เรารู้จักคนๆนึง เค้าเป็นแฟนเก่าเราเอง ตอนนั้น เราอายุแค่13-14 ยังเป็นเด็กอยู่เลย ความรักของเราจึงต้องคบกันแบบแอบๆ นอกจากเรายังเด็กแล้ว ผู้ชายคนนั้น ยังเป็นหลานของคนงานที่บ้านเราด้วย พ่อเราจึงค่อนข้างที่จะกีดกัน เรารักกันมาก ตอนนั้น เค้าไม่มีโทรศัพท์ การติดต่อของเรา ลำบากมาก เค้าอยู่รร.ประจำ เวลาเราจะคุยกัน เราก็จะโทรไปเบอร์เพื่อนเค้า แล้วขอคุยกับเค้า บางที เราก็ใช้วิธีเขียนจดหมายเอา มีอยู่วันนึง เราได้ขาดการติดต่อกัน เพราะเราโดนพ่อยึดโทรศัพท์ เค้าโทรหาเราไม่ติด เบอร์เพื่อนเค้าเราก็จำไม่ได้ เพราะเม็มไว้ในเครื่อง เค้าเคยโทรมาหาเราติดหลายครั้ง แต่ทุกครั้ง พ่อจะให้แม่เลี้ยงเราเป็นคนรับสาย แล้วบอกเค้าว่า เบอร์นี้ไม่ใช่เบอร์เรา เค้าโทรผิด เค้าพยายามติดต่อเราอยู่หลายครั้ง โทรก็แล้ว มาหาที่บ้านก็แล้ว แต่ก็ไม่เจอ จนเค้าเรียนจบ ก็ได้ย้ายออกจากกรุงเทพฯ ไปเป็นทหารอยู่ภาคใต้ เราติดต่อกันไม่ได้เป็นเวลาประมาณ10ปี จนกระทั่งวันนึง เราก็ติดต่อเค้าได้ โดยเจอกันในFacebook เราได้ค้นหาชื่อ นามสกุลของเค้า จนเจอ เราไปขอแอดเค้า ทักแชทเค้าไป นานเหมือนกัน กว่าเค้าจะตอบ เพราะเค้าไม่ค่อยได้เล่นเฟส ตอนแรกที่เค้าตอบมา เราก็กลัวเหมือนกัน ว่าเค้าจะจำเราไม่ได้ แต่เค้าก็จำเราได้ เราถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันอยู่นาน จนเค้าได้เล่าว่า...
ทุกวันนี้ เค้ามีลูก2คนกับผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่ด้วยกันมาประมาณ10ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้เค้าไม่มีความสุขเลย เราก็เลยถามว่าทำไม?? เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น เราก็เลยบอกว่า อ้าว!! ไม่รักกัน แล้วอยู่ด้วยกันมาได้ยังไงเป็น10ปี เค้าบอกว่า จริงๆนะ เค้าไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นเลย ทุกวันนี้ผู้หญิงคนนั้น ก็ถามเค้าอยู่บ่อยๆ ว่ารักผู้หญิงคนนั้นบ้างมั๊ย แต่แฟนเก่าเราเค้าก็เงียบบ้าง เดินหนีบ้าง บางทีก็ถามกลับ ว่าจะถามทำไม เราก็งง อยู่กันมาเป็น10ปี เค้าไม่เคยพูด คำว่ารัก กับผู้หญิงคนนั้น ซักครั้งเดียว เราก็บอก ไม่รักแล้วทนอยุ่กันมาทำไมตั้งนาน ทำไมปล่อยให้เลยเถิดจนมีลูกมีเต้ากัน ทำไมไม่ถอยตั้งแต่ตอนนั้น เค้าบอกว่า เค้าเคยถอยจากผู้หญิงคนนี้หลายครั้งแล้ว มีครั้งนึงผู้หญิงคนนั้นทนไม่ได้ ที่ต้องเลิกกัน จึงได้พยายามกินยาฆ่าตัวตาย แต่โชคดี ที่เพื่อนมาเห็นซะก่อนจึงนำส่งรพ.ได้ทัน ด้วยความสงสารจึงต้องทนคบต่อ และบวกกับด้วยความเป็นทหาร คำว่าความรับผิดชอบจึงดูยิ่งใหญ่ และสำคัญ สำหรับผู้ชายคนนี้ เรากับผู้ชายคนนั้นเคยแลกรูปกันและเราเคยให้สร้อยคอเค้าไปอันนึง เป็นแบบมีจี้ที่ใส่รูปได้ ตลอดเวลาที่เค้าคบกับผุ้หญิงคนนั้น เค้าก็ยังใส่สร้อยที่มีรูปเราไว้ที่คอตลอด หลายครั้งที่ผุ้หญิงคนนั้น น้อยใจและพูดเหน็บแนม ประมาณว่า แหม...รักกันจังนะ ใส่สร้อยตลอด ไม่ถอดเลย เค้าใส่สร้อยเราอยู่เกือบ10ปี และพึ่งจะมาถอดเก็บเมื่อปีสองปีนี่เอง เพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนนั้น เค้าบอกขี้เกียจมานั่งทะเลาะกัน ผู้ชายคนนั้นบอกกับเราประมาณว่า เพราะเราหายไป ติดต่อเราไม่ได้ ทุกวันนี้เค้าถึงต้องมาทนอยู่กับผู้หญิงคนนี้ เพียงเพราะคำว่าสงสาร และคำว่ารับผิดชอบ เค้าบอกว่าเค้ากับผุ้หญิงคนนั้นมีอะไรกันแล้ว เค้าก็ต้องรับผิดชอบ เราฟังเค้าพูดแล้วก็อดสงสารไม่ได้ บางทีก็รู้สึกผิด ที่หายไปจากเค้า แต่เราไม่ได้อยากจะหายไปเลย เราโดนพ่อยึดโทรศัพท์ เราเองก็พยายามติดต่อเค้าแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่สำเร็จ
ทุกวันนี้ เค้าก็โทรมาคุย แชทมาคุยกับเราอยู่บ่อยๆ เค้าเป็นทหาร ประจำการอยู่ที่หน่วย นานๆจะกลับบ้านที ทุกครั้งที่จะกลับบ้าน เค้าก็จะบอกเราก่อนเสมอ แล้วเราก็จะไม่โทรหรือทักแชทไป เพราะไม่อยากให้เค้ามีปัญหากับแฟน ถึงแม้ทุกวันนี้เราต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมันยังคงอยู่เสมอ เราว่าการที่เราจำเรื่องราวของเค้าได้ จำชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดของเค้าได้ จำที่อยุ่ที่เราเคยเขียนจดหมายหากันได้ว่าสุดยอดแล้ว แต่เค้าให้ก็ทำให้เรารู้สึกดีตรงที่ เค้าก็จำเรื่องราวที่เกี่ยวกับเราได้เหมือนกัน ถึงแม้ เรื่องข้อมูล ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดเค้าจะจำของเราไม่ได้ แต่เค้าจำเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีกว่าเราซะอีก ก็อย่างว่าอ่ะนะ ผู้ชายไม่ค่อยจะจำเรื่องข้อมูลอะไรพวกนี้ได้ดีเท่าผู้หญิงหรอก
ถึงแม้ว่าเราต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว และรู้ว่าการที่เรามาคุยกันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไหร่ แต่การที่ความรู้สึกดีๆของเรามันยังอยู่ หวังว่าแค่คุยกัน มันคงไม่มากเกินไปมั้ง คงไม่ผิดอะไรมากมาย...
คุณคิดว่ามีมั๊ย คนที่อยู่กินกันมาเป็นสิบปี มีลูกด้วยกัน แต่ไม่ได้รักกัน
ทุกวันนี้ เค้ามีลูก2คนกับผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่ด้วยกันมาประมาณ10ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้เค้าไม่มีความสุขเลย เราก็เลยถามว่าทำไม?? เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น เราก็เลยบอกว่า อ้าว!! ไม่รักกัน แล้วอยู่ด้วยกันมาได้ยังไงเป็น10ปี เค้าบอกว่า จริงๆนะ เค้าไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นเลย ทุกวันนี้ผู้หญิงคนนั้น ก็ถามเค้าอยู่บ่อยๆ ว่ารักผู้หญิงคนนั้นบ้างมั๊ย แต่แฟนเก่าเราเค้าก็เงียบบ้าง เดินหนีบ้าง บางทีก็ถามกลับ ว่าจะถามทำไม เราก็งง อยู่กันมาเป็น10ปี เค้าไม่เคยพูด คำว่ารัก กับผู้หญิงคนนั้น ซักครั้งเดียว เราก็บอก ไม่รักแล้วทนอยุ่กันมาทำไมตั้งนาน ทำไมปล่อยให้เลยเถิดจนมีลูกมีเต้ากัน ทำไมไม่ถอยตั้งแต่ตอนนั้น เค้าบอกว่า เค้าเคยถอยจากผู้หญิงคนนี้หลายครั้งแล้ว มีครั้งนึงผู้หญิงคนนั้นทนไม่ได้ ที่ต้องเลิกกัน จึงได้พยายามกินยาฆ่าตัวตาย แต่โชคดี ที่เพื่อนมาเห็นซะก่อนจึงนำส่งรพ.ได้ทัน ด้วยความสงสารจึงต้องทนคบต่อ และบวกกับด้วยความเป็นทหาร คำว่าความรับผิดชอบจึงดูยิ่งใหญ่ และสำคัญ สำหรับผู้ชายคนนี้ เรากับผู้ชายคนนั้นเคยแลกรูปกันและเราเคยให้สร้อยคอเค้าไปอันนึง เป็นแบบมีจี้ที่ใส่รูปได้ ตลอดเวลาที่เค้าคบกับผุ้หญิงคนนั้น เค้าก็ยังใส่สร้อยที่มีรูปเราไว้ที่คอตลอด หลายครั้งที่ผุ้หญิงคนนั้น น้อยใจและพูดเหน็บแนม ประมาณว่า แหม...รักกันจังนะ ใส่สร้อยตลอด ไม่ถอดเลย เค้าใส่สร้อยเราอยู่เกือบ10ปี และพึ่งจะมาถอดเก็บเมื่อปีสองปีนี่เอง เพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนนั้น เค้าบอกขี้เกียจมานั่งทะเลาะกัน ผู้ชายคนนั้นบอกกับเราประมาณว่า เพราะเราหายไป ติดต่อเราไม่ได้ ทุกวันนี้เค้าถึงต้องมาทนอยู่กับผู้หญิงคนนี้ เพียงเพราะคำว่าสงสาร และคำว่ารับผิดชอบ เค้าบอกว่าเค้ากับผุ้หญิงคนนั้นมีอะไรกันแล้ว เค้าก็ต้องรับผิดชอบ เราฟังเค้าพูดแล้วก็อดสงสารไม่ได้ บางทีก็รู้สึกผิด ที่หายไปจากเค้า แต่เราไม่ได้อยากจะหายไปเลย เราโดนพ่อยึดโทรศัพท์ เราเองก็พยายามติดต่อเค้าแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่สำเร็จ
ทุกวันนี้ เค้าก็โทรมาคุย แชทมาคุยกับเราอยู่บ่อยๆ เค้าเป็นทหาร ประจำการอยู่ที่หน่วย นานๆจะกลับบ้านที ทุกครั้งที่จะกลับบ้าน เค้าก็จะบอกเราก่อนเสมอ แล้วเราก็จะไม่โทรหรือทักแชทไป เพราะไม่อยากให้เค้ามีปัญหากับแฟน ถึงแม้ทุกวันนี้เราต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมันยังคงอยู่เสมอ เราว่าการที่เราจำเรื่องราวของเค้าได้ จำชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดของเค้าได้ จำที่อยุ่ที่เราเคยเขียนจดหมายหากันได้ว่าสุดยอดแล้ว แต่เค้าให้ก็ทำให้เรารู้สึกดีตรงที่ เค้าก็จำเรื่องราวที่เกี่ยวกับเราได้เหมือนกัน ถึงแม้ เรื่องข้อมูล ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดเค้าจะจำของเราไม่ได้ แต่เค้าจำเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีกว่าเราซะอีก ก็อย่างว่าอ่ะนะ ผู้ชายไม่ค่อยจะจำเรื่องข้อมูลอะไรพวกนี้ได้ดีเท่าผู้หญิงหรอก
ถึงแม้ว่าเราต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว และรู้ว่าการที่เรามาคุยกันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไหร่ แต่การที่ความรู้สึกดีๆของเรามันยังอยู่ หวังว่าแค่คุยกัน มันคงไม่มากเกินไปมั้ง คงไม่ผิดอะไรมากมาย...