>>> แค่สงสัยครับ ... ทำไมเวลาขอวีซ่าไม่ผ่าน เขาถึงไม่คิดจะคืนเงินเราซักบาท <<<

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม ... ผิดพลาดประการใด ขอโทษด้วยนะครับ

ช่วงนี้ผมเพิ่งจะเรียนจบ แล้วยังไม่ได้ทำงาน .... ครอบครัวของผมเขาเลยอยากที่จะให้ผมไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศก่อน

เพื่อที่จะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ... ผมก็เลยรู้สึกว่า  เออ  มันก็ดีนะ  มันอาจจะดีกว่าอยู่บ้านนั่งเล่นเกมส์ไปวันๆ ไม่มีประโยชน์อะไร

ผมก็เลยจัดแจงหาเอเจนซี่   หาข้อมูลทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับการไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกา  ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์  แคนาดา

ซึ่งผลลัพธ์ก็มาตกที่ออสเตรเลีย ( เพราะได้ข่าวว่าช่วงนี้วีซ่าอเมริกาขอยากมาก  ทั้งท่องเที่ยว  และนักเรียน )  ซึ่งแน่นอนว่าการจะไปประเทศเหล่านี้จะต้องมี "วีซ่า"

ผมก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่า  ซึ่งการขอวีซ่าแต่ละประเทศนั้น "แพงมากกกกกกกกก"  แล้วถ้าขอไม่ผ่าน เขาก็ "ไม่คืนเงิน" ในทุกๆ กรณี .. ผมก็เห็นหลายๆ มาตั้งกระทู้ขอคำปรึกษาใน Pantip เพราะวีซ่าไม่ผ่านเยอะมาก

ผมเลยเกิดคำถามขึ้นมาในหัวว่า  "ถ้าไม่อนุมัติวีซ่าให้ แล้วคุณเอาเงินพวกเขาไปทำไม ?"  ซึ่งผมอ่านกระทู้หลายกระทู้  อ่านไปก็เกิดความรู้สึกเห็นใจ  รวมถึงกลัวด้วย  ว่าจะเกิดขึ้นกับเรา

ผมอ่านไปก็คิดไป  "ทำไมค่าวีซ่าแม่มแพงจังวะ?"  

"ค่าธรรมเนียมหรอ  ธรรมเนียมอะไรของมันวะ เป็นหมื่นๆ   ค่าดำเนินการนี่เป็นหมื่นเลยหรอ? หรือมีค่าไรอีก  อะไรยังไง"  

"นี่เราจะไปเที่ยว   ไปเรียน  เอาเงินไปให้ประเทศพวกเขาแท้ๆ  ทำไมเขาถึงไม่ให้เราไป   ไม่อนุมัติวีซ่าไม่ว่า  แถมยังยึดเงินค่าทำวีซ่าไปอีกเป็นหมื่นๆ"

แล้วในเมื่อไม่อนุมัติวีซ่า  ทำไมไม่คิดจะคืนเงินบ้าง ?? ... ไม่จำเป็นต้องคืนทั้งหมดหรอก  เพราะก็เข้าใจว่าต้องมีค่าดำเนินการ บลาบลาบลา  แต่คืนซัก 30% ได้ไหม ?   เงินเป็นหมื่นๆ  บางคนเขาหามาแทบตาย  บางคนเป็นเงินที่หาด้วยน้ำพักน้ำแรงมาทั้งเดือน   แต่กลับต้องสูญเปล่าเพราะขอวีซ่าไม่ผ่าน   เหมือนเอาเงินเป็นหมื่นๆ ที่หามาทั้งเดือน  ไปโยนทิ้งภายในเวลาไม่กี่นาทีที่สัมภาษณ์วีซ่าไม่ผ่าน.

ขอวีซ่าไม่ผ่านไม่ว่า  แต่บางคนกลับไม่รู้ว่า "มันไม่ผ่านเพราะอะไร"   พอขอเหตุผลที่ไม่ผ่าน    ก็ได้รับคำตอบว่า  "ทางสถานฑูตไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลที่วีซ่าไม่ผ่าน"   ผมอ่านไปก็ยัง เอ้า !!!  คุณเมิงไม่บอก  แล้วพวกเขาจะรู้ไหม   ว่ามันไม่ผ่านเพราะอะไร  จะแก้ไขยังไง..

เหมือนเอาเงินไปโยนทิ้ง โดยไม่ได้รับอะไรตอบแทนกลับมาเลย   มีเพียงความรู้สึกที่เสียไป ....

มาตรการในการอนุมัติอยู่ที่ไหน ?


ที่พิมพ์มานี้เป็นข้อสงสัยส่วนตัวที่เกิดกับผมล้วนๆ ครับ...

ทำไมค่าวีซ่ามันถึงแพงได้ขนาดนี้  นี่ราคาก็ขึ้นเอาๆ  แพงขึ้นเรื่อยๆ   มันทำไมหรอครับ  ทำไมต้องแพงขนาดนี้ ?  

แล้วในเมื่อคุณไม่อนุมัติวีซ่าให้  ทำไมคุณไม่คืนเงินพวกเขา    คุณเอาเงินพวกเขาไปทำไม ?  เอาไปทำไร ?  ยึดไปดื้อๆ เลย ?  นี่จะเอาเงินไปให้ประเทศคุณแท้ๆ  ... ค่าวีซ่าไม่ใช่ถูกๆ ที่จะยื่นเล่นๆ  สามสี่รอบได้

สำหรับคนรวยมันไม่เยอะหรอกครับ  แค่หมื่นสองหมื่น ... แต่สำหรับคนที่มีฐานะปานกลาง ที่เขาพยายามเก็บตังมา  แล้วอยากไปเที่ยวประเทศพวกนี้สักครั้งในชีวิต  แต่กลับโดนปฏิเสธไปเฉยๆ  พร้อมยึดเงินไป.

คุณหักค่าดำเนินการบ้างก็ได้  แล้วคืนเงินกลับมาส่วนหนึ่งก็ได้  ซัก 30% ก็ยังดี    แต่นี่เก็บไปหมดเลย ...  บางคนเสียทั้งเงิน  ทั้งความรู้สึก

มีใครเคยมีความคิดแบบผมไหมครับ ??  ว่าอยากให้มีกฎแบบ   ขอวีซ่าไม่ผ่าน  ไม่อนุมัติวีซ่า  คืนเงิน 20-30% ไรงี้...

ค่าวีซ่าหมื่นนึง  ยึดไป 8 พัน คืนมา 2 พัน

ค่าวีซ่า 5 พัน  ยึดไป 4 พัน  คืน 1 พัน  ไรงี้...


ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ .....



---------- มา EDIT เพิ่มเติมนะครับ -----------

สิ่งที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกแย่ไปตามๆ กัน  คงหนีไม่พ้นกรณีที่ขอวีซ่าไม่ผ่าน   แต่ทางสถานฑูตกลับไม่บอกว่า "มันไม่ผ่านเพราะอะไร"

ทำไมถึงไม่บอก ?  เป็นกฎ ?  หรืออะไรยังไง ?   แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนครับ   หลายคนทางสถานฑูตก็แจ้งว่าทำไมถึงไม่ผ่าน   แต่หลายคนก็ไม่ได้รับคำตอบ  ได้รู้เพียงแค่ว่า "ทางสถานฑูตไม่มีนโยบายต้องแจ้งว่า ทำไมถึงไม่อนุมัติวีซ่า"

แต่ก็มีบางคนที่ได้รับคำตอบที่ทำให้เฟลแบบสุดตีนคือ  ขอวีซ่านักเรียนเพื่อไปเรียนภาษาระยะสั้น 3 - 6 เดือน  แต่สถานฑูตบอกว่า "เกรดภาษาอังกฤษของคุณน้อยไป   ผมคงออกวีซ่าให้คุณไม่ได้"  เงิบปะครับ ถ้าโดนเอง ?  ผมอ่านแล้วผมยังเงิบเลย  แบบเห้ย ถ้าเขาเก่งเขาจะไปเรียนทำไมวะ !?

วีซ่าไม่ผ่านไม่ว่า   เงินไม่คืนไม่ว่า ... แต่ควรแจ้งให้กับ "ทุกๆ คน" ได้ทราบหน่อยไหม ?  ว่าทำไมถึงไม่อนุมัติวีซ่า   ทำไมถึงเข้าไปในประเทศคุณไม่ได้  ไม่ใช่อยากบอกก็บอก   ไม่อยากบอกก็ไม่บอก   ทุกคนจ่ายเงินค่ายื่นวีซ่าเท่ากันนะครับ   ให้สิทธิทุกคนเท่ากันหน่อย

หรือเขามีกฎอะไรที่ห้ามแจ้ง  ใครรู้ ช่วยบอกผมทีนะครับ....
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
ขอพูดเป็นเรื่อง Non-Immigrant Visa อย่างเช่นวีซ่าท่องเที่ยว B-1/B-2
ค่าธรรมเนียมในการร้องขอนั้นก็จัดอยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับค่าธรรมเนียมต่างๆ
ซึ่งอเมริกาเขาจะคิดแบบเท่าเทียมกัน เพราะถือว่าสถานกงสุล หรือสถานฑูต นั้นเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอเมริกา
เจ้าหน้าที่ก็ได้รับเงินดือน บำนาญและวันหยุดเช่นเดียวกันคนในประเทศ ยกเว้นลูกจ้างชั่วคราว หรือท้องถิ่นที่อาจจะไม่เหมือนเท่า

ค่าธรรมเนียมในแต่ละประเทศที่ไปตั้งอยู่ ก็เป็นราคามาตราฐานเดียวกันที่ใช้อยู่ภายในประเทศอเมริกา
ไม่มีว่ามาอยู่ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือไม่พัฒนา หรือ GDP จะไม่เท่ากันแล้ว ก็คิดต่างราคากันก็หาไม่
ยกตัวอย่าง  ค่าธรรมเนียมในการขอ Non Immigrant Visa ทุกปรเทศอยู่ที่ราคา 160 เหรียญ ทั้งจีน เวียดนาม ไทย
ลองดุคร่าวๆ อย่างในประเทศอเมริกาเองก็ตาม มันเป็นค่าธรรมเนียมที่เป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเอกสาร
และทุกอย่างมันก็ดำเนินการไปแล้ว ใช่ว่าจะมาขอคืนส่วนหนึ่งถ้าวีซ่าไม่ผ่าน

การขอ US passport ใหม่  ค่าธรรมเนียม 135 เหรียญ
การขอ US Passport  แบบหาย /ต่ออายุ  110 เหรียญ
การขอ Green Card (คนไทยเรียกใบเขียว)   1070 เหรียญ
การขอ US Citizen   680 เหรียญ
การขอใบขับขี่รถยนต์เล็ก 33 เหรียญ
ค่าธรรมเนียมเข้า Disneyland 99  เหรียญ
ค่าธรรมเนียมเข้า อุทยานแห่งชาติ 30/7วัน เหรียญ

ค่าธรรมเนียมนี้เป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับ US Gov. นั้นมันราคาเดียวกันไม่วาจะที่ไหนในโลก
ถ้าคนอเริกันทำพาสปอร์ตหายในประเทศไทย ก็ต้องจ่ายเงิน 110 เหรียญ ในสถานฑูตออกให้ใหม่
แล้วคิดว่าแพงไหมครับ มันเป็นราคาที่เขากำหนดมา ไม่ได้หมายความว่าอยู่ในประเทศทางแถบเอเซีย แล้วคิดราคาหนึ่ง

หรืออย่างเช่น Mexico ที่มีชายแดตติดกับอเมริกา ยังกับพม่า ลาว เขมร อย่างนั้นเลย
มีคนแอบ หลบหนึ เข้ามาประเทศอเมริกาจนนับไม่ถ้วน ทุกๆปี
คนในประเทศ Mexico ถ้าต้องการเดินทางมาเที่ยว เยี่ยมเยียนญาติพี่น้องที่ แอบหนีเข้ามา ก็ต้องไปขอวีซ่าท่องเที่ยว
เช่นเดียวกับคนทั้งหลาย ก็ต้องจ่าย 160 เหรียญเช่นเดียวกับคนไทยเรา แม้จะชายแดตติดกัน แต่คนอเมริกันสามารถ
ที่จะเดินทางเข้า Mexico ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าอะไรสักนิด

สำหรับ 160 เหรียญนั้นนับว่าถูกแล้วสำหรับค่าธรรมเนียมทั่วไปในสายตาคนอเมริกัน เพราะแม้ว่าคุณจะได้รับอนุมัติวีซ่า
แล้วก็ตาม เมื่อคุณมาถึงสนามบิน ถ้าเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมือง เขาไม่เห็นชอบแล้วละก็ เขามีสิทธิที่จะส่งตัวคณกลับทันที
ในเที่ยวบินต่อไป แม้ว่าทางประเทศไทยจะอนุมัติให้คุณแล้วก็ตาม แต่ด่านสุดท้ายเขามีอำนาจมากกว่า ถึงตรงนั้นคุณจะเสียเงิน
มากกว่านี้

แล้วที่ถามว่าทำไมเขาไม่บอกเหตุผลที่ปฏิเสธ การออกวีซ่าให้นั้น มันเป็นการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ที่จะให้วิจารณญาณของตัวเอง
ไม่มีกฏ ไม่มีข้อมุลในการตัดสินที่จะมาเทียบกับหลักฐานที่คุณยื่น ดุลพินิจที่มันบอกตรงๆไม่ได้ว่าทำไม เพราะมันอาจจะดูเหมือนเป็น
ความเห็นเรื่องส่วนตัว ส่วนบุคคล ซึ่งย่อมหมายถึงการร้องเรียนกันเกิดขึ้น

นับประสาอะไร เวลาที่คุณไปสมัครงาน ในใบสมัครข้อมูล ประวัติการทำงานของคุณดูดีเพียบ แต่เขาไม่ยักกะรับคุณเข้าทำงาน
คุณอาจจะกลับมาบ้านแบบฉงน ว่าทำไม ส่วนมากเขาไม่บอกสาเหตุหรอกครับ

ถ้าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีฐานะทางเศรฐกิจดีกว่านี้แล้ว การขอวีซ่ามันอาจจะง่ายกว่าปัจจุบันนี้
เพราะอย่าง mexico ที่มีชายแดนติดกัน ก็ยังต้องขอเหมือนไทยเรา จะง่ายหรือยากอันนี้ไม่รุ้ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่