คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
ผมลองค้น GMO เจออันนี้
http://soybean20011.blogspot.com
อันตรายของ GMOs
โดยสรุปแล้วอันตรายจากพืชผักตัดต่อยีนมีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ
หนึ่ง คือ เรื่องภูมิแพ้อาหาร โดยปกติทั่วไปคนเราบางคนมักจะมีภูมิแพ้อาหารที่แตกต่างกันไป ที่อเมริกามีการสำรวจพบว่า ประชากรหนึ่งในสี่มี
ภูมิแพ้อาหารบางอย่าง เช่น บางคนแพ้อาหารทะเล บางคนแพ้ถั่วบางชนิด รู้กันอยู่ว่าพืชผักตัดต่อพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งไปใส่ในสิ่งมี
ชีวิตอีกชนิดหนึ่ง ฉะนั้นจึงเกิดการถ่ายทอดวารที่เกิดภูมิแพ้ติดมาด้วย
ยกตัวอย่างถั่วเหลืองนี่แหละ ที่อเมริกามีบริษัทบริษัทหนึ่งมีโครงการดัดแปลงพันธุกรรมถั่วเหลือง โดยเอายีนของถั่วบราซิลมาตัดต่อใส่
เข้าไปในถั่วเหลือง เพื่อเพิ่มโปรตีนในถั่วเหลือง แต่ปรากฏว่าถั่วเหลืองมีสารภูมิแพ้จากถั่วบราซิลติดมาด้วย หากคนที่แพ้ถั่วบราซิลเกิดมากินถั่ว
เหลืองพันธุ์นี้โดยไม่รู้ ก็จะเกิดอาการแพ้ขึ้นได้
กรณีนี้นับว่าโชคดีที่มีการตรวจพบข้อผิดพลาดขึ้นก่อนในช่วงทดลอง ไม่อย่างนั้นถ้าปล่อยออกไปคงโกลาหล
เรื่องที่สอง คือ เรื่องของการถ่ายทอดความต้านทานยาปฏิชีวนะเทคนิควิธีในการตัดต่อยีนนั้น เขาจะต้องมีการกำหนดยีนเครื่องหมาย หรือ
Marker Gene เอาไว้ เพื่อจะได้แยกแยะได้ถูกว่าอันไหน GMOs อันไหนไม่ใช่ GMOs
ตัวยีนเครื่องหมายที่ใส่เข้าไป เขาใช้ยีนต้านทานยาปฏิชีวนะ ตอนจะแยกแยะเขาก็ใช้ยาปฏิชีวนะนี่แหละฉีดพ่นเข้าไป เมล็ดพันธุ์ตัวไหน
ตายก็คือว่าไม่มียีนต้านทานยาปฏิชีวนะ ก็ไม่ใช่ GMOs ส่วนเมล็ดไหนตรงกันข้ามก็คือใช่
ทีนี้หากมีคนบริโภคอาหาร GMOs เหล่านี้เข้าไป ยีนต้านทานยาปฏิชีวนะนะถูกถ่ายทอดไปสู่แบคทีเรียในกระเพาะอาหาร มีผลให้แบคทีเรีย
เหล่านั้นสามารถต้านทานยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้น แล้วถ้าเกิดว่าแบคทีเรียพวกนั้นเป็นแบคทีเรียที่ก่อโรคในสัตว์และมนุษย์ก็จะปราบมันได้ยากมากขึ้น
เพราะมันต้านทานยาปฏิชีวนะเสียแล้ว
เรื่องที่สาม คือ สารพิษที่เกิดขึ้นในอาหาร เขาว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมมีโอกาสที่จะมีระดับสารพิษเพิ่มขึ้นหรือสามารถสร้างสารพิษชนิดใหม่ขึ้น
ในอาหารได้ มีตัวอย่างปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว บริษัทแห่งปนึ่งในญี่ปุ่นได้ผลิตอาหารเสริมโดยการตัดต่อยีนจากแบคทีเรียเพื่อให้ได้โปรตีนไทร
โทเฟน เมื่อปล่อยออกสู่ตลาดถึงผู้บริโภค ปรากฏว่ามีผู้บริโภคเกือบ 5,000 รายป่วยด้วยอาการของโรค Eosinophilia Myalgia Syndrome กว่า
จะค้นพบสาเหตุก้ฒีคนตายไป 37 ราย และพิการถาวรเกือบ 1,500 คน เหล่านี้เป็นผลเสียในระยะสั้น
ผลระยะยาวๆ ใครจะเสี่ยง
แต่ผลในระยะยาวที่ไม่มีใครคาดเดาได้นั้นก็เป็นที่หวั่นแกรงกันอยู่ ถ้าเราเอางานวิจัยชิ้นหนึ่งมาคิดกันดู ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับ GMOs ชิ้นดังของ
ดร.พุสชตัยที่ทดลองกับหนู โดยให้หนูกินมันฝรั่ง GMOs เป็นเวลา 110 วัน ปรากฏว่าเกิดเซลล์ผิดปกติขึ้นในตัวหนูซึ่งอาจกลายพันธุ์เป็นมะเร็ง
ปกติหนูมีช่วงอายุประมาณ 600 วัน กินมันฝรั่งไป 110 วัน ก็เป็นหนึ่งในหกของอายุ เมื่อเทียบกับคนเรา โดยพันธุกรรมแล้วมีอายุยืนยาวได้ถึง
120 ปี หนึ่งในหกก็คือ 20 ปี ดังนั้นผลต่อสุขภาพบางอย่างมันต้องดูกันยาวๆ แล้วระหว่างนี้ใครจะเสี่ยงล่ะ
สำหรับในกรณีถั่วเหลือง การดัดแปลงพันธุกรรมเขาพยายามใส่สารโปรตีนกรดแอมิโนจำเป็นให้มันครบส่วน ซึ่งถั่วเหลืองโดยปกติมันจะ
พร่องกรดแอมิโน Methipnine

http://soybean20011.blogspot.com
อันตรายของ GMOs
โดยสรุปแล้วอันตรายจากพืชผักตัดต่อยีนมีอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ
หนึ่ง คือ เรื่องภูมิแพ้อาหาร โดยปกติทั่วไปคนเราบางคนมักจะมีภูมิแพ้อาหารที่แตกต่างกันไป ที่อเมริกามีการสำรวจพบว่า ประชากรหนึ่งในสี่มี
ภูมิแพ้อาหารบางอย่าง เช่น บางคนแพ้อาหารทะเล บางคนแพ้ถั่วบางชนิด รู้กันอยู่ว่าพืชผักตัดต่อพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งไปใส่ในสิ่งมี
ชีวิตอีกชนิดหนึ่ง ฉะนั้นจึงเกิดการถ่ายทอดวารที่เกิดภูมิแพ้ติดมาด้วย
ยกตัวอย่างถั่วเหลืองนี่แหละ ที่อเมริกามีบริษัทบริษัทหนึ่งมีโครงการดัดแปลงพันธุกรรมถั่วเหลือง โดยเอายีนของถั่วบราซิลมาตัดต่อใส่
เข้าไปในถั่วเหลือง เพื่อเพิ่มโปรตีนในถั่วเหลือง แต่ปรากฏว่าถั่วเหลืองมีสารภูมิแพ้จากถั่วบราซิลติดมาด้วย หากคนที่แพ้ถั่วบราซิลเกิดมากินถั่ว
เหลืองพันธุ์นี้โดยไม่รู้ ก็จะเกิดอาการแพ้ขึ้นได้
กรณีนี้นับว่าโชคดีที่มีการตรวจพบข้อผิดพลาดขึ้นก่อนในช่วงทดลอง ไม่อย่างนั้นถ้าปล่อยออกไปคงโกลาหล
เรื่องที่สอง คือ เรื่องของการถ่ายทอดความต้านทานยาปฏิชีวนะเทคนิควิธีในการตัดต่อยีนนั้น เขาจะต้องมีการกำหนดยีนเครื่องหมาย หรือ
Marker Gene เอาไว้ เพื่อจะได้แยกแยะได้ถูกว่าอันไหน GMOs อันไหนไม่ใช่ GMOs
ตัวยีนเครื่องหมายที่ใส่เข้าไป เขาใช้ยีนต้านทานยาปฏิชีวนะ ตอนจะแยกแยะเขาก็ใช้ยาปฏิชีวนะนี่แหละฉีดพ่นเข้าไป เมล็ดพันธุ์ตัวไหน
ตายก็คือว่าไม่มียีนต้านทานยาปฏิชีวนะ ก็ไม่ใช่ GMOs ส่วนเมล็ดไหนตรงกันข้ามก็คือใช่
ทีนี้หากมีคนบริโภคอาหาร GMOs เหล่านี้เข้าไป ยีนต้านทานยาปฏิชีวนะนะถูกถ่ายทอดไปสู่แบคทีเรียในกระเพาะอาหาร มีผลให้แบคทีเรีย
เหล่านั้นสามารถต้านทานยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้น แล้วถ้าเกิดว่าแบคทีเรียพวกนั้นเป็นแบคทีเรียที่ก่อโรคในสัตว์และมนุษย์ก็จะปราบมันได้ยากมากขึ้น
เพราะมันต้านทานยาปฏิชีวนะเสียแล้ว
เรื่องที่สาม คือ สารพิษที่เกิดขึ้นในอาหาร เขาว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมมีโอกาสที่จะมีระดับสารพิษเพิ่มขึ้นหรือสามารถสร้างสารพิษชนิดใหม่ขึ้น
ในอาหารได้ มีตัวอย่างปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว บริษัทแห่งปนึ่งในญี่ปุ่นได้ผลิตอาหารเสริมโดยการตัดต่อยีนจากแบคทีเรียเพื่อให้ได้โปรตีนไทร
โทเฟน เมื่อปล่อยออกสู่ตลาดถึงผู้บริโภค ปรากฏว่ามีผู้บริโภคเกือบ 5,000 รายป่วยด้วยอาการของโรค Eosinophilia Myalgia Syndrome กว่า
จะค้นพบสาเหตุก้ฒีคนตายไป 37 ราย และพิการถาวรเกือบ 1,500 คน เหล่านี้เป็นผลเสียในระยะสั้น
ผลระยะยาวๆ ใครจะเสี่ยง
แต่ผลในระยะยาวที่ไม่มีใครคาดเดาได้นั้นก็เป็นที่หวั่นแกรงกันอยู่ ถ้าเราเอางานวิจัยชิ้นหนึ่งมาคิดกันดู ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับ GMOs ชิ้นดังของ
ดร.พุสชตัยที่ทดลองกับหนู โดยให้หนูกินมันฝรั่ง GMOs เป็นเวลา 110 วัน ปรากฏว่าเกิดเซลล์ผิดปกติขึ้นในตัวหนูซึ่งอาจกลายพันธุ์เป็นมะเร็ง
ปกติหนูมีช่วงอายุประมาณ 600 วัน กินมันฝรั่งไป 110 วัน ก็เป็นหนึ่งในหกของอายุ เมื่อเทียบกับคนเรา โดยพันธุกรรมแล้วมีอายุยืนยาวได้ถึง
120 ปี หนึ่งในหกก็คือ 20 ปี ดังนั้นผลต่อสุขภาพบางอย่างมันต้องดูกันยาวๆ แล้วระหว่างนี้ใครจะเสี่ยงล่ะ
สำหรับในกรณีถั่วเหลือง การดัดแปลงพันธุกรรมเขาพยายามใส่สารโปรตีนกรดแอมิโนจำเป็นให้มันครบส่วน ซึ่งถั่วเหลืองโดยปกติมันจะ
พร่องกรดแอมิโน Methipnine
แสดงความคิดเห็น
ตกลง GMOs ดีหรือไม่ดี สำหรับใคร ยังไง รบกวนอธิบายด้วยครับ