สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 27
=====
สมัยก่อนโน้น ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักทุ่งกระเจียว ชัยภูมิ
มีแต่คนถ่ายภาพกลุ่มเล็กๆ รู้กันในวงแคบๆ
สมัยนั้น ทุ่งกระเจียว คือ ป่าจริงๆ
โดยรอบรัศมีหลายกิโลเมตร ไม่มีบ้านคน
ถนนที่จะแยกจากถนนใหญ่เข้าไปอีกไกลนั้น เป็นถนนดินบวกฝุ่นสีดำเละๆ
พวกผมและกลุ่มถ่ายภาพที่รู้กัน --นัดกันล่วงหน้าเป็นเดือนๆ
จะเอารถตู้ไป ออกจากกรุงเทพแต่หัวค่ำ
ถึงป่าทุ่งกระเจียวตั้งแต่ตีสาม ตีสี่
ไปนั่งรอกัน ยุงชุมมาก มีแต่ความมืด
ไม่มีร้านต้า ไม่มีบ้านเรือน ไม่มีแสงไฟวอมแวมมาแต่ไกลเลย เพราะป่าบังมิดหมด
ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยาน ไม่มีที่ทำการอุทยาน
ไม่มีห้องน้ำ ห้องส้วม
พอฟ้าเริ่มจะสาง เราลงจากรถ เดินกันไปเป็นกลุ่มๆ
สมัยนั้น ไปกันปีไหน ก็ปีนั้น กระเจียวเต็มทุ่งทุกปี
มีทางเดินเป็นดิน ไม่มีถนนลาดยางลาดปูน
ถนนดินเป็นแอ่งบ้างหลุมบ้าง ลัดเลาะไปตามทุ่ง
แน่นอนละว่า “เมื่อมันเป็นทุ่ง” เราจึงเดินกันเข้าไปในทุ่งได้ตามต้องการ
เพราะไม่มีกฏ ข้อบังคับเหมือนสมัยนี้
และสิ่งที่พวกเราทำคือ ไม่ต้องมีใครมาบอก ไม่มีใครมาสอน
เราไม่เดินย่ำไปในกอต้นกระเจียว เดินหลบไปหลบมา
เพราะกระเจียวมันจะขึ้นกันห่างๆ เดินผ่านได้สบาย
ตรงไหนที่มันขึ้นเบียดกันแน่น เราก็ไม่แหวกกอเข้าไป
นั้นคือ ราวปี 2530-35
จากนั้น พวกเราก็เอารูปทุ่งกระเจียว มาลงในหนังสือต่างๆ
เอามาโพสต์ตามเว็บไซต์ (สมัยใช้โมเด็มต่ออินเทอร์เน็ต)
คนเริ่มรู้จักมากขึ้น ... เพราะภาพของตากล้อง
แล้ว... คนก็ไปเที่ยวมากขึ้น ๆ ๆ ๆ
จากนั้นกลายเป้นคลื่นมนุษย์พากันไปเที่ยว ตามแรงเชียร์
การท่องเที่ยวประโคมข่าว
จนในที่สุด อุทยานแห่งชาติ จึงเริ่มยื่นมือเข้ามาจัดการพื้นที่
เริ่มมีที่ทำการอุทยาน มีการล้อมรั้ว ทำประตูทางเข้า
ช่วงที่อุทยายแห่งชาติเข้ามานั้น ผมห่างเหินทุ่งกระเจียวไปนาน
จนปีหนึ่ง .. ไม่กี่ปีมานี้เอง .. กลับไปแวะเยือน
ทุ่งกระเจียวที่เคยรู้จัก ไม่เหมือนเดิม
รอบๆ กลายเป็นชุมชน รีสอร์ท
ภายในก็จัดระเบียบ มีสะพานไม้
อารมณ์ และบรรยากาศไม่เหมือนเดิม .. จนไม่กระตือรือล้น ที่ต้องไปให้ได้อีก
ที่จริงหลังจากนั้น ก็ไปอีกสองครั้ง เพราะอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่รู้จะไปไหน ก็ไปที่นี่
... เมื่อมีทางเดิน ก็ เอา... เดินไปตามสะพาน
อย่างเก่งก็นั่งบนสะพาน เหยียดห้อยขาขาเลยรั้วไปบ้างเล็กน้อย แค่นั้น
.....
ได้แต่นั่งมองตาละห้อย
นึกถึงวันปี ก่อนๆ ที่เคยเดินท่อมๆ กันในทุ่งท่ามกลางความเงียบ ไม่มีใคร ไม่มีคนอื่น มีแต่พวกเราสิบกว่าคน (มีแค่นั้นจริงๆ)
ต่างคนต่างเงียบ ใจจรดจ่อแต่จะหามุมถ่ายภาพ
ไม่เอะอะ ไม่โหวกเหวก
ไม่มีเหล้า เบียร์
.
.
.
นั่นคืออดีต .......
สมัยก่อนโน้น ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักทุ่งกระเจียว ชัยภูมิ
มีแต่คนถ่ายภาพกลุ่มเล็กๆ รู้กันในวงแคบๆ
สมัยนั้น ทุ่งกระเจียว คือ ป่าจริงๆ
โดยรอบรัศมีหลายกิโลเมตร ไม่มีบ้านคน
ถนนที่จะแยกจากถนนใหญ่เข้าไปอีกไกลนั้น เป็นถนนดินบวกฝุ่นสีดำเละๆ
พวกผมและกลุ่มถ่ายภาพที่รู้กัน --นัดกันล่วงหน้าเป็นเดือนๆ
จะเอารถตู้ไป ออกจากกรุงเทพแต่หัวค่ำ
ถึงป่าทุ่งกระเจียวตั้งแต่ตีสาม ตีสี่
ไปนั่งรอกัน ยุงชุมมาก มีแต่ความมืด
ไม่มีร้านต้า ไม่มีบ้านเรือน ไม่มีแสงไฟวอมแวมมาแต่ไกลเลย เพราะป่าบังมิดหมด
ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยาน ไม่มีที่ทำการอุทยาน
ไม่มีห้องน้ำ ห้องส้วม
พอฟ้าเริ่มจะสาง เราลงจากรถ เดินกันไปเป็นกลุ่มๆ
สมัยนั้น ไปกันปีไหน ก็ปีนั้น กระเจียวเต็มทุ่งทุกปี
มีทางเดินเป็นดิน ไม่มีถนนลาดยางลาดปูน
ถนนดินเป็นแอ่งบ้างหลุมบ้าง ลัดเลาะไปตามทุ่ง
แน่นอนละว่า “เมื่อมันเป็นทุ่ง” เราจึงเดินกันเข้าไปในทุ่งได้ตามต้องการ
เพราะไม่มีกฏ ข้อบังคับเหมือนสมัยนี้
และสิ่งที่พวกเราทำคือ ไม่ต้องมีใครมาบอก ไม่มีใครมาสอน
เราไม่เดินย่ำไปในกอต้นกระเจียว เดินหลบไปหลบมา
เพราะกระเจียวมันจะขึ้นกันห่างๆ เดินผ่านได้สบาย
ตรงไหนที่มันขึ้นเบียดกันแน่น เราก็ไม่แหวกกอเข้าไป
นั้นคือ ราวปี 2530-35
จากนั้น พวกเราก็เอารูปทุ่งกระเจียว มาลงในหนังสือต่างๆ
เอามาโพสต์ตามเว็บไซต์ (สมัยใช้โมเด็มต่ออินเทอร์เน็ต)
คนเริ่มรู้จักมากขึ้น ... เพราะภาพของตากล้อง
แล้ว... คนก็ไปเที่ยวมากขึ้น ๆ ๆ ๆ
จากนั้นกลายเป้นคลื่นมนุษย์พากันไปเที่ยว ตามแรงเชียร์
การท่องเที่ยวประโคมข่าว
จนในที่สุด อุทยานแห่งชาติ จึงเริ่มยื่นมือเข้ามาจัดการพื้นที่
เริ่มมีที่ทำการอุทยาน มีการล้อมรั้ว ทำประตูทางเข้า
ช่วงที่อุทยายแห่งชาติเข้ามานั้น ผมห่างเหินทุ่งกระเจียวไปนาน
จนปีหนึ่ง .. ไม่กี่ปีมานี้เอง .. กลับไปแวะเยือน
ทุ่งกระเจียวที่เคยรู้จัก ไม่เหมือนเดิม
รอบๆ กลายเป็นชุมชน รีสอร์ท
ภายในก็จัดระเบียบ มีสะพานไม้
อารมณ์ และบรรยากาศไม่เหมือนเดิม .. จนไม่กระตือรือล้น ที่ต้องไปให้ได้อีก
ที่จริงหลังจากนั้น ก็ไปอีกสองครั้ง เพราะอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่รู้จะไปไหน ก็ไปที่นี่
... เมื่อมีทางเดิน ก็ เอา... เดินไปตามสะพาน
อย่างเก่งก็นั่งบนสะพาน เหยียดห้อยขาขาเลยรั้วไปบ้างเล็กน้อย แค่นั้น
.....
ได้แต่นั่งมองตาละห้อย
นึกถึงวันปี ก่อนๆ ที่เคยเดินท่อมๆ กันในทุ่งท่ามกลางความเงียบ ไม่มีใคร ไม่มีคนอื่น มีแต่พวกเราสิบกว่าคน (มีแค่นั้นจริงๆ)
ต่างคนต่างเงียบ ใจจรดจ่อแต่จะหามุมถ่ายภาพ
ไม่เอะอะ ไม่โหวกเหวก
ไม่มีเหล้า เบียร์
.
.
.
นั่นคืออดีต .......
ความคิดเห็นที่ 49
ปีนี้มาช้านะครับ......
ไม่ใช่ดอกกระเจียวนะ(มันก็มาช้าจริงๆนั่นแหล่ะ).... แต่เป็นกระทู้นี้ครับ
ผมบอกเลยว่ามีทุกปีครับ เห็นบ่อยจนรู้สึกชินไปแล้ว มีกระทู้แบบนี้ทุกปี แล้วผมก็ต้องเข้ามาโหวตทุกปีเหมือนกัน
ไม่รู้จะเตือนยังไงแล้ว ผมไปดูทุ่งดอกกระเจียวมาเป็นสิบรอบ ไปทีไรเห็นทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้งครับ จนท.จากที่แต่ก่อนแค่เตือน
หลังๆต้องพกนกหวีตแล้ว เพราะเตือนจนเมื่อยปาก คนไทยมันไม่กลัวหรอกครับ เพราะไม่มีการเอาจริงเอาจัง
แถมยังมีคนด่า จนท. ด้วยอีกต่างหาก "ลงไปแค่นี้เอง" "ไม่ได้เหยียบสักต้น" "ตรงนี้มันไม่มีต้นนะ ผมลงไปเหยียบพื้นเฉยๆ"
"คุณจะอะไรนักหนา มาเจอแบบนี้ใครมันจะอยากมา" "เจ้าหน้าที่เรื่องมากฉิบ..." บลาๆๆๆๆ
เฮ้อ!!! ได้แต่ถอนหายใจครับ ใครไปช่วยๆกันถ่ายรูปคนพวกนี้เอามาประจานเลยครับ ฟ้องร้องไม่ได้ด้วย
***** tex *****
ไม่ใช่ดอกกระเจียวนะ(มันก็มาช้าจริงๆนั่นแหล่ะ).... แต่เป็นกระทู้นี้ครับ
ผมบอกเลยว่ามีทุกปีครับ เห็นบ่อยจนรู้สึกชินไปแล้ว มีกระทู้แบบนี้ทุกปี แล้วผมก็ต้องเข้ามาโหวตทุกปีเหมือนกัน
ไม่รู้จะเตือนยังไงแล้ว ผมไปดูทุ่งดอกกระเจียวมาเป็นสิบรอบ ไปทีไรเห็นทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้งครับ จนท.จากที่แต่ก่อนแค่เตือน
หลังๆต้องพกนกหวีตแล้ว เพราะเตือนจนเมื่อยปาก คนไทยมันไม่กลัวหรอกครับ เพราะไม่มีการเอาจริงเอาจัง
แถมยังมีคนด่า จนท. ด้วยอีกต่างหาก "ลงไปแค่นี้เอง" "ไม่ได้เหยียบสักต้น" "ตรงนี้มันไม่มีต้นนะ ผมลงไปเหยียบพื้นเฉยๆ"
"คุณจะอะไรนักหนา มาเจอแบบนี้ใครมันจะอยากมา" "เจ้าหน้าที่เรื่องมากฉิบ..." บลาๆๆๆๆ
เฮ้อ!!! ได้แต่ถอนหายใจครับ ใครไปช่วยๆกันถ่ายรูปคนพวกนี้เอามาประจานเลยครับ ฟ้องร้องไม่ได้ด้วย
***** tex *****
แสดงความคิดเห็น
เมื่อช่างภาพบางกลุ่มไม่เคารพกติกา ณ ทุ่งดอกกระเจียว
ที่มาโพสไม่มีอะไรมากครับ ไม่ได้อยากจะขัดแย้งกับกลุ่มใด แต่แค่อยากให้ทุกคนเคารพกติการ่วมกัน ผมเองก็เป็นช่างภาพคนนึงที่อยากจะได้ภาพดอกกระเจียวแบบใกล้ชิด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกติกาและระเบียบ เลยต้องหาเทคนิคต่างๆมาใช้เอา โดยที่ไม่ไปเบียดเบียนธรรมชาติมาก กฎระเบียบมีติดไว้และบอกอย่างชัดเจน(บางจุดมีเจ้าหน้าที่ยืนคุมน้อย ดูแลไม่ทั่วถึง) แต่สิ่งที่ผมเห็นมันขัดใจผมนิดๆ เลยอยากเอามาแชร์ว่าควรหรือไม่ควร หรือถ้าหากว่าตากล้องเหล่านี้ได้รับอนุญาตจากทาง จนท.แล้ว ผมต้องขออภัย แต่ทำไมทุกกลุ่มต้องโดน เจ้าหน้าที่เป่านกหวีดไล่(เจ้าหน้าที่มีแค่คนเดียวเพราะยังเช้าอยู่ เป่าจนขี้เกียจจะเป่าเลยหละ) และไม่มีใครแสดงตนว่าได้รับอนุญาต? ( ณ ในขณะนั้น เวลาประมาณ 7.30น) หรือถ้าใครเป็นบุคคลที่อยู่ในภาพ ช่วยชี้แนะให้กระจ่างด้วยนะครับ