เนื่องจากกระทู้นี้มันเหมือน อวย ร้าน ดังนั้นจะไม่ออกชื่อร้าน แต่ร้านเค้าก็ พอมีชื่อเสียงก็คงเดากันได้
ร้านแรก กะหลี่ปั๊บ ตลาดน้อย
ร้านนี้ขึ้นราคามาหนึ่งบาท เป็นแปดบาท ถูกแสนถูก แป้งกรอบ ไส้ก็โอเค
ถ้าถามว่า ร้านนี้กลยุทธ์คืออะไร ก็คือ ราคา คุณภาพ เทียบกันแล้ว คุ้มค่า
ขายดีขนาดต้องโทรไปจอง ถ้าสุ่มเดินเข้าไปก็อาจไม่ได้ของ วัตถุดิบ หลักๆก็แป้ง กับวัตถุดิบไส้
ขายได้มาก ต้นทุนวัตถุดิบก็ "ต่อรองได้มากเช่นกัน" แถมการค้าเงินสด ร้าน ซับไพล์เอ้อ ที่ส่งวัตถุดิบแทบจะกราบกรานเข้าไปขาย
เมื่อต้นทุนสินค้าถูก ขายก็ได้ราคาดีกว่าชาวบ้าน
เหตุผลนี้ก็เช่นเดียวกันกับร้านที่สอง xx xxx เฮ่ย ร้านนี้สาขาเยอะ ต่อรองวัตถุดิบน่าจะได้มากเช่นกัน
แต่ สิ่งที่ควบคุมไม่ได้บางครั้ง คือ คุณภาพ บางสาขา ทำออกมาแล้ว สู้บางสาขาไม่ได้ ดังนั้น ถ้าซื้อสาขาไหนแล้วดี ก็ตามซื้อสาขานั้นไปตลอด
คุณภาพ ขนมปัง นิ่ม หวาน ไส้เพียบ แม้ราคา ยี่สิบบาท แต่ก็พบว่า คุ้มค่า (ข้อเสียอีกอย่างคือ ไส้บางไส้ก็ไม่อร่อย หรือ รสชาดต่างจากร้านทั่วๆไป)
ขนาด มีร้านขนมปัง ขายชิ้นละ สิบบาท มาเทียบ ร้านขนมปังสิบบาท ก็ยังขายสู้ไม่ได้ เพราะ
ชิ้นเล็กกว่ากันครึ่งนึง (เหมาะ สำหรับ คนที่อยากควักยี่สิบบาท เลือกได้ สอง ชิ้น)
แต่ทำไม ร้านสองร้านนี้ ได้รับ Customer Royalty
เพราะ ลูกค้าอย่างผมคิดว่า มันช่างคุ้มค่า คุ้มค่าขนาดผมขับรถไปซื้อ โดยไม่เสียดายค่าน้ำมันรถ (ไปซื้อทีก็ซื้อกินหายอยากไปเลย)
จุดเสี่ยง ง่ายๆครับ ถ้าขึ้นราคา ยอดขายตกแน่ๆ ดังนั้น อยากบอกเจ้าของร้านว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้
สิ่งที่คุณต้องทำคือ ควบคุมรายจ่ายภายในร้าน แสวงหา ซัพพลายเออร์ใหม่ๆ ที่เสนอราคาได้ถูกลง
จ่ายเงินสด แลกกับส่วนลดการค้า หาเทคโนโลยีการผลิต เช่น ผลิตตัวเครื่อง หรือแม่พิมพ์ เพื่อให้ได้จำนวนชิ้นมากขึ้น แรงงานลดลง
((เศรษฐกิจชาวบ้าน)) ทำไมผมซื้อขนมปังร้าน xx xxx เฮ่ย ก็เพราะ ผมเห็นว่ามันคุ้มค่าไง คุ้มค่าก็คือถูก แม้ราคาจะไม่ถูกก็ตาม
ร้านแรก กะหลี่ปั๊บ ตลาดน้อย
ร้านนี้ขึ้นราคามาหนึ่งบาท เป็นแปดบาท ถูกแสนถูก แป้งกรอบ ไส้ก็โอเค
ถ้าถามว่า ร้านนี้กลยุทธ์คืออะไร ก็คือ ราคา คุณภาพ เทียบกันแล้ว คุ้มค่า
ขายดีขนาดต้องโทรไปจอง ถ้าสุ่มเดินเข้าไปก็อาจไม่ได้ของ วัตถุดิบ หลักๆก็แป้ง กับวัตถุดิบไส้
ขายได้มาก ต้นทุนวัตถุดิบก็ "ต่อรองได้มากเช่นกัน" แถมการค้าเงินสด ร้าน ซับไพล์เอ้อ ที่ส่งวัตถุดิบแทบจะกราบกรานเข้าไปขาย
เมื่อต้นทุนสินค้าถูก ขายก็ได้ราคาดีกว่าชาวบ้าน
เหตุผลนี้ก็เช่นเดียวกันกับร้านที่สอง xx xxx เฮ่ย ร้านนี้สาขาเยอะ ต่อรองวัตถุดิบน่าจะได้มากเช่นกัน
แต่ สิ่งที่ควบคุมไม่ได้บางครั้ง คือ คุณภาพ บางสาขา ทำออกมาแล้ว สู้บางสาขาไม่ได้ ดังนั้น ถ้าซื้อสาขาไหนแล้วดี ก็ตามซื้อสาขานั้นไปตลอด
คุณภาพ ขนมปัง นิ่ม หวาน ไส้เพียบ แม้ราคา ยี่สิบบาท แต่ก็พบว่า คุ้มค่า (ข้อเสียอีกอย่างคือ ไส้บางไส้ก็ไม่อร่อย หรือ รสชาดต่างจากร้านทั่วๆไป)
ขนาด มีร้านขนมปัง ขายชิ้นละ สิบบาท มาเทียบ ร้านขนมปังสิบบาท ก็ยังขายสู้ไม่ได้ เพราะ
ชิ้นเล็กกว่ากันครึ่งนึง (เหมาะ สำหรับ คนที่อยากควักยี่สิบบาท เลือกได้ สอง ชิ้น)
แต่ทำไม ร้านสองร้านนี้ ได้รับ Customer Royalty
เพราะ ลูกค้าอย่างผมคิดว่า มันช่างคุ้มค่า คุ้มค่าขนาดผมขับรถไปซื้อ โดยไม่เสียดายค่าน้ำมันรถ (ไปซื้อทีก็ซื้อกินหายอยากไปเลย)
จุดเสี่ยง ง่ายๆครับ ถ้าขึ้นราคา ยอดขายตกแน่ๆ ดังนั้น อยากบอกเจ้าของร้านว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้
สิ่งที่คุณต้องทำคือ ควบคุมรายจ่ายภายในร้าน แสวงหา ซัพพลายเออร์ใหม่ๆ ที่เสนอราคาได้ถูกลง
จ่ายเงินสด แลกกับส่วนลดการค้า หาเทคโนโลยีการผลิต เช่น ผลิตตัวเครื่อง หรือแม่พิมพ์ เพื่อให้ได้จำนวนชิ้นมากขึ้น แรงงานลดลง