[มุมมองเจ้าของกระทู้] การใช้เงินที่แบ่งได้เป็น 3 ส่วน

การใช้เงินที่แบ่งได้เป็น 3 ส่วน:

หลายคนมักจะหาคำตอบให้ตัวเองเกี่ยวกับเรื่อง 'เงิน' ที่ได้มา ว่าทำไมทุกวันนี้ใช้ไม่เคยพอ ทำไมอยากกินอะไรไม่ได้กิน อยากทำอะไรไม่ได้ทำ อยากไปเที่ยวไหนไม่ได้ไป

วันนี้ผมขอเปิดโลกทัศน์อีกด้านให้ทุกคนหน่อยเกี่ยวกับเรื่องเงิน ใครที่รู้อยู่แล้วก็ช่วยกันโต้แย้งในความคิดเห็นได้นะครับ เพราะความคิดไม่มีผิดถูก ผมอยากลองเสนอในมุมมองของตนเอง

ส่วนใหญ่สมัยนี้ เราจะได้รับเงินมาเป็นก้อน ไม่ว่าจะ เดือนละครั้งในวัยทำงานหรือเรียน สัปดาห์ละครั้ง หรือ วันละครั้งเมื่อยังเป็นเด็ก เงินก้อนที่เราได้มา มันจะถูกนำไปใช้-จ่ายใน 3 รูปแบบด้วยกัน

1. ใช้จ่ายเพื่อปัจจัย4 (ดำรงชีวิตอยู่)
2. ใช้จ่ายเพื่ออนาคต (ยังมาไม่ถึง)

และ

3. ใช้จ่ายเพื่อความสุข

3อย่างข้างต้นนี่ผมเรียงลำดับความสำคัญในแบบของผมเลยนะครับ

ทำไมเป็นแบบนี้?? เพราะผมตระหนักถึงความสำคัญของชีวิตเป็นอันดับแรก นั่นคือการดำรงค์อยู่ของตัวเอง เราต้องใช้จ่ายเพื่อปัจจัย 4 ของตัวเองเป็นที่ตั้งก่อน จากนั้นเราจึงจะมามองว่า อะไรทำให้เรามีอนาคต บ้างก็เก็บออมไป บ้างก็นำไปลงทุน มันจึงจะเหลือถึงก้อนสุดท้ายไว้เพื่อ "ความสุข"

สมมุตว่าได้รับเงินเดือนที่ 15,000 บาท เราควรจะแบ่งเงินออกเป็นก้อนหลักเลย คือการใช้จ่ายในด้านปัจจัย4 สำหรับทั้งเดือน ในที่นี้สมมุติให้เป็น 12,000 บาท อาจจะเป็นค่า ใช้จ่ายสำหรับเช่าที่อยู่ กินข้าว เดินทาง โทรศัพท์ ซึ่งคุณควรจะควบคุมให้มันอยู่ในก่อนนี้ ไม่ไปกินพื้นที่ของก้อนอื่น

สำหรับเงินส่วนที่เหลือ อันนี้แหละปัญหาครับ เพราะคนบางคนมักจะชอบ "ซื้อความสุขในวันนี้" แต่ไม่อดทนเพื่อจะ "มีความสุขในวันหน้า" แบบอารมณ์ เงินเหลือเท่าไหร่ ใช้ยิ้มให้หมด ก็เงินหามาเองนี่ จะไปเที่ยวเล่นกินเหล้า กินอาหารหรูๆ ก็ไม่หนักหัวใคร............ ถูกต้องครับ มันไม่หนักหัวใคร แต่ อนาคตของคุณมันจะดูลางๆ มองไม่เห็นหนทางของความสำเร็จ เพราะคุณกินเงินส่วนของ 'อนาคต' คุณไปเรียบร้อยแล้ว คนประเภทนี้เป็นคนที่มีข้อ 1 และ 3 แต่ขาดข้อ 2(ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าสำคัญกว่า)

ขออนุญาตให้ตัวอย่างจากชีวิตตัวเอง ผมเป็นคนชอบทานอาหารญี่ปุ่นมาก ซึ่งอย่างที่ทุกท่านทราบว่าบ้านเมืองเรา มันไม่ใช่อาหารที่ราคาต่ำเลย มื้อๆนึงมันสามารถดูดเงินจากกระเป๋าท่านได้ตั้งแต่ 150-1500 (เลนจ์มันกว้างมาก-"หลิ่วตา ท่านคิดดูสิ่ "กิน" เหมือนกันเลย เหมือนผัดกระเพรา เหมือนข้าวไข่เจียว แต่อะไรที่เราได้รับมากกว่า ใช่!! "ความสุขไง" ความสุขของวันนี้ ที่ได้กิน รสชาติที่นุ่มลิ้น แหม อะไรจะวิเศษกว่านี้ แต่รู้ตัวอีกที....... เงินจะเหลือถึงปลายเดือนไหม บ้างก็ต้องทนกินอาหารประทังชีพอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในขณะที่บางคนเขายังสามารถทานข้าวราดแกงได้ทุกมื้อจนเงินเดือนงวดหน้าออก

ถ้าท่านเป็นคนที่ปลายเดือนไม่เหลือเงินไว้บริโภคเพื่อประทังชีวิตอย่างสะดวกสบาย ในขณะที่คนรอบข้างที่รายได้ไม่ได้ต่างกันยังสามารถมีกินมีใช้ ท่านต้องกลับมามองแล้วล่ะ "ว่าอะไรที่ท่านกับเขานั้นแตกต่างกัน"

ฝากไว้เผื่อหลายๆท่านที่อาจจะบริหารการเงินได้ไม่คล่อง หรือสภาพคล่องน้อยกว่าที่ท่านหวัง
ผมเขียนขึ้นมาอาจจะ งงๆ ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด เพียงหวังดีกับเพื่อนๆอยากจะให้ทุกท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ผิดพลาดประการใด หรือท่านไหนมีข้อเสนอแนะ ยินดีน้อมรับคำแนะนำต่างๆครับ
ขอบคุณมากครับ

By TS
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่