บันทึกความทรงจำ 7 วันในสิงคโปร์ กับ ซีเกมส์นอกประเทศครั้งแรก - ตอนจบมาแล้วค้าาาา

กระทู้สนทนา
ต้องขอโทษจริงๆที่ทำให้ทุกคนรอ (ใครรอแกวะ 55) แบบว่าตั้งกะกลับจากสิงคโปร์นี่เรื่องงานถาโถมจริงๆ เยอะมาก อะไรๆมันก็รนไปหมด เลยไม่ได้มาตั้งกระทู้ตอนจบที่ตั้งใจไว้ว่าจะเขียน วันก่อนไปแอบดูกระทู้ก่อนหน้ากระทู้นี้เห็นมีคนมาบอกว่าจะแจ้งความคนหาย ตกใจรีบมาตั้งกระทู้เลย อิอิ

กระทู้อันก่อนหน้าอันนี้
บันทึกความทรงจำ 7 วันในสิงคโปร์ กับ ซีเกมส์นอกประเทศครั้งแรก
http://pantip.com/topic/33824033

วันนี้เราอยากเล่าประสบการณ์ทั่วไปของคนไทยคนหนึ่งที่ไปอยู่ประเทศนี้เป็นเวลา 7 วัน เราเห็นอะไร แล้วคิดอะไร  ที่ไม่ได้เป็นมิติด้านกีฬา ใครอยากมาแชร์ความคิดเห็นก็แชร์กันได้เลยค่ะ บอกเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ให้อะไรกับเรามากจริงๆ

ผู้หญิง & ผู้ชาย

คือคนสิงคโปร์ คหสต เรา ย้ำ คหสตน คือ จืดชืด อ่ะ คือจะอธิบายไงดี เหมือนเราเดินในเมืองที่มีแต่ Droid ไม่มีผิด ทุกคนแววตานิ่ง คือไม่มีความสว่างไสวในแววตา ผู้หญิงหุ่นเหมือนกันหมด คือ เรียบ ตรงยาวลงมา ไม่มีนม ไม่มีตรูด ยังไม่นับว่าผู้คนไม่มีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าเหมือนเวลาอยู่ที่ไทย เราว่าอยู่ที่นี่ชีวิตมันน่าเบื่ออ่ะ นี่ขนาดเราไปแต่ในที่ที่มันเป็นสถานที่ที่ไม่เป็นทางการนะ (เช่นสนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า) ถ้าเราไปเดินแถวย่านธุรกิจในวันทำงานมันคงเป็นไรที่คงจะชวนขนหัวลุกมากๆเลย

อีกเรื่องที่อยากเล่าคือ ตอนเราไปเราสังเกตเห็นครอบครัว พ่อ แม่ + รถเข็นเด็กเยอะมาก แปลกใจมากเพราะประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องพลเมืองแต่งงานช้า กับไม่ค่อยแต่งงาน แต่ไหงไปไหนมาไหน ถึงมึแต่คนมีลูกฟระ ถามจากเพื่อนที่อยู่ที่นี่มา 4 ปี (ต่อไปนี้จะเรียกว่าน้อง ป) น้องบอกว่าปี 2015 นี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งประเทศ รัฐจึงออกแคมเปญโปรโมตให้คนมีลูกปี้นี้มากๆ โดยการให้สิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นกับครอบครัวที่มีลูกในปีนี้ แหม่ะ ประเทศนี้ ขนาดจะให้คนมีลูกยังต้องออกโปรโมชั่น 555 อีกอย่างที่เราคิด แต่ไม่กล้าพูดจน กระทั่งน้อง ป บอกว่า พี่หมายถึงหน้าตาผู้หญิงที่นี่ถ้าเค้าไม่ได้เป็นคนสิงคโปร์เค้าไม่น่าจะได้แฟนป้ะ คือใช่เลยอ่ะ ที่นี่คือ ผู้หญิงสิงคโปร์ส่วนใหญ่ที่มีลูก หน้าตาธรรมดามากกก ที่เราคิด คือเราไม่ได้ดูถูกผู้หญิงด้วยกันนะ อย่าเข้าใจผิด คือแบบปกติที่นี่ก็หมวยซะส่วนมากอ่ะนะ แต่ก็มีที่หน้าตาน่ารัก แต่เดินคนเดียว เดินกับเพื่อนผู้หญิง แต่ผู้หญิงที่มีแฟน กับที่มีลูกเนี่ย หน้าตาแบบบบบบ ธรรมดาอ่ะ แค่เปรียบเทียบเฉยๆ ว่าเออ คนหน้าตาดีไม่มีแฟน แต่คนหน้าตาธรรมดามีลูก 3 คนงี้ มันแปลกๆอ่ะ 555 ส่วนอัตราผู้หญิงสวยนี่ ไทยกินขาดนะคระ ส่วนผู้ชายนี่ บอกเลยว่า ชายจืดดดดดดดดดดดดดดดด จริงๆ 555+

น้อง ป เล่าให้ฟังอีกว่าที่สิงคโปร์เนี่ย แต่ก่อนผู้ชายนิยมแต่งกับสาวมาเลย์บ้าง ไทยบ้าง เพื่อนสนิทเราคนนึงก็เคยมีผู้ชายชาตินี้มาจีบ (แต่เพื่อนเราแต่งงานแล้ว 55) ผู้ชายคนนั้นบอกว่า ผู้หญิงประเทศเค้าไม่ค่อยมีจริตจะก้าน ทื่อๆ แล้วที่เราอ่านเจอมาคือ ผู้หญิงสิงคโปร์เค้าก็ทำงานเก่ง เค้าก็ไม่ค่อยอยากจะแต่งกับผู้ชายที่ได้เงินเดือนน้อยกว่าตัวเองอีก เห้อออ แล้วเมื่อไหร่จะได้แต่งเนี่ยยย แต่ปัจจุบัน รัฐออกกฎให้ชายชาวสิงคโปร์ที่ต้องการจะได้รับสิทธิประโยชน์เรื่องการซื้อบ้าน จะต้องแต่งกับคนสิงคโปร์ด้วยกันเท่านั้น ไม่งั้นหมดสิทธิ อื่อมม นะ รัฐบาลจอมยุ่งอีกละ แต่ก็นะ ถ้าผู้ชายแต่งงานกับคนนอกประเทศหมด อาจจะเกิดปัญหาหรือเปล่า เค้าก็เลยต้องออกกฏมาห้ามไว้ก่อน

ยัง ยังไม่พอ การล้วงลูกของรัฐยังไม่หมด ในกรณีหย่ากัน ทางรัฐจะยังไม่ยอมรับการหย่าของคุณอย่างเป็นทางการนะ จะให้เวลาสามปี ก่อนจะออกเอกสารให้ สาเหตุก็คือ ให้คุณไปปรับความเข้าใจกันระหว่างสามปีนี้ก่อน อั้ยยยยย่ะ สุดๆอ่ะ

ความดีงามของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

ส่วนเรื่องอื่นๆที่เราได้ยินกันบ่อยมากๆของสิงคโปร์เช่นความพร้อมของ โครงสร้างพื้นฐานเช่น รถไฟฟ้า ถนน หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆที่ดีงาม เราก็ไม่มีอะไรจะติ แต่อยากเล่าเรื่องนึงคือ ปกติรถไฟฟ้าบ้านเราบางทีขัดข้องบ่อย เราก็บ่นๆกันไป แต่ๆๆๆ รถใต้ดินของสิงคโปร์ค่ะ ล่าสุดไฟดับ เลยใช้งานไม่ได้ประมาณ 5 ชม. เรื่องนึ้เป็นเรื่องใหญ่มากถึงขนาดพรรคการเมืองฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก

ลิงค์ข่าว
Opposition parties call for measures to prevent future MRT disruptions
http://www.channelnewsasia.com/news/singapore/opposition-parties-call/1971724.html?cid=fbsg

ก็นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม ความต่างในการแก้ปัญหาระหว่างเรากับสิงคโปร์ แต่เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นนะว่านักการเมืองก็เป็นเหมือนกันทุกประเทศ (ไปคิดกันเองว่าเราหมายถึงเรื่องไร 55)

พื้นที่สีเขียว

อีกเรื่องที่เราว่าไทยเราน่าจะเอาอย่างสิงคโปร์มากๆก็คือ ต้นไม้ คือประเทศนี้เนี่ยจริงๆร้อน และแดดแรงมาก แต่เรากลับไม่ค่อยรู้สึกร้อนเท่าไหร่ก็เพราะมีต้นไม้เยอะมากกกกก เนี่ยแหละ เอาล่ะ เราจะไม่พูดถึงการตัดต้นไม้ของกรุงเทพหรือที่อื่น เราจะเน้นเรื่องพื้นที่สีเขียวอย่างเดียว เทียบง่ายๆนะ เราทำงานแถวสุขุมวิทซึ่งซอยที่เราทำอ่ะมันมีแต่ตึกสูง ถนนแคบ รถก็เยอะ เราเดินจากออฟฟิศเรามาปากซอย เสื้อเราชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเดินเร็วๆ) แต่ว่าที่โน่นวันแรก เราเดินเยอะมากพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เพราะหาที่พักไม่เจอ และแดดแรงมากกกกกก แต่แปลก เหงื่อแค่ซึมๆ และมีลมพัดตลอดเวลา ประทับใจเรื่องนี้มากๆพูดเลย

สำเนียงภาษาอังกฤษที่เป็นเอกลักษณ์

เม้าท์เรื่องสำเนียงภาษาอังกฤษแบบสิงคโปร์ หรือ Singlish ดีกว่า คือเราอะไม่เคยรู้สึกอะไรกับสำเนียง Singlish เลย จนมาที่นี่แบบว่าได้ยินทุกวัน เราว่ามันฟังตลกแปลกๆอ่ะ คือเราเคยได้ยินว่าทางรัฐบาลเค้าออกนโยบายว่าในอนาคต คนประเทศเค้าจะไม่พูดอังกฤษสำเนียงสิงคโปร์อีกแล้ว ตอนนั้นเราก็แอบคิดว่า โหยยยย จะรังเกียจสำเนียงสุด unique ของตัวเองทำไม แต่พอมาฟังทุกวันจริงๆ เราว่าเค้าเองก็อาจจะคิดเหมือนกันนะว่ามันฟังดูเป็นสำเนียงที่ไม่ standard อ่ะ งานนี้การแทรกแซงของรัฐบาลทำงานอีกแล้ว 55

อาหารข้างถนน

อีกอย่างที่เปลี่ยนความคิดของเรา คือ Hawker center ของเค้า เราเคยคิดว่า หากร้านแผงลอยบ้านเราต้องไปรวมตัวกันเหมือนกับที่สิงคโปร์ มันคงจะง่อย บรรยากาศไม่ได้ ฯลฯ แต่การกินอาหารที่ Hawker center มันก็ยังให้บรรยากาศการกินอาหารข้างทางอยู่นะ ไม่ต้องกังวลเรื่องหาโต้ะไม่ได้ด้วย (ข้าวมันไก่ที่ Hawker center ที่เราไปกินราคา 2.5 เหรียญสิงคโปร์ อร่อยจนน้ำตาไหลเลย 55 เราว่าประเทศเราควรเริ่มจัดการร้านแผงลอยนะ มันได้ผลจริงๆ ไปเจอของจริงมาแล้ว

ที่นี่คนเราเท่ากัน

เรื่องสุดท้าย (สุดท้ายจริงๆละ 55) คือเวลาเราเดินไปตามถนน เรารู้สึกว่าทีนี่คนทุกคนเท่ากัน ไม่มีสำนึกเรื่องชนชั้นมากมาย เพราะทุกคนก็ชนชั้นกลางกันหมด กู้เงินซื้อบ้านทีก็ผ่อนยันตายกันหมด เงินเดือนก็ได้พอๆกันหมด มันไม่ค่อยมีการแข่งขันกันใส่แบรนด์เนม เพื่ออวดรวย มากมาย แต่ก็นั่นแหระ เราไปแค่ 7 วัน ประเด็นนี้อาจไม่ชัดเท่าไหร่ พูดเท่าที่เห็นละกัน

สรุป

ประเทศนี้ทุกอย่างถูกควบคุมโดยรัฐอย่างแท้จริง รัฐแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนของตัวเองถึงขั้นสุด (คิดดู ให้เวลาสามปีให้ผัวเมียเค้าคืนดีกันอ่ะ อันนี้พีคสุดเลย สำหรับเรา 555) และสำคัญอีกอย่างคือการบังคับใช้กฎหมายจริงจังขั้นสุดเหมือนกัน เวลาเดินตามถนนที่สะอาด เราถามตัวเองว่า ขยะมันไปอยู่ที่ไหน ถังขยะก็ไม่ได้มีวางทั่วไปนะ แต่ทำไมถนนสะอาดจัง เราคิดว่า ก็เพราะคนเค้าไม่ทิ้งไง เพราะเค้ากลัวกฎหมาย พอคนไม่ทิ้งขยะเปรอะไปทั่ว การจัดการขยะมันก็ง่ายลง ส่งผลให้ถนนหนทางสะอาด (แต่เคยได้ยินคนสิงคโปร์มาไทย ก็ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางเหมือนกันนะ เหอะๆ) หากการบังคับใช้กฎหมายมันเข้มแข็งนะ ทุกอย่างจะโอเคเลย

จบละ เห้อออ 555+

ขออนุญาตแทคห้องไกลบ้านด้วย เพราะเรื่องราวของกระทู้นี้เข้ากับห้องนั้นด้วย

ขอขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งสำหรับการกดไลค์ กดบวกให้กระทู้เราก่อนหน้านี้ เดี๋ยวจะพยายามปั่นอีกกระทู้เกี่ยวกับการสร้างทีมเยาวชนของเยอรมัน จริงๆอาจจะไม่มีไรใหม่เพราะเป็นข้อมูลเก่าแต่ก็ยังอยากจะเล่าอยู่ดี อิอิ

พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่