สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผิดครับ จักรยานต้องปั่นบนถนน
ยกเว้น ฟุตบาทที่มีเส้นเลนสำหรับจักรยานครับ
ปล. ฟุตบาทไม่ใช่ถนนสำหรับขี่สวนเลน
ฟุตบาทที่ขี่จักรยานได้ ต้องมีเส้นกำกับ
และถึงอย่างไร พาหนะทุกชนิด ไม่ว่าขับขี่ที่ได บนถนนใหญ่ ในซอย
จะต้องระวังคนทุกกรณีครับ ตามกฎหมายเลย ไม่เชื่อไปหาอ่านได้
ถ้าเราอยากให้ทุกคนยอมรับว่า จักยานเป็นพาหนะ ก็ควรจะต้องรับผิดชอบเยี่ยงพาหนะทุกประการครับ
ยกเว้น ฟุตบาทที่มีเส้นเลนสำหรับจักรยานครับ
ปล. ฟุตบาทไม่ใช่ถนนสำหรับขี่สวนเลน
ฟุตบาทที่ขี่จักรยานได้ ต้องมีเส้นกำกับ
และถึงอย่างไร พาหนะทุกชนิด ไม่ว่าขับขี่ที่ได บนถนนใหญ่ ในซอย
จะต้องระวังคนทุกกรณีครับ ตามกฎหมายเลย ไม่เชื่อไปหาอ่านได้
ถ้าเราอยากให้ทุกคนยอมรับว่า จักยานเป็นพาหนะ ก็ควรจะต้องรับผิดชอบเยี่ยงพาหนะทุกประการครับ

ความคิดเห็นที่ 17
ของเรานี่ คืนวันเสาร์ไปเดินเยาวราช ระหว่างที่กำลังข้ามถนน ทั้งถนนรถหยุดสนิททุกเลนส์เพื่อจอดให้คนข้าม
ระหว่างที่บรรดานักท่องเที่ยวหลายสิบชีวิตกำลังเดินข้ามก็ต้องหยุดเดินกระทันหันกลางถนน เพราะมีจักรยานเป็นสิบคันปั่นแบบซิ่งมาก วิ่งเลาะระหว่างกลางรถยนต์ที่จอดอยู่ แล้วพุ่งเข้าใส่คนที่กำลังเดินข้าม คนเดินข้ามต้องกระโดดหลบกันเป็นแถว คือบรรดานักซิ่งปั่นแบบไม่คิดจะเบรคเลย รถติด คนก็เยอะ คุณพี่จะรีบไปไหนกัน กลัวตามคันหน้าไม่ทันหรือไง ไม่เข้าใจ
พอขบวนนักซิ่งปั่นผ่านไปแล้ว หลายสิบชีวิตก็เดินข้ามถนนต่อ แต่มันไม่จบแค่นั้น มีตามมาอีกเกือบสิบคน ปั่นปาดไปปาดมา เหมือนเดิมครับ คนข้ามต้องหยุดกลางถนนเพื่อให้นักซิ่งผ่านไปก่อน
ไม่รู้สินะ ช่วงหลังเหมือนว่าจักรยานบูมขึ้นมา กลายเป็นว่าจะทำไรก็ได้ ปั่นบนถนนก็ซิกแซกปาดยิ่งกว่ามอไซค์ ปั่นบนทางเท้าก็ไล่คนเดินเท้า
ที่พูดมาคือประสบการณ์ที่เจอมาจริงๆ โดยส่วนตัวเราชอบนะที่เห็นคนปั่นจักรยานกันเยอะ เวลาขับรถบนถนนเจอจักรยานเราจะให้ทางจักรยานก่อนนะ แต่โดนมาแบบนี้ความรู้สึกดีๆมันเริ่มหาย รู้นะว่ามีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่โดนแบบนี้บ่อยๆความรู้สึกดีๆมันเริ่มหายไป
ระหว่างที่บรรดานักท่องเที่ยวหลายสิบชีวิตกำลังเดินข้ามก็ต้องหยุดเดินกระทันหันกลางถนน เพราะมีจักรยานเป็นสิบคันปั่นแบบซิ่งมาก วิ่งเลาะระหว่างกลางรถยนต์ที่จอดอยู่ แล้วพุ่งเข้าใส่คนที่กำลังเดินข้าม คนเดินข้ามต้องกระโดดหลบกันเป็นแถว คือบรรดานักซิ่งปั่นแบบไม่คิดจะเบรคเลย รถติด คนก็เยอะ คุณพี่จะรีบไปไหนกัน กลัวตามคันหน้าไม่ทันหรือไง ไม่เข้าใจ
พอขบวนนักซิ่งปั่นผ่านไปแล้ว หลายสิบชีวิตก็เดินข้ามถนนต่อ แต่มันไม่จบแค่นั้น มีตามมาอีกเกือบสิบคน ปั่นปาดไปปาดมา เหมือนเดิมครับ คนข้ามต้องหยุดกลางถนนเพื่อให้นักซิ่งผ่านไปก่อน
ไม่รู้สินะ ช่วงหลังเหมือนว่าจักรยานบูมขึ้นมา กลายเป็นว่าจะทำไรก็ได้ ปั่นบนถนนก็ซิกแซกปาดยิ่งกว่ามอไซค์ ปั่นบนทางเท้าก็ไล่คนเดินเท้า
ที่พูดมาคือประสบการณ์ที่เจอมาจริงๆ โดยส่วนตัวเราชอบนะที่เห็นคนปั่นจักรยานกันเยอะ เวลาขับรถบนถนนเจอจักรยานเราจะให้ทางจักรยานก่อนนะ แต่โดนมาแบบนี้ความรู้สึกดีๆมันเริ่มหาย รู้นะว่ามีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่โดนแบบนี้บ่อยๆความรู้สึกดีๆมันเริ่มหายไป
ความคิดเห็นที่ 47
ที่สนามที่ผมวิ่ง จะมีมวยกันหลายคู่แล้วครับ
จักรยานขี่เร็วมาก แล้วมาจากข้างหลัง ก็เห็นอยู่ว่าชนแน่
แต่ก็ยังชน ไม่หลบ
คนวิ่งไม่มีตาหลัง โดนชนล้มกันบ่อยๆ
และไม่มีการขอโทษ หันมามองแล้วไปเลย
ผมเคยโดนเด็กปั่นมาชนเข้าให้
ต้องเข้าใจนะครับ เวลาเราวิ่งนานๆ กล้ามเนื้อจะรับแรงกด แรงดึงมาเยอะ
กรดแล็กติคก็เยอะ แค่กระแทกเบาๆ ยังสะเทือน ชนเลยนี่มีบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลย
เด็กคนนั้นหันมามองผม แล้วปั่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมพอจำได้ว่า พ่อแม่เด็กปั่นด้วย และจอดรถตรงไหน
ก็ไปยืนรอ เจอแม่เด็กก็เล่าให้ฟัง และขอให้อบรมลูกหน่อย
อย่าปล่อยให้มีนิสัยแบบนี้ไปจนโต
รอสักพัก น้องวนกลับมาพร้อมพ่อเด็ก
แม่ก็เลยเล่าให้พ่อเด็กฟัง และสอนกันตรงนั้นเลยว่าทำไมถึงไม่ควรปั่นหนี
เด็กก็เลยขอโทษผม
ผมก็สอนไป ว่า อย่าหนีปัญหา เราเป็นลูกผู้ชาย กล้าทำ ต้องกล้ารับ
เราหนีปัญหา ก็หนีได้ไม่นาน แต่ปัญหายังอยู่ เราหนีไม่ได้ตลอดหรอก
เรื่องนี้ ยังเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ถ้าเราไม่ฝึกตัวเองไว้ วันข้างหน้าเวลาทำผิดเรื่องใหญ่ๆ
เราก็จะเคยชินกะการวิ่งหนีอยู่เรื่อยไป ซึ่งปัญหามันอาจไม่ใช่แค่ขอโทษก็จบ แต่มันอาจจะส่งผลกระทบมากกว่านั้น
ก็จบกันไป ทั้งผม พ่อแม่เด็ก และน้องคนชน
แต่...กลุ่มปั่นจักรยานไม่จบ พอรู้เรื่องก็มีการรวมกลุ่มกัน ขี่รถตามหาผมในสนาม
มาป๊ะกันพอดีตรงมุมสนาม ทำท่าเหมือนจะลงมารุมผม
ก็เลยดวงตกพอดี เพราะกลุ่มนักวิ่ง ที่วิ่งเสร็จก็นั่งพักเหนื่อยกันอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ
รวมถึงนักตะกร้อ ที่ตั้งวงเล่นกันข้างๆ และเจอปัญหานี้เหมือนกัน
ทำไปทำมา จากนักปั่น 5-6 คน ที่จะรุมผม
กลายเป็น จะโดนรุมซะเอง เกือบ 20 คน 40 ตีน
ณ ปัจจุบัน ยังไม่เคยเห็นนักปั่นกลุ่มนั้นอีกเลย
แต่กลุ่มอื่นๆ ก็ยังมาปั่นอยู่ และก็ยังชนอยู่ ยังขี่เร็วอยู่
ก็รออยู่ครับ ว่า อีกเดี๋ยวก็คงมีดราม่าอีกเหมือนเดิม แน่นอน
จักรยานขี่เร็วมาก แล้วมาจากข้างหลัง ก็เห็นอยู่ว่าชนแน่
แต่ก็ยังชน ไม่หลบ
คนวิ่งไม่มีตาหลัง โดนชนล้มกันบ่อยๆ
และไม่มีการขอโทษ หันมามองแล้วไปเลย
ผมเคยโดนเด็กปั่นมาชนเข้าให้
ต้องเข้าใจนะครับ เวลาเราวิ่งนานๆ กล้ามเนื้อจะรับแรงกด แรงดึงมาเยอะ
กรดแล็กติคก็เยอะ แค่กระแทกเบาๆ ยังสะเทือน ชนเลยนี่มีบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลย
เด็กคนนั้นหันมามองผม แล้วปั่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมพอจำได้ว่า พ่อแม่เด็กปั่นด้วย และจอดรถตรงไหน
ก็ไปยืนรอ เจอแม่เด็กก็เล่าให้ฟัง และขอให้อบรมลูกหน่อย
อย่าปล่อยให้มีนิสัยแบบนี้ไปจนโต
รอสักพัก น้องวนกลับมาพร้อมพ่อเด็ก
แม่ก็เลยเล่าให้พ่อเด็กฟัง และสอนกันตรงนั้นเลยว่าทำไมถึงไม่ควรปั่นหนี
เด็กก็เลยขอโทษผม
ผมก็สอนไป ว่า อย่าหนีปัญหา เราเป็นลูกผู้ชาย กล้าทำ ต้องกล้ารับ
เราหนีปัญหา ก็หนีได้ไม่นาน แต่ปัญหายังอยู่ เราหนีไม่ได้ตลอดหรอก
เรื่องนี้ ยังเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ถ้าเราไม่ฝึกตัวเองไว้ วันข้างหน้าเวลาทำผิดเรื่องใหญ่ๆ
เราก็จะเคยชินกะการวิ่งหนีอยู่เรื่อยไป ซึ่งปัญหามันอาจไม่ใช่แค่ขอโทษก็จบ แต่มันอาจจะส่งผลกระทบมากกว่านั้น
ก็จบกันไป ทั้งผม พ่อแม่เด็ก และน้องคนชน
แต่...กลุ่มปั่นจักรยานไม่จบ พอรู้เรื่องก็มีการรวมกลุ่มกัน ขี่รถตามหาผมในสนาม
มาป๊ะกันพอดีตรงมุมสนาม ทำท่าเหมือนจะลงมารุมผม
ก็เลยดวงตกพอดี เพราะกลุ่มนักวิ่ง ที่วิ่งเสร็จก็นั่งพักเหนื่อยกันอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ
รวมถึงนักตะกร้อ ที่ตั้งวงเล่นกันข้างๆ และเจอปัญหานี้เหมือนกัน
ทำไปทำมา จากนักปั่น 5-6 คน ที่จะรุมผม
กลายเป็น จะโดนรุมซะเอง เกือบ 20 คน 40 ตีน
ณ ปัจจุบัน ยังไม่เคยเห็นนักปั่นกลุ่มนั้นอีกเลย
แต่กลุ่มอื่นๆ ก็ยังมาปั่นอยู่ และก็ยังชนอยู่ ยังขี่เร็วอยู่
ก็รออยู่ครับ ว่า อีกเดี๋ยวก็คงมีดราม่าอีกเหมือนเดิม แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
พี่นักปั่นเสื้อสีชมพู ที่ขี่เข้าซอยพัฒนาสุข ยังเป็นคนมีจิตสำนึกอยู่ไหมคะ???
เวลาประมาณ 9:45
หน้าปากทางเข้าซอยพัฒนาสุข
หรือเรียกอีกชื่อว่าซอยเทพารักษ์ 96
ตอนนั้นเราเพิ่งลงจากรถมอไซด์
เพื่อต่อรถสองแถว
เรายืนอยู่บนฟุตบาท มือถือโทรศัพท์ไว้
เพราะ ตอนนั่งมอไซด์กางเกงมันคับ
แล้วดันโทรศัพท์ออกมา จึงถือเอาไว้
ขณะกำลังเอื้อมมือไปโบกรถสองแถว
มีพี่นักปั่นขี่มาบนฟุตบาท ซึ่งขี่ย้อนศร
ขี่มาชนมือข้างขวาที่เราโบกรถ และถือโทรศัพท์อยู่
มือถือบินลอยไปตกอยู่ขอบฟุตบาท เกือบตกถนน
พี่นักปั่นเสื้อสีชมพูคนนั้น
ได้ทำการหยุดรถจักรยานที่เค้าขี่มา
หันมามอง เราก็รีบเดินไปหยิบโทรศัพท์
แล้วหันไปมองพี่เค้า พี่เค้าขี่ต่อเข้าไปในซอยเฉย
แม่เจ้า พี่ทำอย่างนี้ได้อย่างไร
พี่ไม่คิดที่จะลงจากจักรยาน
พี่ไม่คิดที่จะเอ่ยปากถามหรอว่าเป็นอะไรไหม
ที่สำคัญ พี่ไม่คิดว่าจะเอ่ยปากขอโทษหนูสักนิดเลยใช่ไหม??
พี่ยังเป็นคนอยู่ไหม เพราะถ้าพี่ยังเป็นคน
และยังเป็นสุภาพบุรุษอยู่ พี่คงไม่ทำแบบนี้
ตอนนั้นตกใจ หยิบโทรศัพท์ หันไปมอง
แล้วไม่รู้จะทำยังไง ก็ขึ้นรถสองแถวไป
ในใจก็คิดแค่ซวยแล้ว ๆ เพราะหน้าจอจูบพื้น
เพิ่งซื้อมาได้แค่ 2 เดือน ผ่อนยังไม่ถึงไหน
แพงก็แพง จอแตกแน่ ๆ
ถึงจะใส่เคส มันต้องแตกแน่ ๆ
หยิบมาดู เคสถลอกปอกเปิก
เคสอันแสนแพงของฉัน T_T
แต่ยังพอมีโชค มีบุญอยู่บ้าง
หน้าจอและโทรศัพท์ยังใช้งานได้ปกติ
แต่ถึงอย่างนั้น หนูก็อยากให้พี่ขอโทษ
และรับผิดชอบ กว่าจะตั้งสติได้
ก็ขึ้นรถมาถึงหนามแดงแล้ว
หลังจากนั้นก็เกิดอารมณ์โมโห โกรธ อย่างรุนแรง
ขอเถอะ อย่าขี่บนฟุตบาท อย่าขี่ย้อนศรกันได้ไหม
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่จักรยาน ยังรวมถึงมอไซค์ด้วย
หลายครั้งที่เดินบนฟุตบาท แล้วแต่ต้องยืนหลบรถ
โดนบีบแตรไล่ โดนมองหน้าเหมือนว่าเราผิด
ทั้งๆที่เราเดินบนฟุตบาท ถ้าเราทำตามกฎประเทศก็คงน่าอยู่กว่านี้
สุดท้ายอยากฝากถึงพี่นักปั่นเสื้อชมพู
พี่ควรจะลงมาขอโทษหนู
พี่ควรจะถามว่า น้องเป็นอะไรไหม
ถ้าพี่เห็นกระทู้นี้ แล้วพี่อยากจะรับผิดชอบ
หลังไมค์มาคุยกัน