เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) มีรายงานว่า พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.สุวิชชา จินดาคำ ผกก.สน.บางชัน ได้ทำบันทึกรายงานผลจับกุมถึง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ว่าสามารถจับกุมตัวนายชาตรี ลิ้มกุล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ซอยรามอินทรา 86 แยก 10 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. โดยนายชาตรีเดินทางมามอบตัวที่ห้องสืบสวน สน.บางชัน บันทึกจับกุมระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ตามที่มีข้อมูลปรากฏในสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง ทะเบียน 2กฌ-1098 กทม. ขับขี่ในลักษณะเปลี่ยนช่องทางไปมา บนถนนรามอินทราขาเข้า(มุ่งหน้าหลักสี่) เป็นเหตุให้นายสำเริง กาพิมาย ผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผม-981 นครราชสีมา ไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์ฮอนด้า ทะเบียน ภน 6526 กทม.(คันที่ถ่ายภาพเคลื่อนไหวลงยูทูป) และเป็นเหตุให้รถจยย. คาวาซากิ ทะเบียน 2 กร 4120 กทม. ซึ่งขับตามหลังมาเสียหลักล้มลง ทำให้นายอรรถพล อุดมทรัพย์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนายสำเริง ผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า สีขาว รับสารภาพว่าตนได้ขับรถยนต์เปลี่ยนเส้นทาง จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ต่อมาได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่าในวันที่เกิดเหตุมีรถยนต์โตโยต้ายาริส สีแดง ขับขี่ในลักษณะหวาดเสียว และไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น จึงทำการสืบสวนติดตามจนทราบว่าผู้ที่ขับขี่คือ นายชาตรี ลิ้มกุล อดีตทหาร ร.11 พัน 1 รอ. กองร้อยอาวุธเบาที่ 3 ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวมาพบพนักงานสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาเป็นผู้ขับขี่รถในลักษณะหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้มีวิทยุในราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตามที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีการแชร์ ภาพ หรือ คลิปวีดีโอ ผู้ขับขี่รถอันก่อให้เกิดอันตราย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย สร้างความเดือดร้อน รำคาญลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดและรวดเร็ว จึงให้ทุกหน่วยงานดำเนินดารดังนี้ 1.กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิด และดำเนินคดีตามกฎหมายทุกฐานความผิดอย่างเฉียบขาด 2.ให้ประชาสัมพันธ์ดำเนินคดี และการขับขี่รถของประชาชนอย่างปลอดภัย ไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น 3. ตามข้อ1 และข้อ2 ให้ หัวหน้าสถานีตำรวจ หัวหน้างานจราจร และหัวหน้างานสอบสวน ท้องที่เกิดเหตุดำเนินการ อย่าให้เกิดข้อบกพร่อง และหากมีการดำเนินการล่าช้าจะพิจารณาข้อบกพร่องผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และ4.ให้รายงานเหตุและผลการดำเนินคดีมายัง บช.น. ผ่าน ฝ่ายอำนวยการ2 บก.อก.บช.น.โดยทันที“
ที่มา :
http://www.dailynews.co.th/crime/334722
จับแล้วอดีตทหารซิ่งยาริสแดง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนายสำเริง ผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า สีขาว รับสารภาพว่าตนได้ขับรถยนต์เปลี่ยนเส้นทาง จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ต่อมาได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่าในวันที่เกิดเหตุมีรถยนต์โตโยต้ายาริส สีแดง ขับขี่ในลักษณะหวาดเสียว และไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น จึงทำการสืบสวนติดตามจนทราบว่าผู้ที่ขับขี่คือ นายชาตรี ลิ้มกุล อดีตทหาร ร.11 พัน 1 รอ. กองร้อยอาวุธเบาที่ 3 ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวมาพบพนักงานสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาเป็นผู้ขับขี่รถในลักษณะหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้มีวิทยุในราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตามที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีการแชร์ ภาพ หรือ คลิปวีดีโอ ผู้ขับขี่รถอันก่อให้เกิดอันตราย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย สร้างความเดือดร้อน รำคาญลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดและรวดเร็ว จึงให้ทุกหน่วยงานดำเนินดารดังนี้ 1.กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิด และดำเนินคดีตามกฎหมายทุกฐานความผิดอย่างเฉียบขาด 2.ให้ประชาสัมพันธ์ดำเนินคดี และการขับขี่รถของประชาชนอย่างปลอดภัย ไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น 3. ตามข้อ1 และข้อ2 ให้ หัวหน้าสถานีตำรวจ หัวหน้างานจราจร และหัวหน้างานสอบสวน ท้องที่เกิดเหตุดำเนินการ อย่าให้เกิดข้อบกพร่อง และหากมีการดำเนินการล่าช้าจะพิจารณาข้อบกพร่องผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และ4.ให้รายงานเหตุและผลการดำเนินคดีมายัง บช.น. ผ่าน ฝ่ายอำนวยการ2 บก.อก.บช.น.โดยทันที“
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/crime/334722