Backpacker มือใหม่อย่างฉันคิดว่า 40,000 บาท ก็ไปยุโรปได้นะ

กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รีวิวนะคะ แต่อยากมาแชร์ข้อมูลให้ backpacker มือใหม่ (เหมือนฉัน) ที่ยังปักใจว่า จะไปเที่ยวยุโรปมันแพงมาก ฉันไปไม่ได้หรอก ขอไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆดีกว่า ได้มั่นใจว่า 40,000 บาท ก็สามารถไปได้ไกลถึงยุโรปนะ

ขอออกตัวไว้ก่อนว่า
- เราเป็น Backpacker มือใหม่นะคะ
ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศมากมาย ไม่ได้เดินทางบ่อยอะไร ข้อมูลที่มาบอกต่อก็ได้มาจากหนังสือท่องเที่ยวบ้าง อินเตอร์เนทบ้าง และที่สำคัญคือจากห้อง Bluplanet แต่ต้องการมาแบ่งปันข้อมูลเท่าที่พอจะทราบ ให้แก่คนที่ยังไม่ทราบ หรือคนที่สนใจ
- ตั้งกระทู้จากมือถือนะคะ ถ้าทำให้อ่านยากก็ขออภัย
- ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม เราอาจตอบไม่ได้ (เพราะเป็น backpacker มือใหม่) หรือไม่ได้ตอบ (เพราะไม่ค่อยว่างเช็คกระทู้บ่อยๆ) คงไม่ว่ากันนะคะ
- เป็นสมาชิกแบบที่ไม่สามารถลงรูปได้ค่ะ

#ถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาด หรือไม่ครอบคลุม ท่านใดจะท้วงติง และเพิ่มเติมข้อมูล ยินดีเลยค่ะ เชิญตามอัธยาศัย

กระทู้นี้ต้องการบอกแก่ "เพื่อนๆที่อยากไปเที่ยวสักประเทศในยุโรป แต่ไม่กล้าไป" หรือ "เพื่อนๆที่อยากไปต่างประเทศ แต่ประเทศในยุโรปไม่เคยอยู่ใน list ลำดับต้นๆเลย" เพราะ...มักคิดว่า
งบประมาณในการไปเที่ยวยุโรปคงจะแพงเกินเอื้อม สู้ราคาไม่ไหว จึงไม่กล้าไป ขอเที่ยวเมืองไทย หรือต่างประเทศใกล้ๆดีกว่า

(เราไม่ได้พูดถึงความชอบส่วนตัวของแต่ละคน ที่บางคนอาจจะชอบเที่ยวไทยมากกว่าต่างประเทศ  บางคนอาจชอบเกาหลี/ญี่ปุ่น
มากกว่าโซนยุโรปนะคะ)

พูดจากที่เห็นคนใกล้ตัว เพื่อนบางคนเที่ยวไทยบ่อยมาก แทบทุกเดือนหรือทุกวันหยุดยาวที่มี โดยไม่กล้าไปต่างประเทศเพราะคิดว่ามันแพง ,บางคนไปเที่ยวอาเซียน  ญี่ปุ่น  เกาหลี จีน ได้ แต่ไม่กล้าไปยุโรปเพราะกลัวสู้ราคาไม่ไหว (ทั้งๆที่เอางบ 2-3 ทริปมารวมกัน ก็ไปโซนยุโรปได้แล้ว)

เดิมทีนั้น เราเองก็ได้แค่ฝันถึงการไปเที่ยวต่างประเทศค่ะ ไม่คิดหรอกว่า ฝันมันจะเป็นจริงได้
ดูข้อมูลท่องเที่ยวตามเวบต่างๆเพลินๆอยู่เกือบ 2 ปี จนวันหนึ่งมีเพื่อนชวนร่วมทริปค่ะ  งบการเดินทางก็มาจากเงินโบนัสประจำปีและเงินเก็บบางส่วน

เป้าหมายแรกเราอยากจะไปญี่ปุ่น เป็นเวลา 2 สัปดาห์  แต่สุดท้ายเป้าหมายเราเริ่มไกลขึ้นเรื่อยๆประเทศที่อยากไปก็มีมากขึ้น

ถ้าเอางบ 40,000 บาท เป็นตัวตั้ง เราก็สามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้สบายๆใช่มั้ยคะ แล้วถ้าเราจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยุโรป เราจะไปไหนได้บ้างล่ะเนี่ย?

สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางคร่าวๆ

1. ค่าวีซ่า และประกันภัยเดินทาง รวมประมาณ 5,000 บาท
2. ค่าตั๋วเครื่องบิน รอโปรไม่เกิน
20,000 (หรือเต็มที่ไม่เกิน 22,000 ก็ได้)
3. ค่าที่พัก ยุโรปก็ยังมีค่าที่พักหลักร้อยนะ (จำกัดค่าที่พักต่อคน เฉลี่ยประมาณ 700-1,000 ต่อคืน แล้วกัน แพงสุดไม่ให้เกิน 1,200 จะอยู่ได้กี่คืน 5-7 คืน ก็ขึ้นอยู่กับค่าตั๋วเครื่องบินถูก/แพง แล้วล่ะ)
4. ค่าโดยสารในการเดินทาง แน่นอนว่า ถ้าเที่ยวหลายเมือง ค่าเดินทางย่อมเพิ่มขึ้นกว่า
5. ค่าอาหาร
6. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ (ถ้ามี) ค่าของฝากเล็กๆน้อยๆ  (ไม่มีค่า shopping ของแพงอื่นๆนะ)


- ค่าวีซ่าเชงเก้น  แต่ละประเทศก็ไม่เท่ากันนะคะขอจากสถานทูตบางประเทศ รวมค่าดำเนินการผ่านตัวแทนแล้ว 2,xxx บางประเทศ 3,xxx

- ค่าประกันภัยการเดินทาง  (จำเป็นต้องมี)  
ค่าประกันฯนี้ อัตราเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับจำนวนวันท่องเที่ยว และบริษัทประกันภัยที่เลือก ราคาตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักพันกว่าๆ

- (สำหรับคนที่ยังไม่มี passport ก็ต้องเสียค่าทำ passport อีกนิดหน่อยค่ะ)

วีซ่าเชงเก้น คืออะไร?


วีซ่าเชงเก้นเป็นวีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศเชงเก้น ซึ่งประกอบไปด้วย 25 ประเทศในยุโรป ที่ไม่มีการตรวจคนเข้าเมืองระหว่างกัน ได้แก่
สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี  เยอรมนี ออสเตรีย ฮังการี สาธารณรัฐเช็ก  เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ กรีซ ไอซ์แลนด์ เอสโตเนีย สเปน โปรตุเกส ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลตา สโลวะเกีย สโลวีเนีย

หลักการขอวีซ่าเชงเก้น


ในการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นนั้น  ผู้ยื่นจะต้องทำการยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานทูตของกลุ่มประเทศเชงเก้นที่ผู้ยื่นมีความประสงค์ที่จะพำนักอาศัยอยู่นานที่สุดในการเดินทาง หรือ ประเทศที่เป็น จุดหมายปลายทางหลักในการเดินทาง
แต่ถ้าผู้ยื่นมีความประสงค์ที่จะเดินทางมากกว่า 1 ประเทศ โดยมีระยะเวลาในการพำนักอาศัยในแต่ละประเทศเท่าๆกัน ผู้ยื่นจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานทูตของกลุ่มประเทศเชงเก้นที่ผู้ยื่นเดินทางเข้าเป็นประเทศแรก

นั่นหมายความว่า
เมื่อเราได้รับอนุมัติวีซ่าเชงเก้นจากสถานทูตของประเทศใดแล้ว เราสามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นๆที่อยู่ในกลุ่มเชงเก้นนี้ได้ด้วย

การอนุมัติวีซ่าเชงเก้นยากไหม?

ตอบฟันธงแน่นอน 100% ไม่ได้ค่ะ
สำหรับคนที่เตรียมตัวจะไปขอวีซ่าเชงเก้นต้องกังวลใจแน่นอน  กลัวจะไม่ได้วีซ่า เราก็เคยกลัวค่ะ  แต่เราค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า การได้วีซ่าเชงเก้นนั้นไม่ยากเลย ถ้า..

เรายื่นหลักฐานครบ มีการงานมั่นคง (ยิ่งเป็นข้าราชการ พนง.รัฐวิสาหกิจ พนง.ธนาคาร หรือบริษัทเอกชนต่างๆที่มั่นคง) พร้อมจะไปเที่ยวจริงๆ เขาก็ต้องยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราใช่มั้ยคะ

● บางคนเป็น พนง.บริษัท ยื่นขอวีซ่าเชงเก้นครั้งแรก (แต่เคยไปอเมริกา) ยื่นหลักฐานครบ มีใบลางาน และใบรับรองการทำงาน  เงินเดือน 15,000  แต่ยื่นบัญชีเงินเดือนที่มีเงินฝากไม่ถึง 2 หมื่น  >> ก็ได้วีซ่าเชงเก้น

●  บางคนเป็นข้าราชการ ยื่นขอวีซ่าเชงเก้นครั้งแรก (แต่เคยไป ตปท.และมี passport ข้าราชการ)  ยื่นหลักฐานครบ ยื่นบัญชีเงินเดือนที่มีเงินฝากแค่หมื่นกว่าบาท >> ก็ได้วีซ่าเชงเก้น

● บางคนไปขอวีซ่าเชงเก้น ในระหว่างลาออกจากงาน ยื่นหลักฐานครบ ยื่นบัญชีเงินฝากหลักแสน >> ก็ได้วีซ่าเชงเก้น  โดยที่ไม่ได้แนบหลักฐานที่ทำงานเก่า และไม่ถูกซักถามใดๆเพิ่มเติม

การขอวีซ่าเชงเก้น จึงไม่ยากอย่างที่กังวลค่ะ (แต่อาจเป็นเพราะเรายื่นกับสถานทูตที่ไม่เข้มงวดมากหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ)

ส่วนใครจะได้รับอนุมัติตามจำนวนวันที่ขอเป๊ะๆ หรือได้มากกว่านั้น หรือได้ multiple 1 ปี หรือเท่าอายุของ passport ที่เหลือ แล้วแต่โชคของคุณนะคะ

หลังจากที่เราได้วีซ่าเชงเก้นครั้งแรกแล้ว เราก็ค่อนข้างมั่นใจกับการขอวีซ่าเชงเก้นในครั้งต่อๆไป แต่ก็ยังไม่มั่นใจถึงขนาดกล้าจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อนทราบผลวีซ่านะคะ (รอผลวีซ่าเพื่อความชัวร์ก่อนจองตั๋วดีกว่า)

● ทริคการขอวีซ่าเชงเก้นแบบท่องเที่ยวระยะสั้น

http://m.pantip.com/topic/33836841?


การจองตั๋วเครื่องบิน

เราคอยเช็คราคาจาก skyscanner , expedia , cheaptickets.co.th , facebook : Ar-pae.com

ในปีนี้เท่าที่ตามดูมีราคาโปรตั๋วเครื่องบินออกมาบ่อยๆ เราเคยเจอราคาถูกๆ 15,xxx ก็บินไปยุโรปได้แล้ว ด้วยสายการบินมีชื่อเสียง  

ซึ่งตั๋วเครื่องบินไป-กลับราคาหมื่นกว่าบาท อย่างนี้  ส่วนมากแล้วประเทศต้นทาง กับ ประเทศปลายทาง ต้องไม่ใช่ประเทศเดียวกัน
เช่น  

1. ขาไปเริ่มต้นจาก     สิงคโปร์ > ฝรั่งเศส
    ขากลับเริ่มต้นจาก   ฝรั่งเศส > ไทย

ดังนั้น  เราต้องหาตั๋วเพิ่ม  คือ  ขาไปจาก ไทย > สิงคโปร์  โดย low cost สายการบินที่ต้องการ และต้องซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋าเพิ่ม  (ถึงอย่างไร  ราคารวมตั๋วเครื่องบินทั้งหมดก็ยังไม่แพงอยู่ดี  แลกกับการต้องบินอ้อม เสียเวลาไปบ้าง แต่ได้เที่ยวเพิ่มอีก 1 ประเทศ คือ สิงคโปร์ (ถ้าเราต้องการ)

หรือ
2. ขาไปเริ่มต้นจาก     ไทย > ฝรั่งเศส
    ขากลับเริ่มต้นจาก   ฝรั่งเศส > สิงคโปร์
ดังนั้น  เราต้องหาตั๋วเพิ่ม  คือ  ขากลับจาก สิงคโปร์ > ไทย  โดย low cost สายการบินที่ต้องการ และต้องซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋าเพิ่ม (ก่อนกลับสามารถแวะเที่ยวสิงคโปร์ได้อีก ถ้าเราต้องการ)

นอกจากนี้แล้ว ถ้ามีเวลาเราสามารถเช็คหาตั๋วราคาถูกได้เรื่อยๆ โดยเปลี่ยนจากสิงคโปร์ เป็น มาเลเซีย  เวียดนาม ฮ่องกง ฯลฯ และเปลี่ยนจากฝรั่งเศส เป็นเมืองในประเทศยุโรปอื่นๆที่ต้องการ

ในประเทศยุโรปแต่ละประเทศ อาจมีสนามบินนานาชาติอยู่ในหลายเมือง  มากกว่า 1 แห่ง  
ก็ลองเช็คกันดูอีกทีค่ะ  

หากเราเจอโปรตั๋วเครื่องบินไปลงเมืองหนึ่ง แต่เราอยากไปเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง เราก็สามารถใข้รถไฟ หรือรถบัส เป็นพาหนะเปลี่ยนเมืองไปยังที่ต้องการได้ บางทีเพิ่มค่าโดยสารส่วนนี้ก็ยังคุ้มกับส่วนต่างค่าตั๋วเครื่องบินค่ะ


ข้อมูลเพิ่มเติมตามกระทู้เหล่านี้ค่ะ (เท่าที่พอจำได้)

● ข้อมูลควรรู้ก่อนใช้ทริคซื้อตั๋วเครื่องบินไปยุโรปราคาถูกแบบบินไปกลับต่างเมือง โดย คุณเพียงเพื่อน

http://m.pantip.com/topic/33168263?

● ทริคการวางแผนเที่ยวยุโรป แบบประหยัดเกินคาด  โดย คุณเพียงเพื่อน

http://m.pantip.com/topic/30614434?

● [CR]เคล็ด(ไม่ลับ)การจองตั๋วเครื่องบินให้ประหยัดเงินเกือบหมื่นบาท ด้วยวิธี 3 เที่ยวบิน โดย คุณ ojooreo

http://m.pantip.com/topic/33893280?

● [CR]เคล็ด(ไม่)ลับหาตั๋วขั้นเทพโดย Google Vs Skyscanner Vs Kayak Vs Cheaptickets  โดย คุณ ojooreo

http://m.pantip.com/topic/33674750?

(มีต่อ)

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
สรุปว่า  งบ 40,000 บาท ถ้าจะไปทริปยุโรปสักแห่ง ฉันคิดว่าจะไปไหนได้บ้างนะ?

เมื่อหักค่าใช้จ่าย

1. ค่าวีซ่า และประกันภัยเดินทาง รวมประมาณ 5,000 บาท
2. ค่าตั๋วเครื่องบิน รอโปรไม่เกิน
20,000 (หรือเต็มที่ไม่เกิน 22,000 ก็ได้)

รวมเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วเต็มที่  27,000 ละกัน
คงเหลือเป็นค่าโรงแรม ค่าเดินทาง ค่าอาหาร 13,000 บาท

ฉันว่า...ฉันเลือกไปที่นี่ได้

1) Paris  ฝรั่งเศส (เมืองเดียวเท่านั้นไม่ไปไหน) ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าเดินทาง รวมวันละ 1,500 บาท ฉันคงอยู่ปารีสได้ 6-7 คืน

- เราเคยพักโรงแรมที่ปารีส ราคาคนละ 1,200/คืน เป็นห้อง private เตียงเดี่ยว ใกล้เมโทร และสถานีรถไฟหลัก  ( แต่ที่พักราคาถูกกว่านี้ก็มี)


2) ฝรั่งเศส (ปารีส และเมืองอื่น สักเมือง เช่น Strabourg / Colmar)
     ตามข้อ 1 เลือกพักปารีสสัก 3-4 วัน  ซื้อตั๋วรถไฟไป-กลับ เที่ยว Strabourg / Colmar ค้างที่นั่นสัก 1 คืน  (เคยเจอ TGV ไป Strabourg เที่ยวละไม่ถึง 40 ยูโร  ยิ่งจองล่วงหน้านานๆ ราคาน่าจะถูกลงอีก)

หรือถ้าใช้ France Rail Pass ใช้ได้ Unlimited ราคาเริ่มต้น 2 วัน 4,xxx บาท (สำหรับตั๋วชั้น 2) ก็ไปเมืองอื่นได้แล้ว (ลองเทียบราคาดู)

3) ออสเตรีย  เที่ยว Vienna สัก 3 วัน นั่งรถบัสไปค้างที่ Cesky Krumlov (สาธารณรัฐเช็ก) 1 คืน หรือเลือกไป day trip Hallstatt ก็น่าจะได้

4) เยอรมัน  เลือกหาที่พัก คืนละไม่เกิน 1,000 อาจเที่ยวในรัฐบาวาเรีย โดยใช้ Bayern Ticket อาศัยเมืองมิวนิคเป็นฐาน และไปค้างเมืองอื่นๆบ้าง อย่างเมือง Fussen (เที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์) หรือเมือง Garmisch Partenkirchen (ขึ้นยอดเขา Zugspitze เสียค่ารถไฟขึ้น-ลง ยอดเขา 40 ยูโร ก็ได้ไปสัมผัสหิมะแล้ว) น่าจะเที่ยวได้ 6-7 วัน ตั๋ววันของรัฐ ถ้าไป 2 คน ก็ตกคนละ 10กว่ายูโร/วัน ถ้าจะข้ามไปรัฐอื่นด้วย ก็ตกคนละ 20กว่ายูโร/วัน  (ตั๋วรัฐ Bayern นี้ สามารถใช้ไปได้ถึง Salzburg ของออสเตรีย)

5) ถ้าลดจำนวนวันในเยอรมัน ตามข้อ 4) ลงเหลือ 3-4 วัน  เราก็สามารถพ่วงไปเที่ยว Salzburg / Hallstatt ของออสเตรียได้ด้วย

6) สาธารณรัฐเช็ก เที่ยว Prague , Karlovy Vary , Cesky Krumlov ได้  หาที่พักคืนละ 800 สามารถหาได้ที่นี่ ค่าครองชีพในโซนยุโรปตะวันออกนี้ถือว่าไม่แพง dorm บางแห่งราคาถูก และยังมีอาหารเช้าให้ด้วย  เราน่าจะพักได้ 7-10 วันเลยทีเดียว  

เมื่อสำรวจราคาแล้วพบว่า Czech republic pass ใช้ได้ Unlimited ราคาเริ่มต้น 3 วัน 3,xxx บาท (สำหรับตั๋วชั้น 2)  นั่นแปลว่า เราอาจหาค่าโดยสารได้ถูกกว่านี้อีกด้วย ถ้าเดินทางโดยรถไฟเที่ยวเดียว หรือรถบัส

7) ฮังการี  ค่าครองชีพในฮังกานีซึ่งอยู่ในโซนยุโรปตะวันออกก็ถือว่าไม่แพง จะเที่ยวใน Budapest และเมืองอื่นๆ โดยใช้
Hungary republic pass ใช้ได้ Unlimited ราคาเริ่มต้น 3 วัน เพียง 3,xxx บาท (สำหรับตั๋วชั้น 2)  ก็น่าจะพักในฮังการีได้ถึง 7-10 วัน

8) เที่ยว Vienna (ออสเตรีย) กับ Budapest (ฮังการี) เดินทาง 3 ช.ม.เอง  
อาจใช้ หรือไม่ใช้
European East Pass (ใช้ได้ภายใน 4 ประเทศ ได้แก่ Czech Republic, Slovakia, Austria และ Hungary) Unlimited ราคาเริ่มต้น 5 วัน 6,xxx บาท (สำหรับตั๋วชั้น 2) บางทียังแถม Cesky Krumlov (สาธารณรัฐเช็ก) ได้อีกด้วย

9) เบลเยี่ยม เที่ยว Brussels 2 วัน Brugge ,Ghent , Antwerp , Leuven ค่ารถไฟไม่แพง ค่าที่พัก 800 หาได้
และพอจะพ่วงเนเธอร์แลนด์ ได้บ้าง

10) เนเธอร์แลนด์ เที่ยว Amsterdam และเมืองใกล้เคียงได้ไม่ยาก

ส่วนประเทศยุโรปอื่นๆในโซนเหนือ (เช่นเดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ ฯ) ที่ค่าครองชีพแพงๆยังไม่เคยไป และโซนใต้ (เช่น สเปน โปรตุเกส อิตาลี กรีซ ฯ) ก็เช่นกันค่ะ  ถ้าใครสนใจก็คงหาข้อมูลได้ไม่ยาก

สำหรับอาหารการกิน  ขนมปังราคา 1 ยูโร (หรือเกือบๆ) เครื่องดื่ม แซนวิช ของกินราคาไม่ถึง 3 ยูโร มีขายที่สถานีรถไฟ และใกล้เคียง น้ำเปล่าเติมฟรีจากโรงแรม ก็เขาว่าน้ำประปาดื่มได้!  

โดยทั่วไปซื้อของกินจากซุปเปอร์มาร์เก็ตจะถูกกว่าในสถานีรถไฟ/ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป

- ถ้ากินง่ายอยู่ง่าย ก็พกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนมคบเคี้ยวอื่นๆไปจากไทย ช่วยประทังชีวิต  เที่ยวไม่ถึงสัปดาห์ สบาย เดินเยอะ กินน้อย ผอมอีกด้วย



#ยิ่ง คห.13 ยืนยันว่า เที่ยวปารีส 4 วัน ไม่ถึง 3หมื่น นี่ตื่นเต้นเลย

# แต่ก็อย่างที่หลายๆความเห็นข้างบนบอก  ยุโรปมีเมืองที่น่าเที่ยวเยอะ ถ้าต้องเดินทางเปลี่ยนเมืองบ่อยๆ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต้องเพิ่มขึ้น  การเพิ่มงบเป็น 50,000-60,000 ก็ย่อมทำให้เที่ยวได้หลายเมืองขึ้นในทริปเดียว คุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน พอถัวเฉลี่ยแล้ว ยิ่งเที่ยวหลายวัน ราคาเฉลี่ยต่อวันก็ย่อมลดลง  ก็เลือกกันตามความพอใจ และงบในกระเป๋านะคะ

เท่าที่พอจะนึกออกคงมีเท่านี้  เที่ยวยุโรปสักประเทศหนึ่งคงไม่ไกลเกินจริงนะคะ  ขอให้สนุกกับการวางแผนเที่ยว และมีความสุขกับทริปของคุณ ...Backpack เที่ยวยุโรปกันเถอะค่ะ ไม่ยาก(เกินไป)อย่างที่คิดจริงๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่