นี่แหละครับ ที่เขาเรียกว่า "ความเหี้ยมโหดทางการเมือง"

ไอ้คนที่หวัง  ที่วางแผน  นั่งยิ้ม  รอโอกาส

สร้างเรื่อง  ปล่อยข่าว  ตลอดเวลา

บอกว่าคนนั้นคนนี้จะโดนปรับออก  คนนั้นคนนี้ลาออก  คนนั้นคนนี้จะเข้ามาในตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้

นี่แหละคือความเหี้ยมโหดทางการเมือง



อยากไล่ให้เขาออก  เพื่อตัวเองจะได้เข้าแทน   ก็ปล่อยข่าวว่าเขาจะโดนปรับออกมั่ง  เขาลาออกมั่ง

อยากตีกันคนอื่น  กลัวมาแย่งตำแหน่งที่ตัวเองหวัง  ก็ปล่อยข่าวว่าเขาจะเข้ามาในตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้
แล้วให้นักข่าว (รับจ้าง) เอาไมค์ไปจ่อปากถาม  ว่าจะเข้ามาจริงไหม

ใครล่ะครับจะตอบว่าจริง  นอกจากแบ่งรับแบ่งสู้    ซึ่งหากแบ่งรับแบ่งสู้  ก็จะสร้างข่าวต่อว่าเป็นการปฏิเสธไม่เข้ามาทันที
หรือหากปฏิเสธ  ก็เข้าทางเต็ม ๆ  เพราะกลายเป็นสัญญาประชาคมไปแล้วว่าไม่เข้ามาแน่   หมดคู่แข่งเห็น ๆ



ฉลาดในการฉวยโอกาส  สร้างกระแสให้หนัก  ว่าใครไม่มีผลงาน  ใครล้มเหลว  
ฉวยโอกาสทอง  เพราะตอนนี้ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ  เรื่องภัยธรรมชาติ  เรื่องพลังงาน  กำลังเป็นประเด็น



กระแสอยากให้ปรับ ครม. โดยธรรมชาตินั้นมีแน่   แต่ไอ้โม่งตนนี้ฉลาดในการฉวยโอกาสซ้ำกระแส

ดูการปล่อยข่าวเรื่อง รมว.คลังลาออกสิครับ  ธรรมดาซะที่ไหน  ถึงขนาดมอบโรคมะเร็งให้เป็นของแถม

ดูการปล่อยข่าวเรื่องคุณหญิงสุดารัตน์จะเข้ามาสิครับ  พอนักข่าวถาม  ก็ปฏิเสธเรียบร้อย  ตัดคู่แข่งงาม ๆ



อีกไม่นานครับ   ไอ้โม่งที่วางแผนคนนี้จะปรากฎตัว

รอชมให้ดี ๆ  ไม่นานเกินรอ

ปรับ ครม. เมื่อไร   ได้เห็นโฉมหน้าแน่ครับ



ไม่แค่เหล่าไอ้โม่งอยากเข้ามามีตำแหน่งหรอกครับ

เกมนี้  ลึก ๆ แล้ว   อาจใหญ่กว่าที่เห็นกันอยู่นี่   อาจต้องการให้รัฐนาวารวนเร   เพื่อเป้าหมายบางอย่าง



เว้าบ่ได้  เว้าไปถืกอุ้มโลด
เซาเว้าดอก