สวัสดีคะ จริงๆเคยเขียนเรื่องนี้ลงครั้งนึงแล้วแต่ตอนนั้นอัพกระทู้ไม่ได้เลยตัดสินใจไม่ลงดีกว่า
แต่พอเห็นเพื่อนๆเขียนลงกันเลยอยากแชร์บ้าง
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนช่วงสงกรานต์ ช่วงนั้นปิดเทอมพอดี ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้นปี 1 คะ
วันนั้นเราจำแม่นเลยมันตรงกับวันขนทรายเข้าวัด ขออธิบายลักษณะบ้านเราก่อนนะ
เพราะเรื่องนี้มันเกิดที่"ใต้ถุนบ้าน"เลยคะ
บ้านเราจะมีสองหลังไม่ไกลกันมากขอเรียกว่า บ้านสวนกับบ้าน 1 ละกันคะ
บ้าน 1 เราจะอยู่กับน้าสาวอีก 2 คน โดยลักษณะบ้านจะเป็นบ้านไม้ยกสูง มีใต้ถุนบ้านคะ ใต้ถุนจะแบ่งเป็นสามล็อกโล่งๆ
ไม่ได้กั้นระหว่างล็อกนะคะ แต่แบ่งเป็นสัดส่วน สำหรับจอดรถ ตากผ้า แล้วก็มีโต๊ะยาวเอาไว้นั่งคุยกัน กินข้าว
เราชอบไปนั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือที่โต๊ะนั่นแหละคะ
แขกไปใครมาก็จะเห็นชินตา เราจะนั่งครองโต๊ะตลอด 5555
ส่วนบ้านสวน แม่กับพ่อจะอยู่กับยาย ตาของเราเสียแล้ว ทุกๆเย็นเรากับน้าก็จะไปกินข้าวที่บ้านสวนตลอด
ตอนขนทรายแม่เราก็มารับเรากับน้าอีก 2 คนไปขนทรายด้วยกัน คนแถวบ้านละแวกใกล้เคียงก็ไปด้วยกัน
เราขนทรายไปประมาณ 3-4 วัดแล้ววัดสุดท้ายอยู่ใกล้ๆบ้านสวนพอดี พวกเราเลยไปบ้านสวนเพื่อไปกินข้าวเย็นกันเลย
โดยไม่ได้แวะกลับมาบ้าน 1 ก่อนแม่เลยโทรบอกข้างบ้านขอช่วยไปเปิดไฟใต้ถุนบ้านให้
เราก็นั่งหน้าทีวีช่วยยายใส่กรวยดอกสำหรับไปวัดวันพรุ่งนี้ แม่กับน้าก็ทำกับข้าวอยู่ในครัว ตอนนั้นประมาณหกโมงกว่าๆจะทุ่มแล้วละ
โทรศัพท์แม่ดังขึ้นหน้าทีวี เห็นเป็นชื่อป้าเพื่อนแม่เราเลยวิ่งเอาไปให้ในครัว แม่รับโทรศัพท์ปกติ เราก็เดินดูนู้นนี่ในครัวเผื่อแม่ให้ช่วย
แล้วแม่ก็มองมาทางเรา เราก็เลยถามแม่ว่ามีอะไรรึเปล่า คิ้วแม่เริ่มขมวด แม่วางโทรศัพท์แล้วเล่าว่า
เมื่อกี้เพื่อนแม่สองคนไปหาที่บ้าน แต่ไม่เจอแม่เลยขับรถออกมาแล้วมาโทรมาตำหนิแม่ว่า
"ทำไมปล่อยลูกนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านคนเดียว" เพื่อนแม่เล่าว่า ตอนขับรถไปจอดหน้าบ้าน 1 เห็นเรานั่งใต้ถุนบ้าน
เพื่อนแม่เลยเปิดประตูรถมาถามว่าแม่อยู่รึเปล่า แต่เรากลับไม่ตอบและหันมายิ้มให้เพื่อนแม่ทั้งสองคน
เพื่อนแม่ก็ไม่กล้าเข้าบ้านเพราะประตูปิดไว้ ถามอะไรเราก็ไม่ตอบยิ้มอย่างเดียว เลยขับรถออกมาและโทรหาแม่เรานี่แหละ
แม่เราฟังแล้วเงียบ แล้วมาเล่าให้เราฟัง แม่ยังไม่อยากบอกเพื่อนของแม่ว่าคนที่ยิ้มให้นั้นอะ ไม่ใช่เรา
เราฟังแล้วขนลุกเลย เราไม่รู้ว่า ณ ตอนนั้น คนคนนั้น คนที่ยิ้มนั่นใคร ทั้งๆที่เราก็อยู่กับที่บ้านตลอด
อีกวันนึงเรากับแม่ก็เข้าวัดทำบุญ คิดว่าเขาคงมาขอส่วนบุญหรืออาจเป็นเจ้าที่ที่บ้านก็ได้นะ
เราคิด เพราะเราจะชอบไปทำความสะอาดเจ้าที่เกือบทุกอาทิตย์ ทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลย
เรื่องลึกลับในวันสงกรานต์
แต่พอเห็นเพื่อนๆเขียนลงกันเลยอยากแชร์บ้าง
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนช่วงสงกรานต์ ช่วงนั้นปิดเทอมพอดี ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้นปี 1 คะ
วันนั้นเราจำแม่นเลยมันตรงกับวันขนทรายเข้าวัด ขออธิบายลักษณะบ้านเราก่อนนะ
เพราะเรื่องนี้มันเกิดที่"ใต้ถุนบ้าน"เลยคะ
บ้านเราจะมีสองหลังไม่ไกลกันมากขอเรียกว่า บ้านสวนกับบ้าน 1 ละกันคะ
บ้าน 1 เราจะอยู่กับน้าสาวอีก 2 คน โดยลักษณะบ้านจะเป็นบ้านไม้ยกสูง มีใต้ถุนบ้านคะ ใต้ถุนจะแบ่งเป็นสามล็อกโล่งๆ
ไม่ได้กั้นระหว่างล็อกนะคะ แต่แบ่งเป็นสัดส่วน สำหรับจอดรถ ตากผ้า แล้วก็มีโต๊ะยาวเอาไว้นั่งคุยกัน กินข้าว
เราชอบไปนั่งทำการบ้าน อ่านหนังสือที่โต๊ะนั่นแหละคะ
แขกไปใครมาก็จะเห็นชินตา เราจะนั่งครองโต๊ะตลอด 5555
ส่วนบ้านสวน แม่กับพ่อจะอยู่กับยาย ตาของเราเสียแล้ว ทุกๆเย็นเรากับน้าก็จะไปกินข้าวที่บ้านสวนตลอด
ตอนขนทรายแม่เราก็มารับเรากับน้าอีก 2 คนไปขนทรายด้วยกัน คนแถวบ้านละแวกใกล้เคียงก็ไปด้วยกัน
เราขนทรายไปประมาณ 3-4 วัดแล้ววัดสุดท้ายอยู่ใกล้ๆบ้านสวนพอดี พวกเราเลยไปบ้านสวนเพื่อไปกินข้าวเย็นกันเลย
โดยไม่ได้แวะกลับมาบ้าน 1 ก่อนแม่เลยโทรบอกข้างบ้านขอช่วยไปเปิดไฟใต้ถุนบ้านให้
เราก็นั่งหน้าทีวีช่วยยายใส่กรวยดอกสำหรับไปวัดวันพรุ่งนี้ แม่กับน้าก็ทำกับข้าวอยู่ในครัว ตอนนั้นประมาณหกโมงกว่าๆจะทุ่มแล้วละ
โทรศัพท์แม่ดังขึ้นหน้าทีวี เห็นเป็นชื่อป้าเพื่อนแม่เราเลยวิ่งเอาไปให้ในครัว แม่รับโทรศัพท์ปกติ เราก็เดินดูนู้นนี่ในครัวเผื่อแม่ให้ช่วย
แล้วแม่ก็มองมาทางเรา เราก็เลยถามแม่ว่ามีอะไรรึเปล่า คิ้วแม่เริ่มขมวด แม่วางโทรศัพท์แล้วเล่าว่า
เมื่อกี้เพื่อนแม่สองคนไปหาที่บ้าน แต่ไม่เจอแม่เลยขับรถออกมาแล้วมาโทรมาตำหนิแม่ว่า
"ทำไมปล่อยลูกนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านคนเดียว" เพื่อนแม่เล่าว่า ตอนขับรถไปจอดหน้าบ้าน 1 เห็นเรานั่งใต้ถุนบ้าน
เพื่อนแม่เลยเปิดประตูรถมาถามว่าแม่อยู่รึเปล่า แต่เรากลับไม่ตอบและหันมายิ้มให้เพื่อนแม่ทั้งสองคน
เพื่อนแม่ก็ไม่กล้าเข้าบ้านเพราะประตูปิดไว้ ถามอะไรเราก็ไม่ตอบยิ้มอย่างเดียว เลยขับรถออกมาและโทรหาแม่เรานี่แหละ
แม่เราฟังแล้วเงียบ แล้วมาเล่าให้เราฟัง แม่ยังไม่อยากบอกเพื่อนของแม่ว่าคนที่ยิ้มให้นั้นอะ ไม่ใช่เรา
เราฟังแล้วขนลุกเลย เราไม่รู้ว่า ณ ตอนนั้น คนคนนั้น คนที่ยิ้มนั่นใคร ทั้งๆที่เราก็อยู่กับที่บ้านตลอด
อีกวันนึงเรากับแม่ก็เข้าวัดทำบุญ คิดว่าเขาคงมาขอส่วนบุญหรืออาจเป็นเจ้าที่ที่บ้านก็ได้นะ
เราคิด เพราะเราจะชอบไปทำความสะอาดเจ้าที่เกือบทุกอาทิตย์ ทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลย