จะซวยอย่างฉัน มีเท่าไหร่บ้างน้อ....?

ถึงแม้เรื่องนี้จะจบไปได้หลายเดือนแล้ว แต่ฉันยังค้างคาในส่วนลึกมาตลอดยิ่งวันนี้มาเห็นข่าวที่ดีเจต้นหอมเลิกกับแทค และดาราห้าวอย่างแตงโมถึงกับกินยานอนหลับเกินขนาด ถึงไม่ชอบคนนี้สักเท่าไหร่จากการที่เขาเข้าชุมนุมเพราะไม่เหมาะ แต่วันนี้รู้สึกเห็นใจในฐานะผู้หญิงด้วยกัน และนึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง และอยากสอบถามกับสังคมว่าเรื่องของฉันปกติใช่ไหม ที่ซวยอย่างนี้...มาเจอผู้ชายแบบนี้
....เมื่อ 1 ปี ก่อนแม่หม้ายอย่างฉันเริ่มคบและรักกับผู้ชายคนนึงซึ่งมีอายุน้อยกว่าฉัน และเขาติดเพื่อนมาก แต่ทุกสิ่งอย่างที่เราร่วมกันทำ ร่วมกันดูแลมันแสดงว่าเรารักกันอ่ะ ฉันเลยรู้สึกมีความสุขมาตลอด 1 ปี ในโมเม้นท์ที่สวีทหวาน เดินขามถนนจับมือกัน ทำกับข้าวรอเรา คนที่เคยติดเพื่อนต้องไปนั่งบ้านเพื่อนทุกวันหลังเลิกงานก็ไม่ไป บอกกับเราเพียงว่าอยากสร้างครอบครัว ปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อนก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง บอกจะอยู่กับเรา ตอนนอนนวดเท้าให้เราทุกวัน นั่งคุยกันจับมือกันทุกวัน ถามว่ามีทะเลาะไหม?.. มี แต่เราว่ามันน้อยมาก ทั้งปีเนี่ย 2-3 ครั้งเองมั้งที่ถือว่าแรง แต่สุดท้ายเราก็มารักกันเหมือนเดิม มากกว่าเดิมด้วย...
ในตอนนั้นสังคมตรงนั้นมีน้องผู้ชายที่ทำงานที่เดียวกับเราเป็นคนยุให้เราจีบกัน ไอ้น่านดูเป็นคนดีมากๆๆ มากจนเรารักเหมือนน้อง และเรากับกลุ่มเพื่อนสนิทเขาก็ดูเข้ากันได้กันนะ แฟนเพื่อนสนิทเค้าที่ชื่อมายก็ดูเป็นคนดีมาก มาสนิทกับเราดี เข้าอกเข้าใจเรา ใจดี น่ารักมากๆๆๆ(ตอนนั้นนะ)ร้องไห้ปลอบใจกัน กินเหล้ากันเวลาเธอทะเลาะกับแฟนมา... สิ่งผิดสังเกตเริ่มจากไอ้น่านเข้าไปสนิทกับครอบครัวเพื่อนสนิทของคนนี้มากขึ้นๆ เข้าไปทุกวัน ในขณะที่ฉันไม่ค่อยเข้าไปเพราะฉันห่วงดูแลลูก(ของฉัน) และไม่ค่อยสุงสิงกับใครจริงๆ ฉันเหนื่อยจึงชอบอยู่บ้านมากกว่า แต่ฉันไม่เคยห้ามเขา ไล่ให้ไปหาเพื่อนด้วยซ้ำเพราะรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาติดเพื่อน ไม่อยากกดดันอะไรเขานะเพราะเรารักเขามาก(ตอนนั้นนะ)แต่เราอยากพัก แม้แต่เพื่อนเรายังไม่ไปหาใครเลย เขาไปกินวันเกิดเพื่อนเราก็ไล่ให้เขานอนนั่นไปเลยเพราะเราไม่อยากกังวลอะไร คือเราเป็นคนตรงพูดจาหรือคุยกันต้องเคลียร์ถ้าไม่ชัดเจนเราก็จำนะ เขากลับมาเช้าเราก็ทำข้าวต้มรอ ทุกอย่างไม่มีอะไรคาใจ(ตอนนั้นนะ)แต่การทะเลาะที่แรงขึ้น เขาบอกกับเราว่ามีคนบอกเขาและเพื่อนในกลุ่มว่าเราโพสในเฟสว่าเขาเอาเงินของเรามาใช้กินเหล้ากับเพื่อน..บลาๆๆ อีกมากมายที่เราแสนจะยิ้ม?....เหตุนี้ถ้ามองจากความจริง เขาแทบไม่เข้าไปหาเพื่อนเลยแล้วจะเอาเงินเราไปกินเหล้ากับเพื่อตอนไหน? เราถามว่าใครเป็นคนบอกเขาก็ไม่พูด บอกแต่ว่าไม่มีหลักฐานเพราะเราลบข้อความไปแล้วพอมีเรื่อง...เราโทรคุยกับเพื่อนสนิทเขาเลยนะทั้งที่ไม่เคยยุ่ง เพื่อนเขาก็ออกแนวบอกว่าเราก็เกินไป ใจเย็นๆ...เห้ย?!!!! เกินอะไรวะ....เราอยู่เฉยๆ เฉยมากๆ มากจนไม่เคยพูดเรื่องใครด้วยซ้ำ วันๆ แค่เรื่องในบ้าน เรื่องงานก็ประสาทจะเสื่อมแล้ว แล้วฉันไปวุ่นวายพาดพิงต่อว่าตัวเขา และกลุ่มเพื่อนเขาตอนไหนวะ มิน่าแต่ละคนเริ่มแปลกๆ จากเคยมากินมาเที่ยวบ้านไม่มา..ฉันสงสัยใครที่ยิ้มได้ขนาดนี้ เพราะอย่างที่บอกไม่เคยสร้างความเดือนร้อนให้ใครพึ่งมาอาศัยแถวนี้ก็ได้ไม่นาน แล้วใครจะมาทำฉันก่อนเพื่ออะไรวะ...มีคน(ในกลุ่มที่ทำงาน)บอกให้ฉันระวังไอ้น่าน...ตอนนั้นไม่คิดนะไม่เชื่อด้วยปกป้องน้องอีกต่างหาก 1 คน 2 คน พอคนที่ 3 บอกตรงกันเริ่มกลับมาย้อนคิดเหตุการณ์หลายๆ อันที่มาจากการพูดของคนนี้...และเมื่อวันแตกหักมาถึง มันธรรมดาของคนเจ็บสาหัส ฉันโพสลงเฟสน้อยอกน้อยใจ ตัดพ้อว่าเขาเชื่อเพื่อนมากไปจนเราต้องเลิกกัน ฉันยื่นคำขาดว่าถ้าเชื่อเพื่อนจะอาศัยเพื่อนจะกลับไปสังคม"สิ่งที่ฉันเชื่อว่าเป็นของต่ำไม่ควรยุ่ง"กับเพื่อนก็เลิกกัน..เขาเก็บของออกไปเลย แล้วทุกสิ่งที่เขาบอกคือก็เขาเป็นคนแบบนี้ และฉันก็เป็นคนให้เขาไปเอง เชื่อไหมฉันไม่รู้ตัวจนวันสุดท้าย เพราะเขายังทำดีกับฉันไม่เปลี่ยน เรียกว่าเนียนกริบเลยล่ะ..
วันนั้นก่อนที่เขาจะขนของๆ เขาไป ฉันถามเขาว่าทำไมเราถึงไม่กลับมาปรับกันอีกครั้ง นี่เราทะเลาะกันเพราะคนอื่นบอกว่าฉันไม่ดีเนี่ยนะทั้งๆ ที่คุณนอนข้างๆ ฉันเนี่ยนะ(ตอนนั้นนะ)ขอร้องเขาให้อยู่ เขาบอกว่า..
"ปีที่แล้วเขาดวงชง ปีเนี้ยมันจะเป็นปีของเขา เขาจะโชคดี เขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่..."
ถ้าทุกคนเห็นข้อความตั้งแต่ต้นจะจำได้ว่าเรารักกันมาก ไม่มีวี่แวว จนครั้งสุดท้ายที่ทะเลาะกันเนี่ย มีคำพูดอย่างนี้ออกมา งงไหม?...ฉันพุ่งประเด็ดไปที่บรรดาเพื่อนเขา และสังคมสิ่งที่ฉันเชื่อว่าเป็นของต่ำไม่ควรยุ่งทันที แต่ก็ดีแค่นักเลงคีย์บอร์ดที่พร่ำพรรณาเหมือนหมาบ้า เดี๋ยวน้อยใจ เดี๋ยวรักมาก เดี๋ยวด่า ทวงของคืนเพราะของบางอย่างซื้อกับฉันไม่ควรเอาไปด้วยซ้ำ ...แต่ในข้อความพวกนั้นฉันไม่เคยนึกถึงพวกผู้หญิงเลยไม่เคยด่าไม่เคยพาดพิง แค่คิดยังไม่เคยเลยเพราะอย่างที่บอกเราสนิทกันแบบรักกันดีน่ะกับพวกผู้หญิง(ตอนนั้นนะ)เลยคิดว่าเป็นเพราะไอ้น่านคนเดียวที่ดึงให้ทุกอย่างมันพัง เพื่อนที่มันรักเหมือนน้อง...ไอ้น่านถึงขนาดแอบเข้ามา(ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนมันเพราะมีที่ทำงานด้วย แต่มันเป็นเพื่อนกับเพื่อนฉันในเฟส ซึ่งน้องเขาก็ไม่รู้จักส่วนตัว มันขอไปเขาก็รับ แค่นั้นแต่มันอาศัยตรงนี้เข้ามาเล่นงานฉัน)ดึงแชร์ข้อความแรงๆ ที่ฉันเอ่ยพาดพิงประมานว่าไม่เอาตัวเองมาแลกกับคนพวกนี้หรอก(เพราะคนพวกนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ฉันเชื่อว่าเป็นของต่ำไม่ควรยุ่ง)แชร์ของฉันไปปล่อยในกลุ่มเพื่อเค้า แต่ข้อความดีๆ ไม่เคยเอาไปปล่อยนะ...แน่นอนคุณมายและพี่น้องออกตัวแรงมาก ด่าฉันอย่างออกรสชาติ พวกนี้จะพูดประมานว่าฉันจิตใจฉันไม่ปกติ ไม่ดูตัวเอง โทษแต่คนอื่น แถมจะเข้ามากระทืบ คนที่เป็นครูวัดตำหนักใต้ก็รู้จักฉันนะ แต่กดไลท์สนับสนุนกันมันมือ ฉันเคยคิดว่าคนเป็นครูน่าจะดูคนเป็นว่าใครเป็นยังไง เพราะพวกเขาก็น่าจะเห็นความเป็นอยู่ของครอบครัวฉัน ..และเพราะมีคนบอก ฉันถึงเห็นข้อความที่พวกนี้ด่า ยอมรับว่าไม่ดูตัวเอง ยอมรับว่าโทษคนอื่น โทษเพราะมันงงนี่หว่าที่อยู่ๆ ก็เกิดเรื่องแบบนี้โดยที่ฉันไม่เคยทำร้ายพวกนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว...ไม่เคยเลยจริงๆ...
สิ่งที่ทำให้น่าคิด....
- คุณมายเธอมาจงเกลียดจงชังฉันขนาดนี้เพราะอะไร ในเมื่อเราไม่เคยแม้แต่ไม่พอใจเธอด้วยซ้ำ...ไม่เคยด่า ไม่เคยโกรธอะไรกัน ไม่เคย...
- ไอ้เด็กน่าน ฉันไปทำอะไรให้เขาตอนไหน ชาติปางไหน ทุกอย่างถึงเริ่มมาจากมัน?
สิ่งที่สรุป...
- ต่อให้ไอ้น่านพูดอะไรแค่ไหน ถ้าคนของเราไม่หือไม่อือ คนอื่นจะเชื่อตามไหม?
- ฉันเชื่อว่าน่านเป็นคนยุแน่นอน เพราะเขาแตกมาหลายคนแล้ว..แต่คนของเราในตอนนั้นทำอะไร..? ถ้าเขาบอกว่ารักฉัน ปกป้องฉันต่อหน้าฉัน แต่ลับหลังสนับสนุนคำพูดไอ้น่านงั้นรึ...
คำถาม...จริงๆ แล้วผู้ชายที่ฉันคบ คือคนที่ยิ้มที่สุด และมีกำลังเสริมเข้ามาในช่วงที่มันกำลังอยากเปลี่ยนคู่นอนพอดี..ใช่ไหม? ทุกคนที่อ่านเรื่องนี้เห็นว่ายังไงกันบ้าง ลองแชร์ๆ มานะคะ เราอยางรู้จริงๆ เพราะไม่เคยคิดเลยนะว่าตัวเองจะโดนขนาดนี้ และเสียใจมากขนาดนี้(ในตอนนั้นนะ)ซวยมากเลยใช่มะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่