ถีบจักรยาน งายกวา ถีบภรรยา นะครับ

เรื่องมีอยู่ว่าผมเป็นคนรักเมียมาก ด้วยความที่เราเราสองคนเริ่มความสัมพันธ์จาก เพื่อนมาก่อน
ก่อนที่จะพัฒนาจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งมีครั้งนึงผมเล่นกันมากเกินไปจน
ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ  แต่ด้วยตลอดมาที่เราคบกันเราไม่ค่อยได้มีเหตุการณ์แบบนี้
ผมจึงรู้สึกผิดมากที่ครั้งนั้นได้แสดงกิริยาแบบนั้นออกไป
ซึ่งผลที่ตามมา คือ เค้าไม่คุยกับผมเกือบอาทิตย์ แต่ด้วยครั้งนั้นผมไม่ได้ผิดจริงๆ
แต่ด้วย .... ความเป็นผู้หญิงก็คงเข้าใจกันนะครับ  ว่า......ถ้าโมโห หรือ โกรธเหตุผลจะน้อยลงทันที
และตอนนั้นด้วยความที่อารมณ์ของเราทั้งคู่มันถึงจุดพีคจริงๆ ในหัวผมเลยแว๊บเข้ามาว่าเดินหนีออกจากที่ตรงนั้นดีกว่า
ไม่รู้จะไปลงกับอะไร เลยจับจักรยานบุหรี่ซองนึงปั่นออกไปข้างนอก โมโหแค่ไหนใส่ไปตามแรงถีบ
มันเป็นการปั่นจักรยาน แบบไม่เหนื่อยเลย แต่เหนื่อยตอนสุดเนี่ยแหละ ปั่นไปจนเริ่มหอบ
ความโกรธความ โมโหก็หายไปกับแรงที่เราถีบออกไป
ลองคิดดูนะ ... ถ้าเวลาคุณโมโหหรือทะเลาะกับ แฟน แล้วคุณไปลงกับคันเร่งรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซด์
แน่นอนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงมาก  แต่พอตอนนั้นได้สติปุ๊บมันก็ทําให้ผมคิดได้หลายอย่างนะ
อย่างแรกเลยปวดขามาก 555  คือ ว่าความโกรธนี่มันทําให้เรามีแรงมหาศาลโดยไม่รู้ตัวจริงๆ
เราจะโกรธกันไปทําไม  การที่เราทะเลาะกันมันทําให้เราเสียเวลาที่จะอยู่ด้วยกัน หรือ มีความสุขด้วยกันไม่ใช่หรือ
ทะเลาะกันไปก็มีแต่ทําให้เกิดแผลในใจ เจ็บช้ําน้ําใจ พอคิดได้ก็กะจะปั่นจักรยานกลับ
พอถีบเท่านั้นแหละเจ็บน่องสิครับ ไม่เคยปั่นหนักขนาดนี้ ก็เลยค่อยๆใช้ขาถีบพื้นไป ลากสังขารไปเรื่อยๆ จนถึงบ้าน

ตลอดทางก็คิดนะว่าดีเหมือนกัน ถ้าอารมณ์ตอนนั้นเราไปลงไม้ลงมือกับเมียมันจะเป็นยังไงนะ
โชคดีที่วันนั้นกินยาแก้ปวดกับใช้สเปรยแก้ปวดช่วย  วันรุ่งขึ้นเลยไปทํางานได้
เพราะซัดไปเหมือนปั่นตั้งแต่ เอสพลาหนาด ไป เมเจอร์รัชโยธิน ลองคิดดูสําหรับคนไม่เคยปั่นทางไกลมาปั่นแบบนี้จะเป็นยังไง


ฝากไว้สําหรับคู่รักทุกคนนะครับ ทะเลาะกันอย่าไปลงไม้ลงมือกัน
ไปลงที่สิ่งของดีกว่าสิ่งของพังไปก็หาซื้อใหม่ได้  ดีกว่าความรู้สึกหรือร่างกายที่เจ็บช้ํา บอบช้ําไปแล้ว
มันไม่สามารถที่จะซื้อคนหรือสร้างกลับมาได้ใหม่ อยากฝากไว้เป็นข้อคิดให้กับทุกคนครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่