จะเล่าตั้งแต่แรกนะคะ เราท้องตอนเด็กค่ะอายุไม่ถึง18 ตอนนั้นเป็นวัยรุ่นไม่เคยมีแฟน ครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน มีครอบครัวใหม่ แต่เราอยู่กับยายค่ะ สามีอายุเท่ากัน เป็นแฟนคนแรกในชีวิต ด้วยความที่ยังเด็กก็โดนแฟนหลอกขอมีอะไรด้วยบอกว่าถ้ารักก็ต้องให้มีอะไรกัน ก็ยอมค่ะเพราะตอนนั้นเด็กมากไม่มีผู้ใหญ่คอยแนะนำด้วย พอมีอะไรกันก็หลอกสารพัดบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง จนหลังจากนั้น6เดือนก็ท้องค่ะ พอบอกแฟนว่าท้องแต่คำตอบที่ได้กลับมาคือให้ไปทำแท้งตอนนั้นคือใจแทบสลายเลย คิดในใจหลอกกูมาตลอดเลยหรอ พอแฟนรู้ก็ตีตัวออกห่างเราเลย ไม่โทรมาหาเหมือนเดิมพยายามหลบตลอด ตอนนั้นเครียดมากตัดสินใจบอกทางบ้าน ทางบ้านเลยจะเอาเรื่องถ้าไม่มารับผิดชอบ ทางบ้านเราก็มาคุยกับแม่แฟนที่บ้านค่ะ ตกลงกันว่าจะผูกแขนซึ่งบ้านเราไม่ได้เรียกร้องเงินเลย พอหลังจากผูกแขนเราย้ายมาอยู่บ้านแฟนค่ะ ซึ่งแฟนทำตัวปกตินะคะ แต่เค้าไม่เคยสนใจลูกเลยไม่เคยพาไปหาหมอฝากท้องไม่เคยถามอะไรเกี่ยวกับลูก จนเราคลอดเค้าก็ไม่เคยมาเยี่ยมค่ะวันคลอดยังไม่มาดูลูกเลย มาแค่วันเดียวตอนใกล้ออกจากโรงพยาบาลเอาเอกสารมาให้แปปเดียวก็กลับ จนเรากลับไปพักฟื้นที่บ้านก็ยังไม่สนใจค่ะ เล่นแต่เกมส์ทิ้งให้เราอยู่กับลูกสองคนตลอด ชอบออกไปเล่นเกมส์ที่ร้านตอนกลางคืนกลับดึกทุกวันจนเราจับได้ว่าจริงไปหาผู้หญิงค่ะ พอเราจับได้ก็บอกจะเลิก เราก็ไว้ใจค่ะจนผ่านมา6เดือน จับได้อีกครั้งว่ายังไม่เลิกกับผุ้หญิงคนนั้นแล้วก็สัญญาว่าจะเลิกอีกหลังจากนั้นเรื่องผู้หญิงคนนั้นก็เงียบไปจนเรามารู้อีกครั้งว่ายังไม่เลิกกันเพราะแฟนเราโดนกิ๊กผู้หญิงคนนั้นทำร้ายร่างกายเรื่องแย่งผู้หญิงกัน จนเราทำไม่ไหวทะเลาะกันแรงมากเค้าตบตีเราสารพัดบีบคอเราเกือบตาย ไล่เราออกจากบ้าน ตอนนั้นเราพาลูกกลับบ้านเราด้วยเพราะทนไม่ไหว แต่เค้าไม่เคยมาง้อเรากับลูกเลย มีแต่แม่สามีที่ขอให้กลับเพราะสงสารหลาน เราก็ใจอ่อนค่ะกลับมาอีกครั้ง เรื่องผู้หญิงคนนั้นก็เงียบไปเพราะว่าท้องมีแฟนใหม่ไปแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแฟนเริ่มทำตัวดีขึ้น ผ่านมาเกือบ4ปี จับได้อีกครั้งว่าแอบคุยกับผุ้หญิงทางเฟสบุ๊ค เราก็ให้อภัยอยู่ด้วยกันมาก็มีเรื่องผูเหญิงเข้ามาตลอดจนมาหยุดไปเพราะสามีเราอ้วนขึ้น จากน้ำหนัก68 ขึ้นมาเป็น103โลค่ะก็ไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาอีก แล้วก็มามีปัยหาสามีทะเลาะกับแม่ตัวเอง ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นค่ะอดมื้อกินมื้อลำบากแค่ไหนเราก็ไม่เคยคิดจะทิ้งตามไปอยู่ด้วย จนสุดท้ายแม่สามีเห็นแก่หลายยอมให้กลับมาอยู่บ้านกลับมาเป็นปกติ พอปี58สามีต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ เราก็อดทนรอเค้าทำงานอยู่ที่บ้านสามีไม่ได้เงินซักบาทเดียวเพราะถือว่าช่วยๆกันเพราะค่าใช้ของลูกเราแม่สามีออกค่ะเราทำงานก็ได้แค่กินไปวันๆ เติมเงินมือถือให้สามีเล่นเน็ตเดือนละ499 ทั้งที่ไม่มีเงินก็พยามเก็บแบบเวลาได้เงินไปกินข้าวเหลือก็เก็บไว้เติมเงินให้สามี ส่งของกินของใช้ไปให้ในค่ายทหารไม่อยากให้ลำบากทำทุกอย่างให้เค้าสบาย พอเป็นทหารสามีกลับมาผอมเหมือนเดิมกลับมาทำเหมือนรักเราดีพาเรากับลูกไปเที่ยว เป็นแบบนี้มาสองปีจนเราไว้ใจคิดว่าเค้าไม่กลับไปทำตัวเหมือนเดิมอีก เพราะสองปีที่เป็นทหารสามีดีกับเรามาก จนปลดก็กลับมาอยู่บ้าน ปลดได้6เดือนจับได้ว่ามีผู้หญิงคนใหม่แอบคุยโทรศัพท์กันทุกครั้งที่เราไปขายของให้ที่บ้านเค้า แล้วก็แอบขับรถไปหาผู้หญิงคนนั้นพอเราจับได้ก็ไม่ยอมรับค่ะ จนเค้นจนยอมรับความจริงสุดท้ายก็รับสารภาพ ขอโอกาสเราอีกครั้งเราก็ให้ค่ะ เรากลับมาเป็นปกติ จนวันนึงเรามาเล่นโทรศัพท์สามีเห็นการค้นหาข้อมูลในgoogle เป็นโรงแรมที่อยู่ในอำเภอที่เราอยู่ค่ะ เราก็เริมไม่ไว้ใจสามีอีกครั้งตัดสินใจติดกล้องจับผิดเลยค่ะ เป็นอย่างที่คิดค่ะ พอเราออกมาขายของสามีทำเหมือนเดิมเลย แชทมาหาเราในเฟสบอกว่าจะนอนแล้วนะ แต่ที่เราเห็นในกล้องคือไม่ได้นอนแอบคุยกับใครไม่รู้ ก็แชทไปหาสามีว่าโกหกทำไม คุยกับใครอยู่ ก็ยังแถอยู่ค่ะบอกคุยอะไรนอนหลับอยู่ เราเลยแคปภาพกล้องวงจรที่ดูในมือถือเราส่งให้สามีว่าชั้นเห็นนะทำอะไรอยู่ ทีนี้ทะเลาะกันยาวเลบว่าเราสารพัดเลยบอกว่าเราทำเกินไปนะ เราบอกว่าเราไม่อยากโง่เราผิดตรงไหน หลังจากวันนั้นมาก็ทะเลาะกันทุกวันเลย หาเรื่องมาว่าเราสารพัดทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ บอกไม่ให้เราไปยุ่งกับเค้า จนวันนี้ทะเลาะเราบอกให้เลือกครอบครัวหรือความสุขตัวเอง เค้าบอกเค้าเลือกครอบครัวค่ะแต่ตอบแบบไม่พอใจ พูดเหมือนไม่รักลูกด้วยแบบไม่ได้อยากมีครอบครัวไม่อยากมีลูกเค้ายังไม่พร้อม เราควรพาลูกออกไปจากชีวิตผู้ชายคนนี้ดีมั้ยคะหรือควรทนอยู่เพื่อลูก เราไม่อยากให้ลูกมีชีวิตครอบแยกทางกันเหมือนเรา เราควรทำไงดีคะ ตอนนี้ลูก8ขวบแล้ว ไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย
ทนอยู่เพราะลูกมา9ปี ควรทนต่อไปหรือไม่ทนดีคะ