอน 3ปีมั่ง 5ปีมั่ง  
..แบงก์ก็นั่งหน้าหมาไปเลย เพราะ ดอกเบี้ยรับที่คาดว่าจะได้ ก็ ไม่มีแล้ว
แต่ลูกค้าเงินกู้ ก็สบายแฮ ทำกำไร บนหัวแบงก์ ...อิ่มชิวชิว

..ดังนั้น ยุคนี้ แบงก์รุ่นลูก  ไม่ยอมแล้ว กรูจะเอาทุกเม็ด
เจ้าของกระทู้ ก็เจอ 10ปี อย่างที่โดน  .........เฉพาะสัญญารายย่อยนะ  รายใหญ๋ ยังคงให้ทำแบบเดิมๆอยู่
...ดังนั้น เทคนิคการโปะต้น เพื่อทำลายดอกเบี้ย  จะอนุญาตเฉพาะคนซื้อไปอยู่อาศัยจริงๆเท่านั้น
..คนที่เล่นเกะแบงก์พื่อเอากำไร จากส่วนต่างสินเชื่อต่ำ ก็จะแห้วไปตามแบบเจ้าของกระทู้ นั่นเอง

ยินดีด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่