ขออนุญาตินะคะ เรื่องยาวไปนิด
เรื่องต่อไปนี้เกิดขึ้นกับดิฉันคะ ดิฉันทำงานหน้าที่แอดมินในเว็บไซต์ขายของ ซึ่งการทำงานเราต้องหาลูกค้าติดต่อลูกค้าในการใช้บริการ ของเว็บไซต์ ซึ่งฉันทำรายได้ให้กับทางเว็บไซต์จำนวนนึง ซึ่งตามความจริง รูปแบบเว็บไซต์ของฉันจะทำตามอารมณ์เจ้านายซะมากกว่า ไม่ได้มีรูปแบบเจาะจงที่แน่นอน เช่นซื้อของในเว็บราคา 6,000 จะต้อง 6,000 คงที่ บางครั้ง อาจจะฟรี หรือ อาจจะลดราคาลงมา จาก 6,000 เหลือ 4,000 ตามสเต็ปความต้องการของเจ้านาย และบางครั้ง ดิฉันก็ต้องหาลูกค้ามาใช้บริการฟรีเล็กๆน้อยๆ จากการหาลูกค้าของดิฉัน ดิฉันก็สามารถทำรายได้ให้กับทางเว็บจำนวนนึง ซึ่งเป็นยอดเงินต่อเดือน เกือบ 50,000 บาท และดิฉันยังทำรายได้ให้กับตัวเองจากการหาลูกค้า เช่นการดึงลูกค้าใช้ฟรี แต่ทางลูกค้ายินดีที่จะจ่ายเงินให้กับทางดิฉัน โดยการโอนเงินเข้าบัญชีให้กับฉัน เป็นเงินจำนวนนึง ซึ่งมีราคาไม่เท่ากัน การทำงานของฉันใช้เวลา 2 ปี และดิฉันได้ทำการลาออกจากงาน เพราะเบื่อกับความไม่มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน หรือการทำงานไม่มีรูปแบบมาตรฐาน
ซึ่งตรงนั้น ฉันไม่คิดถึงปัญหาที่จะตามมา จากการลาออก ลูกค้าที่ดิฉันเคยประสานงาน ต้องการรูปแบบที่มีราคาถูกลง หรือราคาเดิมที่ดิฉันเคยประสานงานไว้ แต่ดิฉันได้ชี้แจงและแจ้งให้กับลูกค้าติดต่อประสานงานกับทางเว็บไซต์โดยตรง เพราะ ณ ตอนนี้ ดิฉันพ้นสภาวะการทำงานเรียบร้อยแล้ว แต่มันดันเป็นชนวนปัญหาของดิฉัน เพราะทางลูกค้าโทรไปแจ้งรายละเอียดเจ้านาย ซึ่งทำให้เจ้านายโกรธดิฉันมาก ที่ดิฉันหารายได้เข้าตัวเอง หลังจากนั้น ดิฉันและเจ้านายมีการคุยถึงปัญหา และเจ้านายต้องการเงินจากดิฉันซึ่งเป็นเงินก้อน ซึ่งดิฉันไม่ทราบยอดที่ทำไว้ และดิฉันได้ตอบเจ้านายไปว่า ดิฉันไม่มีเงินก้อน เพราะดิฉันไม่ใช่คนรวย ดิฉันมีภาระ ดิฉันสามารถผ่อนจ่าย แต่ไม่เป็นผล เจ้านายบอกกับดิฉันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งดิฉันก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่จะเกิด ปัญหาของดิฉันเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม เจ้านายได้แต่บอกว่าจะติดต่อมา ดิฉันรอจนถึงเดือนมีนาคม ทุกอย่างเงียบ และไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น จนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ดิฉันได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจ ข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งถ้าระบุตามหมายเรียก ก็คือ
" ระหว่างที่ดิฉันเป็นลูกจ้างของผู้กล่าวหา ดิฉันได้ทำการลักทรัพย์ (เงินสดโดยการเปลี่ยนบัญชีธนาคาร)ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ทำให้นายจ้าง(ผู้กล่าวหา)ได้รับความเสียหาย "
ซึ่งดิฉันได้ทำการโทรติดต่อ ตำรวจผู้ออกหมาย และทางตำรวจแจ้งว่า ดิฉันต้องไปที่ สน. และตำรวจจะฝากขังดิฉัน และให้ดิฉันหาเงินประกันตัว ซึ่งดิฉันสอบถามตำรวจว่า เรื่องตั้งแต่มกราคม ทำไมดิฉันเพิ่งได้หมายเรียก เดือนกรกฏาคม ทางตำรวจชี้แจงว่าทางเจ้านายดิฉันหาหลักฐานเพิ่มเติมมาได้ จนตอนนี้ได้หลักฐานครบแล้ว จึงทำการออกหมายเรียก ดิฉันได้แต่ยอมรับ และรอวันไป สน.
" แต่ที่ฉันกำลังสับสนและกังวลใจก็คือ ดิฉันโดนข้อหาลักทรัพย์ โดยการเปลี่ยนบัญชีธนาคาร ซึ่งดิฉันไม่เคยเปลี่ยน ดิฉันจะคุยกับลูกค้าและบอกชัดเจนว่า ถ้าต้องการราคาที่ถูกลง นั่นคือบัญชีของลูกค้าด้วยกันแต่ไม่ใช่ของทางเว็บไซต์ และลูกค้าของทางเว็บไซต์ไม่ได้เสียหาย และฉันก็ทำรายได้ให้เจ้านายปกติ แต่ก็ถือว่าคือความผิดของดิฉัน อันนี้ดิฉันน้อมรับ "
***แต่ที่ดิฉันกลัว คือหลักฐาน เพราะดิฉันรู้นิสัยเจ้านายฉันดี ตอนที่ฉันยังทำงานกับเจ้านาย เจ้านายทำทุกวิถีทางในการทำเอกสารปลอมกู้เงินธนาคาร หรือเป็นประเภทหัวหมอ นั่นคือสิ่งที่ดิฉันกลัว กับหลักฐาน ถ้าหลักฐานพวกนั้นไม่เป็นไปตามจริง ฉํนจะสามารถชี้แจงได้ไหม ? ***
นี่คือคำตอบที่ฉันต้องการทราบ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบให้ฉันกระจ่างหรือเข้าใจในการขึ้นศาลหรือการรับมือปัญหาด้วยนะคะ
1.ข้อหาลักทรัพย์ ติดคุกกี่ปีคะ เพราะดิฉันไม่มีเงินประกันตัว
2.ฉันควรที่จะรับสารภาพ หรือ ไม่ควรจะรับสารภาพดีคะ เพราะใจดิฉันอยากให้เรื่องมันจบ ถ้าดิฉันรับสารภาพ โทษก็จะลดลง แต่ดิฉันก็สับสนกับหลักฐาน กลัวมันจะเกินความจริง ทำให้ดิฉันรับสารภาพไปโดยที่ไม่ใช่ความผิดของดิฉัน
3.ฉันมีลูกชาย 2 คน และ มีครอบครัวที่ต้องดูแล ตรงนี้ศาลเค้าจะพิจารณา ไม่จับฉันติดคุกหรือ อาจจะติดน้อยลงไหมคะ
4.ถ้าฉันขึ้นศาล ดิฉันสามารถทำการชี้แจง ข้อมูลการกระทำความผิดที่กล่าวหาหรือป่าวคะ หรือดิฉันไม่สามารถชี้แจงอะไรได้เลยคะ เพราะดิฉันไม่เคยขึ้นศาลเลย
โดนความผิดครั้งแรก จากการทำงาน อยากสอบถามจะติดคุกกี่ปี
เรื่องต่อไปนี้เกิดขึ้นกับดิฉันคะ ดิฉันทำงานหน้าที่แอดมินในเว็บไซต์ขายของ ซึ่งการทำงานเราต้องหาลูกค้าติดต่อลูกค้าในการใช้บริการ ของเว็บไซต์ ซึ่งฉันทำรายได้ให้กับทางเว็บไซต์จำนวนนึง ซึ่งตามความจริง รูปแบบเว็บไซต์ของฉันจะทำตามอารมณ์เจ้านายซะมากกว่า ไม่ได้มีรูปแบบเจาะจงที่แน่นอน เช่นซื้อของในเว็บราคา 6,000 จะต้อง 6,000 คงที่ บางครั้ง อาจจะฟรี หรือ อาจจะลดราคาลงมา จาก 6,000 เหลือ 4,000 ตามสเต็ปความต้องการของเจ้านาย และบางครั้ง ดิฉันก็ต้องหาลูกค้ามาใช้บริการฟรีเล็กๆน้อยๆ จากการหาลูกค้าของดิฉัน ดิฉันก็สามารถทำรายได้ให้กับทางเว็บจำนวนนึง ซึ่งเป็นยอดเงินต่อเดือน เกือบ 50,000 บาท และดิฉันยังทำรายได้ให้กับตัวเองจากการหาลูกค้า เช่นการดึงลูกค้าใช้ฟรี แต่ทางลูกค้ายินดีที่จะจ่ายเงินให้กับทางดิฉัน โดยการโอนเงินเข้าบัญชีให้กับฉัน เป็นเงินจำนวนนึง ซึ่งมีราคาไม่เท่ากัน การทำงานของฉันใช้เวลา 2 ปี และดิฉันได้ทำการลาออกจากงาน เพราะเบื่อกับความไม่มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน หรือการทำงานไม่มีรูปแบบมาตรฐาน
ซึ่งตรงนั้น ฉันไม่คิดถึงปัญหาที่จะตามมา จากการลาออก ลูกค้าที่ดิฉันเคยประสานงาน ต้องการรูปแบบที่มีราคาถูกลง หรือราคาเดิมที่ดิฉันเคยประสานงานไว้ แต่ดิฉันได้ชี้แจงและแจ้งให้กับลูกค้าติดต่อประสานงานกับทางเว็บไซต์โดยตรง เพราะ ณ ตอนนี้ ดิฉันพ้นสภาวะการทำงานเรียบร้อยแล้ว แต่มันดันเป็นชนวนปัญหาของดิฉัน เพราะทางลูกค้าโทรไปแจ้งรายละเอียดเจ้านาย ซึ่งทำให้เจ้านายโกรธดิฉันมาก ที่ดิฉันหารายได้เข้าตัวเอง หลังจากนั้น ดิฉันและเจ้านายมีการคุยถึงปัญหา และเจ้านายต้องการเงินจากดิฉันซึ่งเป็นเงินก้อน ซึ่งดิฉันไม่ทราบยอดที่ทำไว้ และดิฉันได้ตอบเจ้านายไปว่า ดิฉันไม่มีเงินก้อน เพราะดิฉันไม่ใช่คนรวย ดิฉันมีภาระ ดิฉันสามารถผ่อนจ่าย แต่ไม่เป็นผล เจ้านายบอกกับดิฉันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งดิฉันก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่จะเกิด ปัญหาของดิฉันเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม เจ้านายได้แต่บอกว่าจะติดต่อมา ดิฉันรอจนถึงเดือนมีนาคม ทุกอย่างเงียบ และไม่มีการติดต่อใดๆทั้งสิ้น จนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ดิฉันได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจ ข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งถ้าระบุตามหมายเรียก ก็คือ
" ระหว่างที่ดิฉันเป็นลูกจ้างของผู้กล่าวหา ดิฉันได้ทำการลักทรัพย์ (เงินสดโดยการเปลี่ยนบัญชีธนาคาร)ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ทำให้นายจ้าง(ผู้กล่าวหา)ได้รับความเสียหาย "
ซึ่งดิฉันได้ทำการโทรติดต่อ ตำรวจผู้ออกหมาย และทางตำรวจแจ้งว่า ดิฉันต้องไปที่ สน. และตำรวจจะฝากขังดิฉัน และให้ดิฉันหาเงินประกันตัว ซึ่งดิฉันสอบถามตำรวจว่า เรื่องตั้งแต่มกราคม ทำไมดิฉันเพิ่งได้หมายเรียก เดือนกรกฏาคม ทางตำรวจชี้แจงว่าทางเจ้านายดิฉันหาหลักฐานเพิ่มเติมมาได้ จนตอนนี้ได้หลักฐานครบแล้ว จึงทำการออกหมายเรียก ดิฉันได้แต่ยอมรับ และรอวันไป สน.
" แต่ที่ฉันกำลังสับสนและกังวลใจก็คือ ดิฉันโดนข้อหาลักทรัพย์ โดยการเปลี่ยนบัญชีธนาคาร ซึ่งดิฉันไม่เคยเปลี่ยน ดิฉันจะคุยกับลูกค้าและบอกชัดเจนว่า ถ้าต้องการราคาที่ถูกลง นั่นคือบัญชีของลูกค้าด้วยกันแต่ไม่ใช่ของทางเว็บไซต์ และลูกค้าของทางเว็บไซต์ไม่ได้เสียหาย และฉันก็ทำรายได้ให้เจ้านายปกติ แต่ก็ถือว่าคือความผิดของดิฉัน อันนี้ดิฉันน้อมรับ "
***แต่ที่ดิฉันกลัว คือหลักฐาน เพราะดิฉันรู้นิสัยเจ้านายฉันดี ตอนที่ฉันยังทำงานกับเจ้านาย เจ้านายทำทุกวิถีทางในการทำเอกสารปลอมกู้เงินธนาคาร หรือเป็นประเภทหัวหมอ นั่นคือสิ่งที่ดิฉันกลัว กับหลักฐาน ถ้าหลักฐานพวกนั้นไม่เป็นไปตามจริง ฉํนจะสามารถชี้แจงได้ไหม ? ***
นี่คือคำตอบที่ฉันต้องการทราบ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบให้ฉันกระจ่างหรือเข้าใจในการขึ้นศาลหรือการรับมือปัญหาด้วยนะคะ
1.ข้อหาลักทรัพย์ ติดคุกกี่ปีคะ เพราะดิฉันไม่มีเงินประกันตัว
2.ฉันควรที่จะรับสารภาพ หรือ ไม่ควรจะรับสารภาพดีคะ เพราะใจดิฉันอยากให้เรื่องมันจบ ถ้าดิฉันรับสารภาพ โทษก็จะลดลง แต่ดิฉันก็สับสนกับหลักฐาน กลัวมันจะเกินความจริง ทำให้ดิฉันรับสารภาพไปโดยที่ไม่ใช่ความผิดของดิฉัน
3.ฉันมีลูกชาย 2 คน และ มีครอบครัวที่ต้องดูแล ตรงนี้ศาลเค้าจะพิจารณา ไม่จับฉันติดคุกหรือ อาจจะติดน้อยลงไหมคะ
4.ถ้าฉันขึ้นศาล ดิฉันสามารถทำการชี้แจง ข้อมูลการกระทำความผิดที่กล่าวหาหรือป่าวคะ หรือดิฉันไม่สามารถชี้แจงอะไรได้เลยคะ เพราะดิฉันไม่เคยขึ้นศาลเลย