ผมเป็นลูกแหง่คนหนึ่ง เชื่อฟังแม่มาตลอด เรียกได้ว่า มีเพียงแม่เท่านั้น ที่จะหยุดผมได้ ตอนกำลังจะไปเที่ยวแต่งตัว นัดเพื่อน เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยกำลังจะออกจากบ้าน แม่บอกคำเดียวว่าไม่ให้ไป คืนนั้น ยกเลิกทุกอย่าง นอน
และเวลามีอะไรผมก้อจะบอกแม่ทั้งหมด ทุกเรื่อง(ยกเว้นเรื่องบนเตียง) ถ้ามีเหตุผลมากพอท่านจะรับได้ทุกเรื่อง ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องโกหกท่านเลย ครอบครัวผมจะปรึกษากันตลอด มีเรื่องไรก้อแชร์กันทุกเรื่อง อบอุ่นสุดๆเลยล่ะ...
แต่พักหลังๆ ประมาณ 2-3 เดือนมานี้ ดูเหมือนว่าแม่จะเชื่อคนอื่นๆรอบข้างมากกว่าผมเสียอีก(โดยเฉพาะเพื่อนเก่าของ แม่ผม) อย่างเช่นว่า มีอยู่หนหนึ่งผมไปกินข้าวร้านหนึ่งกับเพื่อนมาอร่อยดี ผมก้อมาบอกและชวนแม่ไปลองกินกัน แม่ทำท่าไม่สนใจและพอถามซ้ำก้อบอกว่าไม่ไป(ถ้าแค่นี้ผมก้อไม่คิดอะไรหรอกคับ) แต่ผ่านมาได้สองสามวัน แม่ก้อชวนผมไปร้านที่ผมชวนตอนแรกน่ะล่ะคับ แต่ผมก้อต้อง งง เพราะแม่เล่าให้ผมฟังว่า คนข้างบ้าน(เพื่อนท่านน่ะล่ะ)บอกมาว่าร้านนั้น อร่อย จึงจะลองไปกินสักครั้ง (อ้าว..แล้วที่ผมชวนนั้นคือ...?#คิดในใจ)
เรื่องทำนองนี้มีมาเรื่อยๆ ยกตัวอย่างอีกเรื่องนะคับ วันนั้นแม่มาถามว่าที่วัดแถวบ้านจัดงานอะไร งานของใครคนรู้จักหรือปล่าว ผมก้อไปที่งานเลย ไปถามคนในงาน แล้วก้อกลับมาบอก ท่านก้อรับรู้นะ แต่ก้อไม่ได้พูดอะไรอีก ผมก้อไปบ้านเพื่อนต่อ กลับมาบ้านตอนเย็น สิ่งที่ผมไม่คิดก้อเกิด แม่มาบอกผมว่า ใช่จิงๆล่ะงานที่วัดเป็นอย่างที่ผมว่าจิงๆ...(เหมือนกับไปสืบมาว่าผมพูดความจริงหรือปล่าว)
ผมนี่ไม่ได้โกรธแม่นะ แต่มันน้อยใจยังไงไม่รู้ มันไม่มีกำลังใจอยากทำอะไร ไม่อยากจะพูดอะไร ไม่อยากจะคิดอะไรเลย ท้อแท้ เหมือนผมมันเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ที่ไม่มีใครเชื่อน้ำหน้าคนอย่างผมเลย แม้แต่แม่ตัวเอง
ป.ล. ผมควรจะปรับตัวอย่างไรดี ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา เป็นแบบนี้ทุกวัน ผมก้ออยากจะทำตัวให้ชินนะ ไม่อยากบอกอะไรแม่อีก แต่เวลาท่านถามผมก้อ อดที่จะบอกไม่ได้ ยังไงคนที่ถามก้อคือแม่ พอบอกไปก้อเจอแบบเดิมอีก
#มีใครมีประสบการณ์แบบผมบ้างคับ มาแชร์กันบ้างนะคับ และรับมือกันการเปลี่ยนแปลงยังไงช่วยแนะนำผมด้วยนะคับ (ไม่ใช่นิยายนะคับ เรื่องจิงคับ)
กระทู้นี้อาจเป็นกระทู้ฆ่าตัวตายก้อได้ แต่ขอระบายความขับข้องใจ
และเวลามีอะไรผมก้อจะบอกแม่ทั้งหมด ทุกเรื่อง(ยกเว้นเรื่องบนเตียง) ถ้ามีเหตุผลมากพอท่านจะรับได้ทุกเรื่อง ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องโกหกท่านเลย ครอบครัวผมจะปรึกษากันตลอด มีเรื่องไรก้อแชร์กันทุกเรื่อง อบอุ่นสุดๆเลยล่ะ...
แต่พักหลังๆ ประมาณ 2-3 เดือนมานี้ ดูเหมือนว่าแม่จะเชื่อคนอื่นๆรอบข้างมากกว่าผมเสียอีก(โดยเฉพาะเพื่อนเก่าของ แม่ผม) อย่างเช่นว่า มีอยู่หนหนึ่งผมไปกินข้าวร้านหนึ่งกับเพื่อนมาอร่อยดี ผมก้อมาบอกและชวนแม่ไปลองกินกัน แม่ทำท่าไม่สนใจและพอถามซ้ำก้อบอกว่าไม่ไป(ถ้าแค่นี้ผมก้อไม่คิดอะไรหรอกคับ) แต่ผ่านมาได้สองสามวัน แม่ก้อชวนผมไปร้านที่ผมชวนตอนแรกน่ะล่ะคับ แต่ผมก้อต้อง งง เพราะแม่เล่าให้ผมฟังว่า คนข้างบ้าน(เพื่อนท่านน่ะล่ะ)บอกมาว่าร้านนั้น อร่อย จึงจะลองไปกินสักครั้ง (อ้าว..แล้วที่ผมชวนนั้นคือ...?#คิดในใจ)
เรื่องทำนองนี้มีมาเรื่อยๆ ยกตัวอย่างอีกเรื่องนะคับ วันนั้นแม่มาถามว่าที่วัดแถวบ้านจัดงานอะไร งานของใครคนรู้จักหรือปล่าว ผมก้อไปที่งานเลย ไปถามคนในงาน แล้วก้อกลับมาบอก ท่านก้อรับรู้นะ แต่ก้อไม่ได้พูดอะไรอีก ผมก้อไปบ้านเพื่อนต่อ กลับมาบ้านตอนเย็น สิ่งที่ผมไม่คิดก้อเกิด แม่มาบอกผมว่า ใช่จิงๆล่ะงานที่วัดเป็นอย่างที่ผมว่าจิงๆ...(เหมือนกับไปสืบมาว่าผมพูดความจริงหรือปล่าว)
ผมนี่ไม่ได้โกรธแม่นะ แต่มันน้อยใจยังไงไม่รู้ มันไม่มีกำลังใจอยากทำอะไร ไม่อยากจะพูดอะไร ไม่อยากจะคิดอะไรเลย ท้อแท้ เหมือนผมมันเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ที่ไม่มีใครเชื่อน้ำหน้าคนอย่างผมเลย แม้แต่แม่ตัวเอง
ป.ล. ผมควรจะปรับตัวอย่างไรดี ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา เป็นแบบนี้ทุกวัน ผมก้ออยากจะทำตัวให้ชินนะ ไม่อยากบอกอะไรแม่อีก แต่เวลาท่านถามผมก้อ อดที่จะบอกไม่ได้ ยังไงคนที่ถามก้อคือแม่ พอบอกไปก้อเจอแบบเดิมอีก
#มีใครมีประสบการณ์แบบผมบ้างคับ มาแชร์กันบ้างนะคับ และรับมือกันการเปลี่ยนแปลงยังไงช่วยแนะนำผมด้วยนะคับ (ไม่ใช่นิยายนะคับ เรื่องจิงคับ)