[:brokenheart:]ความรัก 12 ปี ที่ผลสุดท้ายคือ 0 อ่านเถอะถ้าอยากเข้าใจความรักก่อนจะทำลายมัน

ความรัก 12 ปี ที่ผลสุดท้ายคือ 0
เคยมี ผช คนนึงตั้งแต่คบกัน เขาพูดเสมอว่า ผมรักคุณ ผมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คุณมีความสุข ผมสัญญาผมจะรักคุณตลอดไป...
     ผช เป็นเพศที่จะจำอดีตเรื่องราวรายละเอียดการกระทำที่ตัวเองได้ทำมาไม่ได้เลย ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ธรรมชาติมันเป็นแบบนั้น ส่วน ผญ จะจำรายละเอียด คำพูด คำสัญญา สถานที่ บรรยากาศ ทุกอย่างได้ละเอียดยิบ นั่นแหละคือสาเหตุที่ ทำไม ผช ถึงเปลี่ยนไป ทำไมเขาไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนตอนแรกที่คบกัน นี่คือคำถามที่ ผญ ทุกคนสงสัย รวมถึงฉัน ก็จริงอยู่ที่ฉันสงสัย แต่ถ้าบอกว่า ธรรมชาติของ ผช ฉันก็เลิกที่จะสนใจมัน เพราะรู้ว่า ธรรมชาติ ยังไงก็คือธรรมชาติ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะเค้าสร้างมาแบบนั้น ฉันอยากจะเล่าความรู้สึกตั้งแต่แรกเจอ การกระทำ คำพูด ทุกอย่างที่เขาทำเพื่อฉันให้ฟัง เผื่อถ้าเขามาอ่าน เขาอาจจะกลับมาเป็นคนดี แบบเดิม คนที่ฉันรักได้บ้าง
     ผมรักคุณ ผมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คุณมีความสุข ผมสัญญาผมจะรักคุณตลอดไป... ใช่! เขาพูดแบบนี้กับฉันเสมอตั้งแต่เราเพิ่งคบกัน เขาดูแลเอาใจใส่ฉันทุกๆวัน ทั้งเรื่องที่ฉันขอร้อง และไม่ได้ขอร้อง เขาเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อคนที่เขารัก โดยไม่มีข้อแม้ หรือไม่ถามเหตุผลใดๆ ฉันก็เหมือนกับ ผญ ทั่วไป งอแงเอาแต่ใจไร้สาระ เขาไม่เคยว่า ไม่เคยโกรธ เขายอมที่จะง้อโดยไม่ถามเหตุผล ถึงเขาจะผิดหรือฉันจะผิด ความรักตอนเริ่มไม่มีคำว่า ผิดถูกสำหรับคนรัก ถึงฉันจะผิดหรือถูก คนที่อยากง้อก็คือเขา ยังไงเขาก็อยากง้อ อยากขอคืนดี อยากโอ๋
ผช ทุกคนส่วนใหญ่ก็เริ่มมาแบบนี้แหละ ตามง้อทุกวัน วันละเป็นสิบๆครั้ง ไม่บ่น ก็ทำได้ เราทั้งสอง คบกันมาเรื่อย ทั้งทะเลาะกันดีกัน แต่ ผช ก็เป็นฝ่ายที่ง้อด้วยความเต็มใจเสมอ เราคบกันมาจนปีที่ 3 เราก็ยังรักกันดี แต่เวลาทะเลาะกันเราจะมานั่งคุยกัน เราตกลงกันว่า ถ้าฝ่ายใดรู้สึกว่าฝ่ายใดทำตัวที่ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ เราจะมาคุยกัน และทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับที่จะปรับปรุงนะ เริ่มมีเหตุผลมากขึ้น แต่ ผช ก็ยังเลือกที่จะเป็นฝ่ายง้ออย่างเต็มใจ และความรักของเราก็ดีเหมือนเดิม
     พอปีที่4-6 เราต่างโตขึ้น เข้ามหาวิทยาลัย ต่างคนต่างเรียนความใกล้ชิดเหมือนตอนแรกก็น้อยลงนิดหน่อย เราต่างคนต่างเรียนเวลาตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่เรื่องนี้เราก็ต่างเข้าใจ แทบจะไม่ทะเลาะกันเลย ทานอาหารกลางวันด้วยกันทุกวัน พอเลิกเรียนก็มีเวลาว่างกันนั่งร้านเน็ทดึกๆดื่นๆ ติดเกมก็ติดด้วยกัน กินก็กินด้วยกัน ชีวิตตอนนั้นมีความสุขสุดๆเลย จำได้ว่าแทบจะไม่ทะเลาะกันเลยด้วยซ้ำ อาจจะมีบ้าง แต่น้อยมาก เขายังรักฉันมาก เข้าใจ ถนุถนอม ดูแลทุกเรื่อง โกรธหรืองอล เขาก็ยังเต็มใจง้อเราเสมอ และบอกรักเหมือนตอนที่เราคบกับแรกๆเสมอ ที่ฉันพิมยาวยืดแบบนี้ ฉันก็แค่อยากลำดับเรื่องราวว่า สาเหตุที่ทำให้ความรักของเธอ ความถนุถนอม น้ำใจ การให้เกียรติ ความเต็มใจแบบนี้ มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ปีต่อมาคือ ปีที่ 7-9 เราจะนับกันทุกๆ 3 ปี เพราะนี่คือระยะของความเปลี่ยนความรักของเราทั้งคู่ 7-9 ปีที่ทุกคนต่างเรียนหนักโดยเฉพาะฉัน ฉันทำโปรเจ็คทุกอาทิตย์แทบไม่มีเวลากินข้าวหรือคิดเรื่องอะไรทั้งสิ้นเลย ส่วนเขาไม่ได้หนักมาก แต่ก็เรียนยากขึ้น เขาเข้าใจฉัน เขาไม่เคยหาเรื่องทะเลาะ เขาส่งข้าวส่งน้ำ รวมถึงส่งงานให้ด้วยซ้ำ พาฉันไปคลายเครียด ด้วยการดูหนัง เที่ยวป่า เที่ยวตามสถานที่สวยๆต่างๆ ให้ฉันเพลิดเพลิน สบายใจ เพราะเขาเห็นว่าฉันทำโปรเจ็คหนักเหนื่อย ไม่ได้นอน ตลอดที่คบกันมาเขาไม่เคยมีคนอื่นเลย ฉันยังเคยมี นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราทะเลาะกันช่วงนั้นแหละ ฉันทำตัวแย่ คุยกับ ผช หลายๆคน แต่ขอย้ำนะว่าแค่คุย ฉันเป็น ผญ หัวโบราณกึ่งๆ ไม่มีทางเสียให้ใครง่ายๆ ตอนนี้ถึงใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามฉันบอกได้แค่นี้ แรกๆฉันก็ปิดบัง แต่พอเค้ารู้มาวันนึงเค้าก็ได้แต่เสียใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉันยอมรับว่าฉันผิด และฉันขอเลิกกับเขานับครั้งไม่ถ้วน เพราะรู้สึกผิด แต่เขากลับบอกฉันว่า ผมรักคุณไปแล้ว ผมจะไม่เลิกกับคุณ ผมจะรักคุณแบบนี้ตลอดไป ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นยังไงก็ชั่ง ผมไม่สนใจ เพราะผมเชื่อว่า ถ้าผมทำดีกับคุณไปแบบนี้ทุกๆวัน คุณจะกลับมารักและดีกับผมเหมือนเดิม และสุดท้ายเราก็ยังไม่ได้เลิกกัน ฉันกลับรู้สึกดีกับเขาเพิ่มขึ้นมากทุกวัน เลิกสนใจคนอื่น เขาเอาใจใส่ฉันเหมือนเคย ดูแล ถนุถนอมจิตใจ ให้เกียรติ ไม่เคยโทษฉันเลย และไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว ตอนนี้แหละที่ทำให้ฉันปักใจ รักเขา 100% ทั้งที่ก่อนหน้ายังไม่ถึงเพราะยังเผื่อเลือกอยู่
     ปีที่ 10-12 เป็นปีที่เราต่างคนต่างเรียนจบ ฉันมีความมุ่งหวังอยู่ 2 อย่าง คือ อยากไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ และอยากเรียนการแสดงเป็นนักแสดงที่ใฝ่ฝัน ฉันจบช้ากว่าเขา 2 ปี เพราะดรอปเรียน เขาเริ่มหางานทำตั้งแต่เป็นนักศึกษาอยู่ปี3-4 เขาเริ่มขายเวย์โปรตีน ซึ่งตอนนั้นแทบจะยังไม่มีใครเค้าขายกัน เขาหารายได้ตั้งแต่ตอนนั้น จนจบออกมาเขาก็มีงานแล้วโดยไม่ต้องไปหาสมัครงาน เขาก็ทำงานของเขาไปเรื่อยๆ ส่วนฉันเลือกที่จะไปเรียนภาษา ฉันบินไปเรียนภาษาที่อเมริกาแค่ช่วงเวลาสั้นๆ 4 เดือน และกลับมา มันคือประสบการณ์การอยู่คนเดียวที่มีความสุข ส่วนเขาหนะเหรอ เหงา เบื่อ เซงมาก เพราะไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะทุกทีเขาจะพาฉันเที่ยว หรืออยู่กับฉันซะส่วนใหญ่ พอฉันกลับมา เขาเอาใจใส่ ดูแลฉัน เหมือนเดิม แต่ฉันรู้สึกว่าฉันโตขึ้น ทำอะไรเองหลายๆอย่างได้มากขึ้น ฉันจึงเริ่มเข้าใจเขามากขึ้น เนี่ยแหละจุดเปลี่ยนที่กำลังจะมาถึง เขาซึ่งเป็นคนที่มองว่าฉันเด็กตลอด ไม่ยอมโต ขี้งอแง เอาแต่ใจ กลับเห็นว่าฉันโตขึ้น และควรจะใช้ชีวิตในสังคมแบบผู้ใหญ่หรือคนทั่วไป นี่คือความคิดของเขา หลังจากที่ฉันกลับมา ฉันเริ่มงอแงน้อยลง และคิดแบบผู้ใหญ่ เข้าใจเขา ปล่อยให้เขาทำในสิ่งต่างๆที่ไม่เคยทำ โดยไม่มีการงอแงอะไรทั้งสิ้น เวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆ เรายังรู้สึกรักกัน เข้าใจกันดี แต่ระยะเริ่มห่าง ความหวานเริ่มเบาลง เพราะเข้าใจเขามากเกินไป หลังจากนั้นเขาทำทุกสิ่งทุกอย่างได้หมดตามที่ใจเขาต้องการ ฉันอนุญาติเขาทุกเรื่อง ไม่งอแง พอมาถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่เรามีเรื่องขัดใจกัน ฉันมีการงอแงอยู่บ้างเหมือนฉันคนเดิมแต่ไม่มาก เขาเริ่มโมโห เริ่มคิดว่า ตอนฉันไม่งอแงเขามีความสุขมากกว่า เขาจึงโมโห หงุดหงิดใส่ แล้วบอกฉันว่า "กลับมาเป็นคนเดิมอีกแล้วนะ ไม่มีเหตุผล" ผญ คนนึงที่ห่างหายจากอารมณ์การง้องอนกับแฟนกลับมา แต่เขากลับเปลี่ยนไปแล้ว เขาเลือกใช้เหตุผลกับการรักกันมากขึ้น ถ้าฉันงอลหรือโกรธเรื่องเล็กน้อย เขาจะบอกกับฉันว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย และไม่ยอมที่จะง้ออะไรง่ายๆ เหมือนเคย เขาจะอธิบายเหตุผลร้อยพัน ที่จะทำให้ฉันนั้นเข้าใจ รู้รึเปล่าว่า ผญ นั้นถึงจะหาเรื่องไร้สาระมางอล ผญ เขาไม่ได้ต้องการเหตุผล ไม่ต้องการเข้าใจ เพราะส่วนใหญ่ ผญ ก็เข้าใจอยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องเล็ก คุณไม่ต้องคาดคั้น ถามมากมายหรอก คุณแค่ตอบคำถามที่ ผญ คนนั้นถาม และผลที่ดีที่สุดที่ ผญ คนนั้นต้องการจริงๆ คือการง้อ ง้อแบบไม่มีที่สิ้นสุด ง้อจนหายงอลแค่นั้นเอง เหมือนตอนแรกๆที่คบกันมา ผญ ต้องการให้ง้อ แบบที่เคยเป็น หมายถึงยังไงหนะเหรอ ก็หมายถึงว่า แบบที่เคยเป็น ง้อเราแบบที่เต็มใจ เพราะอยากให้เราหายงอลให้ไวที่สุด ง้อแบบไม่ต้องร้องขอว่า ทำไมไม่ง้อเรา ทำไมต้องถามเหตุผลนั่นนี่ เพราะมันไม่มีทางที่จะดีขึ้น คุณรู้มั้ย การง้อแบบเต็มใจเหมือนตอนแรกที่คบ มันไม่ใช่เป็นการตามใจ ผญ นะ ไม่ใช่เลย สำหรับ ผญ มันคือการวัดความสำคัญมากกว่า ว่าเรายังสำคัญที่สุดอยู่รึเปล่า เค้ายังเต็มใจง้อเรารึเปล่าเท่านั้นแหละ ผญ ได้รับความสำคัญจาก ผช ตั้งแต่แรกที่คบกัน บอกแล้วว่า ผญ เป็นเพศที่จำฝังใจในสิ่งที่ประทับใจ และเมื่อ ผช ว่าเราหาเรื่องทะเลาะ งี่เง่า ไร้สาระ และไม่ยอมที่จะง้อ ผญ ถึงรู้สึกว่าทำไมเราไม่สำคัญเหมือนเมื่อก่อน และนี่คือฉนวนที่ทำให้เรารู้ด้อยค่าต่อกัน เราอาจจะอยู่ด้วยกันไปได้อีกสักหน่อย ทนได้ก็ทนเริ่มจากตรงนี้แหละ เพราะ ผญ รักไปแล้ว เมื่อ ผญ บอกว่ารักไปแล้วให้ไปเต็มที่แล้ว ก็จะไม่ลดลง เหมือน ผช ที่บอกรักไปแล้วแค่ไหน วันนึงถ้าเจอเรื่องที่ไม่พอใจอะไรเกิดขึ้น รักของเขาก็จะลดๆลงเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้จากการกระทำ ขอโทษทีที่รายละเอียดมันเยอะ แต่ถ้าใครได้อ่านแล้ว จะรู้สเต็ปของความรักเพิ่มมากขึ้น และจะสามารถยอมรับกับมันได้ล่วงหน้า และไม่ผิดพลาดเหมือนความรักของฉันตอนนี้ การที่เป็นคนไม่สำคัญอีกต่อไป ไม่ได้ดูจากการกระทำทั้งหมด แต่ ผญ จะพิสูจน์จากการง้อด้วยว่ามันเหมือนเดิมอยู่มั้ยแค่นั้นแหละ ตอนนี้คือ มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ผญ จึงรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ ถึง ผช จะยังบอกรักสม่ำเสมอ พาไปเที่ยวตอนวันหยุด กอด หอม ยังไงความรู้สึกของ ผญ ก็จะเปลี่ยนอาจจะค่อยๆเปลี่ยนแทบจะไม่รู้ตัว ไม่แนบแน่นเหมือนการกอดกันตอนที่เขายังง้อเราแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แต่เท่าที่สัมผัสได้คือ ไม่เหมือนเดิม เรายังอยากได้ความสำคัญจากการง้อของเขาแบบนั้นกลับคืนมา พูดมาจนถึงตอนนี้ ฉันพอรู้สาเหตุแล้วล่ะว่าเกิดจากอะไร ฉันพยายามลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญๆ และฉันก็เจอมัน มันเปลี่ยนไปตอนเราห่างกันครั้งแรกหลังเรียนจบ ก็คือประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก็คือเมื่อเราคบกันตอนปีที่ 10 ยังไงล่ะ รู้มั้ย 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปีที่ 12 จนถึงวันสุดท้ายของกันและกัน เราทะเลาะกันมากๆ ที่จริงอาจจะทะเลาะกันมากๆเท่ากับปีแรกๆ ที่เราคบกันหรืออาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่หนักหนาขึ้นคือ เขาไม่ยอมที่จะง้อเราแบบเต็มใจ อยากให้เราหายจากความโกรธ แล้วมารักกันเหมือนเดิม แต่เหมือนง้อได้ก็ง้อ ง้อไม่ได้ก็คือไม่ทนแบบนั้นแหละ ตอนนี้เรายังพอรับได้ เพราะเรารักเขาไปแล้ว เราหาเรื่องทะเลาะน้อยลง ไม่หรอกที่จริงมีเรื่องแหละ แต่เก็บไว้เองและปล่อยมันหายเองบ้าง เพราะกลัวความสัมพันธ์ของเรามันจบลง แต่มันก็ต้องมีบางเรื่องอะแหละที่ทะเลาะกัน เพราะยังไงคนสองคนอยู่ด้วยกัน ก็ต้องมีเรื่องทะเลาะบ้างเป็นธรรมดา พอมีเรื่องนึงทะเลาะ คราวนี้เขาจะรู้สึกว่า เราหาเรื่องทะเลาะอีกแล้ว ถึงจะเดือนละครั้ง หรือ 2 เดือนครั้ง เขาก็จะคิดว่าเราทะเลาะกันบ่อยอยู่ดี แล้วเวลาเกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้นมาแล้ว เขาก็จะถามเหตุผลนั่นนี่หาสิ่งต่างๆมาอธิบายให้เราเข้าใจ บอกแล้วว่า ผญ ไม่ต้องการอะไรนอกจากการง้อ การพูดจาดีๆ น้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกว่าเขาง้อเรามาจากใจ อยากให้เราหายจริงๆ แต่มันดันไม่เป็นแบบนั้น การง้อของเขา ณ ตอนนี้ คือ ง้อเพื่อให้เราไม่ไปไหน เพราะเราผูกพันธ์กันไปแล้ว 12 ปี ง้อให้หายๆไป แล้วเขาก็จะบอกเราว่า ง้อแล้วไง หายยัง ทำไมไม่หาย ขอบอกเลยว่าเราโกรธ เรางอล มันไม่ใช่การแสร้งทำมันคืออารมณ์ ความรู้สึก ยังไงมันก็ไม่สามารถหายได้ไว้เหมือนที่ถาม แต่เขาตอนนี้ใช้ความอดทนกับเรา เขาถึงเร่งที่จะให้เราหายจากการงอลหรือโกรธ แต่เขาตอนแรกที่คบ เขาใช้ความอยากที่จะทำ อยากที่จะง้อเรา เขาถึงรอเราหายจากการงอลได้ถึงจะงอลเป็นวัน เขาก็รอได้ เห็นมั้ยมันต่างกัน ผญ สามารถเขียนออกมาได้เป็นฉาก แต่ ผช จะไม่สามารถเขียนแบบนี้ออกมาได้เลยหรืออาจจะมีบ้างเราก็ไม่เคยเจอ เพราะนี่คือ ผช คนแรกของชีวิตของกันและกัน จากการทะเลาะกันบ่อยๆ หายเองมั่ง ต้องทำเป็นเข้าใจมั่ง มันทำให้ ผญ คนนี้รู้สึกถึงค่าของตัวเองที่ลดน้อยลงทุกวัน ก็คือการง้อนั่นแหละ อยากบอก ผช ไว้เลย
     การง้อสำคัญ ถ้าคุณไม่อยากง้อ ผญ คุณอย่าเลือกใครเข้ามาเป็นคู่ชีวิตคุณเลย เพราะยังไงคุณต้องเจอแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่ถ้าเจอ ผญ ที่ตามง้อก็ดีไป คุณค่าความสำคัญค่อยๆลดลงๆ มีแต่ต้องเข้าใจเขาให้มากขึ้น ทุกอย่างต้องมีเหตุผล ไม่มีคือไร้สาระ งี่เง่า น่ารำคาญ เบื่อ ทุกอย่างคือ ความคิดของเขานะตอนนี้ นั่นแหละเรารักกันจนมาถึงตรงนี้ได้ไง? พอมีความคิดพวกนี้เข้าไปในสมองของเขา หลังจากนั้น ฉันก็กลายเป็นคนที่ดูงี่เง่า เอาแต่ใจ ไร้สาระ โดนปริยายเลย เขาคิดแบบนี้ แล้วใครล่ะที่จะเปลี่ยนความคิดนี้ และเอามันออกไปจากสมองของเขาได้ ก็คงต้องเป็นเขาแหละ พอมีความคิดพวกนี้ คำหยาบคายก็เริ่มตามมา ฉันเป็นฝ่ายต้องรับกับคำพวกนี้ และจิตใจก็หดหู่กับเรื่องความรักนี้ลงเรื่อยๆ ทะเลาะกันที ก็ใส่อารมณ์ (ต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่