"ไหว้พระจันทร์" (ตงชิวโจ่ย)

"ไหว้พระจันทร์" (ตงชิวโจ่ย)

คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง มาล้อมวงฟังแม่นันเล่ากันค่ะ

พูดถึงวันไหว้พระจันทร์ ทำให้คิดถึงสมัยเด็กๆ จำได้ว่าในวันนี้ของทุกๆปี ครอบครัวเราจะตั้งโต๊ะจัดอาหารคาวหวานมากมาย (เสียดายตั้งแต่อาอึ้ม (คุณแม่) จากพวกเราไปแล้ว  อาตั่วแจ้จัดไหว้พระจันทร์แบบดั้งเดิมต่ออีกไม่กี่ปี หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไหว้อีกเลย
ส่วนมากของที่จะนำขึ้นโต๊ะไหว้จะเป็นขนมหง่วยกอ หง่วยเปี้ย   ทั้งไส้โหงวยิ้งและไส้ทุเรียน ขนมเหล็กเต่ากอ ขนมโก๋ขาวแผ่นน้อยใหญ่ ขนมโก๋ขาวโบราณ  ปีนี้แม่นันซื้อแบบมีไส้ที่ผัดกับหอมแดงมาไหว้ด้วยค่ะ คิดถึงไม่ได้กินนานแล้ว
จำได้ว่าตอนเด็กๆอาหมวยน้อยชอบเอาทรายมาอัดใส่แม่พิมพ์ ทำเป็นขนมเหล็กเต่ากอรูปร่างต่างๆ สนุกในสามโลก เสียดายปีหน้าไม่ได้ทำแล้ว
นอกจากขนมเปี้ยะและผลไม้แล้ว ยังมีเครื่องประทินผิวต่างๆ ถูกนำมาขึ้นโต๊ะไหว้ เพราะอาเนี้ย รักสวยรักงาม ที่ฮอตฮิตสมัยนั้นน่าจะเป็นแป้งก้อนแข็งขาวๆ ใส่กล่องสี่เหลี่ยมๆ มีรูปผู้หญิงหน้าสวยอยู่บนฝากล่อง เมื่อวานเดินตลาดท่าดินแดงกับพวกอาแจ้ได้มากล่องหนึ่ง ที่ซื้อมาเพราะคิดถึงอาอึ้มในวันนั้น
วันที่อาอึ้มกำลังใช้แป้งชนิดนี้ทำอะไรก็ไม่รู้กับใบหน้าสาวๆที่มานั่งรอเป็นแถวยาว อาอึ้มมีอุปกรณ์เป็นด้ายสีขาว  มื่อซ้ายขวาจับปลายด้ายคนละข้าง แถมมีวิทยายุทธพันด้ายไปมาให้เป็นสามเหลี่ยมสองวง แล้วก็เอาด้ายแนบไปมาบนใบหน้าสาวๆ ขึ้นลง ขึ้นลง ตอนแม่นันเด็กๆ จะเห็นภาพนี้จนชินตา แต่ก็ไม่สงสัยใคร่รู้ว่าอาอึ้มทำอะไรกับใบหน้าสาวๆเหล่านั้น รู้สึกว่าวิ่งเล่นสนุกกว่า โตขึ้นมาถึงรู้ว่าเป็นการถอนขนบนใบหน้าวิธีหนึ่ง ที่คนจีนเรียกว่า "มังหมิ่ง/หมังหมิ่ง" สมัยนี้ยังพอหลงเหลือให้เห็นแถวเยาวราชเจ้าสองเจ้าที่เค้าอยากเก็บรักษาการ "หมังหมิ่ง" ของบรรพบุรุษเค้าไว้

คิดถึงค่ะเล่าซะยาวเลย กลับมาคุยเรื่องการจัดโต๊ะไหว้พระจันทร์ต่อดีกว่าค่ะ ตั้งแต่เช้าของวันนั้น พวกผู้ใหญ่ไม่รู้ว่าไปหาต้นอ้อยยาวๆสองต้นมาจากไหน แล้วก็จัดการผูกกับโต๊ะซ้ายขวา ใบอ้อยยาวๆด้านบนก็จะจับผูกเข้าด้วยกันเป็นซุ้มสวยงาม ประดับประดาด้วยเต็งลั้ง หรือโคมไฟสีแดงรูปทรงต่างๆ แม่นันจำได้ว่าอาอึ้มชอบซื้อให้เล่น เป็นโคมไฟสีแดงทรงเครื่องบินเหลี่ยมๆ แค่ถือในมือแล้ววิ่งไปมาก็แสนจะมีความสุขแล้วในตอนนั้น  ใครจำบรรยากาศตอนเด็กๆได้บ้างคะ แค่อีมีดดาบไม้ยาวๆอันหนึ่งก็เล่นบทสมมุติได้อย่างสนุกสนาน
เสร็จพิธีไหว้พระจันทร์ในคืนนั้นแล้ว แม่นันเห็นพวกอาแจ้ โดยเฉพาะอาโหง่วแจ้ (พี่สาวคนที่ห้า)  อาเฮียกับเพื่อนๆ ชอบเล่นอะไรก็ไม่รู้ตอนกลางคืนดึกๆ น่ากลัวชะมัด  แต่ก็ชอบดูเค้าเล่นกันค่ะ เค้าเรียกการละเล่นนี้ว่า "ผีตะกร้า" หรือ "โกวน้า/หน่าโกว" (น้า แปลว่าตะกร้า โกว คือสรรพนามแทนวิญญานที่เรียกให้เข้ามาอยู่ในตะกร้า)

ตะกร้าสมัยนั้นก็คือตะกร้าโบราณแบบที่แม่นันใส่ขนมไปไหว้เจ้าบ่อยๆ โดยการนำเสื้อแบบติดกระดุมหน้ามาสวมให้ตะกร้า ในตะกร้ามีใส่อะไรลงไปด้วยสองสามอย่าง คนเล่นต้องมีสองคนใช้มือจับก้นตะกร้าคนละข้าง แล้วก็ทำพิธีเรียกวิญญาณแถวนั้นมาเข้าสิงตะกร้า

อาโหง่วแจ้บอกว่าจะมีบทเพลงเชิญ "โกวน้า/หน่าโกว" มาด้วย แถมร้องให้ฟัง ประมาณนี้ค่ะ
เชียตั่วโกว ตั่วโกวบ่อต่อฉู่ (เชิญอาโกวคนโต อาโกวคนโตไม่อยู่บ้าน)
เชียหยี่โกว หยี่โกวไอ๊เจียฉู่ (เชิญอาโกวคนรอง อาโกวคนรอง จะเฝ้าบ้าน)
เชียซาโกว ซิวม้อ บั๊วะฮุ่ง ต๊วยลื่อขื่อ (เชิญอาโกวคนที่สาม อาโกวคนที่สาม หวีผม ปะแป้งแล้ว จะตามไป)

แม่นันจำได้ว่าตอน "โกวน้า" มาเข้าสิงในตะกร้าแล้ว เวลาพวกผู้ใหญ่ถามคำถามให้โกวน้าตอบ (ผีตะกร้าจะตอบคำถามโดยการโยกไปมา) บางครั้งโยกเบาๆ บางครั้งก็โยกหนักมาก

ส่วนใหญ่คำถามมักจะเป็นเรื่องความรัก โชคลาภ สุขภาพ ฯลฯ พออาโกวน้า (ผีตะกร้า) สั่น หรือ โยกไปมาหนักๆ  ...อาหมวยน้อยจะกลัวมากกกกก..ผู้ใหญ่เล่นอะไรกันก็ไม่รู้... บรื๋อ.ส.ส.

ปีที่แล้วแม่นันไปงานไหว้พระจันทร์ของชุมชนเลื่อนฤทธิ์ ได้ขอลองเล่น "โกวน้า" กับเค้า อาโกวโยกไปมาจริงๆด้วย ทำเอาใจเต้นตึกตัก ไว้จะนำคลิปมาให้ชมค่ะ

ขอให้แฟนๆทุกท่านมีความสุขกับคืนไหว้พระจันทร์ปีนี้นะคะ


เครดิตภาพ การจัดโต๊ะไหว้พระจันทร์ ของชุมชนวรจักร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่