บรรยายแห้ง งาน กสทช. พบ Blogger และชาวเน็ตกับทีวีดิจิตอล

งานจบแล้วหล่ะ แล้วก็มีรายงานสดลง Twitter ด้วย tag #DTV4All หรือ #DTVforAll แล้ว ผมขอมาสรุปในมุมของผมบ้างแล้วกันครับ มีหลาย ๆ ส่วนที่จะไม่นำเสนอเนื่องจากความกังวลว่าอาจจะนำไปสู่ประเด็นการฟ้องร้องได้ (ผมรู้สึกว่ามันเป็นข้อมูลที่มันสงเสริมดราม่ามากไปหน่อย)

งานนี้ผมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนแล้วกันครับ คืองานบนเวที ซึ่งเปิดโอกาสให้ถามตอบปัญหาต่าง ๆ กับอีกส่วนคือนอกงานซึ่งก็คือตอนปีนขึ้นไปดูเสาส่งชั้นดาดฟ้าตึกใบหยก และช่วงที่นั่งคุยกันเล่นบนโต๊ะอาหาร

ช่วงบนเวที ก็มีคำถามที่น่าสนใจหลายข้อ เช่น
1. การจัดการ Interactive TV ต้องไปขออนุญาตที่ไหน ซึ่งได้ความว่าแยกออกเป็น 2 ส่วน คือมีผู้ให้บริการโครงข่าย (MUX) ซึ่งต้องไปขอกับ กทค. แต่ใบอนุญาตช่องรายการต่าง ๆ ต้องไปขออนุญาตกับ กสช.
2. เรื่องภาพ 4:3 ที่ได้จากการบันทึกภาพของช่อง SD รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่ปรับความคมชัดของช่อง SD ให้สูงขึ้นนั้น โดยรวมได้คำตอบว่า อัตราส่วนภาพ 4:3 นั้นเป็นสิ่งที่ทางช่องกำหนดส่งมาที่ MUX ทาง MUX ไม่สามารถไปจัดการอะไรได้ หากต้องการอัพเกรดความคมชัด จะไปติดข้อจำกัดของทางเทคนิคของ MUX เอง ทางออกก็คือต้องลดจำนวนช่องต่อ MUX ลง แต่ถ้าจะไปถึงขั้น upgrade จาก SD เป็น HD เลยนั้นก็คงต้องลดปริมาณช่องลงและปรับสูตรคำนวณ MUX Loading ใหม่
3. กรณีไทยทีวี กสทช. อยากให้บทสรุปเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้คือ กสทช. ไม่ต้องการให้เกิดการคืนใบอนุญาตก่อนหมดอายุใบอนุญาต อยากให้ออกไปแนวทางตามที่เสนอไปคือ ปล่อยเช่าเวลาในสัดส่วนที่กำหนด หรือจัดการหาผู้ร่วมทุนใหม่โดยที่ไม่ผิดเงื่อนไขที่กำหนดก่อนประมูล แต่หากต้องรับคืนมาจริง ๆ การประมูลใหม่ก็อาจจะนำมาสู่ปัญหา ถ้าราคาที่ออกมามันดันต่ำกว่าของเดิม (เพราะช่องเดิมก็อาจจะฟ้องร้องได้)
4. มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มช่องทางการร้องเรียนมาตรฐานการบริการของ MUX ตัวอย่างเช่น MUX ไม่สามารถออกอากาศได้
5. มีข้อเสนอให้ปรับปรุง DTV Service Area ให้เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับเสาอากาศที่เหมาะสมในการรับชม
6. การจัดการให้เลขช่องทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินที่ออกอากาศบนช่องดาวเทียมให้เรียงช่องแบบเดียวกับระบบภาคพื้นดิน เป็นเรื่องที่ยังไม่อยากจะพูดถึงในตอนนี้ แต่ทีมงานกำลังพยายามผลักดันกันอยู่ (แล้วก็หวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากท่านผู้ชม)
7. ปัจจัยในการเลือกปิดอนาล็อคนั้น เริ่มจากพื้นที่ที่จำเป็นต้องปิด และผลกระทบน้อย เช่น สมุย เป็นพื้นที่ที่มี UHF ของ สสท. อย่างเดียว และจำเป็นต้องใช้คลื่นนี้ไปออกอากาศทีวีดิจิตอลแทน มีครัวเรือนรับชมน้อย
8. อุปสรรคของการปิดอนาล็อค ตอนนี้เท่าที่เห็นคือ การเจรจากับช่อง 3 และ 7 เนื่องจากมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์จากการจ่ายค่าธรรมเนียม (จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรนะ) เนื่องจากตอนนี้มีบางช่องใช้ความไม่ชัดเจนนี้ในการวัดจำนวนการรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ประกาศว่ายอดการรับชมคู่ขนานผ่านทางช่องดิจิตอลน้อยกว่าช่องอนาล็อคเดิมในอัตราส่วนที่น่าสงสัย เพื่อให้ชำระค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด (เพราะไม่โดนเก็บจากใบอนุญาตอนาล็อค) ทำให้อาจเกิดการยื้อไม่ปิดอนาล็อคในเร็ววันตามแผนที่ กสทช. ต้องการ ในวันจันทร์ที่ 27 นี้จะมี Focus Group เรื่องนี้ ต้องการให้มีตัวแทนผู้ชมไปยันว่า การรับชมช่องอนาล็อคเดิมนั้นปัจจุบันดูผ่านช่องทางของทีวีดิจิตอลมากขึ้นแล้ว ไม่เป็นอย่างที่ช่องอนาล็อคเดิมอ้าง (นอกรอบ ผมเสนอ @supinya ว่า น่าจะทำ 2 แชะถ่ายรูปการรับชมรายการทีวี จะได้รู้ไปเลยว่าดูทีวีช่องนี้ผ่านช่องทางใดกันแน่)
9. ปัญหาการแสดงผังรายการล่วงหน้า เป็นเรื่องที่ต้องไปเรียกทางช่องมาเติมข้อมูลนี้ ในปัจจุบันยังไม่มีประกาศของ กสทช. ไปควบคุมอะไร ที่เห็นในทุกวันนี้เป็นเพียงความร่วมมือของ MUX ที่ทำให้ระบบนี้แสดงข้อมูลเหมือนกัน (โดยที่ทาง กสทช. อำนวยความสะดวกในการสร้างระบบเก็บผังรายการให้) ในอนาคตอาจจะมีการเปิดเผยข้อมูลรายการสู่สาธารณะให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลไปใช้ได้
10. เรื่องการขาดการประชาสัมพันธ์วิธีใช้งานกล่องที่แลกมานั้น ทาง กสทช. ใช้วิธีอบรมช่างโทรทัศน์แทน และตอนนี้ก็ได้เพิ่มนักเรียนอาชีวะเข้าไปด้วย เพื่อที่หวังว่าจะไปช่วยจัดการโทรทัศน์ในท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เข้าถึงโทรทัศน์ภาคพื้นดินได้ (ผมเสนอไปว่าควรให้คำแนะนำวิธีเลือกเสาอากาศแก่ประชาชนทั่วไปด้วย)
11. ปัญหาขยะทีวีรุ่นที่ไม่มีภาครับสัญญาณทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน กำลังจะเกิดขึ้นเนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าเหล่านี้มาขายในราคาถูก ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยราชการอื่นในการห้ามนำเข้าสินค้าดังกล่าว ช่วยกันบอกให้คนรู้จักอย่าซื้อของพวกนี้มาใช้หากไม่จำเป็น

ตอนท้ายมีการเสนอข้อดีหลายสิบประการของทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน เทียบกับทีวีดาวเทียม ผมจำได้ไม่หมดนะครับ เอาที่น่าสนใจคือ
1. ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินช่อง HD เป็น HD แท้ ไม่ต้องจำเลขช่องพิเศษแบบช่องดาวเทียมเพื่อรับชมภาพแบบ HD
2. ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน ไม่เกรงกลัวกับสภาพอากาศย่ำแย่ แตกต่างจากช่องดาวเทียมที่ต้องใช้จานที่มีขนาดความกว้างที่ใหญ่ จึงจะไม่กลัวฝน
3. ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน เพิ่มโอกาสการรับชมโทรทัศน์ให้กับผู้ประกอบกิจการที่ไม่อยู่ในที่ตั้ง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องตั้งจานดาวเทียม รวมถึงมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สนับสนุนการรับชมทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินวางจำหน่ายแล้ว
4. ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน จะมีช่องโทรทัศน์ท้องถิ่น เพิ่มโอกาสการสื่อสารกันในท้องถิ่น ให้มีเนื้อหารายการที่ตรงใจกับคนท้องถิ่นนั้น นอกเหนือจากโทรทัศน์ระดับชาติ
5. ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน มีตัวเลือกในการปรับข้อความบรรยาย (CC) รวมถึงเสียงบรรยายภาพ (Narrator) และผังรายการล่วงหน้า 1 สัปดาห์
6. ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน สามารถทำระบบเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ แยกตามภูมิภาคได้ ทำให้ลดความตื่นตระหนกกับผู้คนในท้องที่อื่นที่ไม่เกิดเหตุขึ้น ต่างจากระบบดาวเทียมที่ไม่สามารถควบคุมการแสดงข้อมูลดังกล่าวได้
7. ทีวีดิจิตอล มีค่าใช้จ่ายในการออกอากาศต่ำกว่า ทีวีอนาล็อคเดิม จากกรณีศึกษาของ สสท. ที่จ่ายค่าไฟของเครื่องส่งที่ใบหยก 6 แสนกว่าบาทสำหรับเครื่องส่งอนาล็อค และ 6 หมื่นบาทสำหรับเครื่องส่งดิจิตอล

ช่วงปีนเสาส่ง เนื่องจากแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ผมขอเล่าเฉพาะข้อมูลที่ผ่านหูในกลุ่มของผมแล้วกัน
- การเลือกซื้อเสาอากาศแบบคนไม่มีความรู้นั้น ทางช่างเทคนิคของ MUX แสดงความเห็นว่า เสาอากาศที่ขายในท้องถิ่นควรจะใช้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปซื้อเสาจากต่างถิ่นไปใช้
- เจ้าของพื้นที่เสาส่งด้านบนนั้นคือ ThaiPBS เนื่องจากมาบุกเบิกไว้ตั้งแต่สมัย iTV และได้มีการชักชวนผู้ประกอบการรายอื่น แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในช่วงแรก ในมุมมองของผู้ปฏิบัติการมองว่า พื้นที่เสาส่ง "รกเกินความจำเป็น" ซึ่งหากร่วมมือกันแต่แรกมันจะไม่รกเท่านี้
- งานออกแบบระบบออกอากาศที่ใบหยกนี้จะแตกต่างจากเครือข่ายที่ต่างจังหวัด เนื่องจากไม่ได้มีการรวมอุปกรณ์เป็นชุดเดียวกันในทุก MUX ทำให้ค่าใช้จ่ายที่ใบหยกแพงที่สุด
- Option พิเศษในทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน เช่น CC และ Narrator นั้นไม่สามารถใช้งานได้พร้อมกันในทุกช่องรายการได้ เนื่องจากข้อจำกัดของปริมาณข้อมูลในการออกอากาศ จะแก้ปัญหานี้ได้ต้องลดจำนวนช่องลง

ช่วงบนโต๊ะอาหาร
- การจัดการกับช่องทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน SD ที่ไปออกอากาศช่อง HD บนดาวเทียม นั้นไม่ง่าย เนื่องจากยังมีช่องโหว่ทางเทคนิคบางอย่างที่เอาไปอ้างได้ (@EngineerThaiPBS ตอบเรื่องช่องโหว่นี้ไว้ แล้วมีการอ้างถึง BISS Key) ก็เลยเกิดคำถามว่า การแจก BISS Key นั้นผิดไหม? รวมถึงตัวเลขเวลาโฆษณาช่องดาวเทียมกับช่องภาคพื้นดินที่ต่างกันนั้น มันเหมาะสมหรือไม่? ในมุมผู้บริโภคมองว่าตัวเลขนี้เป็นความเสียหายของเขาหรือไม่? หรือมันเป็นเพียงการปกป้องผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลที่จ่ายเงินแพงกว่าช่องดาวเทียมเท่านั้น? (แล้วควรปกป้องไหม?) แล้วจริง ๆ การกระทำนี้ควรห้ามหรือไม่?
- รายการ "คู่ซี้ทีวีดิจิตอล" เกิดจากการลงท้องที่ของทีมวิศวกรรมของ ThaiPBS เรื่องส่วนใหญ่ไม่ได้เซตขึ้นมา ที่เซตขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ไปเจอมาจริง แต่ชาวบ้านไม่ยอมเป็นดาราหน้ากล้องให้ ยิ้ม
- @adamy สรุปเรื่องเรตติ้งของทีวีดิจิตอลทุกช่อง ตัวเลขที่ออกมานั้นเป็นค่าเฉลี่ยจากกราฟแกนตั้งคือค่าคะแนน แกนนอนคือลำดับของคะแนนจากมากไปน้อย ได้เป็นกราฟรูปชามหงาย โดยแบ่งได้ในอัตราส่วนค่ามาก 20% ค่าน้อย 80% เมื่อดูค่า 20% นั้นสิ่งที่เขาเห็นคือ เป็นรายการกีฬา และรายการละคร ส่วนที่เหลือเป็นแค่รายการที่เติมให้เต็มผัง รายการกีฬาช่วยดันให้ฐานคะแนนสูงขึ้น แต่รายการละครจะเป็นตัวกำหนดค่าคะแนนที่มากที่สุดของช่อง ปัญหาของแต่ละช่องที่ @adamy วิเคราะห์คือ ช่องที่เรตติ้งไม่เยอะนั้นประสบปัญหาความไม่ชัดเจนในอัตลักษณ์ของช่อง ทำให้ค่าตรง 20% นั้นไม่สามารถดึงให้คะแนนโดยรวมสูงขึ้นได้ เขาตั้งข้อสังเกตว่าช่วงเวลา primetime ของโทรทัศน์ไทยมี 4 ช่วง (เช้า, เย็น, ค่ำ, ดึก) ซึ่งทุกช่องพร้อมจะจัดของดีให้ผู้ชมได้ชม แต่ปัญหาคือในเวลาอื่น รายการที่ออกอากาศมันส่งเสริมให้คนเปลี่ยนมาดูรายการในช่วง primetime แค่ไหน รวมถึงเชื้อเชิญให้ดูรายการอื่น ๆ ในสถานีได้อีกรึเปล่า หากจุดยืน/อัตลักษณ์ของช่องชัดเจน อัตราส่วน 20% นี้ก็จะขยายเป็น 30% หรือมากกว่านั้น ซึ่งจะทำให้คะแนนโดยรวมของช่องสูงขึ้นได้อีกนั่นเอง ข้อสรุปนี้ถูกส่งให้กับทุกช่องที่เชิญให้เขาไปเป็นผู้รับจ้างผลิตละคร ซึ่งบางช่องก็อาจจะได้ประจักษ์กับข้อสรุปนี้แล้ว ยิ้ม

คนที่ไปงานนี้มีอะไรก็เสริมอีกนะครับ ลืมไปเยอะเหมือนกันเพราะเอาแต่เกร็งตอนไต่ลงจากชั้นเสาส่งนี่แหละ (ฮา)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่