สวัสดีค่ะ
รวมลิ้งเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่เคยโพสไว้นะคะ เผื่อแม่บ้านคนไหนกำลังท้องพอดี๊พอดี
(เป็นประสบการณ์ของเราคนเดียวนะคะ บางที่บางจังหวัด บางเมือง บางจุด บางมุม อาจไม่เหมือนกันค่ะ อย่าคิดมากค่ะ)
เล่าเรื่องเมื่อท้องแล้วต้องทำไงๆ ที่ vol.6
http://pantip.com/topic/33752395
ประสบการณ์ตอนผ่าคลอดที่ vol.7
http://pantip.com/topic/33775837
และประสบการณ์ตอนนอนโรงพยาบาลค่ะๆ vol.8
http://pantip.com/topic/33868639
วันนี้มาคุยเรื่องหลังคลอดค่ะ
วันออกจากโรงพยาบาล แนะนำให้เช็คกับโรงพยาบาลดีๆเรื่องรถที่มารับเรากับเบบี้กลับค่ะ
บางโรงพยาบาล เขาเข้มงวดจัด ต้องมี car seat ด้วยนะคะ อุ้มกลับชิวๆแบบไทยแลนด์ไม่ได้ค่ะ
ถึงแม้จะเป็นแท๊กซี่ก็ต้องมีค่ะ แต่บางโรงพยาบาล อย่างโรงพยาบาลที่เราไปคลอด เซ็นชื่อกลับบ้าน เดินไปจ่ายเงินเรียบร้อยก็ตัวปลิว ตัวใครตัวมัน คุณจะกลับอย่างไรก็เรื่องของคุณๆๆๆๆไป
เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว แนะนำให้ไปแจ้งเกิดเลยค่ะ ที่สำนักงานเขต โรงพยาบาลจะให้ใบแจ้งเกิดมาให้เราเขียนก่อนออกจากโรงพยาบาล มีลายเซ็นคุณหมออะไรเรียบร้อยค่ะ เราก็กรอกๆชื่อลูกที่อยู่อะไรของเราไปค่ะ
แล้วก็หน้าแรกของสมุดบันทึกแม่ลูก มีไปรษณียบัตรแจ้งเกิดอีกอันนึงเหมือนกัน อันนี้ฉีกออกแล้วส่งไปรษณีย์ได้ แต่ไหนๆก็ไปยื่นใบแจ้งเกิดแล้วก็ยื่นพร้อมกันได้เลยค่ะ
แล้วก็ไปทำประกันสุขภาพของคุณลูกด้วย 乳幼児医療費受給者証
แต่ละจังหวัด ตัวบัตร ขนาดบัตร สีของบัตร อาจไม่เหมือนกันนะคะ (เผื่อบางคนรูปแล้ว Alert ไม่มีใบนี้ทำไงดี มิต้องตกใจค่ะ)
ใบนี้เวลาไปหาหมอ จ่ายค่ารักษา 500เยน (ถ้าค่ารักษาถูกกว่านี้ก็จ่ายตามจริงค่ะ) ถ้าแอดมิดก็วันละ 500เยนค่ะ (ไม่รวมค่าอาหารค่าโน่นนี่นั่นที่โรงพยาบาลมันจะเก็บเราเพิ่มค่ะ)
หลังจากนั้นก็จะมีนางพยาบาลมาหาเราที่บ้านค่ะ
เป็นคนของสำนักงานเขตที่เราอาศัยอยู่
(ไม่เกี่ยวกับโรงพยาบาลแล้วนะคะ)
(แต่ว่าโรงพยาบาลจะเป็นคนแจ้งให้ค่ะ ว่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว ข้อมูลเรา เบอร์โทรของเรา สำนักงานเขตจะโทรมานัดก่อนค่ะว่าจะเข้ามาวันไหน กี่โมงๆ)
นางพยาบาลจะมา ชั่งน้ำหนักคุณลูก วัดตัว ดูอาการ ว่าแข็งแรงดีป่าว แล้วก็มีให้คำแนะนำเรื่องการให้นม
เราอยากปรึกษาอะไรปรึกษาได้เลยค่ะ แล้วก็จะมีสัมภาษณ์เราด้วย
ว่าเราเลี้ยงลูกอย่างไร มีสามี มีพ่อแม่หรือใครมาช่วยเลี้ยงไหม
ถ้าเกิดอะไรขึ้น เรามีใครที่พอจะปรึกษาได้บ้างไหม มีญาติอยู่ใกล้ๆไหม
เป็นคำถามทั่วไปค่ะ ไม่ยาก
พอดีเราอยู่กับสามีกันแค่2คน แถมพ่อแม่สามีอยู่โน้นนนนนนนน คนละจังหวัด
โบกชินคันเซ็นรถไฟสุดด่วนยังใช้เวลากัน3ชั่วโมงกว่าจะมาถึง
แถมเราก็อยู่ซะบ้านนอก จากสถานนีนั่งรถบัสเข้ามาอีก30นาที
รถบัสก็ดันมีแค่ชั่วโมงละคันอีก หวั่นไหวมากมายค่ะ
*** ส่วนใหญ่นางพยาบาลของสำนักงานเขตมาแค่ครั้งเดียวค่ะ
แต่นางสุโดว์โดนมาหา5ครั้ง
นางพยาบาลของเขตเป็นห่วงเป็นใย
นางชื่อ 黒田 คุโรดะ
แปลเป็นไทยได้ว่า "นาดำ"
เลยให้โค้ดเนมว่า "นาดำ"
ต่อไปนี้เรียกนางพยาบาลของเขตว่า คุณนาดำ
(ไม่ดราม่านะคะ ชื่อเขาค่ะ ไม่ได้ตั้งมาล้อเล่น)
นางสุโดว์อยู่ไกลเมือง แถมอยู่คนเดียว แถมลูกคนแรกอีก
เขาก็มาชั่งน้ำหนักคุณลูกให้แล้วก็ดูอาการว่าแข็งแรงดีนะๆ
ให้นมวันละกี่มื้อๆ พอดีคุณลูกอ้วกนมบ่อย ก็คาใจ
เขาก็ให้ลองทำแบบนี้ๆ
พอดีดูเวปคนไทยเรื่องลูกแพ้โน้นนี่ แม่ห้ามกินนั่นโน้น
ลูกอึเป็นมูกๆยืดๆ ลูกดิฉันแพ้อะไรแน่นอนเลย
เอารูปอึให้ดู นางพยาบาลเจแปนบอกว่า นี่ปกติ เด็กทารกไม่แพ้ไรง่ายๆหรอกค่ะๆ.....
เราก็ไม่รู้จะเชื่อใครดี แต่ก็โอเคๆไม่แพ้ก็ไม่แพ้
แล้วไอ้ยืดๆใส่ๆนี่คืออะไร??
นางพยาบาลเจแปนบอกว่า เหมือนจะเป็นน้ำย่อยนะ
ลูกคุณและทารกทุกคนยังไม่เก่ง มันก็มีหลุดไหลออกมาบ้าง อย่าได้แคร์....โอเคๆไม่แคร์ก็ไม่แคร์ค่ะ เพื่อความสบายใจค่ะ
แล้วเขาก็จะมีใบรวมรายชื่อโรงพยาบาลและคลีนิคใกล้ๆไว้ให้ด้วย เผื่อฉุกเฉินและก็เผื่อโทรนัดฉีดวัคซีนค่ะ
แล้วก็แอบมีโฆษณาแฝงบ้าง เอาแพมเพิร์ดยี่ห้อนี้ๆมาให้ลองใช้
ให้ใบรายชื่อนางพยาบาลนวดนม (กรณีเลี้ยงนมแม่ แล้วนมตันนมคัดเจ็บนม)
นางสุโดว์เคยโทรไปเรียกให้เขามานวดให้ที่บ้านค่ะ พอดีนมตัดปั้มไม่ออก ลูกดูดไม่ออก
ใจไม่กล้าเอาเข็มเขี่ยเอง นางพยาบาลก็มานวดให้ โดนไป 4000 เยนค่ะ
(อันนี้ไม่ใช่ของสำนักงานเขตแล้วนะคะ เป็นนางพยาบาลทั่วๆไปค่ะ เหมือนบ้านเรา เรียกมานั่งไฟ นวดนมอะไรประมาณนี้ค่ะ)
แล้วเขาก็จะบอกว่า ครบ2เดือนให้ไปฉีดวัคซีนได้นะๆ ตารางวัคซีนก็มีอยู่ในสมุดบันทึกแม่ลูกค่ะ ฉีดตามตารางไปเรื่อยๆ
"ฟรี"ค่ะ
วัคซีน 予防接種
วิธีฉีดคือ
สืบว่าที่ไหนรับฉีดวัคซีนเด็กบ้าง ส่วนใหญ่จะไปฉีดที่โรงพยาบาลที่คลอดกับคลีนิคแถวบ้านค่ะ ถ้าเดินๆหาคลีนิค หาคำนี้ค่ะ 小児科 เป็นคลีนิคเด็กค่ะ
โทรไปบอกเขาว่าจะฉีดวัคซีน ไม่เคยฉีดเลย ลูกเกิดเมื่อวันนี้ๆ นางผู้รับโทรศัพท์ก็จะบอกว่าฉีดตัวนี้ๆ แล้วก็นัดวันและเวลาค่ะ
ไปตามวันและเวลา เอาสมุดบันทึกแม่ลูกไปด้วยค่ะ เพราะเขาจะปั้มวันที่ที่ฉีดกับสถานที่ที่ฉีดไว้ด้วย
ก่อนฉีดก็จะมีใบให้เราตอบคำถามค่ะ คันจิเยอะแต่พอเดาได้ ประมาณว่า คุณลูกมีไข้ป่าว ครอบครัวมีใครฉีดวัคซีนแล้วป่วยมีไข้บ้าง เคยป่วยหนักไหม เคยชักไหม ตรวจสุขภาพแล้วเคยโดนบอกว่าไม่ปกติไหม ภายใน1เดือนฉีดวัคซีนอะไรมาหรือป่าว ฉีดตัวไหนๆ
แล้วก็วัดไข้ ถ้าปกติก็ฉีดได้ค่ะ
แล้วก็จะได้ใบอธิบายว่า วันนี้ฉีดตัวอะไร มันคืออะไร อธิบายวัคซีนค่ะ (บอกตามตรง อ่านไม่ออกค่ะ พับเก็บกลับบ้านให้สามีอ่านค่ะ)
ถ้าเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดต่อๆกัน เผื่อความสะดวกสบาย นัดต่อเลยค่ะ จะได้ไม่ลืม

ตัวอย่างหน้าวัคซีนค่ะ

ฉีดอันไหนไป วันไหน ฉีดที่ไหน ใครเป็นคนฉีด บันทึกไว้หมดเลยค่ะ
*** อยู่ดีๆอยากเปลี่ยนคลีนิคที่ไปฉีดวัคซีน เปลี่ยนได้ค่ะ (แต่เผื่อความเป็นคนดี กรุณาโทรไปบอกที่เก่าด้วยว่าฉันไม่ไปเแล้วนะ ฉันย้ายคลีนิค)
พอดีนางสุโดว์เคยย้ายคลีนิคค่ะ นางพยาบาลที่มาหาที่บ้าน
(นางนาดำ คนที่มาบ่อยๆค่ะ หลังๆเรื่มคุยเรื่องไร้สาระ นางบอกว่านางว่าง)
(สงสัยที่มาหาบ่อยคือนางว่าง)
คลีนิคเก่าที่ไปฉีด ต้องไปเกือบทุกอาทิตย์ มันมีวัคซีนอยู่2ตัวที่มันฉีดร่วมกันได้ แต่ที่ๆแรกที่ไปหมอเขาไม่ฉีดร่วมให้ ให้ผลัดมาฉีดทีละเข็มๆ
นางพยาบาลนาดำเขาก็บอกว่า ไปคลีนิคนี้ๆนั้นๆดีกว่า ไปทีเดียวจบ ไม่ต้องไปหลายครั้งให้เหนื่อยนะ
เราก็ถามว่าทำไมเขาถึงมีฉีดแยกฉีดรวมหละคะๆ
นางนาดำบอกมาว่า เมื่อก่อนเคยมีเด็กฉีดแบบรวมกันแล้วสิ้นชีพ
.
.
.
แกมาบอกอย่างงี้แล้วข้าจะกล้าให้ลูกข้าจิ้มรัวๆหลายเข็มหรือไงยะ
แต่ก็ทำตามที่นางนาดำบอกค่ะ สะดวกดี ไปทีเดียวจบ
แล้วก็มีอันสุดท้าย เพื่งพาคุณลูกไปฉีดมาเมื่อมีนาคมปีนี้ค่ะ BCG
ที่เจแปนฉีดที่แขนค่ะ
เป็นเข็มชุดค่ะ หมอจะทาวัคซีนที่แขน เขาให้ยกแขนเบบี้ให้ราบเรียบเสมอพื้นสวยงาม
ตอนแรกเราก็นึกอะเมซิ่งเจแปนค่ะ เฮ้ยยยย วัคซีนแบบทา ไฮเทคโนโลจี้ม๊าก แต่ที่ไหนได้เห็นหมอควักเข็มออกมา แทบเป็นลมค่ะ

ปั้มไปที่แขน2ทีค่ะ โดนกันไป18รู

หลังปั้ม แขนเป็นรอยแบบนี้เลยค่ะ
อ่านใบอธิบายที่เขาแจกก่อนฉีด
อ้างว่า หลังจากนี้ไปก็จะขึ้นเหลืองๆฝีๆหนองๆกันไป อย่าได้ตื่นเต้น ปล่อยมันไปเดี๋ยวก็หลุดเอง
ใครอยากเห็นแผลวัคซีน BCG ก๊อปปี้คำนี้แล้วถาม google จิ้มที่ image ได้เลยค่ะ
BCG 予防接種 跡
อ่านใบที่เขาแจกบอกว่า จะมีหนองเหลืองๆเหมือนสิวอ่ะนะ ออกมาบ้างไรบ้าง เดี๋ยวก็หลุดไปแกอย่าไปจิกไปแกะมันนะ
หลังฉีดก็อาบน้ำ แช่โอฟูโระได้ปกติค่ะ
เห็นแล้วสงสาร คุณลูกไปฉีดคนแรก กลับคนสุดท้ายค่ะ ร้องไห้อยู่เกือบชั่วโมง เห็นหน้าหมอที่ฉีดก็ร้องไห้ใหม่ ช้ำใจกันไปค่ะ
ส่วนอีกอย่างที่หลังคลอดต้องไปคือ ตรวจสุขภาพ
เมื่อครบ1เดือน 3เดือน 10เดือนค่ะ
(ดูที่สมุดบันทึกแม่ลูกนะคะ คูปองตรวจสุขภาพมีของเดือนไหนบ้างก็ไปให้มันครบๆค่ะ ฟรีค่ะ)

(ในรูป หน้าซ้ายคือแบบสอบถาม ให้เขียนเตรียมไว้ก่อนไปตรวจค่ะ ด้านขวาคือคูปองตรวจสุขภาพอายุ10เดือน)
วิธีไปเหมือนกับฉีดวัคซีนค่ะ โทรไปจองคิวล่วงหน้า
ตอน1เดือน เราไปของโรงพยาบาลที่คลอดด้วยค่ะ พอดีเขามีให้เขียนจองตั้งแต่ตอนที่นอนโรงพยาบาลเลย ก็เลยจองๆไป แต่พอตรวจ3เดือนไปตรวจคลีนิคที่ฉีดวัคซีนค่ะ นางนาดำแนะนำมา ไม่ต้องไปตรวจถึงโรงพยาบาลก็ได้ม๊างงงง รอนาน คนก็เยอะ คุณลูกก็ดูแข็งแรงปกติดี แค่คลีนิคแถวบ้านก็พอ
ค่ะๆเชื่อนางนาดำค่ะ
เพราะว่าตอน1เดือนคนเยอะจริงๆ ไปตั้งแต่เช้า ได้คิวที่2 กลับบ้าน4โมงเย็น มีเจาะเลือดค่าไรบ้างก็ไม่รู้ค่ะ พอได้เจอหมอ หมอจะยกฟังปอดทำโน่นทำนี่ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่พอถามว่า กรุ๊ปเลือดอะไร หมอบอกว่า โรงพยาบาลนี้ไม่มีตรวจกรุ๊ปเลือดนะ
เราก็สามีก็งงกันไป ทำไมวะ
หมอบอกว่า รู้ไปก็เท่านั้น ถ้าลูกคุณเกิดอุบัติเหตโดนหามเข้าโรงพยาบาล ก่อนให้เลือดเขาก็จะตรวจกรุ๊ปเลือดก่อนอยู่ดี
.
.
.
.
แหม่มมมมมมมมม ก็อยากรู้กรุ๊ปเลือดนีนา
(เผื่อเอามาทำนายนิสัยจากกรุ๊ปเลือดอ่ะหมอออ แหม่มมม)
(แช่งลูกกูอุบัติเหตเสร็จเลยนะยะ)
โอเคๆ ไม่มีก็ไม่มี ตอนนี้ลูก10เดือนแล้วก็ยังคาใจว่ามันกรุ๊ปเลือดอะไรค่ะ ไม่ได้ไปหาที่ตรวจกรุ๊ปเลือดซักที ก็ได้แต่คาใจข้างในลึกๆกันไปค่ะ

(ตอนไปตรวจครบ1เดือน มีให้ตรวจสีของอึด้วยนะคะ อึปกติป่าว)
พลิกดูด้านในสมุดบันทึกแม่ลูกแล้ว ต้องใช้ถึงเข้าเรียนมัธยมต้นเลยนะคะ (ตารางฉีดวัคซีนอะไรพวกนี้) เมื่อได้แล้วเก็บให้ดีๆอย่าหายเลยค่า
จบค่า
link Facebook ค่ะ เผื่อใครอยากอ่านเวอร์ชั่นเป็นกันเอง ไม่เซนเซอร์ค่ะ
https://www.facebook.com/mrs.sudoinjapan
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.9 ตามผลหลังคลอด
รวมลิ้งเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่เคยโพสไว้นะคะ เผื่อแม่บ้านคนไหนกำลังท้องพอดี๊พอดี
(เป็นประสบการณ์ของเราคนเดียวนะคะ บางที่บางจังหวัด บางเมือง บางจุด บางมุม อาจไม่เหมือนกันค่ะ อย่าคิดมากค่ะ)
เล่าเรื่องเมื่อท้องแล้วต้องทำไงๆ ที่ vol.6 http://pantip.com/topic/33752395
ประสบการณ์ตอนผ่าคลอดที่ vol.7 http://pantip.com/topic/33775837
และประสบการณ์ตอนนอนโรงพยาบาลค่ะๆ vol.8 http://pantip.com/topic/33868639
วันนี้มาคุยเรื่องหลังคลอดค่ะ
วันออกจากโรงพยาบาล แนะนำให้เช็คกับโรงพยาบาลดีๆเรื่องรถที่มารับเรากับเบบี้กลับค่ะ
บางโรงพยาบาล เขาเข้มงวดจัด ต้องมี car seat ด้วยนะคะ อุ้มกลับชิวๆแบบไทยแลนด์ไม่ได้ค่ะ
ถึงแม้จะเป็นแท๊กซี่ก็ต้องมีค่ะ แต่บางโรงพยาบาล อย่างโรงพยาบาลที่เราไปคลอด เซ็นชื่อกลับบ้าน เดินไปจ่ายเงินเรียบร้อยก็ตัวปลิว ตัวใครตัวมัน คุณจะกลับอย่างไรก็เรื่องของคุณๆๆๆๆไป
เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว แนะนำให้ไปแจ้งเกิดเลยค่ะ ที่สำนักงานเขต โรงพยาบาลจะให้ใบแจ้งเกิดมาให้เราเขียนก่อนออกจากโรงพยาบาล มีลายเซ็นคุณหมออะไรเรียบร้อยค่ะ เราก็กรอกๆชื่อลูกที่อยู่อะไรของเราไปค่ะ
แล้วก็หน้าแรกของสมุดบันทึกแม่ลูก มีไปรษณียบัตรแจ้งเกิดอีกอันนึงเหมือนกัน อันนี้ฉีกออกแล้วส่งไปรษณีย์ได้ แต่ไหนๆก็ไปยื่นใบแจ้งเกิดแล้วก็ยื่นพร้อมกันได้เลยค่ะ
แล้วก็ไปทำประกันสุขภาพของคุณลูกด้วย 乳幼児医療費受給者証
แต่ละจังหวัด ตัวบัตร ขนาดบัตร สีของบัตร อาจไม่เหมือนกันนะคะ (เผื่อบางคนรูปแล้ว Alert ไม่มีใบนี้ทำไงดี มิต้องตกใจค่ะ)
ใบนี้เวลาไปหาหมอ จ่ายค่ารักษา 500เยน (ถ้าค่ารักษาถูกกว่านี้ก็จ่ายตามจริงค่ะ) ถ้าแอดมิดก็วันละ 500เยนค่ะ (ไม่รวมค่าอาหารค่าโน่นนี่นั่นที่โรงพยาบาลมันจะเก็บเราเพิ่มค่ะ)
หลังจากนั้นก็จะมีนางพยาบาลมาหาเราที่บ้านค่ะ
เป็นคนของสำนักงานเขตที่เราอาศัยอยู่
(ไม่เกี่ยวกับโรงพยาบาลแล้วนะคะ)
(แต่ว่าโรงพยาบาลจะเป็นคนแจ้งให้ค่ะ ว่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว ข้อมูลเรา เบอร์โทรของเรา สำนักงานเขตจะโทรมานัดก่อนค่ะว่าจะเข้ามาวันไหน กี่โมงๆ)
นางพยาบาลจะมา ชั่งน้ำหนักคุณลูก วัดตัว ดูอาการ ว่าแข็งแรงดีป่าว แล้วก็มีให้คำแนะนำเรื่องการให้นม
เราอยากปรึกษาอะไรปรึกษาได้เลยค่ะ แล้วก็จะมีสัมภาษณ์เราด้วย
ว่าเราเลี้ยงลูกอย่างไร มีสามี มีพ่อแม่หรือใครมาช่วยเลี้ยงไหม
ถ้าเกิดอะไรขึ้น เรามีใครที่พอจะปรึกษาได้บ้างไหม มีญาติอยู่ใกล้ๆไหม
เป็นคำถามทั่วไปค่ะ ไม่ยาก
พอดีเราอยู่กับสามีกันแค่2คน แถมพ่อแม่สามีอยู่โน้นนนนนนนน คนละจังหวัด
โบกชินคันเซ็นรถไฟสุดด่วนยังใช้เวลากัน3ชั่วโมงกว่าจะมาถึง
แถมเราก็อยู่ซะบ้านนอก จากสถานนีนั่งรถบัสเข้ามาอีก30นาที
รถบัสก็ดันมีแค่ชั่วโมงละคันอีก หวั่นไหวมากมายค่ะ
*** ส่วนใหญ่นางพยาบาลของสำนักงานเขตมาแค่ครั้งเดียวค่ะ
แต่นางสุโดว์โดนมาหา5ครั้ง
นางพยาบาลของเขตเป็นห่วงเป็นใย
นางชื่อ 黒田 คุโรดะ
แปลเป็นไทยได้ว่า "นาดำ"
เลยให้โค้ดเนมว่า "นาดำ"
ต่อไปนี้เรียกนางพยาบาลของเขตว่า คุณนาดำ
(ไม่ดราม่านะคะ ชื่อเขาค่ะ ไม่ได้ตั้งมาล้อเล่น)
นางสุโดว์อยู่ไกลเมือง แถมอยู่คนเดียว แถมลูกคนแรกอีก
เขาก็มาชั่งน้ำหนักคุณลูกให้แล้วก็ดูอาการว่าแข็งแรงดีนะๆ
ให้นมวันละกี่มื้อๆ พอดีคุณลูกอ้วกนมบ่อย ก็คาใจ
เขาก็ให้ลองทำแบบนี้ๆ
พอดีดูเวปคนไทยเรื่องลูกแพ้โน้นนี่ แม่ห้ามกินนั่นโน้น
ลูกอึเป็นมูกๆยืดๆ ลูกดิฉันแพ้อะไรแน่นอนเลย
เอารูปอึให้ดู นางพยาบาลเจแปนบอกว่า นี่ปกติ เด็กทารกไม่แพ้ไรง่ายๆหรอกค่ะๆ.....
เราก็ไม่รู้จะเชื่อใครดี แต่ก็โอเคๆไม่แพ้ก็ไม่แพ้
แล้วไอ้ยืดๆใส่ๆนี่คืออะไร??
นางพยาบาลเจแปนบอกว่า เหมือนจะเป็นน้ำย่อยนะ
ลูกคุณและทารกทุกคนยังไม่เก่ง มันก็มีหลุดไหลออกมาบ้าง อย่าได้แคร์....โอเคๆไม่แคร์ก็ไม่แคร์ค่ะ เพื่อความสบายใจค่ะ
แล้วเขาก็จะมีใบรวมรายชื่อโรงพยาบาลและคลีนิคใกล้ๆไว้ให้ด้วย เผื่อฉุกเฉินและก็เผื่อโทรนัดฉีดวัคซีนค่ะ
แล้วก็แอบมีโฆษณาแฝงบ้าง เอาแพมเพิร์ดยี่ห้อนี้ๆมาให้ลองใช้
ให้ใบรายชื่อนางพยาบาลนวดนม (กรณีเลี้ยงนมแม่ แล้วนมตันนมคัดเจ็บนม)
นางสุโดว์เคยโทรไปเรียกให้เขามานวดให้ที่บ้านค่ะ พอดีนมตัดปั้มไม่ออก ลูกดูดไม่ออก
ใจไม่กล้าเอาเข็มเขี่ยเอง นางพยาบาลก็มานวดให้ โดนไป 4000 เยนค่ะ
(อันนี้ไม่ใช่ของสำนักงานเขตแล้วนะคะ เป็นนางพยาบาลทั่วๆไปค่ะ เหมือนบ้านเรา เรียกมานั่งไฟ นวดนมอะไรประมาณนี้ค่ะ)
แล้วเขาก็จะบอกว่า ครบ2เดือนให้ไปฉีดวัคซีนได้นะๆ ตารางวัคซีนก็มีอยู่ในสมุดบันทึกแม่ลูกค่ะ ฉีดตามตารางไปเรื่อยๆ
"ฟรี"ค่ะ
วัคซีน 予防接種
วิธีฉีดคือ
สืบว่าที่ไหนรับฉีดวัคซีนเด็กบ้าง ส่วนใหญ่จะไปฉีดที่โรงพยาบาลที่คลอดกับคลีนิคแถวบ้านค่ะ ถ้าเดินๆหาคลีนิค หาคำนี้ค่ะ 小児科 เป็นคลีนิคเด็กค่ะ
โทรไปบอกเขาว่าจะฉีดวัคซีน ไม่เคยฉีดเลย ลูกเกิดเมื่อวันนี้ๆ นางผู้รับโทรศัพท์ก็จะบอกว่าฉีดตัวนี้ๆ แล้วก็นัดวันและเวลาค่ะ
ไปตามวันและเวลา เอาสมุดบันทึกแม่ลูกไปด้วยค่ะ เพราะเขาจะปั้มวันที่ที่ฉีดกับสถานที่ที่ฉีดไว้ด้วย
ก่อนฉีดก็จะมีใบให้เราตอบคำถามค่ะ คันจิเยอะแต่พอเดาได้ ประมาณว่า คุณลูกมีไข้ป่าว ครอบครัวมีใครฉีดวัคซีนแล้วป่วยมีไข้บ้าง เคยป่วยหนักไหม เคยชักไหม ตรวจสุขภาพแล้วเคยโดนบอกว่าไม่ปกติไหม ภายใน1เดือนฉีดวัคซีนอะไรมาหรือป่าว ฉีดตัวไหนๆ
แล้วก็วัดไข้ ถ้าปกติก็ฉีดได้ค่ะ
แล้วก็จะได้ใบอธิบายว่า วันนี้ฉีดตัวอะไร มันคืออะไร อธิบายวัคซีนค่ะ (บอกตามตรง อ่านไม่ออกค่ะ พับเก็บกลับบ้านให้สามีอ่านค่ะ)
ถ้าเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดต่อๆกัน เผื่อความสะดวกสบาย นัดต่อเลยค่ะ จะได้ไม่ลืม
ตัวอย่างหน้าวัคซีนค่ะ
ฉีดอันไหนไป วันไหน ฉีดที่ไหน ใครเป็นคนฉีด บันทึกไว้หมดเลยค่ะ
*** อยู่ดีๆอยากเปลี่ยนคลีนิคที่ไปฉีดวัคซีน เปลี่ยนได้ค่ะ (แต่เผื่อความเป็นคนดี กรุณาโทรไปบอกที่เก่าด้วยว่าฉันไม่ไปเแล้วนะ ฉันย้ายคลีนิค)
พอดีนางสุโดว์เคยย้ายคลีนิคค่ะ นางพยาบาลที่มาหาที่บ้าน
(นางนาดำ คนที่มาบ่อยๆค่ะ หลังๆเรื่มคุยเรื่องไร้สาระ นางบอกว่านางว่าง)
(สงสัยที่มาหาบ่อยคือนางว่าง)
คลีนิคเก่าที่ไปฉีด ต้องไปเกือบทุกอาทิตย์ มันมีวัคซีนอยู่2ตัวที่มันฉีดร่วมกันได้ แต่ที่ๆแรกที่ไปหมอเขาไม่ฉีดร่วมให้ ให้ผลัดมาฉีดทีละเข็มๆ
นางพยาบาลนาดำเขาก็บอกว่า ไปคลีนิคนี้ๆนั้นๆดีกว่า ไปทีเดียวจบ ไม่ต้องไปหลายครั้งให้เหนื่อยนะ
เราก็ถามว่าทำไมเขาถึงมีฉีดแยกฉีดรวมหละคะๆ
นางนาดำบอกมาว่า เมื่อก่อนเคยมีเด็กฉีดแบบรวมกันแล้วสิ้นชีพ
.
.
.
แกมาบอกอย่างงี้แล้วข้าจะกล้าให้ลูกข้าจิ้มรัวๆหลายเข็มหรือไงยะ
แต่ก็ทำตามที่นางนาดำบอกค่ะ สะดวกดี ไปทีเดียวจบ
แล้วก็มีอันสุดท้าย เพื่งพาคุณลูกไปฉีดมาเมื่อมีนาคมปีนี้ค่ะ BCG
ที่เจแปนฉีดที่แขนค่ะ
เป็นเข็มชุดค่ะ หมอจะทาวัคซีนที่แขน เขาให้ยกแขนเบบี้ให้ราบเรียบเสมอพื้นสวยงาม
ตอนแรกเราก็นึกอะเมซิ่งเจแปนค่ะ เฮ้ยยยย วัคซีนแบบทา ไฮเทคโนโลจี้ม๊าก แต่ที่ไหนได้เห็นหมอควักเข็มออกมา แทบเป็นลมค่ะ
ปั้มไปที่แขน2ทีค่ะ โดนกันไป18รู
หลังปั้ม แขนเป็นรอยแบบนี้เลยค่ะ
อ่านใบอธิบายที่เขาแจกก่อนฉีด
อ้างว่า หลังจากนี้ไปก็จะขึ้นเหลืองๆฝีๆหนองๆกันไป อย่าได้ตื่นเต้น ปล่อยมันไปเดี๋ยวก็หลุดเอง
ใครอยากเห็นแผลวัคซีน BCG ก๊อปปี้คำนี้แล้วถาม google จิ้มที่ image ได้เลยค่ะ
BCG 予防接種 跡
อ่านใบที่เขาแจกบอกว่า จะมีหนองเหลืองๆเหมือนสิวอ่ะนะ ออกมาบ้างไรบ้าง เดี๋ยวก็หลุดไปแกอย่าไปจิกไปแกะมันนะ
หลังฉีดก็อาบน้ำ แช่โอฟูโระได้ปกติค่ะ
เห็นแล้วสงสาร คุณลูกไปฉีดคนแรก กลับคนสุดท้ายค่ะ ร้องไห้อยู่เกือบชั่วโมง เห็นหน้าหมอที่ฉีดก็ร้องไห้ใหม่ ช้ำใจกันไปค่ะ
ส่วนอีกอย่างที่หลังคลอดต้องไปคือ ตรวจสุขภาพ
เมื่อครบ1เดือน 3เดือน 10เดือนค่ะ
(ดูที่สมุดบันทึกแม่ลูกนะคะ คูปองตรวจสุขภาพมีของเดือนไหนบ้างก็ไปให้มันครบๆค่ะ ฟรีค่ะ)
(ในรูป หน้าซ้ายคือแบบสอบถาม ให้เขียนเตรียมไว้ก่อนไปตรวจค่ะ ด้านขวาคือคูปองตรวจสุขภาพอายุ10เดือน)
วิธีไปเหมือนกับฉีดวัคซีนค่ะ โทรไปจองคิวล่วงหน้า
ตอน1เดือน เราไปของโรงพยาบาลที่คลอดด้วยค่ะ พอดีเขามีให้เขียนจองตั้งแต่ตอนที่นอนโรงพยาบาลเลย ก็เลยจองๆไป แต่พอตรวจ3เดือนไปตรวจคลีนิคที่ฉีดวัคซีนค่ะ นางนาดำแนะนำมา ไม่ต้องไปตรวจถึงโรงพยาบาลก็ได้ม๊างงงง รอนาน คนก็เยอะ คุณลูกก็ดูแข็งแรงปกติดี แค่คลีนิคแถวบ้านก็พอ
ค่ะๆเชื่อนางนาดำค่ะ
เพราะว่าตอน1เดือนคนเยอะจริงๆ ไปตั้งแต่เช้า ได้คิวที่2 กลับบ้าน4โมงเย็น มีเจาะเลือดค่าไรบ้างก็ไม่รู้ค่ะ พอได้เจอหมอ หมอจะยกฟังปอดทำโน่นทำนี่ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่พอถามว่า กรุ๊ปเลือดอะไร หมอบอกว่า โรงพยาบาลนี้ไม่มีตรวจกรุ๊ปเลือดนะ
เราก็สามีก็งงกันไป ทำไมวะ
หมอบอกว่า รู้ไปก็เท่านั้น ถ้าลูกคุณเกิดอุบัติเหตโดนหามเข้าโรงพยาบาล ก่อนให้เลือดเขาก็จะตรวจกรุ๊ปเลือดก่อนอยู่ดี
.
.
.
.
แหม่มมมมมมมมม ก็อยากรู้กรุ๊ปเลือดนีนา
(เผื่อเอามาทำนายนิสัยจากกรุ๊ปเลือดอ่ะหมอออ แหม่มมม)
(แช่งลูกกูอุบัติเหตเสร็จเลยนะยะ)
โอเคๆ ไม่มีก็ไม่มี ตอนนี้ลูก10เดือนแล้วก็ยังคาใจว่ามันกรุ๊ปเลือดอะไรค่ะ ไม่ได้ไปหาที่ตรวจกรุ๊ปเลือดซักที ก็ได้แต่คาใจข้างในลึกๆกันไปค่ะ
(ตอนไปตรวจครบ1เดือน มีให้ตรวจสีของอึด้วยนะคะ อึปกติป่าว)
พลิกดูด้านในสมุดบันทึกแม่ลูกแล้ว ต้องใช้ถึงเข้าเรียนมัธยมต้นเลยนะคะ (ตารางฉีดวัคซีนอะไรพวกนี้) เมื่อได้แล้วเก็บให้ดีๆอย่าหายเลยค่า
จบค่า
link Facebook ค่ะ เผื่อใครอยากอ่านเวอร์ชั่นเป็นกันเอง ไม่เซนเซอร์ค่ะ
https://www.facebook.com/mrs.sudoinjapan