ถ้าพูดถึง " ลพบุรี "
เชื่อว่าหลายคงนึกถึง "ลิง" หรือไม่ก็ "ทุ่งดอกทานตะวัน"
วันนี้ผมจะพาไป "ลพบุรี" แต่ไม่มี "ลิง"
ตั้งใจมานานว่าจะ จะ จะ จะ จะ ..... เขียนกระทู้บนพันทิป 555 จะอยู่นานมาก เพราะอาจจะล้ากับงานเขียนที่ต้องทำเป็นอาชีพ
แต่วันนี้ฤกษ์งามยามดี (พูดเหมือนจะตั้งศาลพระภูมิ) 555 เลยตัดสินใจสมัครพันทิป นั่งง่วนและงมอยู่หลายชั่วโมง
ในที่สุดก็ได้ประเดิมกระทู้แรกสักที
"สวัสดีครับทุกคน" ทักทายอย่างเป็นทางการ
ผมเป็นคนนึงที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว แต่ส่วนใหญ่ไปต่างจังหวัดก็เป็นการทำงานมากกว่า จึงทำให้มีบางช่วงที่พอจะว่างก็เลยหยิบกล้องที่พกไปขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้
วันก่อนได้เดินทางไป "ลพบุรี" โดยรถตู้ของทีมงานเลยไม่มีโมเม้นต์แบบผจญภัยให้น่าตื่นเต้น แถมส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ในรถตู้จึงไม่มีโอกาสได้เก็บภาพระหว่างทางมากนัก
พอรถตู้เลี้ยวเข้าเขตจังหวัดลพบุรี ใจผมก็ได้แต่นึกถึงศาลพระกาฬ , ลิง , ทุ่งดอกทานตะวัน แต่เดี๋ยวก่อนที่พูดมาไม่มีโปรแกรมงานเลย
อ้าววว ว ว แล้วจะพาไปไหน ?
ภาพที่ปรากฎขึ้นตรงหน้ากับวันที่มา "ลพบุรี" แต่ไม่ได้เห็น "ลิง" เลยสักตัว
มีแต่เขา ทุ่งนา ไร่ข้าวโพด ที่ยืนต้นเอนตามลมเหมือนกำลังโบกมือทักทาย
และแล้วเรากำลังอยู่ที่วัดคูหาสวรรค์ ในตำบลนิคมสร้างตนเอง เพื่อจะเดินทางต่อไปยังบ้านของผู้ใหญ่อ้อยที่ตั้งอยู่หลังวัด
แต่เห้ยยย พอเห็นระยะทางแล้ว จะเดินเท้าเข้าไปก็เกรงใจแดด 555 คิดในใจว่าคงเป็นลมอยู่ที่หัวคันนาแน่ๆ
สักพัก...ก็มีข่าวดีบอกว่าจะมีรถรับ - ส่ง ไปที่บ้านผู้ใหญ่ ใจเริ่มชื้นแต่ตอนนี้รักแร้เปียกแล้ววว ว ว
นี่แหละหน้าตาของรถที่มารับผมและพี่ทีมงาน เนี่ยครั้งแรกบนรถอีแต๊ก ที่มีลุงใจดีเป็นโชเฟอร์ ยิ้มไปขับไป ตลอดทาง
นั่งรถอีแต๊กกินลมชมทุ่งมาสักพักก็ถึงบ้านผู้ใหญ่อ้อย ... ไม่รอช้าลงมือทำงาน จนว่างก็ได้เดินชิลถ่ายรูป ตามวิถี Slow Life 555
"บ้านผู้ใหญ่อ้อย"
มีทั้งนาข้าวที่กำลังปลูกกล้า มีไร่ข้าวโพด มีผักสวนครัว มีโน่นนี่ให้ดู จนคิดว่า "ไม่มีวันอดตาย" แน่นอน
พอมาย้อนดูไฟล์ภาพ ว่าจะหาภาพผู้ใหญ่อ้อย แต่อ้าววว ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ เพราะแกก็ยุ่งอยู่กับการให้ข้อมูลกับทีมงาน
แต่รวมๆแล้ว ผู้ใหญ่อ้อย เป็นผู้ใหญ่บ้านผู้หญิงที่เก่งเลยทีเดียวครับ เพราะไม่ได้แค่จะใช้พืชผลที่ปลูกไว้แล้ว ก็ยังให้ดูแลดินให้สมบูรณ์ไปในตัวด้วย
ประมาณ 5 ชั่วโมง ที่ใช้เวลาอยู่ที่นี่ มันทำให้สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
เราได้ละสายตาจากตึกสูงๆในกรุงเทพ มามองภูเขาสีเขียวๆ
ได้เห็นน้ำจิตน้ำใจของลุงๆป้า
โดยเฉพาะตอนขากลับออกมา ลุงโชเฟอร์ขับรถอีแต๊กต้องกลับรถในพื้นที่บังคับ และต้องแลกด้วยการถอยไปเหยียบต้นข้าวโพด
"ลุงๆ พวกผมลงเดินก็ได้ครับ เดี๋ยวข้าวโพดตาย" พวกเราตะโกนให้ลุงได้ยิน เพราะห่วงว่าจะทำลายของชาวบ้าน
"ไม่เป็น" น้ำเสียงเหน่อนิดๆของลุงตอบกลับมา พร้อมหัวเราะ ก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "ไร่ข้าวโพดลุงเอง"
...มันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวครับคุณผู้ชม นี่เรากำลังได้รับเกียรติเป็นผู้โดยสารของเจ้าของไร่ข้าวโพด แหม่มันยิ่งใหญ่จริงๆ...
"ลพบุรี" ครั้งนี้ แม้จะไม่ได้เห็น "ลิง" แต่เราก็ได้เห็นวิถีชาวบ้าน เห็นไร่เห็นนา เห็นน้ำใจ ที่ยุคนี้สมัยนี้มันเริ่มหายาก
เนี่ยเลยคิดว่าน่าจะเป็นข้อดี ของการได้ไปอยู่ในที่ "ที่ไม่คุ้นเคย"
มาถึงบรรทัดนี้ ย้อนกลับไปอ่าน และตั้งคำถามกับตัวเองว่า จะมีคนอ่านปะวะ "กระทู้แรก"
ขอบคุณที่เผลอกดเข้ามาดูครับ 5555
แถมๆ เก๊กกันสักหน่อยก่อนกลับ (พี่ช่างภาพถ่ายให้)
fanpage :
https://www.facebook.com/pages/Dreams-Story/1398357820483097
instagram : idreamtana
"ทุกการเดินทาง มักจะมีเรื่องเล่าเสมอ"
[CR] ไป " ลพบุรี " แต่ไม่มีลิง
ตั้งใจมานานว่าจะ จะ จะ จะ จะ ..... เขียนกระทู้บนพันทิป 555 จะอยู่นานมาก เพราะอาจจะล้ากับงานเขียนที่ต้องทำเป็นอาชีพ
แต่วันนี้ฤกษ์งามยามดี (พูดเหมือนจะตั้งศาลพระภูมิ) 555 เลยตัดสินใจสมัครพันทิป นั่งง่วนและงมอยู่หลายชั่วโมง
ในที่สุดก็ได้ประเดิมกระทู้แรกสักที
ผมเป็นคนนึงที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว แต่ส่วนใหญ่ไปต่างจังหวัดก็เป็นการทำงานมากกว่า จึงทำให้มีบางช่วงที่พอจะว่างก็เลยหยิบกล้องที่พกไปขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้
พอรถตู้เลี้ยวเข้าเขตจังหวัดลพบุรี ใจผมก็ได้แต่นึกถึงศาลพระกาฬ , ลิง , ทุ่งดอกทานตะวัน แต่เดี๋ยวก่อนที่พูดมาไม่มีโปรแกรมงานเลย
และแล้วเรากำลังอยู่ที่วัดคูหาสวรรค์ ในตำบลนิคมสร้างตนเอง เพื่อจะเดินทางต่อไปยังบ้านของผู้ใหญ่อ้อยที่ตั้งอยู่หลังวัด
แต่เห้ยยย พอเห็นระยะทางแล้ว จะเดินเท้าเข้าไปก็เกรงใจแดด 555 คิดในใจว่าคงเป็นลมอยู่ที่หัวคันนาแน่ๆ
สักพัก...ก็มีข่าวดีบอกว่าจะมีรถรับ - ส่ง ไปที่บ้านผู้ใหญ่ ใจเริ่มชื้นแต่ตอนนี้รักแร้เปียกแล้ววว ว ว
"บ้านผู้ใหญ่อ้อย"
มีทั้งนาข้าวที่กำลังปลูกกล้า มีไร่ข้าวโพด มีผักสวนครัว มีโน่นนี่ให้ดู จนคิดว่า "ไม่มีวันอดตาย" แน่นอน
แต่รวมๆแล้ว ผู้ใหญ่อ้อย เป็นผู้ใหญ่บ้านผู้หญิงที่เก่งเลยทีเดียวครับ เพราะไม่ได้แค่จะใช้พืชผลที่ปลูกไว้แล้ว ก็ยังให้ดูแลดินให้สมบูรณ์ไปในตัวด้วย
ประมาณ 5 ชั่วโมง ที่ใช้เวลาอยู่ที่นี่ มันทำให้สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
เราได้ละสายตาจากตึกสูงๆในกรุงเทพ มามองภูเขาสีเขียวๆ
ได้เห็นน้ำจิตน้ำใจของลุงๆป้า
โดยเฉพาะตอนขากลับออกมา ลุงโชเฟอร์ขับรถอีแต๊กต้องกลับรถในพื้นที่บังคับ และต้องแลกด้วยการถอยไปเหยียบต้นข้าวโพด
"ลุงๆ พวกผมลงเดินก็ได้ครับ เดี๋ยวข้าวโพดตาย" พวกเราตะโกนให้ลุงได้ยิน เพราะห่วงว่าจะทำลายของชาวบ้าน
"ไม่เป็น" น้ำเสียงเหน่อนิดๆของลุงตอบกลับมา พร้อมหัวเราะ ก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "ไร่ข้าวโพดลุงเอง"
...มันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวครับคุณผู้ชม นี่เรากำลังได้รับเกียรติเป็นผู้โดยสารของเจ้าของไร่ข้าวโพด แหม่มันยิ่งใหญ่จริงๆ...
เนี่ยเลยคิดว่าน่าจะเป็นข้อดี ของการได้ไปอยู่ในที่ "ที่ไม่คุ้นเคย"
fanpage : https://www.facebook.com/pages/Dreams-Story/1398357820483097
instagram : idreamtana
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น