คือสงสัย ว่าเกิดกรณีแบบนี้ ธนาคารจะรับผิดชอบหรือไม่ หรือว่า ลูกค้าต้องไปฟ้องร้องเอาเอง
แต่จากที่ดู ว่าก็ว่าเหอะ ธนาคารก็ไม่ได้ผิดอะไร
เท่าที่สรุปคือ
1. เครื่องคอม โดนแฮ๊ก มีโทรจัน ดูด รหัส + พาสไป
2. แล้วโจรเอาไปขอซิมมือถือใหม่ โดยใช้บัตรหมดอายุ ซึ่งเป็นบัตร ที่น่าจะมาจากการเอามาจากเครื่องข่ายนั้นแหละ (อันนี้ ดร. ผู้ร่วมรายการว่าไว้) แบบนี้เท่ากับว่า ระบบจัดเก็บ ของเครื่องข่ายมือถือหละหลวมมาก แถมไม่ดูด้วยว่าบัตรหมดอายุ + ไม่ขอดูตัวจริงบัตร อีกต่างหาก
3. ลูกค้าเอง ก็ไม่เอะใจเลย ว่าอยู่ๆมือถือ ใช้งานไม่ได้
.............................
ขอแนะนำ ให้ ธนาคร โคว กับเครื่องขายมือถือ ว่า ถ้ามือถือเครืองใด จะทำ banking on mobile น่าจะต้องให้นำซิม มา Active กับสาขา ของธนาคา
โดยยึดโยงกับตัวซิม ไม่ใช่ยึดกับ เบอร์มือถือ แบบที่เป็นอยู่
เพราะอย่างน้อย
1. การ Active บัตร กับ ซิม มือถือ จนท ธนาคาร จะได้ขอดูบัตรตัวจริง + เจ้าของบัตรตัวจริงด้วย + สมุดบัญชี + ลายเซ็น
2. การเปลี่ยนมายึดติดกับซิม แทนที่เป็นอยู่ที่ยึดติดกับเบอร์ จะเป็นการตัดปัญหา กรณีที่โจรไปขอซิมใหม่ เพราะซิมใหม่ ไม่ได้มา Active กับธนาคาร จะช่วยลูกค้าไปได้เยอะเลย
ตัดวงจร การขอเปิดซิมใหม่ ที่ทำได้ง่ายกว่า + หละหลวมกว่า การมาขอ Active ซิมกับ สาขาธนาคาร ที่จะต้องขอดูบัตรตัวจริง + เจ้าของบัตร + สมุดบัญชี + ลายเซ็น
น่าจะเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยสให้กับลูกค้าได้อีกเยอะเลย
แต่อย่างว่า ถ้าทำจริงๆ ธนาคาร คงต้องลงทุนเรื่องระบบซอฟแวร์ อีกพอสมควร แต่ผมกลับมองว่ามันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อีกเยอะ
ยังไง ใครทำงานธนาคาร ลองเสนอดูหน่อยก็ดีครับ
หรือให้ ธนาคารหาวิธี ที่ปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่เป็นแค่ การส่ง OTP เข้ามือถือแค่นั้น
เพราะมันสามารถดักจับกันได้ หรืออย่างกรณีที่เกิด นี้ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ถึงขั้นขอซิมใหม่กันเลยทีเดียว
กรณีแบบนี้ ธนาคาร รับผิดชอบหรือไม่
คือสงสัย ว่าเกิดกรณีแบบนี้ ธนาคารจะรับผิดชอบหรือไม่ หรือว่า ลูกค้าต้องไปฟ้องร้องเอาเอง
แต่จากที่ดู ว่าก็ว่าเหอะ ธนาคารก็ไม่ได้ผิดอะไร
เท่าที่สรุปคือ
1. เครื่องคอม โดนแฮ๊ก มีโทรจัน ดูด รหัส + พาสไป
2. แล้วโจรเอาไปขอซิมมือถือใหม่ โดยใช้บัตรหมดอายุ ซึ่งเป็นบัตร ที่น่าจะมาจากการเอามาจากเครื่องข่ายนั้นแหละ (อันนี้ ดร. ผู้ร่วมรายการว่าไว้) แบบนี้เท่ากับว่า ระบบจัดเก็บ ของเครื่องข่ายมือถือหละหลวมมาก แถมไม่ดูด้วยว่าบัตรหมดอายุ + ไม่ขอดูตัวจริงบัตร อีกต่างหาก
3. ลูกค้าเอง ก็ไม่เอะใจเลย ว่าอยู่ๆมือถือ ใช้งานไม่ได้
.............................
ขอแนะนำ ให้ ธนาคร โคว กับเครื่องขายมือถือ ว่า ถ้ามือถือเครืองใด จะทำ banking on mobile น่าจะต้องให้นำซิม มา Active กับสาขา ของธนาคา
โดยยึดโยงกับตัวซิม ไม่ใช่ยึดกับ เบอร์มือถือ แบบที่เป็นอยู่
เพราะอย่างน้อย
1. การ Active บัตร กับ ซิม มือถือ จนท ธนาคาร จะได้ขอดูบัตรตัวจริง + เจ้าของบัตรตัวจริงด้วย + สมุดบัญชี + ลายเซ็น
2. การเปลี่ยนมายึดติดกับซิม แทนที่เป็นอยู่ที่ยึดติดกับเบอร์ จะเป็นการตัดปัญหา กรณีที่โจรไปขอซิมใหม่ เพราะซิมใหม่ ไม่ได้มา Active กับธนาคาร จะช่วยลูกค้าไปได้เยอะเลย
ตัดวงจร การขอเปิดซิมใหม่ ที่ทำได้ง่ายกว่า + หละหลวมกว่า การมาขอ Active ซิมกับ สาขาธนาคาร ที่จะต้องขอดูบัตรตัวจริง + เจ้าของบัตร + สมุดบัญชี + ลายเซ็น
น่าจะเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยสให้กับลูกค้าได้อีกเยอะเลย
แต่อย่างว่า ถ้าทำจริงๆ ธนาคาร คงต้องลงทุนเรื่องระบบซอฟแวร์ อีกพอสมควร แต่ผมกลับมองว่ามันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อีกเยอะ
ยังไง ใครทำงานธนาคาร ลองเสนอดูหน่อยก็ดีครับ
หรือให้ ธนาคารหาวิธี ที่ปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่เป็นแค่ การส่ง OTP เข้ามือถือแค่นั้น
เพราะมันสามารถดักจับกันได้ หรืออย่างกรณีที่เกิด นี้ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ถึงขั้นขอซิมใหม่กันเลยทีเดียว