สวัสดีค่ะ อยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าอยากนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ไหนใกล้ๆ
ตอนแรกคิดว่าจะไปกาญ ฯ แต่ที่นั่นคิดว่าไปแล้วน่าจะนอนค้าง แต่เราไม่ได้อยากค้าง
ลพบุรีก็เคยนั่งรถไฟไปมาแล้ว ตัดจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ออกเรื่อยๆ เหลืออยุธยากับสระบุรี
โอเค เอาอยุธยาแล้วกัน เพราะอยุธยามีช้าง
เราคิดเรื่องนี้ระหว่างคืนวันศุกร์ ก็เลยไม่ได้นอน รอจนสว่างดูรอบรถไฟอีกทีแล้วออกจากบ้าน
กฎของทริปนี้คือเที่ยวสบายใจ เน้นถ่ายรูป เดิน และลองเที่ยวด้วยงบจำกัด
นั่งรถประจำทาง ไม่เหมารถ ถ้าจะหลงทางก็ช่างมัน
6 : 15 เรามาถึงสถานีหลักสี่ เราเลือกรถไฟรอบ 7:42 น.
เราออกจากบ้านตอน 6 โมงกว่าๆค่ะ บ้านอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่ ไปแบบสบายๆเลย
เราจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยใหญ่กว่านี้ แล้วก็มีเซเว่นด้วย ตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ แล้วก็โทรมลงนิดหน่อยด้วย
ถ่ายรูปอยู่เพลินๆก็มีคุณยายคนหนึ่งเอาข้าวมาโปรยให้นกกินค่ะ
เรามีความเชื่อโง่ๆแต่สบายอยู่อย่างนึงคือ ถ้าที่ไหนมีสัตว์อยู่ แปลว่าที่นั่นต้องมีคนใจดีอยู่อย่างน้อยหนึ่งคน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ได้ตั๋วมาแล้ว เราไปคนเดียวแต่ซื้อสองใบเพราะคนสำคัญของเราไม่ได้มาด้วยค่ะ
เลยซื้อตั๋วไปฝากเป็นที่ระลึกให้แทน แบบนี้ก็เหมือนได้ไปด้วยกันเหมือนกัน
เราเลือกสถานีบางปะอินค่ะ ค่าตั๋ว 20 บาท
อย่างที่เราบอกตั้งแต่ตอนแรกค่ะ วันนี้เราจะเที่ยวด้วยเงินจำกัดคือ 450 บาท
ห้ามเกิน แต่เหลือได้
ในที่สุดก็มาถึงบางปะอินแล้วค่ะ ดูจากรูปคงรู้ใช่มั้ยค่ะว่าแดดแรงมากสถานีรถไฟบางปะอิน
เป็นสถานีเล็กๆ แต่สะอาดค่ะ ไม่โทรมจนเกินไปนัก
เดินเลยจากสถานีมาหน่อยก็จะเห็น "พลับพลาสถานีรถไฟบางปะอิน" สวยๆ ตั้งเด่นอยู่เลย
เดินข้ามจากฝั่งสถานีจะเห็นมีท่าน้ำอยู่ค่ะ เราเห็นแปลกๆตาดี เลยข้ามมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ที่นี่คือ "อาคารท่าน้ำราชดำริ" ค่ะ
ตัวโครงสร้างยังดีอยู่ แต่ตัวท่าที่จอดเรือสนิมขึ้นไปหมดแล้ว เมื่อก่อนต้องสวยมากแน่ๆ
ถนนโล่ง สะอาดดีจังเลยค่ะ
ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ค่าตั๋วเข้า ผู้ใหญ่ คนไทย 30 บาทค่ะ
จากสถานีรถไฟมาวังบางปะอินจะมีรถสองแถวสีขาวนะคะ ค่ารถ 20 บาท
บางทีเค้าก็จะพยายามให้เราเหมาทั้งวันด้วย ราคาก็ไม่ได้แพงมาก (ถ้ามาหลายคน) แต่สำหรับคนๆเดียวก็แพงมากเลย
รถสองแถวถ้าคนขึ้นหลายๆคนเค้าถึงจะคิด 20 บาทค่ะ แต่ถ้าทั้งรถมีคนเดียว เค้าจะไม่คิดเงิน (เพราะเค้าไม่มาส่ง)
นอกจากสองแถวก็มีพี่วินค่ะ แต่นานๆจะผ่านมาสักที
ที่วังบางปะอินมีรถกอล์ฟให้เช่าขับเที่ยวทั่วๆด้วยค่ะ แต่วันนี้เรามาสายเดิน งั้นเราจะเดิน
ดูรูปเลยนะคะ เราก็จำไม่ได้ถนัดว่าที่ไหนเป็นอะไร
วันที่เรามา เป็นวันที่มีทัวร์ลงหลายกลุ่มเลยค่ะ แล้วคนก็มาเที่ยวเยอะมากด้วย
เวลาถ่ายรูปเลยลำบากนิดหน่อย กลัวมันจะเกะกะคนอื่น คิดว่าคราวหน้าจะลองไปวันธรรมดาดูบ้างดีกว่า
แต่เป็นวังที่สวยมากจริงๆแหละค่ะ ร่มรื่น และรักษาไว้ได้ดีจริงๆ
ออกจากวังมาเดินมาทางลานจอดรถที่อยู่ข้างวัง จะเจอท่าน้ำนั่งกระเช้าไป "วัดนิเวศธรรมประวัติ" ค่ะ
เสร็จแล้วบริจาคเป็นค่าไฟแล้วแต่กำลังศรัทธา
วันที่เราไปกำลังปรับปรุงอุโบสถอยู่เลยค่ะ แต่ว่าเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ เราไม่ได้เข้าไปเพราะเห็นมีคนกำลังคุยกับหลวงพ่ออยู่ด้านใน
เลยเดินถ่ายรูปรอบๆเฉยๆ
*ยื่นหัวเข้ามา* "กล้องนี่อะไร กินได้มั้ยพี่สาว ?"
หมาที่นี่น่ารักดีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นลูกหมา ยังโตไม่เต็มที่
เห็นเราถืออะไรแปลกๆจะเดินเข้ามาหา สงสัยนึกว่าของกิน
กลับจากวัดก็นั่งกระเช้ากลับมาที่เดิม เราจะไปตลาดอโยธยาต่อค่ะ
ตรงนี้เราไม่มีข้อมูลเรื่องรถเลย ถามคุณลุงยามแถวๆนั้น ลุงบอกต้องนั่งรถเข้าบขส.ก่อน แล้วไปต่อรถเข้าเมืองอยุธยาอีกที
เราเลยเดินวังมาทางเซเว่นค่ะ แถวนั้นมีเซเว่นเดียวเลย เรียกพี่วินไปบขส.คิวรถ 20บาท
รถที่เรานั่งมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ นั่งสบายมากด้วย
ขึ้นรถที่เขียนแบบนี้ค่ะ เข้าตัวเมืองอยุธยา เรานั่งมาลงที่แยกเจดีย์ 18 บาท
ผ่านวัดใหญ่ ฯ ด้วย ใครจะไปวัดนี้ลงก่อนได้เลย
ถึงแยกเจดีย์แล้ว มีคนบอกให้รอรถอะไรไม่รู้ค่ะ แต่เหลือบไปเห็นพี่วิน ถามราคาไปตลาดอโยธยาแล้ว 20 บาทเอง
เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา พี่วินเลยดีกว่า
[CR] [CR] อโยธยาพอสังเขป One Day Trip
สวัสดีค่ะ อยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าอยากนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ไหนใกล้ๆ
ตอนแรกคิดว่าจะไปกาญ ฯ แต่ที่นั่นคิดว่าไปแล้วน่าจะนอนค้าง แต่เราไม่ได้อยากค้าง
ลพบุรีก็เคยนั่งรถไฟไปมาแล้ว ตัดจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ออกเรื่อยๆ เหลืออยุธยากับสระบุรี
โอเค เอาอยุธยาแล้วกัน เพราะอยุธยามีช้าง
เราคิดเรื่องนี้ระหว่างคืนวันศุกร์ ก็เลยไม่ได้นอน รอจนสว่างดูรอบรถไฟอีกทีแล้วออกจากบ้าน
กฎของทริปนี้คือเที่ยวสบายใจ เน้นถ่ายรูป เดิน และลองเที่ยวด้วยงบจำกัด
นั่งรถประจำทาง ไม่เหมารถ ถ้าจะหลงทางก็ช่างมัน
เราออกจากบ้านตอน 6 โมงกว่าๆค่ะ บ้านอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่ ไปแบบสบายๆเลย
เราจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยใหญ่กว่านี้ แล้วก็มีเซเว่นด้วย ตอนนี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ แล้วก็โทรมลงนิดหน่อยด้วย
เรามีความเชื่อโง่ๆแต่สบายอยู่อย่างนึงคือ ถ้าที่ไหนมีสัตว์อยู่ แปลว่าที่นั่นต้องมีคนใจดีอยู่อย่างน้อยหนึ่งคน
เลยซื้อตั๋วไปฝากเป็นที่ระลึกให้แทน แบบนี้ก็เหมือนได้ไปด้วยกันเหมือนกัน
เราเลือกสถานีบางปะอินค่ะ ค่าตั๋ว 20 บาท
ห้ามเกิน แต่เหลือได้
รถไฟมาประมาณ 7:50 โดยประมาณนะคะ ตอนนั้นไม่ได้ดูนาฬิกา
แต่จำได้ว่ามาเลทแน่ๆ
ขึ้นรถแล้วค่ะ ดูรูปยาวๆเลยนะคะ
เราว่าไฮไลท์นึงของการนั่งรถไฟคือข้างทาง โดยเฉพาะบ้านคนที่อยู่ตามทางที่เรานั่งผ่าน
บ้านคนต่างจังหวัดจะมีเสน่ห์อย่างหนึ่งค่ะ คือสีบ้าน คัลเลอร์ฟูลมาก บ้าน 10 หลัง 10 สี
เราลองนึกภาพตัวเองแก่ตัวไปแล้วปลูกบ้านอยู่ต่างจังหวัด ทาบ้านสีที่ตัวเองชอบ เวลาใครจะมาบ้านไม่ต้องบอกบ้านเลขที่
บอกแบบนี้แทน "บ้านฉันสีเขียวนะเธอ วิ่งตรงมาเลยมีหลังเดียวในซอย (เพราะบ้านข้างๆคนละสีหมด)"
ในที่สุดก็มาถึงบางปะอินแล้วค่ะ ดูจากรูปคงรู้ใช่มั้ยค่ะว่าแดดแรงมากสถานีรถไฟบางปะอิน
เป็นสถานีเล็กๆ แต่สะอาดค่ะ ไม่โทรมจนเกินไปนัก
เดินเลยจากสถานีมาหน่อยก็จะเห็น "พลับพลาสถานีรถไฟบางปะอิน" สวยๆ ตั้งเด่นอยู่เลย
ที่นี่คือ "อาคารท่าน้ำราชดำริ" ค่ะ
ตัวโครงสร้างยังดีอยู่ แต่ตัวท่าที่จอดเรือสนิมขึ้นไปหมดแล้ว เมื่อก่อนต้องสวยมากแน่ๆ
ถนนโล่ง สะอาดดีจังเลยค่ะ
ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ค่าตั๋วเข้า ผู้ใหญ่ คนไทย 30 บาทค่ะ
จากสถานีรถไฟมาวังบางปะอินจะมีรถสองแถวสีขาวนะคะ ค่ารถ 20 บาท
บางทีเค้าก็จะพยายามให้เราเหมาทั้งวันด้วย ราคาก็ไม่ได้แพงมาก (ถ้ามาหลายคน) แต่สำหรับคนๆเดียวก็แพงมากเลย
รถสองแถวถ้าคนขึ้นหลายๆคนเค้าถึงจะคิด 20 บาทค่ะ แต่ถ้าทั้งรถมีคนเดียว เค้าจะไม่คิดเงิน (เพราะเค้าไม่มาส่ง)
นอกจากสองแถวก็มีพี่วินค่ะ แต่นานๆจะผ่านมาสักที
ที่วังบางปะอินมีรถกอล์ฟให้เช่าขับเที่ยวทั่วๆด้วยค่ะ แต่วันนี้เรามาสายเดิน งั้นเราจะเดิน
ดูรูปเลยนะคะ เราก็จำไม่ได้ถนัดว่าที่ไหนเป็นอะไร
วันที่เรามา เป็นวันที่มีทัวร์ลงหลายกลุ่มเลยค่ะ แล้วคนก็มาเที่ยวเยอะมากด้วย
เวลาถ่ายรูปเลยลำบากนิดหน่อย กลัวมันจะเกะกะคนอื่น คิดว่าคราวหน้าจะลองไปวันธรรมดาดูบ้างดีกว่า
แต่เป็นวังที่สวยมากจริงๆแหละค่ะ ร่มรื่น และรักษาไว้ได้ดีจริงๆ
ออกจากวังมาเดินมาทางลานจอดรถที่อยู่ข้างวัง จะเจอท่าน้ำนั่งกระเช้าไป "วัดนิเวศธรรมประวัติ" ค่ะ
เสร็จแล้วบริจาคเป็นค่าไฟแล้วแต่กำลังศรัทธา
วันที่เราไปกำลังปรับปรุงอุโบสถอยู่เลยค่ะ แต่ว่าเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ เราไม่ได้เข้าไปเพราะเห็นมีคนกำลังคุยกับหลวงพ่ออยู่ด้านใน
เลยเดินถ่ายรูปรอบๆเฉยๆ
*ยื่นหัวเข้ามา* "กล้องนี่อะไร กินได้มั้ยพี่สาว ?"
หมาที่นี่น่ารักดีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นลูกหมา ยังโตไม่เต็มที่
เห็นเราถืออะไรแปลกๆจะเดินเข้ามาหา สงสัยนึกว่าของกิน
กลับจากวัดก็นั่งกระเช้ากลับมาที่เดิม เราจะไปตลาดอโยธยาต่อค่ะ
ตรงนี้เราไม่มีข้อมูลเรื่องรถเลย ถามคุณลุงยามแถวๆนั้น ลุงบอกต้องนั่งรถเข้าบขส.ก่อน แล้วไปต่อรถเข้าเมืองอยุธยาอีกที
เราเลยเดินวังมาทางเซเว่นค่ะ แถวนั้นมีเซเว่นเดียวเลย เรียกพี่วินไปบขส.คิวรถ 20บาท
รถที่เรานั่งมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ นั่งสบายมากด้วย
ขึ้นรถที่เขียนแบบนี้ค่ะ เข้าตัวเมืองอยุธยา เรานั่งมาลงที่แยกเจดีย์ 18 บาท
ผ่านวัดใหญ่ ฯ ด้วย ใครจะไปวัดนี้ลงก่อนได้เลย
ถึงแยกเจดีย์แล้ว มีคนบอกให้รอรถอะไรไม่รู้ค่ะ แต่เหลือบไปเห็นพี่วิน ถามราคาไปตลาดอโยธยาแล้ว 20 บาทเอง
เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา พี่วินเลยดีกว่า