นี่ก็เป็นกระทู้แรกของจขกท. อยากจะแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่ได้มีโอกาสไปเรียนภาษาจีนระยะสั้นที่ประเทศจีน
ก่อนอื่นนะคะ จขกท.มีพื้นฐานภาษาจีนมาเพียงเล็กน้อยถึงน้อยมากค่ะ ส่วนภาษาอังกฤษนี่แย่มากเลย ขนาดไทยแลนด์ยังเขียนไม่เป็นเลยคร่าา
เข้าเรื่องเลยดีกว่า ระหว่างช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ ทางบ้านของจขกท.อยากให้ไปเรียนภาษาจีน เพราะคุณพ่อพูดจีนได้และทำธุรกิจทางด้านนี้ เราจึงตัดสินใจ ค้นหาในอินเตอร์เน๊ต 'ศึกษาต่อต่างประเทศ' ก็ไปเจอมาอยู่ที่นึงน่าสนใจมากค่ะ มีรีวิวน่าเชื่อถือเลยตัดสินใจติดต่อเข้าไป และทำการสมัครเป็นคอร์สระยะสั้น1เดือนค่ะ 1เดือนในความคิดตอนนั้น(นานมากเลย มีสั้นกว่านี้ไม๊ ไม่อยากไปเลย ฮือๆ ทำเพื่อพ่อเลย เอาว่ะ!) ก็ทำการชำระค่าใช้จ่ายโดยการนัดเข้าไปพบที่ศูนย์แนะแนวเลยนะค่ะ เพื่อความมั่นใจด้วย ค่าใช้เป็นจำนวนเงินที่สูงอยู่ค่ะ สำหรับพ่อแม่ของจขกท.ที่หาเช้ากินค่ำ พอชำระเสร็จเรียบร้อย ทางศูนย์จัดการเอกสารให้ทุกอย่าง ก่อนวันเดินทางให้มารับเอกสารค่ะ
พอถึงวันที่ต้องออกเดินทางต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชีวิตนี้ไม่เคยขึ้นเครื่องคนเดียวที่สุวรรณภูมิเลยค่ะ นี่ยิ่งต้องออกนอกประเทศอีก คิดหนักมาก อะไรคือตม.แล้วต้องทำอะไรบ้างไม่เคยรู้มาก่อน คิดในใจ(เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน นิสัยคนไทยค่ะ เดินตามเขาไป 555+) ตอนเช็คอินก็มีเพื่อนกับคุณลุงมาส่งค่ะ พอเช็คอินเสร็จก็เขียนใบตม.สีเหลืองๆด้านที่ออกนอกประเทศ กรอกให้ครบให้ถูกต้อง เอาใบตม.แนบไปกับพาสปอร์ตก็เป็นอันเสร็จ ต่อจากนี้พอขึ้นบันไดนั้นไปก็ต้องลุยคนเดียวแล้วล่ะ นี่แหละของจริง!
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ไม่เคยออกนอกประเทศจขกท.จะบอกต่อประสบการณ์และการปฎิบัติตัวนะคะ
เราต้องขึ้นไปชั้น2จะมีบันไดเลื่อนอยู่ทางซ้ายมือ จะมีพนักงานตรวจตั๋วอยู่ที่หัวบันไดเลื่อน เราก็ให้ตรวจไปตามปกติ จากนั้นขึ้นไปเพื่อตรวจความปลอดภัย เราต้องเอาสัมภาระทุกอย่างวางใส่ตะกร้าที่เขาเตรียมไว้ให้ ถ้ามีพวกเขาอิเล็กทรอนิกส์ให้แยกใส่อีกตะกร้า(ห้ามเอาใส่ไว้ในกระเป๋าเด็ดขาด) และที่สำคัญ ต้องถอดรองเท้าตรวจด้วยค่ะ ตะกร้าจะคนละสีกับตะกร้าที่ใส่สัมภาระตรวจ ตะกร้ารองเท้าจะวางอยู่ที่พื้นคะ ถ้าใครใส่เสื้อแขนยาวไปด้วยต้องถอดออกเพื่อตรวจด้วยนะคะ พอเราเอาสัมภาระทุกอย่างให้เขาสแกน ทีนี้ก็เหลือแค่ตัวเราแล้วละค่ะ เราต้องเข้าไปยืนในตู้ ตามเครื่องหมายรูปเท้าที่พื้น เหมือนเขาจะตรวจร่างกาย จากนั้นให้ยกมือ2ข้างค้างไว้ เครื่องสแกนจะหมุนรอบตัวเรา2รอบ จนกว่าพนักงานจะบอกว่าออกมาได้ พอออกมาก็รับกระเป๋าถ้ากระเป๋าเราผ่านก็เป็นอันเสร็จค่ะ แล้วเราก็ไปต่อได้เลย
จากนั้นก็เดินไปหน้าเกตค่ะ หลงอยู่2รอบ อะไรจะใหญ่อลังขนาดนี้ เดินหลงจนต้องถามแม่บ้านอ่าค่ะ ขอโทษนะค่ะ(ยื่นตั๋วให้ดู)นี่ไปทางไหนหรอค่ะ แม่บ้านตอบกลับมาว่า อ๋อไปทางนี้เลยจร้า เราก็ขอบคุณคร่า ด้วยความดีใจ หารู้ไม่นี่คือภาษาไทยประโยดสุดท้ายที่จะได้พูด จากนั้นก็เดินต่อไปค่ะ พอไปถึงหน้าเกตก็นั้งรอยังไม่ถึงเวลา มองซ้ายมองขวาก็เจอแต่คนจีนเต็มไปหมด เขาพูดอะไรกันฟังไม่รู้เรื่อง ขอนั่งเงียบๆคนเดียวละกันน่ะ พอถึงเวลาขึ้นเครื่องรู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะ เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยนั่งเครื่องคนเดียวออกนอกประเทศแบบนี้ ระยะการเดินทาง3ชั่วโมงค่ะ
อ้อลืมบอกไป คุณลุงกำชับเราไว้ว่าพอขึ้นเครื่องได้สักพักแอร์จะเอาใบตม.มาแจกเพื่อจะเอาไปตรวจตอนถึงที่นู้น แต่ด้วยความชะล่าใจ พอกินเสร็จปุบหลับเลยค่ะ หลับค่ะหลับยาวด้วยค่ะ ข้างๆที่นั่งว่างยืดยาวเลยค่ะ จะสบายไปไหน พอใกล้ถึงแอร์ก็บอกให้เปิดหน้าต่างให้สุด เราก็เปิด ตื่นตอนถึงพอดี พอเครื่องลงจอดคิดขึ้นได้ว่า (เฮ้ยยยยย ใบตม. เรายังไม่ได้เขียนนี่ โอ้วพระเจ้า ทำไงดี แอร์แอร์อยู่ไหน!) พี่ค่ะพี่ค่ะ พอดีหนูยังไม่ได้ใบตม.เลยค่ะ แอร์รีบวิ่งไปเอามาให้เราเขียน เราก็รีบเขียนเลยค่ะ เกิดมาพึ่งเคยเขียนครั้งแรก เขียนอะไรบ้างเนี้ย อ่านไม่ออก ช้าไปอีกค่ะ คนในเครื่องลงไปหมดแล้วเหลือแค่เราคนเดียว ฮือๆๆ จะทำยังไงดีเนี้ย พอเขียนเสร็จก็รีบวิ่งเลยค่ะ ระหว่างทางที่วิ่งมีความรู้สึกเหมือนกำลังผ่านไปอีกมิตินึงเรากำลังก้าวไปสู่อีกประเทศนึงแล้วค่ะ
ตัวคนเดียว ในดินแดนอันแสนไกล กับประสบการณ์สุดท้าทาย
ก่อนอื่นนะคะ จขกท.มีพื้นฐานภาษาจีนมาเพียงเล็กน้อยถึงน้อยมากค่ะ ส่วนภาษาอังกฤษนี่แย่มากเลย ขนาดไทยแลนด์ยังเขียนไม่เป็นเลยคร่าา
เข้าเรื่องเลยดีกว่า ระหว่างช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ ทางบ้านของจขกท.อยากให้ไปเรียนภาษาจีน เพราะคุณพ่อพูดจีนได้และทำธุรกิจทางด้านนี้ เราจึงตัดสินใจ ค้นหาในอินเตอร์เน๊ต 'ศึกษาต่อต่างประเทศ' ก็ไปเจอมาอยู่ที่นึงน่าสนใจมากค่ะ มีรีวิวน่าเชื่อถือเลยตัดสินใจติดต่อเข้าไป และทำการสมัครเป็นคอร์สระยะสั้น1เดือนค่ะ 1เดือนในความคิดตอนนั้น(นานมากเลย มีสั้นกว่านี้ไม๊ ไม่อยากไปเลย ฮือๆ ทำเพื่อพ่อเลย เอาว่ะ!) ก็ทำการชำระค่าใช้จ่ายโดยการนัดเข้าไปพบที่ศูนย์แนะแนวเลยนะค่ะ เพื่อความมั่นใจด้วย ค่าใช้เป็นจำนวนเงินที่สูงอยู่ค่ะ สำหรับพ่อแม่ของจขกท.ที่หาเช้ากินค่ำ พอชำระเสร็จเรียบร้อย ทางศูนย์จัดการเอกสารให้ทุกอย่าง ก่อนวันเดินทางให้มารับเอกสารค่ะ
พอถึงวันที่ต้องออกเดินทางต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชีวิตนี้ไม่เคยขึ้นเครื่องคนเดียวที่สุวรรณภูมิเลยค่ะ นี่ยิ่งต้องออกนอกประเทศอีก คิดหนักมาก อะไรคือตม.แล้วต้องทำอะไรบ้างไม่เคยรู้มาก่อน คิดในใจ(เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน นิสัยคนไทยค่ะ เดินตามเขาไป 555+) ตอนเช็คอินก็มีเพื่อนกับคุณลุงมาส่งค่ะ พอเช็คอินเสร็จก็เขียนใบตม.สีเหลืองๆด้านที่ออกนอกประเทศ กรอกให้ครบให้ถูกต้อง เอาใบตม.แนบไปกับพาสปอร์ตก็เป็นอันเสร็จ ต่อจากนี้พอขึ้นบันไดนั้นไปก็ต้องลุยคนเดียวแล้วล่ะ นี่แหละของจริง!
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ไม่เคยออกนอกประเทศจขกท.จะบอกต่อประสบการณ์และการปฎิบัติตัวนะคะ
เราต้องขึ้นไปชั้น2จะมีบันไดเลื่อนอยู่ทางซ้ายมือ จะมีพนักงานตรวจตั๋วอยู่ที่หัวบันไดเลื่อน เราก็ให้ตรวจไปตามปกติ จากนั้นขึ้นไปเพื่อตรวจความปลอดภัย เราต้องเอาสัมภาระทุกอย่างวางใส่ตะกร้าที่เขาเตรียมไว้ให้ ถ้ามีพวกเขาอิเล็กทรอนิกส์ให้แยกใส่อีกตะกร้า(ห้ามเอาใส่ไว้ในกระเป๋าเด็ดขาด) และที่สำคัญ ต้องถอดรองเท้าตรวจด้วยค่ะ ตะกร้าจะคนละสีกับตะกร้าที่ใส่สัมภาระตรวจ ตะกร้ารองเท้าจะวางอยู่ที่พื้นคะ ถ้าใครใส่เสื้อแขนยาวไปด้วยต้องถอดออกเพื่อตรวจด้วยนะคะ พอเราเอาสัมภาระทุกอย่างให้เขาสแกน ทีนี้ก็เหลือแค่ตัวเราแล้วละค่ะ เราต้องเข้าไปยืนในตู้ ตามเครื่องหมายรูปเท้าที่พื้น เหมือนเขาจะตรวจร่างกาย จากนั้นให้ยกมือ2ข้างค้างไว้ เครื่องสแกนจะหมุนรอบตัวเรา2รอบ จนกว่าพนักงานจะบอกว่าออกมาได้ พอออกมาก็รับกระเป๋าถ้ากระเป๋าเราผ่านก็เป็นอันเสร็จค่ะ แล้วเราก็ไปต่อได้เลย
จากนั้นก็เดินไปหน้าเกตค่ะ หลงอยู่2รอบ อะไรจะใหญ่อลังขนาดนี้ เดินหลงจนต้องถามแม่บ้านอ่าค่ะ ขอโทษนะค่ะ(ยื่นตั๋วให้ดู)นี่ไปทางไหนหรอค่ะ แม่บ้านตอบกลับมาว่า อ๋อไปทางนี้เลยจร้า เราก็ขอบคุณคร่า ด้วยความดีใจ หารู้ไม่นี่คือภาษาไทยประโยดสุดท้ายที่จะได้พูด จากนั้นก็เดินต่อไปค่ะ พอไปถึงหน้าเกตก็นั้งรอยังไม่ถึงเวลา มองซ้ายมองขวาก็เจอแต่คนจีนเต็มไปหมด เขาพูดอะไรกันฟังไม่รู้เรื่อง ขอนั่งเงียบๆคนเดียวละกันน่ะ พอถึงเวลาขึ้นเครื่องรู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะ เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยนั่งเครื่องคนเดียวออกนอกประเทศแบบนี้ ระยะการเดินทาง3ชั่วโมงค่ะ
อ้อลืมบอกไป คุณลุงกำชับเราไว้ว่าพอขึ้นเครื่องได้สักพักแอร์จะเอาใบตม.มาแจกเพื่อจะเอาไปตรวจตอนถึงที่นู้น แต่ด้วยความชะล่าใจ พอกินเสร็จปุบหลับเลยค่ะ หลับค่ะหลับยาวด้วยค่ะ ข้างๆที่นั่งว่างยืดยาวเลยค่ะ จะสบายไปไหน พอใกล้ถึงแอร์ก็บอกให้เปิดหน้าต่างให้สุด เราก็เปิด ตื่นตอนถึงพอดี พอเครื่องลงจอดคิดขึ้นได้ว่า (เฮ้ยยยยย ใบตม. เรายังไม่ได้เขียนนี่ โอ้วพระเจ้า ทำไงดี แอร์แอร์อยู่ไหน!) พี่ค่ะพี่ค่ะ พอดีหนูยังไม่ได้ใบตม.เลยค่ะ แอร์รีบวิ่งไปเอามาให้เราเขียน เราก็รีบเขียนเลยค่ะ เกิดมาพึ่งเคยเขียนครั้งแรก เขียนอะไรบ้างเนี้ย อ่านไม่ออก ช้าไปอีกค่ะ คนในเครื่องลงไปหมดแล้วเหลือแค่เราคนเดียว ฮือๆๆ จะทำยังไงดีเนี้ย พอเขียนเสร็จก็รีบวิ่งเลยค่ะ ระหว่างทางที่วิ่งมีความรู้สึกเหมือนกำลังผ่านไปอีกมิตินึงเรากำลังก้าวไปสู่อีกประเทศนึงแล้วค่ะ