สวัสดีค่ะ ขอสมมุตินามตัวเองว่า A ก็แล้วกันนะคะ ก่อนอื่นขอเกริ่นคร่าวๆก่อนว่าทางตัวของ A เองนั้นทำธุรกิจค้าขายเนื้อสัตว์ค่ะ ไก่ ปลา กุ้ง หมู ขายหมดค่ะ เรื่องที่เป็นประเด็นนี้มันมีอยู่ว่า วันที่ 21 เมษายน 2557 ได้สั่งซื้อสินค้าไว้กับทางพ่อค้าชาวสงขลาค่ะ เป็นชิ้นส่วนไก่ และได้สั่งให้ลูกน้องขับรถลงไปรอรับสินค้าที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามที่พ่อค้าเจ้าของสินค้าได้นัดหมาย ซึ่งวันนั้นตัวเองก็อยู่ทำธุระที่หาดใหญ่ค่ะกำลังทานข้าวกับลูกค้ารายใหม่สนุกสนานกันเลยทีเดียว แต่.....อยู่ดีๆก็ได้รับรายงานทางโทรศัพท์จากลูกน้องคนสนิทว่า คนรถโดนตำรวจจับ พร้อมนำทั้งคนรถ รถ ไก่ทั้งหมด ไปยังที่ๆหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่โรงพักอย่างแน่นอน แล้วก็ระบุสถานที่มาว่าเป็นที่แห่งใด พอรับทราบดังนั้น คือ หยุดกินกันทันทีค่ะและมุ่งไปหาตามสถานที่ดังกล่าว ห่วงลูกน้องมาก เพราะจริงๆแล้วหากมีอะไรก็น่าจะไปคุยกันที่โรงพักในท้องที่ที่จับกุมใช่ไหมคะ (น่าจะใช่เนอะ) พอไปถึงเท่านั้นล่ะค่ะ โอ้ว..แม่เจ้า เข้าซอยที่มือและเงียบ น่ากลัวมากบอกตรงๆค่ะ คนหาดใหญ่สงขลาน่าจะพอทราบ ยูเทิร์นแยกคลองหวะ แล้วด้านซ้ายมือก่อนขึ้นสะพานยกระดับอ่ะค่ะ เลี้ยวเข้าซอยไป ตรงไปสุดซอยเป็นบ้านที่ทำเป็นออฟฟิศอยู่ด้สนซ้ายมือและมีโลโก้ ตร. ด้วยนะคะ ส่วนขวามือเป็นค่ายมวย คือแอบ งง มากค่ะ มันเอาลูกน้องเรามาทำไรที่นี่ ทั้งๆที่ท้องที่ที่จับกุมมันต้องเลยไปอีกหลายกิโลเมตรแล้วเอาย้อนกลับมาทำไมที่นี่ โรงพักก็ไม่ใช่ หน่วยงานก็ไม่น่าใช่ แต่เอาล่ะค่ะ เราก็ไม่ซีเรียสแต่ตอนนี้อยากรู้มากกว่าลูกน้องฉันไปทำอะไรถึงต้องจับกุมกันมาแบบนี้ พอเข้าไปหาเจอชายหลายคนไม่ใส่ชุด ตร.สักคน แต่มีบัตรมาแสดงเราก็นะพอคุยได้ค่ะ มีการพูดคุยกันบางอย่างนะคะ ซึ่งไม่สามารถนำมาเปิดเผยในที่นี่ได้และทางเราไม่ตกลงค่ะ เพราะสินค้าฉันมีใบอนุญาตพร้อมและไม่ได้ลักลอบเอามาจากไหนทำไมฉันต้องมาคุยอะไรตกลงอะไรกับพวกคุณ ก็สรุปกันที่สู้คดีค่ะ ไปประกันตัวลูกน้องและรถออกมาใช้งานตามปกติ เขาแจ้งข้อหาเราในชั้นจับกุมว่า " ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งสิ่งของที่ตนรู้ว่า ได้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องหรือโดยหลีกเลี่ยงอากร หรือข้อจำกัด หรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของสิ่งนั้นจริง " คือแค่อ่านข้อหาก็มึนแล้วค่ะ
แต่มามึนหนักตรงที่เราถามนี่ล่ะค่ะ
A : แล้วคุณรู้ได้ไงว่าสินค้าเราลักลอบ
B : มีสายลับรายงานทางเรามาว่า มีรถกระบะดัดแปลงสีเขียวมีตู้ทึบด้านหลัง ป้ายแดง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ (ขับตามมา 50 กิโลเมตรเลข 4 ตัว จำไม่ได้ค่ะ น่าเชื่อมากกกก ) บบรทุกชิ้นส่วนไก่ข้ามมาจากชายแดนประเทศมาเลเซีย แล้วนำมาถ่ายให้กับรถของทางคุณนี่ไง
A : อ่อค่ะ แล้วรถคันที่เอาของมาส่งล่ะค่ะอยู่ที่ไหนล่ะ ทำไมมีแต่ของเราคันเดียว
B : เจ้าหน้าที่มาถึงก็เจอแต่รถทางคุณครับจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และค้นรถเจอไก่แช่แข็ง เลยจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ (คืออิชั้นก็อยากถามนะคะ คุณทราบได้อย่างไรว่าไก่จากรถคันเขียวมันมาอยู่ที่นี่ เพราะคุณเองก็ไม่เห็นตอนถ่ายของและที่แน่ๆยังจับไม่ได้อีกด้วย โคตรตาทิพย์อ่ะขนาดเขาตีตู้เหล็กปิดทึบ สายตา ตร.ไทย สามารถมองทะลุเหล็กประตูปิดท้ายรถไปเห็นด้วยนะว่าถุงมีลักษณะแบบไหน สีอะไร เริ่ดค่ะ บอกตรงๆ)
A : อ่อค่ะ เวลาเขาซื้อขายยาบ้านี่ปล่อยคนขายหนี แล้วจับแต่คนซื้อป่ะคะที่นี่ (ตร.คงคิดว่านังนี่กวน teen มากๆ)
B : ทางเรามีหลักฐานครับ จับไม่ผิดตัวแน่นอน ( เออนะ ยังจะแถ )
A : โอเคค่ะ งั้นประกันคนกับรถ แล้วไปสู้กันที่ชั้นศาลค่ะ
หลังจากนั้นมาทางเราก็สู้คดีกันค่ะ ตามกระบวนการทางศาล และแล้ววันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่าน มันแสดงให้รู้ได้อย่างนึงว่า ความยุติธรรมมันมีจริงบ้างแล้ว
ศาลชั้นต้นยกฟ้องค่ะ เราชนะคดี ในชั้นแรกละ แต่เข้าใจค่ะว่าเขาต้องไปอุธรณ์ แน่นอน ก็เตรียมฟิตสู้ค่ะ
แต่รู้ไหมคะการสู้ครั้งนี้แลกมาพร้อมความลำบาก ขาดทุน หยาดเหงื่อ หยดน้ำตามากมาย ในความเป็นคนๆนึงที่ต้องมีภาระหน้าที่รับผิดชอบชีวิตลูกน้อง ณ วันนี้ A เชื่อว่า ทำดีที่สุดแล้วค่ะ และขอบอกนะคะ ทางพี่ท่านมั่นใจมากว่าตัวเองเอาความผิดมายัดคนอื่นได้แน่นอน ท่านฝังทำลายสินค้าของกลางพร้อมค่ะ คือคิดไหมว่าถ้าคุณแพ้คุณเอาอะไรมาคืนฉัน คนธรรมดาสู้กันฝ่ายแพ้ต้องรับผิดชอบฝ่ายชนะ แต่ของ A ถึงชนะก็คงไม่ได้อะไรกลับมา ได้แค่คำว่า เราชนะแล้วก็แค่นั้น น่าอนาถใจนะคะ ชนะก็เสีย แพ้ก็เสีย เพียงเพราะฝ่ายที่เรากำลังสู้นั้นคือข้าราชการตำรวจ
หากตำรวจชุดนั้นได้เข้ามาอ่าน ฉันขอบอกไปเลยว่า อุธรณ์ไปเถอะฉันเชื่อว่าความจริงที่ฉันแสดงต่อศาลมันจะพิสูจน์เอง เพราะคุณมาให้การ 3 ปาก ตอบไม่เหมือนกันแม้สักปากเดียว ทุกอย่างมันจะจบลงแบบไหนฉันเชื่ออย่างนึงว่ากฎแห่งกรรมมันยุติธรรมเสมอ
***คุณรู้ไหมตั้งแต่คุณจับกุมครั้งนั้น ฉันส่งสินค้าไม่ได้ตามกำหนด ฉันต้องคืนเงินลูกค้าพร้อมค่าปรับ และค่าปรับนี่ล่ะที่ทำให้กิจการของฉันพังลงใน
ทีเดียว ลูกน้องฉันเกือบ 20 ชีวิตที่ต้องหางานใหม่ คนขับรถให้ฉันตอนนี้เขาค้างค่างวดไฟแนนซ์ คันละ 3-6 งวด โรงงานที่ลงทุนสร้างค้างไว้ ห้องเย็นที่ซื้อมาราคาร่วม 4 แสน ต้องขายราคาถูกๆไป กิจการทุกอย่างมีผลกระทบ ฉันต้องเอารถที่ซื้อมาป้ายแดงยังไม่ได้ถอดออกไปให้ลูกค้าไว้ก่อน เพราะไม่สามารถคืนเงินได้ทันที รู้สึกไหมเวลาเราเสียของรัก ถึงแม้ไม่ได้เสียไปตลอดกาลแต่มันเพิ่งได้มา มันเจ็บปวดไหม เวลาที่คุณเอาลูกน้องฉันไปนอนในคุก ฉันเกาะลูกกรงร้องไห้ไปเพราะรักลูกน้อง เขาไม่ใช่แค่ลูกน้อง เขาคือพี่น้องคือคนที่จะเดินไปพร้อมกับธุรกิจฉัน คุณทำร้ายกี่ชีวิตคุณรู้ไหม ฉันถูกลูกค้าฟ้องร้องมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และคุณจงรู้ไว้ว่าคุณจับของฉันใช้กฎหมายศุลกากร แต่คุณลองมาอ่านสำนวนที่ทางคนของศุลกากรให้การในชั้นศาลด้วยนะ จะรู้ว่าใครก็ไม่อยากไป join กับพวกคุณหรอกค่ะ แต่ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันรู้จักการแก้ปัญหา และทำให้ฉันได้รู้ว่าลูกน้องของฉันเขารักและศรัทธาฉันมากแค่ไหน ทุกสิ่งที่เสียไปฉันจะเอาคืนจากพวกคุณให้ถึงที่สุด ก้แล้วกัน***
..................................................กระบวนการต่อสู้ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ...............................................
จะจัดการกับตำรวจแบบนี้อย่างไรดี ขอความเห็นพี่ๆเพื่อนๆค่ะ
แต่มามึนหนักตรงที่เราถามนี่ล่ะค่ะ
A : แล้วคุณรู้ได้ไงว่าสินค้าเราลักลอบ
B : มีสายลับรายงานทางเรามาว่า มีรถกระบะดัดแปลงสีเขียวมีตู้ทึบด้านหลัง ป้ายแดง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ (ขับตามมา 50 กิโลเมตรเลข 4 ตัว จำไม่ได้ค่ะ น่าเชื่อมากกกก ) บบรทุกชิ้นส่วนไก่ข้ามมาจากชายแดนประเทศมาเลเซีย แล้วนำมาถ่ายให้กับรถของทางคุณนี่ไง
A : อ่อค่ะ แล้วรถคันที่เอาของมาส่งล่ะค่ะอยู่ที่ไหนล่ะ ทำไมมีแต่ของเราคันเดียว
B : เจ้าหน้าที่มาถึงก็เจอแต่รถทางคุณครับจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และค้นรถเจอไก่แช่แข็ง เลยจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ (คืออิชั้นก็อยากถามนะคะ คุณทราบได้อย่างไรว่าไก่จากรถคันเขียวมันมาอยู่ที่นี่ เพราะคุณเองก็ไม่เห็นตอนถ่ายของและที่แน่ๆยังจับไม่ได้อีกด้วย โคตรตาทิพย์อ่ะขนาดเขาตีตู้เหล็กปิดทึบ สายตา ตร.ไทย สามารถมองทะลุเหล็กประตูปิดท้ายรถไปเห็นด้วยนะว่าถุงมีลักษณะแบบไหน สีอะไร เริ่ดค่ะ บอกตรงๆ)
A : อ่อค่ะ เวลาเขาซื้อขายยาบ้านี่ปล่อยคนขายหนี แล้วจับแต่คนซื้อป่ะคะที่นี่ (ตร.คงคิดว่านังนี่กวน teen มากๆ)
B : ทางเรามีหลักฐานครับ จับไม่ผิดตัวแน่นอน ( เออนะ ยังจะแถ )
A : โอเคค่ะ งั้นประกันคนกับรถ แล้วไปสู้กันที่ชั้นศาลค่ะ
หลังจากนั้นมาทางเราก็สู้คดีกันค่ะ ตามกระบวนการทางศาล และแล้ววันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่าน มันแสดงให้รู้ได้อย่างนึงว่า ความยุติธรรมมันมีจริงบ้างแล้ว
ศาลชั้นต้นยกฟ้องค่ะ เราชนะคดี ในชั้นแรกละ แต่เข้าใจค่ะว่าเขาต้องไปอุธรณ์ แน่นอน ก็เตรียมฟิตสู้ค่ะ
แต่รู้ไหมคะการสู้ครั้งนี้แลกมาพร้อมความลำบาก ขาดทุน หยาดเหงื่อ หยดน้ำตามากมาย ในความเป็นคนๆนึงที่ต้องมีภาระหน้าที่รับผิดชอบชีวิตลูกน้อง ณ วันนี้ A เชื่อว่า ทำดีที่สุดแล้วค่ะ และขอบอกนะคะ ทางพี่ท่านมั่นใจมากว่าตัวเองเอาความผิดมายัดคนอื่นได้แน่นอน ท่านฝังทำลายสินค้าของกลางพร้อมค่ะ คือคิดไหมว่าถ้าคุณแพ้คุณเอาอะไรมาคืนฉัน คนธรรมดาสู้กันฝ่ายแพ้ต้องรับผิดชอบฝ่ายชนะ แต่ของ A ถึงชนะก็คงไม่ได้อะไรกลับมา ได้แค่คำว่า เราชนะแล้วก็แค่นั้น น่าอนาถใจนะคะ ชนะก็เสีย แพ้ก็เสีย เพียงเพราะฝ่ายที่เรากำลังสู้นั้นคือข้าราชการตำรวจ
หากตำรวจชุดนั้นได้เข้ามาอ่าน ฉันขอบอกไปเลยว่า อุธรณ์ไปเถอะฉันเชื่อว่าความจริงที่ฉันแสดงต่อศาลมันจะพิสูจน์เอง เพราะคุณมาให้การ 3 ปาก ตอบไม่เหมือนกันแม้สักปากเดียว ทุกอย่างมันจะจบลงแบบไหนฉันเชื่ออย่างนึงว่ากฎแห่งกรรมมันยุติธรรมเสมอ
***คุณรู้ไหมตั้งแต่คุณจับกุมครั้งนั้น ฉันส่งสินค้าไม่ได้ตามกำหนด ฉันต้องคืนเงินลูกค้าพร้อมค่าปรับ และค่าปรับนี่ล่ะที่ทำให้กิจการของฉันพังลงใน
ทีเดียว ลูกน้องฉันเกือบ 20 ชีวิตที่ต้องหางานใหม่ คนขับรถให้ฉันตอนนี้เขาค้างค่างวดไฟแนนซ์ คันละ 3-6 งวด โรงงานที่ลงทุนสร้างค้างไว้ ห้องเย็นที่ซื้อมาราคาร่วม 4 แสน ต้องขายราคาถูกๆไป กิจการทุกอย่างมีผลกระทบ ฉันต้องเอารถที่ซื้อมาป้ายแดงยังไม่ได้ถอดออกไปให้ลูกค้าไว้ก่อน เพราะไม่สามารถคืนเงินได้ทันที รู้สึกไหมเวลาเราเสียของรัก ถึงแม้ไม่ได้เสียไปตลอดกาลแต่มันเพิ่งได้มา มันเจ็บปวดไหม เวลาที่คุณเอาลูกน้องฉันไปนอนในคุก ฉันเกาะลูกกรงร้องไห้ไปเพราะรักลูกน้อง เขาไม่ใช่แค่ลูกน้อง เขาคือพี่น้องคือคนที่จะเดินไปพร้อมกับธุรกิจฉัน คุณทำร้ายกี่ชีวิตคุณรู้ไหม ฉันถูกลูกค้าฟ้องร้องมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และคุณจงรู้ไว้ว่าคุณจับของฉันใช้กฎหมายศุลกากร แต่คุณลองมาอ่านสำนวนที่ทางคนของศุลกากรให้การในชั้นศาลด้วยนะ จะรู้ว่าใครก็ไม่อยากไป join กับพวกคุณหรอกค่ะ แต่ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันรู้จักการแก้ปัญหา และทำให้ฉันได้รู้ว่าลูกน้องของฉันเขารักและศรัทธาฉันมากแค่ไหน ทุกสิ่งที่เสียไปฉันจะเอาคืนจากพวกคุณให้ถึงที่สุด ก้แล้วกัน***
..................................................กระบวนการต่อสู้ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ...............................................