สืบเนื่องจากกระทู้นี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33913682/comment10
ผมไปตอบความเห็นไว้แล้วแต่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันพอจะมาเป็นประเด็นได้
ก็เลยขออนุญาตนำมาเป็นประเด็น นำมาชี้แจง เสนอตัวออกความเห็น
เนื่องจากผมมีความรู้สึกอยากออกความเห็น ก็เท่านั้นเอง
และที่ตั้งกระทู้แยก เพื่อไม่ให้ไปรบกวนกับกระทู้นั้นก็เลยถือโอกาสตั้งกระทู้ขึ้นเอง
(ปล.ความเห็นต่อไปนี้จะเป็นการออกความเห็นด้วยความโง่เขลาของผมแฟนคลับ
ขอร้องได้โปรด อย่าด่าผม อย่าถือสา คิดซะว่าอ่านอะไรไร้สาระผ่านๆไปก็พอ)
การทำงานของนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นถ้าคุณเคยอ่านหรือดูเรื่อง Bakuman ก็จะรู้ว่าเขาไม่ได้คิดพล็อตเรื่องยาวๆตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่คิดพล๊อตแค่ช่วงแรกๆไปเสนอเพื่อให้ได้ลงซีรี่ย์ก่อน ถ้าได้ลงซีรี่ย์ก็ต้องดูระดับความนิยมกันเป็นตอนต่อตอน ถ้าความนิยมไม่ดีก็ถูกตัดจบ แต่ถ้าความนิยมดีก็จะถูกดันให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ แล้วคนเขียนก็ต้องคิดตอนใหม่ไปเรื่อยๆ
ตามที่ความคิดเห็นที่ 1 ของคุณ kasareet ในกระทู้ด้านบนได้ตอบไป
ในส่วนนี้เองทำให้เนื้อเรื่องของวันพีชและนารูโตะมีส่วนที่น่าจะเรียกได้ว่ายืดหรือยกระดับพลังขึ้นไปเพื่อต่อยอดความยิ่งใหญ่ยาวนานของเรื่อง
ไม่ให้มันจบไวเกินไปโดยไม่รู้เลยว่ามันไม่ได้สมเหตุสมผลกับตอนแรกๆทำให้หลายๆคนไม่ค่อยพอใจ(แต่ผมพอใจนะชอบอะไรเว่อร์ๆ)
ในเรื่องวันพีชจุดสังเกตุเล็กๆเพียงไม่กี่ข้อก็พอจะบอกได้ (ถ้าเยอะกว่านี้เดี๋ยวผมจะโดนด่าเยอะ)
ข้อแรกผมแดงแชงคูส ถูกเจ้าทะเลแสนโง่ๆเง่าแถวบ้านเกิดลูฟี่กัดแขนขาด
ผมเองก็เป็นแฟนคลับเรื่องวันพีชเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอได้โปรดอย่าถือสา(ย้ำอีกรอบ T T)
ยังไงเรื่องที่โดนเจ้าทะเลกัดแขนขาด แล้วตัวเองเป็นถึงลูกเรือของเจ้าแห่งโจรสลัด
ที่มีพลังทัดเทียมกับหนวดขาวที่เนื้อเรื่องภายหลังใช้พลังทีเดียวเกาะมารีนฟอร์ดแยกได้ยังไงมันก็ไม่สมเหตุสมผล
ข้อสองก็คือการที่โซโลโดนจับโดยทหารเรือกิ๊กก็อกของเกาะที่แทบจะเรียกว่าไร้ชื่อ
ถึงเจ้าตัวจะอ้างว่ายอมให้จับก็เถอะ แต่ถ้าแข็งแกร่งจริงๆและหวังว่าจะเป็นนักดาบอันดับ1ของโลกจริงๆ
อย่างมิฮอคที่ฟันเรือขาดได้ในดาบเดียว แต่ตัวเองเอาชนะคนที่มีพลังเหนือธรรมดานิดหน่อยยังไม่ได้ก็เลิกหวังเถอะ
ข้อสาม อันนี้ดูท่าจะโดนแฟนคลับด่าแหลกจริงๆออกตัวไว้อีกรอบว่าผมก็เป็นแฟนวันพีชนะ(เผื่อจะช่วยได้บ้าง)
การที่เอสพี่ชายของลูฟี่ตาย อันนี้นี่เป็นปมเด่นสำคัญเลย คือจะตายเร็วเกินไปไหมอะไรๆก็ยังไม่รู้จักมากมายเลย
ถึงจะทำเนื้อเรื่องเสริมที่เกี่ยวกับสามคนที่มีซาโบมาด้วยก็เถอะตอนเอสตายผมก็ไม่ได้ซึ้งอะไรมากมายเลย
(ขอโทษจริงๆที่ไม่ได้เสียใจกับการตายของเอสเลย)เพราะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องที่เอสโดนจับจนไปถึงขึ้นตาย
มีไว้เพื่อให้เนื้อเรื่องมันดำเนินต่อไป มีไว้เพื่อให้ กลุ่มของลูฟี่กระจัดกระจาย มีไว้เพื่อให้ลูฟี่ได้ไปช่วยพี่ชายในคุก
และมีไว้เพื่อให้เกิดสงครามของหนวดขาวกับกองทัพเรือ และสุดท้ายมีไว้เผื่อให้ลูฟี่ได้สำนึกถึงพลังตัวเอง
และยกระดับพลังของตัวเองจากในตอนแรกของเนื้อเรื่องที่อยู่ในระดับธรรมดาให้กลายเป็นพลังระดับใหม่ที่เสริมขึ้นมา
เพื่อความยาวของเรื่อง
จากสามข้อด้านบนก็จะเห็นได้ว่าการทำงานของอ.โอดะผู้เขียนวันพีชนั้นถึงจะทำการยืดเนื้อเรื่องแต่ก็เสริมเนื้อเรื่องในหลายๆจุด
เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประสบการณ์ในการอ่านที่ดีจนแทบจะไม่รู้สึกว่ายืดเนื้อเรื่อง และต้องบอกว่าเขาเตรียมเนื้อเรื่องไว้ดีมากๆเพราะถึงยังไง
บทสรุปสุดท้ายก็คงจะเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากตอนแรกที่ตัวของเขาเองวาดไว้นักแต่อาจยกระดับพลังให้เว่อร์วังอลังกาฬยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
ในด้านของนารูโตะเองก็เช่นเดียวกัน ผมเคยเขียนเรื่องของ666ซาตานที่เป็นของอาจารย์ เซชิ คิชิโมโตะ
น้องชายฝาแฝดของอาจารย์มะซะชิ คิชิโมะโตะคนวาดเรื่องนารูโตะเอาไว้แล้วก็จะขอสรุปในราวๆเดียวกัน
เรื่องนารูโตะนั้นจุดสังเกตุแรกของเรื่องเลยที่รู้สึกได้ว่ายืดก็คือ
เรื่องของครูอิรุกะกับอาจารย์จิไรยะ ครูทั้งสองคนผู้เป็นดั่งพ่อของนารูโตะ
จะเห็นได้ว่าทั้งสองมีบทคล้ายๆกันแต่ว่าจิไรยะมีระดับพลังที่สูงกว่ามาก
และเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าการตายของจิไรยะทำให้ผมไม่ค่อยเศร้าใจ
เหมือนกับการตายของเอสในวันพีชดังที่กล่าวไปด้านบน
(แต่ก็เศร้ากว่าเอสเพราะจิไรยะออกในเรื่องเยอะกว่าเอส)
การที่จิไรยะตายมีไว้เพื่อให้ดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปได้นั่นเอง
และตอนที่นารูโตะนึกย้อนถึงความหวังและบอกว่าจิไรยะเหมือนกับพ่อ
มันทำให้ผมเห็นภาพซ้อนทับกับในวัยเด็กของนารูโตะ
ที่ทะเลาะกับซาซึเกะที่หุบผาสิ้นสุดและนึกถึงอาจารย์อิรุกะ
แล้วบอกว่าเหมือนกับพ่อ มันทำให้ผมไม่ค่อยทราบซึ้งในส่วนนี้เลยกับการตายของจิไรยะ
เพราะนึกย้อนทีไรก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเนื้อเรื่องยืด
การตายของจิไรยะมีไว้เพื่อให้ได้แสดงความยิ่งใหญ่และเก่งกาจของเพน
ชายผู้ซึ่งต้องการครอบครองโลกและถูกปราบโดยนารูโตะเด็กหนุ่มที่โดนเกลียดชังจากคนในหมู่บ้าน
และเมื่อเขาปราบชายผู้ทำลายหมู่บ้านและฆ่าอาจารย์ของตัวเองได้ในที่สุดเขาก็กลายเป็นวีรบุรุษ
อีกจุดนึงที่รู้สึกได้ว่ายืดก็คือ เรื่องราวของแสงอุษา(เอาสองจุดก็พอเดี๋ยวจะโดนถล่มยับ)
ปมสุดท้ายของเรื่องนารูโตะนั้นถูกเขียนไว้อย่างดิบดีแล้วนั่นรวมถึงเรื่องของโอบิโตะที่เป็นหนึ่งในแสงอุษา
ชายหน้ากากผู้ชักใหญ่แสงอุษาอยู่เบื้องหลัง ผู้ไม่ยอมเปิดเผยตัวเห็นเพียงแค่เนตรวงแหวนของตระกูลอุจิวะ
และทำให้ผู้อ่านเดากันไปต่างๆนานาทั้งๆที่บทสรุปคำใบ้ของชายหน้ากากนั้นมีออกมามากมายและที่สังเกตุได้ใหญ่ๆเลยก็มีถึง2จุด
(ขอเกริ่นเรื่องที่อาจารย์ มะซะชิ คิชิโมะ เตรียมบทสรุปสุดท้ายของเรื่องไว้อย่างดีแล้วก่อนจะบอกว่ามันยืดยังไงทีหลังนะครับ (อวยก่อนโดนด่า))
จุดแรกเลยคือเรื่องราวในอดีตของโอบิโตะที่ถึงจะอยากให้มีตอนย้อนอดีตซักแค่ไหน
แต่เรื่องราวๆที่ผ่านๆมาขอการย้อนอดีตของคนอื่นๆในหลายๆครั้งของเรื่อง
ก็เป็นเพียงการย้อนอดีตเพียงเล็กน้อยไม่ถึงขนาดใช้คั้นเวลาคั้นภาคของเรื่องอย่างเรื่องของโอบิโตะ (ในฉบับหนังสือนะครับ)
ที่ต้องบอกว่าตอนอ่านครั้งแรกก็แปลกใจนิดพอสมควรๆว่าย้อนอดีตเป็นเล่ม
ที่ต้องย้อนขนาดนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่าความแค้นของโอบิโตะนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน
(แต่ผมก็ไม่รู้สึกร่วมซักเท่าไหร่อยู่ดี ตอนแรกเอ็งทำเป็นเห็นใจเพื่อนให้เนตรวงแหวนไปทั้งที
แล้วทีนี้จะมาแก้แค้นซะยิ่งใหญ่เลยนะ ไอ้โอบิโตะเอ๋ย)
จุดที่สองที่สังเกตุได้ว่าเป็นโอบิโตะเลยก็คือ เป็นเนตรที่เกี่ยวข้องกับมิติแบบเดียวกับของคาคาชิ
ตอนแรกที่คาคาชิใช้เนตรวงแหวนและบิดมิติก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ไอ้โอบิโตะมาวาปได้ก็ยังไม่แปลกใจเท่าไหร่
เพราะคิดว่าเป็นวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนตร แต่ก่อนที่จะเฉลยตัวจริงก่อนหน้านั้นไม่นานที่มีการบอกว่าใช้มิติร่วมกัน
ก็ทำให้ผมถึงกับเขางอกกันเลยทีเดียว หรอกกันได้ตั้งนานนะ อาจารย์ มะซะชิ คิชิโมะ
มาถึงเรื่องที่บอกว่าเรื่องของแสงอุษาเป็นจุดที่ยืดในจุดที่สองกันเลยดีกว่า
ก็ไม่น่าจะเรียกว่าในเชิงยืดหรอกนะครับ แต่เหมือนว่าเนื้อเรื่องตันและเปลี่ยนบทไปยืดส่วนอื่นมากกว่า
ในส่วนที่สองนี้ขอชี้แจงแยกออกไปอีก
ข้อแรกเลย การปรากฏตัวของ ไอ้หัวแยกหรือว่านหางจรเข้ตามที่นารูโตะเรียก(ในฉบับญี่ปุ่นเรียกแบบนี้หรือเปล่าหว่า)
เซ็ตซึผู้ซึ่งน่าจะได้กลายเป็นหัวหน้าของแสงอุษาเพราะอุส่าห์โพล่มาในตอนท้ายของภาคแรกที่หุบผาสิ้นสุดอย่างเท่
กลายมาเป็นเพียงปรสิตน้อยๆเพื่อช่วยเหลือโอบิโตะให้มีชีวิตอยู่หรือเพียงเพื่อ-ศพ(อภัยที่หยาบ -ที่หยาบไหม -*-)
ของพรรคพวกที่ตายแล้วเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน(ในเรื่องบอกไปยังหว่าผมจำไม่ค่อยได้ แต่ก็น่าจะเพื่อเก็บร่างพวกนั้นไว้ให้โอบิโตะ
เอาไปทำประโยชน์ต่อใช่ไหมน้าาา)
คาดว่าเรื่องราวสุดท้ายของเรื่องน่าจะถูกเปลี่ยนไปจากเดิมซึ่งก่อนหน้านี้น่าจะมีเนื้อเรื่องที่ต่างออกไป กลายเป็น
ให้โอบิโตะเป็นผู้ปิดฉากสุดท้ายและเพราะได้รับแรงบัลดาลใจในการเขียนเรื่องอดีตของโอบิโตะแทน
แต่แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลง(ยืด)อีกครั้งก็กลายเป็นว่าจากเดิมที่น่าจะเปลี่ยนเรื่องของโอบิโตะให้กลายเป็นลาสบอส
จากแรงบัลดาลใจที่ได้ช่วงหลังๆมานี่แล้ว กลายเป็นว่าเปลี่ยนลาสบอสเป็นขุ่นแม่คางูยะซะงั้น
(เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกนะ คงไม่อยากทำร้ายโอบิโตะลูกรักละซิ)
เหตุผลนะเหรอ ผมเดาเอาไว้น่าจะเพียงเพื่อให้ตอนทั้งหมดของเรื่องกลายเป็น700ตอน เพื่ออะไรนะเหรอ
เพื่อให้เข้ากับการที่นารูโตะจะได้กลายเป็นโฮคาเงะคนที่7พอดีกับการที่มีเนื้อเรื่อง700ตอนนะซิ
เหตุผลร่วมกับเกี่ยวกับ700ตอนและรุ่น7ก็คือ การที่นารูโตะภาคใหม่
( ภาค Gaiden อ่านว่า ไกเด็นปะ มันแปลว่าไรเหรอ -*-) มีตัวเลขตอนต่อๆว่า700+1 700+2 อะไรก็ว่ากันไป
อีกประเด็นเกี่ยวกับการยืดเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับแสงอุษาก็คือการที่เพนกลายเป็นหัวหน้าแสงอุษา
(ผู้ออกหน้าว่าเป็นหัวหน้าจริงๆของเรื่องอ่ะนะ) พ่ายแพ้ให้กับนารูโตะดังที่กล่าวไปแล้วบ้างด้านบน
เรื่องของเพนนั้นน่าสนใจ ชายผู้เป็นลูกศิษย์จิไรยะและถูกเชื่อมโยงให้พ่ายแพ้แก่นารูโตะ
เพื่อความทราบซึ่งของการที่นารูโตะได้แก้แค้นให้กับอาจารย์
ทั้งๆที่ตนเองไม่ควรพ่ายแพ้ถึงขนาดต้องชุบชีวิตผู้คนในหมู่บ้านเพื่อให้นารูโตะกลายเป็นวีรบุรุษด้วยซ้ำ
เหตุผลนะเหรอ ก็เพราะว่าอย่างที่บอกเนื้อเรื่องของจิไรยะมีไว้เพื่อยืดเรื่องของนารูโตะและการที่จิไรยะต้องตายก็ต้องส่งผลให้สร้าง
เรื่องราวการตายไว้ว่าถูกลูกศิษย์ของตัวเองฆ่าเพื่อให้นารูโตะกลายเป็นวีรบุรษ(เรื่องมันอาจจะ งงๆนิด)
แต่เดิมนารูโตะเองก็ถูกผู้คนในหมู่บ้านเกลียดเกลียดเพราะอะไร เพราะมี9หาง
แต่เพื่อให้สอดคล้องกับการที่จะเป็นเด็กในคำทำนายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นลูกศิษย์และความยิ่งใหญ่ของเพน
กลายเป็นว่านารูโตะเป็นเด็กอัศจรรย์ที่เปลี่ยนแปลงผู้คนได้ซะงั้น(แล้วทำไมเอ็งไม่ใช้พลังนี้ตั้งแต่เด็กๆฟะจะได้ป็อปได้แต่เด็ก)
เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้เลยว่าเรื่องราวของแสงอุษาที่ควรจะยิ่งใหญ่และเป็นลาสบอสของเรื่องในภาค2นั้น
จบลงเร็วเกินไปเพื่อให้แสดงเห็นถึงพลังพิเศษของนารูโตะที่เปลี่ยนแปลงผู้คนได้
และสอดคล้องกับการมาการตายของจิไรยะและการแสดงพลังในการเปลี่ยนแปลงผู้คนที่ใช้กับเพน
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้กล่าวไปก็เพียงเพื่อจะบอกว่าการทำงานของนักเขียนการตูนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายที่จะสอดแทรกการยืดเนื้อเรื่องไปให้อย่างแนบเนียน ดังที่เห็นไปแล้วในทั้งสองเรื่องที่โด่งดังยาวนานกว่า15ปี เนื้อเรื่องของพวกเขาถูกกลั่นกรองอยู่ทุกวันทุกอาทิตย์และทัศนคติของผู้เขียนเองก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นแล้วบทสรุปสุดท้ายหรือบทสรุปต่อๆมาของเนื้อเรื่องอาจไม่เป็นไปดังเช่นจุดเริ่มต้นที่เราคาดหวังจากที่มันเริ่มมา นั่นเป็นเพราะว่าการที่เราอ่านเนื้อเรื่องของมันเราอาจใช้เวลาไม่นานแต่ผู้เขียนผู้คิดผู้สร้างสรรค์ผลงานเขาต้องอยู่กับผลงานที่เขาคิดขึ้นมาและถูกตีพิมพ์เนื้อเรื่องออกไปเพียงน้อยนิดทั้งๆที่บทสรุปสุดท้ายของเรื่องอาจเปลี่ยนแปลงได้สม่ำเสมอแต่เราใช้เวลาอ่านเพียงน้อยนิดในการตัดสินใจเนื้อเรื่องและหาข้อโต้งแย้งในเนื้อเรื่องช่วงแรกที่ผู้เขียนได้คิดและไม่อาจแก้ไขได้
เพราะฉะนั้นอย่าไปถือสาหาความกับข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของแต่ละเรื่อง เพราะอย่างที่บอกไปเราอาจใช้เวลาอ่านมันเพียงน้อยนิด แต่เขาอาจใช้เวลาทั้งชีวิตในการคิดและเขียนหรือวาดลงไป โดยไม่อาจแก้ไขให้เรื่องราวนั้นกลายเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ดังเช่นที่จุดเริ่มของมันได้วาดเอาไว้
จึงนำมาด้วยประการฉะนี้ครับ ก็หวังว่าความเห็นเพ้อเจ้อเพ้อฝันของผมจะมีผู้คนอ่านจนจบ
ขอบคุณครับ
วันพีช,นารูโตะ ยืดเนื้อเรื่อง? ชี้แจงการทำงานของนักเขียนจากความรู้สึกของผม(ย้ำความรู้สึกของผม)
ผมไปตอบความเห็นไว้แล้วแต่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันพอจะมาเป็นประเด็นได้
ก็เลยขออนุญาตนำมาเป็นประเด็น นำมาชี้แจง เสนอตัวออกความเห็น
เนื่องจากผมมีความรู้สึกอยากออกความเห็น ก็เท่านั้นเอง
และที่ตั้งกระทู้แยก เพื่อไม่ให้ไปรบกวนกับกระทู้นั้นก็เลยถือโอกาสตั้งกระทู้ขึ้นเอง
(ปล.ความเห็นต่อไปนี้จะเป็นการออกความเห็นด้วยความโง่เขลาของผมแฟนคลับ
ขอร้องได้โปรด อย่าด่าผม อย่าถือสา คิดซะว่าอ่านอะไรไร้สาระผ่านๆไปก็พอ)
การทำงานของนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นถ้าคุณเคยอ่านหรือดูเรื่อง Bakuman ก็จะรู้ว่าเขาไม่ได้คิดพล็อตเรื่องยาวๆตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่คิดพล๊อตแค่ช่วงแรกๆไปเสนอเพื่อให้ได้ลงซีรี่ย์ก่อน ถ้าได้ลงซีรี่ย์ก็ต้องดูระดับความนิยมกันเป็นตอนต่อตอน ถ้าความนิยมไม่ดีก็ถูกตัดจบ แต่ถ้าความนิยมดีก็จะถูกดันให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ แล้วคนเขียนก็ต้องคิดตอนใหม่ไปเรื่อยๆ
ตามที่ความคิดเห็นที่ 1 ของคุณ kasareet ในกระทู้ด้านบนได้ตอบไป
ในส่วนนี้เองทำให้เนื้อเรื่องของวันพีชและนารูโตะมีส่วนที่น่าจะเรียกได้ว่ายืดหรือยกระดับพลังขึ้นไปเพื่อต่อยอดความยิ่งใหญ่ยาวนานของเรื่อง
ไม่ให้มันจบไวเกินไปโดยไม่รู้เลยว่ามันไม่ได้สมเหตุสมผลกับตอนแรกๆทำให้หลายๆคนไม่ค่อยพอใจ(แต่ผมพอใจนะชอบอะไรเว่อร์ๆ)
ในเรื่องวันพีชจุดสังเกตุเล็กๆเพียงไม่กี่ข้อก็พอจะบอกได้ (ถ้าเยอะกว่านี้เดี๋ยวผมจะโดนด่าเยอะ)
ข้อแรกผมแดงแชงคูส ถูกเจ้าทะเลแสนโง่ๆเง่าแถวบ้านเกิดลูฟี่กัดแขนขาด
ผมเองก็เป็นแฟนคลับเรื่องวันพีชเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอได้โปรดอย่าถือสา(ย้ำอีกรอบ T T)
ยังไงเรื่องที่โดนเจ้าทะเลกัดแขนขาด แล้วตัวเองเป็นถึงลูกเรือของเจ้าแห่งโจรสลัด
ที่มีพลังทัดเทียมกับหนวดขาวที่เนื้อเรื่องภายหลังใช้พลังทีเดียวเกาะมารีนฟอร์ดแยกได้ยังไงมันก็ไม่สมเหตุสมผล
ข้อสองก็คือการที่โซโลโดนจับโดยทหารเรือกิ๊กก็อกของเกาะที่แทบจะเรียกว่าไร้ชื่อ
ถึงเจ้าตัวจะอ้างว่ายอมให้จับก็เถอะ แต่ถ้าแข็งแกร่งจริงๆและหวังว่าจะเป็นนักดาบอันดับ1ของโลกจริงๆ
อย่างมิฮอคที่ฟันเรือขาดได้ในดาบเดียว แต่ตัวเองเอาชนะคนที่มีพลังเหนือธรรมดานิดหน่อยยังไม่ได้ก็เลิกหวังเถอะ
ข้อสาม อันนี้ดูท่าจะโดนแฟนคลับด่าแหลกจริงๆออกตัวไว้อีกรอบว่าผมก็เป็นแฟนวันพีชนะ(เผื่อจะช่วยได้บ้าง)
การที่เอสพี่ชายของลูฟี่ตาย อันนี้นี่เป็นปมเด่นสำคัญเลย คือจะตายเร็วเกินไปไหมอะไรๆก็ยังไม่รู้จักมากมายเลย
ถึงจะทำเนื้อเรื่องเสริมที่เกี่ยวกับสามคนที่มีซาโบมาด้วยก็เถอะตอนเอสตายผมก็ไม่ได้ซึ้งอะไรมากมายเลย
(ขอโทษจริงๆที่ไม่ได้เสียใจกับการตายของเอสเลย)เพราะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องที่เอสโดนจับจนไปถึงขึ้นตาย
มีไว้เพื่อให้เนื้อเรื่องมันดำเนินต่อไป มีไว้เพื่อให้ กลุ่มของลูฟี่กระจัดกระจาย มีไว้เพื่อให้ลูฟี่ได้ไปช่วยพี่ชายในคุก
และมีไว้เพื่อให้เกิดสงครามของหนวดขาวกับกองทัพเรือ และสุดท้ายมีไว้เผื่อให้ลูฟี่ได้สำนึกถึงพลังตัวเอง
และยกระดับพลังของตัวเองจากในตอนแรกของเนื้อเรื่องที่อยู่ในระดับธรรมดาให้กลายเป็นพลังระดับใหม่ที่เสริมขึ้นมา
เพื่อความยาวของเรื่อง
จากสามข้อด้านบนก็จะเห็นได้ว่าการทำงานของอ.โอดะผู้เขียนวันพีชนั้นถึงจะทำการยืดเนื้อเรื่องแต่ก็เสริมเนื้อเรื่องในหลายๆจุด
เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประสบการณ์ในการอ่านที่ดีจนแทบจะไม่รู้สึกว่ายืดเนื้อเรื่อง และต้องบอกว่าเขาเตรียมเนื้อเรื่องไว้ดีมากๆเพราะถึงยังไง
บทสรุปสุดท้ายก็คงจะเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากตอนแรกที่ตัวของเขาเองวาดไว้นักแต่อาจยกระดับพลังให้เว่อร์วังอลังกาฬยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
ในด้านของนารูโตะเองก็เช่นเดียวกัน ผมเคยเขียนเรื่องของ666ซาตานที่เป็นของอาจารย์ เซชิ คิชิโมโตะ
น้องชายฝาแฝดของอาจารย์มะซะชิ คิชิโมะโตะคนวาดเรื่องนารูโตะเอาไว้แล้วก็จะขอสรุปในราวๆเดียวกัน
เรื่องนารูโตะนั้นจุดสังเกตุแรกของเรื่องเลยที่รู้สึกได้ว่ายืดก็คือ
เรื่องของครูอิรุกะกับอาจารย์จิไรยะ ครูทั้งสองคนผู้เป็นดั่งพ่อของนารูโตะ
จะเห็นได้ว่าทั้งสองมีบทคล้ายๆกันแต่ว่าจิไรยะมีระดับพลังที่สูงกว่ามาก
และเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าการตายของจิไรยะทำให้ผมไม่ค่อยเศร้าใจ
เหมือนกับการตายของเอสในวันพีชดังที่กล่าวไปด้านบน
(แต่ก็เศร้ากว่าเอสเพราะจิไรยะออกในเรื่องเยอะกว่าเอส)
การที่จิไรยะตายมีไว้เพื่อให้ดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปได้นั่นเอง
และตอนที่นารูโตะนึกย้อนถึงความหวังและบอกว่าจิไรยะเหมือนกับพ่อ
มันทำให้ผมเห็นภาพซ้อนทับกับในวัยเด็กของนารูโตะ
ที่ทะเลาะกับซาซึเกะที่หุบผาสิ้นสุดและนึกถึงอาจารย์อิรุกะ
แล้วบอกว่าเหมือนกับพ่อ มันทำให้ผมไม่ค่อยทราบซึ้งในส่วนนี้เลยกับการตายของจิไรยะ
เพราะนึกย้อนทีไรก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเนื้อเรื่องยืด
การตายของจิไรยะมีไว้เพื่อให้ได้แสดงความยิ่งใหญ่และเก่งกาจของเพน
ชายผู้ซึ่งต้องการครอบครองโลกและถูกปราบโดยนารูโตะเด็กหนุ่มที่โดนเกลียดชังจากคนในหมู่บ้าน
และเมื่อเขาปราบชายผู้ทำลายหมู่บ้านและฆ่าอาจารย์ของตัวเองได้ในที่สุดเขาก็กลายเป็นวีรบุรุษ
อีกจุดนึงที่รู้สึกได้ว่ายืดก็คือ เรื่องราวของแสงอุษา(เอาสองจุดก็พอเดี๋ยวจะโดนถล่มยับ)
ปมสุดท้ายของเรื่องนารูโตะนั้นถูกเขียนไว้อย่างดิบดีแล้วนั่นรวมถึงเรื่องของโอบิโตะที่เป็นหนึ่งในแสงอุษา
ชายหน้ากากผู้ชักใหญ่แสงอุษาอยู่เบื้องหลัง ผู้ไม่ยอมเปิดเผยตัวเห็นเพียงแค่เนตรวงแหวนของตระกูลอุจิวะ
และทำให้ผู้อ่านเดากันไปต่างๆนานาทั้งๆที่บทสรุปคำใบ้ของชายหน้ากากนั้นมีออกมามากมายและที่สังเกตุได้ใหญ่ๆเลยก็มีถึง2จุด
(ขอเกริ่นเรื่องที่อาจารย์ มะซะชิ คิชิโมะ เตรียมบทสรุปสุดท้ายของเรื่องไว้อย่างดีแล้วก่อนจะบอกว่ามันยืดยังไงทีหลังนะครับ (อวยก่อนโดนด่า))
จุดแรกเลยคือเรื่องราวในอดีตของโอบิโตะที่ถึงจะอยากให้มีตอนย้อนอดีตซักแค่ไหน
แต่เรื่องราวๆที่ผ่านๆมาขอการย้อนอดีตของคนอื่นๆในหลายๆครั้งของเรื่อง
ก็เป็นเพียงการย้อนอดีตเพียงเล็กน้อยไม่ถึงขนาดใช้คั้นเวลาคั้นภาคของเรื่องอย่างเรื่องของโอบิโตะ (ในฉบับหนังสือนะครับ)
ที่ต้องบอกว่าตอนอ่านครั้งแรกก็แปลกใจนิดพอสมควรๆว่าย้อนอดีตเป็นเล่ม
ที่ต้องย้อนขนาดนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่าความแค้นของโอบิโตะนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน
(แต่ผมก็ไม่รู้สึกร่วมซักเท่าไหร่อยู่ดี ตอนแรกเอ็งทำเป็นเห็นใจเพื่อนให้เนตรวงแหวนไปทั้งที
แล้วทีนี้จะมาแก้แค้นซะยิ่งใหญ่เลยนะ ไอ้โอบิโตะเอ๋ย)
จุดที่สองที่สังเกตุได้ว่าเป็นโอบิโตะเลยก็คือ เป็นเนตรที่เกี่ยวข้องกับมิติแบบเดียวกับของคาคาชิ
ตอนแรกที่คาคาชิใช้เนตรวงแหวนและบิดมิติก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ไอ้โอบิโตะมาวาปได้ก็ยังไม่แปลกใจเท่าไหร่
เพราะคิดว่าเป็นวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนตร แต่ก่อนที่จะเฉลยตัวจริงก่อนหน้านั้นไม่นานที่มีการบอกว่าใช้มิติร่วมกัน
ก็ทำให้ผมถึงกับเขางอกกันเลยทีเดียว หรอกกันได้ตั้งนานนะ อาจารย์ มะซะชิ คิชิโมะ
มาถึงเรื่องที่บอกว่าเรื่องของแสงอุษาเป็นจุดที่ยืดในจุดที่สองกันเลยดีกว่า
ก็ไม่น่าจะเรียกว่าในเชิงยืดหรอกนะครับ แต่เหมือนว่าเนื้อเรื่องตันและเปลี่ยนบทไปยืดส่วนอื่นมากกว่า
ในส่วนที่สองนี้ขอชี้แจงแยกออกไปอีก
ข้อแรกเลย การปรากฏตัวของ ไอ้หัวแยกหรือว่านหางจรเข้ตามที่นารูโตะเรียก(ในฉบับญี่ปุ่นเรียกแบบนี้หรือเปล่าหว่า)
เซ็ตซึผู้ซึ่งน่าจะได้กลายเป็นหัวหน้าของแสงอุษาเพราะอุส่าห์โพล่มาในตอนท้ายของภาคแรกที่หุบผาสิ้นสุดอย่างเท่
กลายมาเป็นเพียงปรสิตน้อยๆเพื่อช่วยเหลือโอบิโตะให้มีชีวิตอยู่หรือเพียงเพื่อ-ศพ(อภัยที่หยาบ -ที่หยาบไหม -*-)
ของพรรคพวกที่ตายแล้วเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน(ในเรื่องบอกไปยังหว่าผมจำไม่ค่อยได้ แต่ก็น่าจะเพื่อเก็บร่างพวกนั้นไว้ให้โอบิโตะ
เอาไปทำประโยชน์ต่อใช่ไหมน้าาา)
คาดว่าเรื่องราวสุดท้ายของเรื่องน่าจะถูกเปลี่ยนไปจากเดิมซึ่งก่อนหน้านี้น่าจะมีเนื้อเรื่องที่ต่างออกไป กลายเป็น
ให้โอบิโตะเป็นผู้ปิดฉากสุดท้ายและเพราะได้รับแรงบัลดาลใจในการเขียนเรื่องอดีตของโอบิโตะแทน
แต่แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลง(ยืด)อีกครั้งก็กลายเป็นว่าจากเดิมที่น่าจะเปลี่ยนเรื่องของโอบิโตะให้กลายเป็นลาสบอส
จากแรงบัลดาลใจที่ได้ช่วงหลังๆมานี่แล้ว กลายเป็นว่าเปลี่ยนลาสบอสเป็นขุ่นแม่คางูยะซะงั้น
(เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกนะ คงไม่อยากทำร้ายโอบิโตะลูกรักละซิ)
เหตุผลนะเหรอ ผมเดาเอาไว้น่าจะเพียงเพื่อให้ตอนทั้งหมดของเรื่องกลายเป็น700ตอน เพื่ออะไรนะเหรอ
เพื่อให้เข้ากับการที่นารูโตะจะได้กลายเป็นโฮคาเงะคนที่7พอดีกับการที่มีเนื้อเรื่อง700ตอนนะซิ
เหตุผลร่วมกับเกี่ยวกับ700ตอนและรุ่น7ก็คือ การที่นารูโตะภาคใหม่
( ภาค Gaiden อ่านว่า ไกเด็นปะ มันแปลว่าไรเหรอ -*-) มีตัวเลขตอนต่อๆว่า700+1 700+2 อะไรก็ว่ากันไป
อีกประเด็นเกี่ยวกับการยืดเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับแสงอุษาก็คือการที่เพนกลายเป็นหัวหน้าแสงอุษา
(ผู้ออกหน้าว่าเป็นหัวหน้าจริงๆของเรื่องอ่ะนะ) พ่ายแพ้ให้กับนารูโตะดังที่กล่าวไปแล้วบ้างด้านบน
เรื่องของเพนนั้นน่าสนใจ ชายผู้เป็นลูกศิษย์จิไรยะและถูกเชื่อมโยงให้พ่ายแพ้แก่นารูโตะ
เพื่อความทราบซึ่งของการที่นารูโตะได้แก้แค้นให้กับอาจารย์
ทั้งๆที่ตนเองไม่ควรพ่ายแพ้ถึงขนาดต้องชุบชีวิตผู้คนในหมู่บ้านเพื่อให้นารูโตะกลายเป็นวีรบุรุษด้วยซ้ำ
เหตุผลนะเหรอ ก็เพราะว่าอย่างที่บอกเนื้อเรื่องของจิไรยะมีไว้เพื่อยืดเรื่องของนารูโตะและการที่จิไรยะต้องตายก็ต้องส่งผลให้สร้าง
เรื่องราวการตายไว้ว่าถูกลูกศิษย์ของตัวเองฆ่าเพื่อให้นารูโตะกลายเป็นวีรบุรษ(เรื่องมันอาจจะ งงๆนิด)
แต่เดิมนารูโตะเองก็ถูกผู้คนในหมู่บ้านเกลียดเกลียดเพราะอะไร เพราะมี9หาง
แต่เพื่อให้สอดคล้องกับการที่จะเป็นเด็กในคำทำนายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นลูกศิษย์และความยิ่งใหญ่ของเพน
กลายเป็นว่านารูโตะเป็นเด็กอัศจรรย์ที่เปลี่ยนแปลงผู้คนได้ซะงั้น(แล้วทำไมเอ็งไม่ใช้พลังนี้ตั้งแต่เด็กๆฟะจะได้ป็อปได้แต่เด็ก)
เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้เลยว่าเรื่องราวของแสงอุษาที่ควรจะยิ่งใหญ่และเป็นลาสบอสของเรื่องในภาค2นั้น
จบลงเร็วเกินไปเพื่อให้แสดงเห็นถึงพลังพิเศษของนารูโตะที่เปลี่ยนแปลงผู้คนได้
และสอดคล้องกับการมาการตายของจิไรยะและการแสดงพลังในการเปลี่ยนแปลงผู้คนที่ใช้กับเพน
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้กล่าวไปก็เพียงเพื่อจะบอกว่าการทำงานของนักเขียนการตูนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายที่จะสอดแทรกการยืดเนื้อเรื่องไปให้อย่างแนบเนียน ดังที่เห็นไปแล้วในทั้งสองเรื่องที่โด่งดังยาวนานกว่า15ปี เนื้อเรื่องของพวกเขาถูกกลั่นกรองอยู่ทุกวันทุกอาทิตย์และทัศนคติของผู้เขียนเองก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นแล้วบทสรุปสุดท้ายหรือบทสรุปต่อๆมาของเนื้อเรื่องอาจไม่เป็นไปดังเช่นจุดเริ่มต้นที่เราคาดหวังจากที่มันเริ่มมา นั่นเป็นเพราะว่าการที่เราอ่านเนื้อเรื่องของมันเราอาจใช้เวลาไม่นานแต่ผู้เขียนผู้คิดผู้สร้างสรรค์ผลงานเขาต้องอยู่กับผลงานที่เขาคิดขึ้นมาและถูกตีพิมพ์เนื้อเรื่องออกไปเพียงน้อยนิดทั้งๆที่บทสรุปสุดท้ายของเรื่องอาจเปลี่ยนแปลงได้สม่ำเสมอแต่เราใช้เวลาอ่านเพียงน้อยนิดในการตัดสินใจเนื้อเรื่องและหาข้อโต้งแย้งในเนื้อเรื่องช่วงแรกที่ผู้เขียนได้คิดและไม่อาจแก้ไขได้
เพราะฉะนั้นอย่าไปถือสาหาความกับข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของแต่ละเรื่อง เพราะอย่างที่บอกไปเราอาจใช้เวลาอ่านมันเพียงน้อยนิด แต่เขาอาจใช้เวลาทั้งชีวิตในการคิดและเขียนหรือวาดลงไป โดยไม่อาจแก้ไขให้เรื่องราวนั้นกลายเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ดังเช่นที่จุดเริ่มของมันได้วาดเอาไว้
จึงนำมาด้วยประการฉะนี้ครับ ก็หวังว่าความเห็นเพ้อเจ้อเพ้อฝันของผมจะมีผู้คนอ่านจนจบ
ขอบคุณครับ