ดิฉันได้รู้จักกับอาอี๊คนนี้เป็นเพื่อนแม่สามีดิฉันเอง เธอมักจะมาเล่นกับลูกๆดิฉันบ่อยๆ เพราะเธอเหงา
ขอเรียกว่า อาอี๊ฟง
อาอี๊ฟง เป็นคนไต้หวัน แต่งงานแล้วมีลูก2คน ชาย-หญิง สามีของเธอเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปเมืองจีนบ่อยๆ ต่อมาก้อไม่ค่อยกลับไต้หวันเพราะแอบไปมีเมียน้อย ช่วงที่อาอี๊ฟงจับได้เป็นช่วงที่สามีเธอเริ่มไม่สบายป่วยเป็นมะเร็ง ตอนแรกอาอี๊ฟงจะหย่า แต่พอรู้ว่าไม่สบาย เลยไม่มีทางเลือกเพราะสามีเลือกที่จะกลับมาอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ไม่นานก้อจากไป สามีเธอจากไปพร้อมทิ้งหนี้สินไว้แทบท่วมหัว อาอี๊ฟงจึงต้องเอาเงินเก็บที่มีชำระหนี้สินไปเกือบหมด แต่ยังดีที่ยังเหลือบ้านไว้สำหรับเธอและลูกๆของเธอ
หลายปีต่อมาจนลูกๆโตขี้นเรียนจบ ลูกชายคนโตได้งานประกัน เงินเดือนไม่แน่นอน และไม่พอใช้ ทุกวันก่อนไปทำงาน อาอี๊ฟงจะเตรียมอาหารกลางวันไว้ไห้ลูกชายเธอเอาไปกินด้วย ซึ่งก้อประหยัดได้หลายเหรียน ต่อมาลูกชายเธอมีแฟน บอกได้เลยนี้คือจุดต่ำสุดในชีวิตของอาอี๊ฟง
แฟนสาวคนนี้ ขอเรียกว่า อาหลิน
อาหลินเป็นผู้หญิงที่โตมาในครอบครัวที่เห็นแก่ตัว แม้แต่คนในบ้านกันเองยังไม่ค่อยแบ่งของกัน (คือเคยได้ยินเรื่องของอาหลิน บอกไม่ชอบกินยาคูลย์ เพราะสมัยเด็กๆชอบมาก เลยซื้อมา6ขวบ แต่กลัวน้องๆที่บ้านจะแย่งกิน นางเลยยืนซดยาคุลย์ทั้งหมดก่อนเข้าบ้าน ปรากฎนางท้องเสีย เลยไม่กินอีกเลย) พอจะนึกภาพออกไหมว่านางจะเป็นคนประเภทไหน
พอ2คนเริ่มคบกัน ลูกชายของอาอี๊ฟงเริ่มเปลี่ยนไป คือเริ่มมีความคิดแปลกๆเรื่องการใช้เงิน แถมยังบอกให้ลุกสาวของอาอี๊ฟงมาแชร์ค่าน้ำไฟด้วย (คือลูกสาวอาอี๊ทำงานอยู่ตจว ไม่ได้กลับบ้านบ่อย) คืออาหลินเข้ามาก้าวก่ายเรื่องในบ้านมากขั้น
คำถามเกิดขี้นระหว่างฉันกับแม่สามี ตอนที่เล่าถึงตรงนี้ ทำไมเค้าถึงคบกันได้ สรุปได้ว่า ลูกชายอาอี๊ฟงรักนางมาก เชื่อฟังทุกอย่าง ส่วนอาหลินน่าจะชอบที่แฟนตัวเองอยู่ในโอวาท และยังมีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีภาระ คือ อาหลินไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านที่อยู่เป็นบ้านเช่าอยู่กันกับพ่อแม่และน้องๆ
บ้างครั้งที่อาหลินจะมาค้างคืนที่บ้านอาอี๊ฟง ตอนเช้าอาอี๊ฟงตื่นมาทำกับข้าวให้ อาจจะมีเสียงดังบ้างทำอาหลินตื่น นางออกมาโวยวาย ให้เบาๆหน่อย คนจะนอน อาอี๊ฟงได้แต่ยื่นอึ้ง ไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่โทรมาเล่าให้แม่สามีดิฉันฟัง
ต่อมา 2คนนี้มีแพลนจะแต่งงานกัน ลูกชายก้อมาพูดเรื่องเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่จะแบ่งกันยังไง อาอี๊ฟงก้ออธิบายว่าของใครเท่าไรๆ โดยอาอี๊ฟงจะเจี่ยดเงินก้อนนี้มาซื้อฟุกที่นอนใหม่ให้ตัวเองด้วยเพราะเก่ามากแล้ว เท่านั้นแหละพออาหลินรู้ นางก้อมาพูดไซโครอาอี๊ฟงว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอกยังใช้ได้ อาอี๊ฟงเริ่มไม่พอใจ แต่อาอี๊เป็นคนไม่โต้ตอบ ทำได้แต่โทรมาระบายความทุกข์กะแม่สามีดิฉัน
ใกล้จะแต่งงานกันละ 2คนนั้นก้อเริ่มพูดเรืองเรือนหอ ว่าเห็นมีห้องว่างใกล้ลิฟปล่อยเช่าอยู่ อาอี๊ฟงด้วยความที่เป็นห่วงลูกชาย เพราะเงินเดือนไม่ได้มากพอที่จะไปเช่าอยู่ข้างนอก เปล่า!อาอี๊เข้าใจผิด ที่จริงแล้วอาหลินไปโน้มนาวแฟนให้ไปบอกอาอี๊ให้ย้ายออกไปห้องใกล้ลิฟ ให้เหตุผลว่าอาอี๊ฟงเจ็บเข่าน่าจะอยู่ใกล้ลิฟ ไม้ต้องเดินไกล ! ถามแล้วใครจ่าย! แสบไหมล่ะ ผู้หญิงคนนี้
อาอี๊ฟงเริ่มไม่พอใจนาง ก้อพูดสั่งสอนไปนิดหน่อย ทำให้ลูกชายไม่พอใจแม่ตัวเอง ก้อโกรธไม่คุยกัน ทั้งๆที่วันแต่งงานใกล้จะถึงแล้ว
พอถึงงานแต่งงาน ก้อผ่านไปได้ด้วยดี ทุกคนดูมีความสุข แต่คนที่กล้ำกลืนที่สุดก้อคงเป็นอาอี๊ฟง ในวันงานอาหลินพูดสรรเสริญแม่สามีซะดีเลิศ มีแต่รอยยิ้ม พอกลับบ้าน ก้อห้องใครห้องมัน ไม่คุยด้วย
หลังแต่งงาน นางก้อยังคงก้าวก่ายเรื่องในบ้านเหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องเงิน นางประกาศเลยว่านางจะไม่แชร์ค่าน้ำค่าไฟ เพราะเงินของเธอต้องไปช่วยพ่อแม่จ่ายค่าเช่าบ้าน และยังบอกให้ลูกสาวอาอี๊ฟงมาช่วยแชร์ด้วย สามีนางจะได้ประหยัด
ผ่านไปอาหลินท้อง ได้ลูกชาย อาอี๊ฟงดีใจมาก แต่อาหลินบอกบ้านเล็กไปละ อยากย้ายออก ลำบากลูกชายเธอสิต้องไปหาบ้านใหม่ ไม่นานทั้ง2ก้อย้ายออก ขยะที่ทิ้งไว้เป็นของที่อาอี๊ฟงเคยซื้อเป็นของฝากให้อาหลิน ทั้งเสื้อผ้า หมวก หรือแม้แต่ของเล็กๆ นางไม่เอาไปเลย
อาอี๊ฟงเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว หลังจากที่อาหลินคลอดลูก อาอี๊ฟง อยากจะไปเยี่ยมหลาน แต่ติดที่แม่เด็กทำบ่ายเบี่ยงบอกไม่ต้องมา เดี่ยวเอาหลานไปเยี่ยมบ้านเอง แต่รอๆๆๆ กว่าจะมาได้ผ่านไปหลายสัปดาห์
บางสัปดาห์ รอจนแน่ใจว่า คงไม่พาหลานมา อาอี๊ก้อจะมาหาแม่สามีดิฉันแทน มาปรับทุกข์ มาเล่นกะหลานๆ แกไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว บ้างก้อมาค้างเลย นี่ยังดีนะที่ยังมีงานทำ ขนาดเสาร์ อาทิตย์แกยังหดหู่ขนาดนี้เลย นี่ถ้าต้องอยู่คนเดียวทุกวัน คงแย่แน่ๆ
ส่วนลูกสาวอาอี๊ฟงพอได้งานใหม่ในเมือง ก้อได้กลับไปอยู่กับอาอี๊ฟง แต่ไม่นานก้อมีแพลนจะแต่งงาน แฟนของลูกสาว เป็นคนดีเลยแหละ ติดที่งานที่ทำมันไม่มั่นคง เงินเดือนก้อไม่แน่นอน เดือนไหนมีงานก้อมีเงิน เดือนไหนไม่มีงาน เงินก้อน้อยตาม
ตอนแรกอาอี๊อยากให้แฟนลูกสาวหางานที่มั่นคงซะก่อน แต่สมัยนี้งานหายาก เลยไม่ได้งานใหม่ซะที อาอี๊ก้อตามใจแหละ เค้ารักกัน ก้อให้แต่ง
พออาหลินรู้ นางก้อยังจะมายุ่งเรื่องสินสอดของเค้าอีก โดยบอกว่าต้องแบ่งมาถึงสามีเธอด้วย อาอี๊ฟงไม่ยอม ก้อโกรธกันอีก
พอถึงงานแต่ง ตามพิธีแล้ว ถ้าพ่อเสียไปแล้ว ลูกชายต้องมาเป็นตัวแทน ขึ้นเวทีไปพร้อมกับน้องสาว แต่เพราะเค้าโกรธกันอยู่ เลยเป็นอาอี๊ฟงขึ้นไปแทน คนในงานเค้าก้องงๆกันแหละ พี่ชายเจ้าสาวทำไมไม่ขึ้นไปแทน
อาอี๊ฟงอยากให้ลูกเขยย้ายเข้ามา จะได้ประหยัด ไม่ต้องเช่าบ้าน แต่ทั้ง2ตัดสินใจกันแล้วว่าขอออกไปอยู่กันเอง
แต่งงานไม่นานเริ่มมีทะเลาะกันเรื่องเงิน เนื่องจากทางบ้านฝ่ายชายฐานะไม่ค่อยดี แถมมีพี่ชายที่พิการทางสายตา พี่ชายคนนี้เค้ามีทักษะด้านดนตรี มีลงทุนออกแผ่นเพลงขาย ระยะหลังขายไม่ค่อยได้ ก้อไม่ค่อยมีเงิน พี่ๆน้องๆก้อจะออกเงินคนละนิดหน่อยช่วยเหลือพี่ชาย ตัวของสามีเงินเดือนน้อยไม่พอใช้อยู่แล้ว เลยมารบกวนภรรยาตัวเอง ลูกสาวอาอี๊ฟงก้อไม่พอใจ เพราะทุกวันนี้ต้องประหยัด ต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ยังต้องแบ่งเงินไปดูแลพี่ชายสามีอีก เค้ารับไม่ไหว มันหนักเกิน 2คนเลยทะเลาะกัน ตอนนี้ลูกสาวอาอี๊ฟงย้ายมาอยู่กัยแม่ชั่วคราว เนียถึงจะรักกันมากขนาดไหน พอมีปัญหาเรื่องเงินทีไร แตกหักกันทุกที เห้อ
ถึงตอนนี้ดิฉันก้อไม่รู้ว่าอาอี๊ฟงจะช่วยลูกสาวแกยังไง เศร้าใจแทน ทำไมชีวิตของผู้หญิงซึ่งเป็นคนดีคนนึง ไม่เคยก่อปัญหาให้ใคร แต่ต้องมาเจอปัญหาชีวิตมากมายตั้งแต่สามียันลูกเขย ลูกสะใภ้
ปัญหาของลูกชายกะลูกสะใภ้แก ดิฉันบอกได้เลยว่า ลูกชายอาอี๊ฟง ไม่รักแม่เลย ถ้ารักก้อคงรักไม่พอ ถ้ารักและเคารพแม่มากกว่านี้ ปัญหาเรื่องลูกสะใภ้จะไม่บานปลายขนาดนี้ ส่วนปัญหาลูกสาว อาจจะไม่หนักเท่า แต่ยังไงก้อขอให้ผ่านไปได้ดีนะ
เรื่องของอาอี๊ฟง มีแค่นี้ค่ะ ดราม่าเยอะไปหน่อย แต่ก้ออยากจะแบ่งปันกันอ่าน หากใครเจอมาแรงกว่านี้ แบ่งปันกันได้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอเล่าเรื่องชีวิตของผู้หญิงคนนึงที่รู้จัก -- ดราม่าหนักมาก --
ขอเรียกว่า อาอี๊ฟง
อาอี๊ฟง เป็นคนไต้หวัน แต่งงานแล้วมีลูก2คน ชาย-หญิง สามีของเธอเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปเมืองจีนบ่อยๆ ต่อมาก้อไม่ค่อยกลับไต้หวันเพราะแอบไปมีเมียน้อย ช่วงที่อาอี๊ฟงจับได้เป็นช่วงที่สามีเธอเริ่มไม่สบายป่วยเป็นมะเร็ง ตอนแรกอาอี๊ฟงจะหย่า แต่พอรู้ว่าไม่สบาย เลยไม่มีทางเลือกเพราะสามีเลือกที่จะกลับมาอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ไม่นานก้อจากไป สามีเธอจากไปพร้อมทิ้งหนี้สินไว้แทบท่วมหัว อาอี๊ฟงจึงต้องเอาเงินเก็บที่มีชำระหนี้สินไปเกือบหมด แต่ยังดีที่ยังเหลือบ้านไว้สำหรับเธอและลูกๆของเธอ
หลายปีต่อมาจนลูกๆโตขี้นเรียนจบ ลูกชายคนโตได้งานประกัน เงินเดือนไม่แน่นอน และไม่พอใช้ ทุกวันก่อนไปทำงาน อาอี๊ฟงจะเตรียมอาหารกลางวันไว้ไห้ลูกชายเธอเอาไปกินด้วย ซึ่งก้อประหยัดได้หลายเหรียน ต่อมาลูกชายเธอมีแฟน บอกได้เลยนี้คือจุดต่ำสุดในชีวิตของอาอี๊ฟง
แฟนสาวคนนี้ ขอเรียกว่า อาหลิน
อาหลินเป็นผู้หญิงที่โตมาในครอบครัวที่เห็นแก่ตัว แม้แต่คนในบ้านกันเองยังไม่ค่อยแบ่งของกัน (คือเคยได้ยินเรื่องของอาหลิน บอกไม่ชอบกินยาคูลย์ เพราะสมัยเด็กๆชอบมาก เลยซื้อมา6ขวบ แต่กลัวน้องๆที่บ้านจะแย่งกิน นางเลยยืนซดยาคุลย์ทั้งหมดก่อนเข้าบ้าน ปรากฎนางท้องเสีย เลยไม่กินอีกเลย) พอจะนึกภาพออกไหมว่านางจะเป็นคนประเภทไหน
พอ2คนเริ่มคบกัน ลูกชายของอาอี๊ฟงเริ่มเปลี่ยนไป คือเริ่มมีความคิดแปลกๆเรื่องการใช้เงิน แถมยังบอกให้ลุกสาวของอาอี๊ฟงมาแชร์ค่าน้ำไฟด้วย (คือลูกสาวอาอี๊ทำงานอยู่ตจว ไม่ได้กลับบ้านบ่อย) คืออาหลินเข้ามาก้าวก่ายเรื่องในบ้านมากขั้น
คำถามเกิดขี้นระหว่างฉันกับแม่สามี ตอนที่เล่าถึงตรงนี้ ทำไมเค้าถึงคบกันได้ สรุปได้ว่า ลูกชายอาอี๊ฟงรักนางมาก เชื่อฟังทุกอย่าง ส่วนอาหลินน่าจะชอบที่แฟนตัวเองอยู่ในโอวาท และยังมีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีภาระ คือ อาหลินไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านที่อยู่เป็นบ้านเช่าอยู่กันกับพ่อแม่และน้องๆ
บ้างครั้งที่อาหลินจะมาค้างคืนที่บ้านอาอี๊ฟง ตอนเช้าอาอี๊ฟงตื่นมาทำกับข้าวให้ อาจจะมีเสียงดังบ้างทำอาหลินตื่น นางออกมาโวยวาย ให้เบาๆหน่อย คนจะนอน อาอี๊ฟงได้แต่ยื่นอึ้ง ไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่โทรมาเล่าให้แม่สามีดิฉันฟัง
ต่อมา 2คนนี้มีแพลนจะแต่งงานกัน ลูกชายก้อมาพูดเรื่องเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่จะแบ่งกันยังไง อาอี๊ฟงก้ออธิบายว่าของใครเท่าไรๆ โดยอาอี๊ฟงจะเจี่ยดเงินก้อนนี้มาซื้อฟุกที่นอนใหม่ให้ตัวเองด้วยเพราะเก่ามากแล้ว เท่านั้นแหละพออาหลินรู้ นางก้อมาพูดไซโครอาอี๊ฟงว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอกยังใช้ได้ อาอี๊ฟงเริ่มไม่พอใจ แต่อาอี๊เป็นคนไม่โต้ตอบ ทำได้แต่โทรมาระบายความทุกข์กะแม่สามีดิฉัน
ใกล้จะแต่งงานกันละ 2คนนั้นก้อเริ่มพูดเรืองเรือนหอ ว่าเห็นมีห้องว่างใกล้ลิฟปล่อยเช่าอยู่ อาอี๊ฟงด้วยความที่เป็นห่วงลูกชาย เพราะเงินเดือนไม่ได้มากพอที่จะไปเช่าอยู่ข้างนอก เปล่า!อาอี๊เข้าใจผิด ที่จริงแล้วอาหลินไปโน้มนาวแฟนให้ไปบอกอาอี๊ให้ย้ายออกไปห้องใกล้ลิฟ ให้เหตุผลว่าอาอี๊ฟงเจ็บเข่าน่าจะอยู่ใกล้ลิฟ ไม้ต้องเดินไกล ! ถามแล้วใครจ่าย! แสบไหมล่ะ ผู้หญิงคนนี้
อาอี๊ฟงเริ่มไม่พอใจนาง ก้อพูดสั่งสอนไปนิดหน่อย ทำให้ลูกชายไม่พอใจแม่ตัวเอง ก้อโกรธไม่คุยกัน ทั้งๆที่วันแต่งงานใกล้จะถึงแล้ว
พอถึงงานแต่งงาน ก้อผ่านไปได้ด้วยดี ทุกคนดูมีความสุข แต่คนที่กล้ำกลืนที่สุดก้อคงเป็นอาอี๊ฟง ในวันงานอาหลินพูดสรรเสริญแม่สามีซะดีเลิศ มีแต่รอยยิ้ม พอกลับบ้าน ก้อห้องใครห้องมัน ไม่คุยด้วย
หลังแต่งงาน นางก้อยังคงก้าวก่ายเรื่องในบ้านเหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องเงิน นางประกาศเลยว่านางจะไม่แชร์ค่าน้ำค่าไฟ เพราะเงินของเธอต้องไปช่วยพ่อแม่จ่ายค่าเช่าบ้าน และยังบอกให้ลูกสาวอาอี๊ฟงมาช่วยแชร์ด้วย สามีนางจะได้ประหยัด
ผ่านไปอาหลินท้อง ได้ลูกชาย อาอี๊ฟงดีใจมาก แต่อาหลินบอกบ้านเล็กไปละ อยากย้ายออก ลำบากลูกชายเธอสิต้องไปหาบ้านใหม่ ไม่นานทั้ง2ก้อย้ายออก ขยะที่ทิ้งไว้เป็นของที่อาอี๊ฟงเคยซื้อเป็นของฝากให้อาหลิน ทั้งเสื้อผ้า หมวก หรือแม้แต่ของเล็กๆ นางไม่เอาไปเลย
อาอี๊ฟงเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว หลังจากที่อาหลินคลอดลูก อาอี๊ฟง อยากจะไปเยี่ยมหลาน แต่ติดที่แม่เด็กทำบ่ายเบี่ยงบอกไม่ต้องมา เดี่ยวเอาหลานไปเยี่ยมบ้านเอง แต่รอๆๆๆ กว่าจะมาได้ผ่านไปหลายสัปดาห์
บางสัปดาห์ รอจนแน่ใจว่า คงไม่พาหลานมา อาอี๊ก้อจะมาหาแม่สามีดิฉันแทน มาปรับทุกข์ มาเล่นกะหลานๆ แกไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว บ้างก้อมาค้างเลย นี่ยังดีนะที่ยังมีงานทำ ขนาดเสาร์ อาทิตย์แกยังหดหู่ขนาดนี้เลย นี่ถ้าต้องอยู่คนเดียวทุกวัน คงแย่แน่ๆ
ส่วนลูกสาวอาอี๊ฟงพอได้งานใหม่ในเมือง ก้อได้กลับไปอยู่กับอาอี๊ฟง แต่ไม่นานก้อมีแพลนจะแต่งงาน แฟนของลูกสาว เป็นคนดีเลยแหละ ติดที่งานที่ทำมันไม่มั่นคง เงินเดือนก้อไม่แน่นอน เดือนไหนมีงานก้อมีเงิน เดือนไหนไม่มีงาน เงินก้อน้อยตาม
ตอนแรกอาอี๊อยากให้แฟนลูกสาวหางานที่มั่นคงซะก่อน แต่สมัยนี้งานหายาก เลยไม่ได้งานใหม่ซะที อาอี๊ก้อตามใจแหละ เค้ารักกัน ก้อให้แต่ง
พออาหลินรู้ นางก้อยังจะมายุ่งเรื่องสินสอดของเค้าอีก โดยบอกว่าต้องแบ่งมาถึงสามีเธอด้วย อาอี๊ฟงไม่ยอม ก้อโกรธกันอีก
พอถึงงานแต่ง ตามพิธีแล้ว ถ้าพ่อเสียไปแล้ว ลูกชายต้องมาเป็นตัวแทน ขึ้นเวทีไปพร้อมกับน้องสาว แต่เพราะเค้าโกรธกันอยู่ เลยเป็นอาอี๊ฟงขึ้นไปแทน คนในงานเค้าก้องงๆกันแหละ พี่ชายเจ้าสาวทำไมไม่ขึ้นไปแทน
อาอี๊ฟงอยากให้ลูกเขยย้ายเข้ามา จะได้ประหยัด ไม่ต้องเช่าบ้าน แต่ทั้ง2ตัดสินใจกันแล้วว่าขอออกไปอยู่กันเอง
แต่งงานไม่นานเริ่มมีทะเลาะกันเรื่องเงิน เนื่องจากทางบ้านฝ่ายชายฐานะไม่ค่อยดี แถมมีพี่ชายที่พิการทางสายตา พี่ชายคนนี้เค้ามีทักษะด้านดนตรี มีลงทุนออกแผ่นเพลงขาย ระยะหลังขายไม่ค่อยได้ ก้อไม่ค่อยมีเงิน พี่ๆน้องๆก้อจะออกเงินคนละนิดหน่อยช่วยเหลือพี่ชาย ตัวของสามีเงินเดือนน้อยไม่พอใช้อยู่แล้ว เลยมารบกวนภรรยาตัวเอง ลูกสาวอาอี๊ฟงก้อไม่พอใจ เพราะทุกวันนี้ต้องประหยัด ต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ยังต้องแบ่งเงินไปดูแลพี่ชายสามีอีก เค้ารับไม่ไหว มันหนักเกิน 2คนเลยทะเลาะกัน ตอนนี้ลูกสาวอาอี๊ฟงย้ายมาอยู่กัยแม่ชั่วคราว เนียถึงจะรักกันมากขนาดไหน พอมีปัญหาเรื่องเงินทีไร แตกหักกันทุกที เห้อ
ถึงตอนนี้ดิฉันก้อไม่รู้ว่าอาอี๊ฟงจะช่วยลูกสาวแกยังไง เศร้าใจแทน ทำไมชีวิตของผู้หญิงซึ่งเป็นคนดีคนนึง ไม่เคยก่อปัญหาให้ใคร แต่ต้องมาเจอปัญหาชีวิตมากมายตั้งแต่สามียันลูกเขย ลูกสะใภ้
ปัญหาของลูกชายกะลูกสะใภ้แก ดิฉันบอกได้เลยว่า ลูกชายอาอี๊ฟง ไม่รักแม่เลย ถ้ารักก้อคงรักไม่พอ ถ้ารักและเคารพแม่มากกว่านี้ ปัญหาเรื่องลูกสะใภ้จะไม่บานปลายขนาดนี้ ส่วนปัญหาลูกสาว อาจจะไม่หนักเท่า แต่ยังไงก้อขอให้ผ่านไปได้ดีนะ
เรื่องของอาอี๊ฟง มีแค่นี้ค่ะ ดราม่าเยอะไปหน่อย แต่ก้ออยากจะแบ่งปันกันอ่าน หากใครเจอมาแรงกว่านี้ แบ่งปันกันได้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ