บ้านกลางกรุง รัชวิภา..ร้าว ทรุด ใครรับผิดชอบ ฟัง "สคบ.-วสท." (ตอนที่ 2)

สำนักงานเขตเจ้าของพื้นที่ ---> ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร กล่าวว่า วิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นไปด้วยความลำบากพอสมควร เนื่องจากพื้นด้านใต้จะต้องอัดแน่นกันใหม่ซึ่งต้องใช้เวลา หากจะแก้ด้วยการตั้งเสาเข็มใหม่ลงในพื้นที่หน้าบ้านก็สามารถทำได้ แต่โครงการใหญ่ๆ จะไม่ทำ เพราะมีความสิ้นเปลือง ยิ่งหากขายไปแล้วก็จะไม่เข้ามาแก้ไข ในส่วนของถนนในหมู่บ้าน มีวิธีการแก้ไขที่ยั่งยืน คือ การรื้อ แล้วอัดถนนใหม่ ถมดินใหม่ ถนนจะทำได้ง่ายกว่า เพราะไม่มีสิ่งปลูกสร้างอื่น แต่ในกรณีของหมู่บ้านนี้ ที่มีการนำสายไฟมาไว้ใต้พื้นถนนคงจะยากในการแก้ไขเพราะปกติแล้ว สายไฟ หรือ ท่อประปา ควรจะอยู่ตามไหล่ทางถนนมากกว่า

สคบ. ---> นายอำพล วงศ์ศิริ กล่าวว่า ฉะนั้น สคบ. ในฐานะคนกลางในการแก้ปัญหา จะต้องศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนได้ผลการศึกษาอย่างไร แล้วจึงไปหารือกับผู้ประกอบการ พร้อมกับขอคำมั่นว่าผู้ประกอบการจะทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร และให้เสร็จภายในระยะเวลาเท่าไร สิ่งเหล่านี้คือขั้นตอนในการที่เรากำลังจะทำ

ถ้าเกิดว่าผู้ประกอบการยังไม่ดำเนินการให้ ทาง สคบ. จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง โดยทางอาญามุ่งหวังจะใช้กฎหมาย ปปง. นั่นคือเป็นหนึ่งใน 21 มูลฐานที่จะฟ้องอายัดทรัพย์เขาและยึดทรัพย์มาคืนให้กับผู้บริโภค

ท้ายที่สุด บทสรุปของมหากาพย์บ้านยุบจะเป็นเช่นไร คงจะขึ้นอยู่กับตัวละครอย่าง ลูกบ้าน ผู้ประกอบการ สคบ. วสท. จะเป็นผู้ดำเนินเรื่องราวให้เป็นไปในทิศทางใด...

ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถูกร้องเรียนเข้ามายัง สคบ. เป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะปี 2558 มีการร้องเรียนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 978 เรื่อง โดย เลขาฯ สคบ. ระบุว่า ถือว่าถูกร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก

?โดย สคบ. จะทำรายงานไปยังท่านรัฐมนตรีและเสนอรัฐบาลต่อไป ว่าจะต้องมีมาตรการอย่างไรที่จะป้องกันปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามามากเป็นอันดับ 1 เพื่อจะหามาตรการป้องปรามไม่ให้ภาคธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เอารัดเอาเปรียบหรือสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐานให้กับประชาชน? นายอำพล เลขาธิการ สคบ.

ในเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้น เลขาฯ สคบ. อธิบายว่า ไม่ใช่เพิ่งมาร้องเรียนเยอะในช่วงนี้ แต่เมื่อดูย้อนหลังประมาณ 3 ปี อสังหาริมทรัพย์เป็นอันดับ 1 ครองแชมป์การร้องเรียนมากที่สุด เนื่องจากเรื่องบ้าน คอนโดฯ เป็นที่อยู่อาศัย ประชาชนหวังว่าจะต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่พร้อมมีกำลังที่จะซื้อบ้านได้จะต้องเลือกก่อนเป็นสิ่งแรก เมื่อเป็นปัจจัยสำคัญที่ประชาชนต้องซื้อแน่ ฉะนั้น ประชาชนจึงมุ่งหวังอยากจะได้บ้านที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับราคาที่ลงทุนไป

อย่างไรก็ตาม ทางทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง นายไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการร้องเรียนของ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่มีเข้ามาที่ สคบ. รวมทั้ง การจัดอันดับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการร้องเรียนมากที่สุด โดย ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ได้แนะนำให้กดเข้าไปที่เว็บไซต์ของ สคบ. โดยเข้าไปที่ ข้อมูลผู้บริโภค --> รายชื่อผู้ประกอบการที่ถูกดำเนินคดี โดยจะปรากฏรายชื่อ ผู้ประกอบธุรกิจที่ สคบ.มีมติให้ดำเนินคดี แต่เมื่อเข้าไปถึงไม่สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดของผู้ประกอบธุรกิจใดๆ ได้เลย

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/511904

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่