ผู้บัญชาการเรือนจำ อธิบดีฯ ถ้าทำผิดติดคุกไหน? [ต่อเรื่องราชทัณฑ์]

อันนี้มานำเสนอเพิ่มเติมเรื่องราชทัณฑ์ ไม่ได้บอกว่ามีใครจะติดคุกไหนนะครับ  

พูดถึงตามกฎหมายแล้ว บุคคลทำผิดกฎหมาย ดำเนินคดีในเขตนั้นก็เข้าเรือนจำแรกรับในเขตนั้นแหละครับ แต่ในระดับผู้หลักผู้ใหญ่ อายุเยอะย่อมมีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสียหายมาก่อน ก็มักจะมีสิทธิ์ได้รับการดูแลทางด้านแพทย์ในอันดับแรกๆ ว่าง่ายๆคือมักจะอยู่สถานพยาบาลเรือนจำและส่งต่อไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ได้ยาวๆอย่างถูกต้องตามระเบียบ เพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็คือคุกหละครับ ไม่ใช่โรงพยาบาลภายนอกฯ ที่อนุญาตให้อยู่รักษาชั่วคราวจนพ้นวิกฤติอันตรายเท่านั้น

ถ้ามีข้าราชการระดับอธิบดีกรมฯ ผบ.เรือนจำ ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำบ้าง ทางที่ดีก็ให้ได้สัมผัสแดน ระบบ อัพเดตในแต่ละยุคสมัยแบบเข้าถึง (ปกติจะมีแต่ผู้คุมและเจ้าหน้าที่เวรรักษาารณ์) จะได้รู้ว่าสิ่งที่ควรแก้ไขดำเนินการและพัฒนาต่อมีอะไรบ้างสำหรับราชทัณฑ์  ที่ผ่านมาเวลามีการร่างนโยบายแต่ละปี หรือเปลี่ยนถ่ายอธิบดี ก็แค่ร่างนโนบายใหม่ ล้อของเดิม ทุกอย่างคือตัวอักษร แต่ไม่มีการปฏิบัติ นึกอะไรได้เขียน นึกอะไรได้ออกหนังสือ  เอกสารใหม่ขัดกับเอกสารเก่าก็ไม่รู้เรื่อง ออกคำสั่งใหม่ ไม่ทบทวนยกเลิกคำสั่งเดิม เพราะไม่รู้อธิบดีก่อนๆออกหนังสืออะไรมาบ้าง



จะออกมากี่นโยบาย ก็เป็นแค่ตัวอักษร  ขนาดนโยบายหลักยังหลักลอย หนังสือกรมฯ คำสั่งย่อยยิ่งขัดไปขัดมาไม่มีใครสนใจ

เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าฝ่าย ผอ. ผบ. เขียนมาตรการ เขียนโครงการ แผนงาน เพื่อสอบเลื่อนเต็มไปหมด ถึงขัดกับหนังสือเก่าๆก็ไม่มีใครรู้ ผมนำข้อมูลราชทัณฑ์มาฝากเท่านี้ เผยรายละเอียดไม่ได้มาก

ต้องยอมรับว่าสมัย รมต.สมศักดิ์ เทพสุทิน ถึงแม้จะถูกมองว่าพัฒนาและออกกฎระเบียบเพื่อรองรับการมาของนายใหญ่ แต่ก็ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาราชทัณฑ์ครั้งใหญ่ไปในทางที่ดีขึ้น เป็นผลดีต่อผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่โดยรวม ไม่ใช่แค่ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ที่ได้ประโยชน์

มีการวางระบบป้องกันการนำเข้ายาเสพติด กำจัดการสูบบุหรี่ยาเส้นของมึนเมาในเรือนจำ การกินการนอนความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ดีขึ้น มีการฝึกวิชาชีพฯที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่มีการต่อยอดพัฒนาเมื่อเปลี่ยนตัว รมต. ที่สื่อมองว่าเป็นคนของนายใหญ่โดยตรง คำสั่งย่อยต่างๆไม่มีการทบทวนต่อยอดหรือแก้ไข

อธิบดีปัจจุบัน เป็นการโยกมาจากสายรองปลัดกระทรวง ก็ถูกวิจารณ์ว่าเพื่อรองรับการกลับมาของนายใหญ่ แต่ไม่ได้เข้าใจสายงานราชทัณฑ์มาก่อน แผนงานมันก็ไม่ต่อเนื่อง  คำสั่งที่ควรทบทวนยกเลิกใหม่ อย่างการกักโรคแรกรับ ปัจจุบันสามารถอิงองค์การอนามัยโลกได้ อิงการแพทย์ โควิดทุกวันนี้มีแต่มันไม่ใช่โรคระบาด คุณก็แค่ฉีดวัคซีนนักโทษประจำปีเหมือนไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ต้องกักตัว ไม่งั้นแล้วถ้ามีอธิบดีเข้าคุกต้องไปแดนกักโรคนะ จะตีเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกเดี๋ยวจะโดนฟ้องร้องเอาได้นะ

. . .

ปัจจุบันมีการศึกษาและทำวิจัยมากมาย ก็หวังว่านักทัณฑ์ยุคต่อไปจะมีการคิดพัฒนาเปลี่ยนแปลง นอกจากความเข้าใจเรื่องระเบียบแล้ว อนาคตระยะยาวควรทบทวนปรับระบบด้วย สมัยโบราณนักโทษมีค่าเท่ากับเชลยศึก เอานักโทษไปฝึกรบฝึกเป็นทหาร สมัยก่อนเป็นยุคสงคราม เราจับประชาชนเกณฑ์ทหาร จับนักเรียนตัดผมทรงทหาร จับเรียนรักษาดินแดนเผื่อเป็นกำลังสำรองออกรบ

นักโทษไม่ใช่ทหาร ไม่ควรมีบั้ง ไม่ควรได้รับเกียรติในการเดินสวนสนาม ไม่ใช่เอาระบบทหารไปปกครองนักโทษ กินข้าวขัดฉาก นับยอดขัดฉาก นั่นมันใช้กับการฝึกทหาร สิ่งเหล่านี้เอาไว้ฝึกผู้ต้องขังที่เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อช่วยเหลือในงานควบคุมฯ ช่วยเหลือในการฝึกระงับเหตุต่างๆ การเอาวินัยทหารมาใช้ตั้งแต่ยุคโบราณไม่ได้ช่วยให้นักโทษอยู่ในวินัยหรือทำให้คนเลวเป็นคนดี แต่การพัฒนาเอาแนวทางสากลมาใช้แบบท่านอดีต รมต.สมศักดิ์ ถือว่าช่วยปรับทัศนคตินักโทษได้ดีมาก ขณะเดียวกันท่านก็ออกระเบียบดีๆมากมาย ถึงแม้อาจไว้เอื้อต่อนักการเมืองหลายคน แต่ก็เป็นประโยชน์กับนักโทษอื่นๆ และง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ลดความเครียดให้เจ้าหน้าที่ และยังมีแนวคิดหลายอย่างที่ยังไม่ถูกเอามาใช้จริง
. . .

(กระทู้ก่อนหน้า ที่เกี่ยวข้อง)

เรื่องชั้น 14 และระเบียบการรักษาภายนอกเรือนจำ
การคุมขังนอกเรือนจำ และสิทธิประประโยชน์ต่างๆ
ความแตกต่างระหว่างคุกจริงกับในหนัง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่