มาดูความรักความผูกพันของสองคนนี้บ้างดีกว่า
ศตายุ เกิดมาแม่ก็ตายกลายเป็นลูกชังของพ่อไปซะงั้น ดีที่ปู่ประคบประหงมเพราะปู่เชื่อว่าเป็นเด็กนำโชคให้กับครอบครัวตามคำทำนาย ชีวิตก็เลยขาดแม่มาตั้งแต่เด็กๆ และอยู่ในกรอบที่ปู่วางไว้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตามสูตร
ครั้งแรกที่ศตายุกับพบูเจอกัน ไม่ใช่ที่ร้านขายกระเป๋า
แต่พวกเขาเจอกันตั้งแต่เด็กๆ คุณโตมองเด็กผู้หญิงที่เดินจากแม่ไปด้วยน้ำตานองหน้าอย่างเข้าใจ เพราะเขาก็ขาดแม่เหมือนกัน นั่นคือสายใยบางๆที่เชื่อมต่อถึงกันได้โดยไม่รู้ตัว
มาเจออีกที พบูก็กลายร่างเป็นสาวที่ดูสปอยล์ใช้เงินชอปปิ้งไปวันๆ แต่เมื่อไหร่ที่เจอกัน สาวคนนี้กลับมีมุมมองที่ทำให้คุณโตผู้อยู่ในกรอบต้องอึ้งและทึ่งในความคิด
ฉากเลือกกระเป๋า
คุณโตถาม "ถ้าเรื่องใหญ่กว่านี้ จะตัดสินใจยังไง (เพราะแค่เลือกกระเป๋าก็ยังทำไม่ได้และใช้เวลานานนนน)"
พบูตอกกลับ "ก็ไม่ต้องเลือก หรือไม่ก็ซื้อทั้งสองอัน" (นางเสนออีกทางเลือกที่ไม่จำเป็นต้องซ้ายหรือขวาเท่านั้น)
แม้สองคนนี้จะไม่ได้ออกแนวคอมเมดี้จ๋าแบบคู่กัดแบบบุรีกับพบู แต่เพราะความทันกันทางความคิดผสมกับความนิ่งแต่แรงส์ของคุณโตและความกล้าบ้าบิ่นของพบูมันทำให้ฉากของสองคนนี้คอมเมดี้ดีๆนี่เอง
ฉากในลิฟต์กับดลของการเจอกันครั้งที่สอง (พบูรู้จักว่าเป็นคุณโตแล้วฝ่ายเดียว) พบูแกล้งทำเป็นโทรคุยเพื่อเหน็บคุณโตเรื่องว่ากล่าวดล "ทำตัวยังกะคนแก่" แต่มุกนี้ตีกลับจนคุณโตเหน็บทิ้งท้ายก่อนจากไปว่า "อย่าลืมโทรกลับด้วยนะครับ"
แต่ผู้หญิงที่ดูไม่เอาไหนคนนี้กลับแสดงให้เห็นถึงสกิลการทำงานกับคน (ฉากสอนเด็กเสริฟในร้านอาหาร) และการจัดการปัญหาเฉพาะหน้า (ฉากแกล้งเจมี่และบุรี) มันทำให้คุณโตกลับมาสนใจพบูอย่างจริงจังอีกครั้ง ยิ่งพอรู้ว่าเป็นลูกสาวแม่เลี้ยงก็เลยอยากให้โอกาส แต่ไม่วายแอบแกล้งขู่ตอนที่จับได้ว่าแอบมาพักที่ห้องลูกค้าหวังจะได้ฟังคำขอโทษอ้อนวอน แต่พบูกลับบอกให้รีบมาจับไปเข้าคุกเลยแล้วก็เดินหนีเข้าซอกลิฟท์ปิดโอกาสให้คุณโตได้แสดงการถือไพ่ที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเห็นว่าพบูมาสมัครงานก็เลยลองให้มาสัมภาษณ์ คงแอบอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมช่างกล้ามาสมัครทั้งๆที่ประวัติการศึกษาและการทำงานไม่น่าประทับใจเนื่องเพราะไม่สำเร็จอะไรซักอย่าง (เรียกเงินเดือนแพงกว่าคนอื่นเขาอีก ๕๕) ยัยพบูก็ร่ายยาวถึงเหตุผลสร้างภาพ แต่คุณโตก็เบรก "ผมขอความจริง" ๕๕ และเมื่อขอก็ได้ตามนั้น พบูคนที่ปากคิดตรงกับใจ ก็สารภาพว่าอยากได้เงิน และเหตุผลอื่นๆที่นางยกมาก็ชัดเจน เคลียร์!
และแล้วพบูก็ได้งานด้วยเหตุผลที่โตอ้างว่าเป็นคนในครอบครัวย่อมดีกว่า ลึกๆโตคงอยากให้มีใครในครอบครัวอยู่ข้างเขาบ้างแม้พบูจะเรียกว่าญาติห่างๆ
คุณโตไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมที่บ้านเกลียดเขาหนักหนาทั้งๆที่เขาก็ทำตัวดีและถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น การที่มีพบูญาติห่างๆที่กล้าคิดกล้าพูดทำให้คุณโตอาจจะได้รับฟีดแบ็กอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าบอกเขามาก่อน และพบูก็ทำได้อย่างที่ใจหวัง ตอนที่มารับดลจากคุก เมื่อคุณโตแอบถามว่าเขาเป็นพี่ชายที่แย่กับน้องมากไปหรือเปล่า และพบูก็ตอบไปว่า "คนอื่นเขามีพ่อแม่พร้อมหน้า แต่เราไม่มีเหมือนเขาถ้าเราจะมีปัญหาบ้าง ก็สมเหตุสมผล"
นับตั้งแต่นั้น พบูก็ได้คืบคลานเข้ามาอยู่ในใจคุณโตทีละนิดๆ อดไม่ไหวที่จะโทรหาพบูแม้นอกเวลางาน จนบุรีแอบเคืองก็ตาม ๕๕
พบู & ศตายุ
ศตายุ เกิดมาแม่ก็ตายกลายเป็นลูกชังของพ่อไปซะงั้น ดีที่ปู่ประคบประหงมเพราะปู่เชื่อว่าเป็นเด็กนำโชคให้กับครอบครัวตามคำทำนาย ชีวิตก็เลยขาดแม่มาตั้งแต่เด็กๆ และอยู่ในกรอบที่ปู่วางไว้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตามสูตร
ครั้งแรกที่ศตายุกับพบูเจอกัน ไม่ใช่ที่ร้านขายกระเป๋า
แต่พวกเขาเจอกันตั้งแต่เด็กๆ คุณโตมองเด็กผู้หญิงที่เดินจากแม่ไปด้วยน้ำตานองหน้าอย่างเข้าใจ เพราะเขาก็ขาดแม่เหมือนกัน นั่นคือสายใยบางๆที่เชื่อมต่อถึงกันได้โดยไม่รู้ตัว
มาเจออีกที พบูก็กลายร่างเป็นสาวที่ดูสปอยล์ใช้เงินชอปปิ้งไปวันๆ แต่เมื่อไหร่ที่เจอกัน สาวคนนี้กลับมีมุมมองที่ทำให้คุณโตผู้อยู่ในกรอบต้องอึ้งและทึ่งในความคิด
ฉากเลือกกระเป๋า
คุณโตถาม "ถ้าเรื่องใหญ่กว่านี้ จะตัดสินใจยังไง (เพราะแค่เลือกกระเป๋าก็ยังทำไม่ได้และใช้เวลานานนนน)"
พบูตอกกลับ "ก็ไม่ต้องเลือก หรือไม่ก็ซื้อทั้งสองอัน" (นางเสนออีกทางเลือกที่ไม่จำเป็นต้องซ้ายหรือขวาเท่านั้น)
แม้สองคนนี้จะไม่ได้ออกแนวคอมเมดี้จ๋าแบบคู่กัดแบบบุรีกับพบู แต่เพราะความทันกันทางความคิดผสมกับความนิ่งแต่แรงส์ของคุณโตและความกล้าบ้าบิ่นของพบูมันทำให้ฉากของสองคนนี้คอมเมดี้ดีๆนี่เอง
ฉากในลิฟต์กับดลของการเจอกันครั้งที่สอง (พบูรู้จักว่าเป็นคุณโตแล้วฝ่ายเดียว) พบูแกล้งทำเป็นโทรคุยเพื่อเหน็บคุณโตเรื่องว่ากล่าวดล "ทำตัวยังกะคนแก่" แต่มุกนี้ตีกลับจนคุณโตเหน็บทิ้งท้ายก่อนจากไปว่า "อย่าลืมโทรกลับด้วยนะครับ"
แต่ผู้หญิงที่ดูไม่เอาไหนคนนี้กลับแสดงให้เห็นถึงสกิลการทำงานกับคน (ฉากสอนเด็กเสริฟในร้านอาหาร) และการจัดการปัญหาเฉพาะหน้า (ฉากแกล้งเจมี่และบุรี) มันทำให้คุณโตกลับมาสนใจพบูอย่างจริงจังอีกครั้ง ยิ่งพอรู้ว่าเป็นลูกสาวแม่เลี้ยงก็เลยอยากให้โอกาส แต่ไม่วายแอบแกล้งขู่ตอนที่จับได้ว่าแอบมาพักที่ห้องลูกค้าหวังจะได้ฟังคำขอโทษอ้อนวอน แต่พบูกลับบอกให้รีบมาจับไปเข้าคุกเลยแล้วก็เดินหนีเข้าซอกลิฟท์ปิดโอกาสให้คุณโตได้แสดงการถือไพ่ที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเห็นว่าพบูมาสมัครงานก็เลยลองให้มาสัมภาษณ์ คงแอบอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมช่างกล้ามาสมัครทั้งๆที่ประวัติการศึกษาและการทำงานไม่น่าประทับใจเนื่องเพราะไม่สำเร็จอะไรซักอย่าง (เรียกเงินเดือนแพงกว่าคนอื่นเขาอีก ๕๕) ยัยพบูก็ร่ายยาวถึงเหตุผลสร้างภาพ แต่คุณโตก็เบรก "ผมขอความจริง" ๕๕ และเมื่อขอก็ได้ตามนั้น พบูคนที่ปากคิดตรงกับใจ ก็สารภาพว่าอยากได้เงิน และเหตุผลอื่นๆที่นางยกมาก็ชัดเจน เคลียร์!
และแล้วพบูก็ได้งานด้วยเหตุผลที่โตอ้างว่าเป็นคนในครอบครัวย่อมดีกว่า ลึกๆโตคงอยากให้มีใครในครอบครัวอยู่ข้างเขาบ้างแม้พบูจะเรียกว่าญาติห่างๆ
คุณโตไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมที่บ้านเกลียดเขาหนักหนาทั้งๆที่เขาก็ทำตัวดีและถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น การที่มีพบูญาติห่างๆที่กล้าคิดกล้าพูดทำให้คุณโตอาจจะได้รับฟีดแบ็กอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าบอกเขามาก่อน และพบูก็ทำได้อย่างที่ใจหวัง ตอนที่มารับดลจากคุก เมื่อคุณโตแอบถามว่าเขาเป็นพี่ชายที่แย่กับน้องมากไปหรือเปล่า และพบูก็ตอบไปว่า "คนอื่นเขามีพ่อแม่พร้อมหน้า แต่เราไม่มีเหมือนเขาถ้าเราจะมีปัญหาบ้าง ก็สมเหตุสมผล"
นับตั้งแต่นั้น พบูก็ได้คืบคลานเข้ามาอยู่ในใจคุณโตทีละนิดๆ อดไม่ไหวที่จะโทรหาพบูแม้นอกเวลางาน จนบุรีแอบเคืองก็ตาม ๕๕