สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปท่องเที่ยวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่าหมู่บ้าน '' เหมืองกุง '' เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่เป็นหมู่บ้านที่หลายๆท่านอาจจะไม่รู้จักหรืออาจจะเคยได้ยินชื่อ วันนี้ผมขออาสาพาทุกท่านไปสัมผัสบรรยากาศ เรียนรู้วิถีหมู่บ้านพร้อมท่องเที่ยวพระธาตุดอยคำ เชิญรับชมเลยครับ
ก่อนอื่นเลยผมขอเริ่มจากการเดินทางก่อน การเดินทางสำหรับท่านที่มีรถส่วนตัว สามารถทำได้ง่ายเพราะระยะทางไม่ไกลมาก แต่ส่วนของท่านที่อยู่ต่างจังหวัด สามารถทำได้หลายวิธีเช่น เหมารถรับจ้าง โดยสารรถรับจ้างประจำทาง เป็นต้น และวิธีที่ผมใช้คือการโดยสารรถประจำทาง อาจจะต้องขึ้นรถหลายครั้งแต่จะทำให้ท่านได้บรรยากาศในการท่องเที่ยวอีกแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เราจะเริ่มต้นที่ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่นะครับ
ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่
ตารางรถโดยสาร
เราจะโดยสารรถประจำทางหรือรถแดงของเชียงใหม่ รถแดงในจังหวัดเชียงใหม่มีอยู่2ประเภท คือรถแดงอิสระ กับรถแดงประจำทาง สำหรับรถแดงอิสระท่านที่จะโดยสารอาจเหมาจ่ายทั้งทริปเลยก็ได้ ส่วนราคาต้องต่อรองกันเอง แต่สำหรับรถแดงประจำทาง ต้องขึ้นตามสายคล้ายๆกับรถเมล์ ราคาไม่เกิน10-20บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทุกท่าน สำหรับจุดหมายปลายทางของผมคือตลาดประตูเชียงใหม่ เพื่อที่จะไปโดยสารรถต่อไปหมู่บ้านเหมืองกุงครับ(สำหรับท่านที่เหมารถก็สามารถตรงไปยังหมู่บ้านได้เลยครับ)
ทางเลือกโดยสารอื่นๆ
พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย
รถแดงที่ผมโดยสารมา ได้ขับผ่านหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดวโรรส ประตูท่าแพ เป็นต้น
ระหว่างทาง
ตลาดวโรรส
ดอกไม้ พวงมาลัยเพียบ
ประตูท่าแพ
และยังมีสถานที่สำคัญๆอีกหลายสถานที่เช่น วัดอุปคุต แต่พอดีผมถ่ายไว้ไม่ทันต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย
ตอนนี้ผมได้ถึงประตูเชียงใหม่แล้วต่อไปเราจะโดยสารรถประจำทางเพื่อที่จะไปหมู่บ้านเหมืองกุงกันต่อ ตอนแรกที่เราโดยสารมาจะเป็นรถสีแดง ต่อไปเราจะไปโดยสารรถสีเหลืองกันต่อครับ สำหรับรถสีเหลืองทุกท่านไม่ต้องงงนะครับ เพราะป้ายบนรถอาจจะไม่เหมือนกันแต่แทบทุกคันผ่านหมู่บ้านนี้ ผมได้นั่งรถสีเหลืองที่มีป้ายคำว่าทุ่งเสี้ยว ถ้าจะเอาชัวร์ให้ถามพี่ๆคนขับก่อนหรือนั่งโดยสารข้างหน้าก็ได้ครับ รับรองไม่มีหลงทางแน่นอน
บริเวณที่รถประจำทางจอดอยู่
เลี้ยวซ้ายมาก็เจอเลย
ลุยต่อ ยาวไปๆ
เมื่อถึงเวลาออกรถ รถจะผ่านถนนๆหนึ่งชื่อถนนวัวลาย ในถนนวัวลายนี้ เฉพาะวันเสาร์จะมีการปิดถนนเพื่อจัดงานถนนคนเดิน เป็นประจำ สำหรับท่านไหนที่สนใจก็ลองแวะมาท่องเที่ยวกันได้
รูปปั้นวัวลาย
ระหว่างทาง
ท้องฟ้าสดใส
ผ่านไปไม่นานพี่คนขับก็ตะโกนบอกว่า เหมืองกุงถึงแล้วลงเลย ผมก็เลยขับตัวพร้อมลงเตรียมจ่ายค่าโดยสาร ค่าโดยสารก็12บาทครับ
รถจอดตรงนี้ เลยแวะถ่ายซักหน่อย
เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วผมจึงเดินข้ามรถไปอีกฝั่ง เมื่อข้ามแล้วจะสังเกตุเห็นร้านขายของเครื่องปั้นดินเผาให้เราเดินไปอีกซักนิดจะเห็นทางเข้าหมู่บ้าน
ทางเข้าหมู่บ้าน
ถึงแล้ววว
เดินทางกันต่อ
ประตูทางเข้าหมู่บ้านเหมืองกุง
สำหรับหมู่บ้านเหมืองกุงจะมีเอกลักษณ์ของทางหมู่บ้านคือน้ำต้นหรือคนโทขนาดยักษ์อยู่บริเวณทางเข้าของหมู่บ้าน หาง่ายไม่หลงแน่นอน
มีป้ายอะไรอยู่แวะอ่านซักหน่อยดีกว่า
ป้ายประวัติหมู่บ้านนี่เอง
เมื่ออ่านประวัติเสร็จก็เดินเข้าไปในหมู่บ้านต่อและได้เจอศูนย์การเรียนรู้ของหมู่บ้าน ผมจึงเดินเข้าไปสำรวจพร้อมเก็บบรรยากาศมาให้ชมกันครับ
ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
เข้าไปสำรวจกันเลย
บรรยากาศภายใน
ประวัติความเป็นมา
ไม่พลาดที่จะถ่ายรูป
ชั้นล่าง
สวยๆทั้งนั้น
หลังจากที่เราได้ความรู้และได้เห็นสิ่งของสวยๆงามๆแล้ว จึงเกิดอยากเห็นวิธีทำขึ้นมา ผมจึงเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านต่อ เดินได้ไม่นานก็เจอสถานที่หนึ่งชื่อว่า'' ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาเหมืองกุง '' จึงเดินเข้าไปสำรวจพร้อมเก็บบรรยากาศมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ
จากการสอบถามชาวบ้านที่นี้ หมู่บ้านเหมืองกุงได้สืบทอดการปั้นเครื่องปั้นดินเผาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเวลานาน ตอนนี้จึงมีวิธีการปั้นเครื่องปั้นดินเผา2แบบคือแบบใช้แท่นหมุนมือกับแบบใช้แท่นหมุนไฟฟ้า ผมจึงได้ขอความกรุณาจากชาวบ้านให้พาไปชมวิธีการทำด้วยมือ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีชาวบ้านที่นี่น่ารักครับ
แผนที่ลายละเอียดของหมู่บ้าน
ระหว่างทางในหมู่บ้าน
ก่อนจะเป็นดอกไม้ไฟ
อยู่ในระหว่างขั้นตอนการปั้น
ชาวบ้านที่นี่ใจดีทุกคนครับ
สถานที่ทำการปั้นครับ
บริเวณข้างนอก
ดูกันจะๆ
สุดยอดมากครับ
ปั้นแบบหมุนมือ
ตากแดดครับ
สำหรับทุกๆท่านที่อยากจะเรียนวิธีการปั้นก็สอบถามลายละเอียดได้ที่ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาของหมู่บ้านเหมืองกุงได้เลยครับ
หลังจากได้เรียนรู้วิถีชีวิตของหมู่บ้านและได้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาแล้ว ต่อไปจะพาทุกท่านไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยดำครับ แต่จะไปได้อย่างไรเมื่อไม่มีรถ ผมจึงสอบถามจากชาวบ้าน ก็ได้คำตอบว่าให้เดินไปหน้าหมู่บ้านแล้วให้ติดต่อกับแม่ค้าที่ขายของที่ระลึก ผมจึงไปตามคำแนะนำครับ
เมื่อเดินมาถึงร้านค้าหน้าหมู่บ้าน เห็นสินค้าจึงสอบถามว่าทำมาจากไหน และราคาเท่าไหร่ แม่ค้าได้ตอบว่าทำในหมู่บ้านเหมืองกุงและขายเองในราคาตั้งแต่10บาทถึง400กว่าบาท 400กว่าบาทนี่คือน้ำพุที่เอาไว้โชว์ที่ตั้งในสวน ราคาไม่แพงเลยแถมสวยด้วย
ร้านค้าขายของที่ระลึก
สวยๆงามๆ
แม่ค้าเชียร์ของเก่งมาก
ไม่แพงเลย
เดินเที่ยวชม
เดินชมของเพลินจนเกือบลืมว่าต้องไปวัดพระธาตุดอยคำ แต่เมื่อตั้งสติกลับมาได้จึงได้สอบถามแม่ค้าถึงวิธีที่จะไปวัดพระธาตุ และได้คำตอบว่ามีมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ถ้าจะไปจะเรียกให้ผมจึงตอบตกลง ค่าบริการอยู่ที่80-100บาท
โทรเรียกให้เลยมารับถึงที่
[CR] One day trip เหมืองกุง ดอยคำ
ก่อนอื่นเลยผมขอเริ่มจากการเดินทางก่อน การเดินทางสำหรับท่านที่มีรถส่วนตัว สามารถทำได้ง่ายเพราะระยะทางไม่ไกลมาก แต่ส่วนของท่านที่อยู่ต่างจังหวัด สามารถทำได้หลายวิธีเช่น เหมารถรับจ้าง โดยสารรถรับจ้างประจำทาง เป็นต้น และวิธีที่ผมใช้คือการโดยสารรถประจำทาง อาจจะต้องขึ้นรถหลายครั้งแต่จะทำให้ท่านได้บรรยากาศในการท่องเที่ยวอีกแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เราจะเริ่มต้นที่ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่นะครับ
ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่
ตารางรถโดยสาร
เราจะโดยสารรถประจำทางหรือรถแดงของเชียงใหม่ รถแดงในจังหวัดเชียงใหม่มีอยู่2ประเภท คือรถแดงอิสระ กับรถแดงประจำทาง สำหรับรถแดงอิสระท่านที่จะโดยสารอาจเหมาจ่ายทั้งทริปเลยก็ได้ ส่วนราคาต้องต่อรองกันเอง แต่สำหรับรถแดงประจำทาง ต้องขึ้นตามสายคล้ายๆกับรถเมล์ ราคาไม่เกิน10-20บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทุกท่าน สำหรับจุดหมายปลายทางของผมคือตลาดประตูเชียงใหม่ เพื่อที่จะไปโดยสารรถต่อไปหมู่บ้านเหมืองกุงครับ(สำหรับท่านที่เหมารถก็สามารถตรงไปยังหมู่บ้านได้เลยครับ)
ทางเลือกโดยสารอื่นๆ
พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย
รถแดงที่ผมโดยสารมา ได้ขับผ่านหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดวโรรส ประตูท่าแพ เป็นต้น
ระหว่างทาง
ตลาดวโรรส
ดอกไม้ พวงมาลัยเพียบ
ประตูท่าแพ
และยังมีสถานที่สำคัญๆอีกหลายสถานที่เช่น วัดอุปคุต แต่พอดีผมถ่ายไว้ไม่ทันต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย
ตอนนี้ผมได้ถึงประตูเชียงใหม่แล้วต่อไปเราจะโดยสารรถประจำทางเพื่อที่จะไปหมู่บ้านเหมืองกุงกันต่อ ตอนแรกที่เราโดยสารมาจะเป็นรถสีแดง ต่อไปเราจะไปโดยสารรถสีเหลืองกันต่อครับ สำหรับรถสีเหลืองทุกท่านไม่ต้องงงนะครับ เพราะป้ายบนรถอาจจะไม่เหมือนกันแต่แทบทุกคันผ่านหมู่บ้านนี้ ผมได้นั่งรถสีเหลืองที่มีป้ายคำว่าทุ่งเสี้ยว ถ้าจะเอาชัวร์ให้ถามพี่ๆคนขับก่อนหรือนั่งโดยสารข้างหน้าก็ได้ครับ รับรองไม่มีหลงทางแน่นอน
บริเวณที่รถประจำทางจอดอยู่
เลี้ยวซ้ายมาก็เจอเลย
ลุยต่อ ยาวไปๆ
เมื่อถึงเวลาออกรถ รถจะผ่านถนนๆหนึ่งชื่อถนนวัวลาย ในถนนวัวลายนี้ เฉพาะวันเสาร์จะมีการปิดถนนเพื่อจัดงานถนนคนเดิน เป็นประจำ สำหรับท่านไหนที่สนใจก็ลองแวะมาท่องเที่ยวกันได้
รูปปั้นวัวลาย
ระหว่างทาง
ท้องฟ้าสดใส
ผ่านไปไม่นานพี่คนขับก็ตะโกนบอกว่า เหมืองกุงถึงแล้วลงเลย ผมก็เลยขับตัวพร้อมลงเตรียมจ่ายค่าโดยสาร ค่าโดยสารก็12บาทครับ
รถจอดตรงนี้ เลยแวะถ่ายซักหน่อย
เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วผมจึงเดินข้ามรถไปอีกฝั่ง เมื่อข้ามแล้วจะสังเกตุเห็นร้านขายของเครื่องปั้นดินเผาให้เราเดินไปอีกซักนิดจะเห็นทางเข้าหมู่บ้าน
ทางเข้าหมู่บ้าน
ถึงแล้ววว
เดินทางกันต่อ
ประตูทางเข้าหมู่บ้านเหมืองกุง
สำหรับหมู่บ้านเหมืองกุงจะมีเอกลักษณ์ของทางหมู่บ้านคือน้ำต้นหรือคนโทขนาดยักษ์อยู่บริเวณทางเข้าของหมู่บ้าน หาง่ายไม่หลงแน่นอน
มีป้ายอะไรอยู่แวะอ่านซักหน่อยดีกว่า
ป้ายประวัติหมู่บ้านนี่เอง
เมื่ออ่านประวัติเสร็จก็เดินเข้าไปในหมู่บ้านต่อและได้เจอศูนย์การเรียนรู้ของหมู่บ้าน ผมจึงเดินเข้าไปสำรวจพร้อมเก็บบรรยากาศมาให้ชมกันครับ
ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
เข้าไปสำรวจกันเลย
บรรยากาศภายใน
ประวัติความเป็นมา
ไม่พลาดที่จะถ่ายรูป
ชั้นล่าง
สวยๆทั้งนั้น
หลังจากที่เราได้ความรู้และได้เห็นสิ่งของสวยๆงามๆแล้ว จึงเกิดอยากเห็นวิธีทำขึ้นมา ผมจึงเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านต่อ เดินได้ไม่นานก็เจอสถานที่หนึ่งชื่อว่า'' ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาเหมืองกุง '' จึงเดินเข้าไปสำรวจพร้อมเก็บบรรยากาศมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ
จากการสอบถามชาวบ้านที่นี้ หมู่บ้านเหมืองกุงได้สืบทอดการปั้นเครื่องปั้นดินเผาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเวลานาน ตอนนี้จึงมีวิธีการปั้นเครื่องปั้นดินเผา2แบบคือแบบใช้แท่นหมุนมือกับแบบใช้แท่นหมุนไฟฟ้า ผมจึงได้ขอความกรุณาจากชาวบ้านให้พาไปชมวิธีการทำด้วยมือ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีชาวบ้านที่นี่น่ารักครับ
แผนที่ลายละเอียดของหมู่บ้าน
ระหว่างทางในหมู่บ้าน
ก่อนจะเป็นดอกไม้ไฟ
อยู่ในระหว่างขั้นตอนการปั้น
ชาวบ้านที่นี่ใจดีทุกคนครับ
สถานที่ทำการปั้นครับ
บริเวณข้างนอก
ดูกันจะๆ
สุดยอดมากครับ
ปั้นแบบหมุนมือ
ตากแดดครับ
สำหรับทุกๆท่านที่อยากจะเรียนวิธีการปั้นก็สอบถามลายละเอียดได้ที่ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาของหมู่บ้านเหมืองกุงได้เลยครับ
หลังจากได้เรียนรู้วิถีชีวิตของหมู่บ้านและได้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาแล้ว ต่อไปจะพาทุกท่านไปไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยดำครับ แต่จะไปได้อย่างไรเมื่อไม่มีรถ ผมจึงสอบถามจากชาวบ้าน ก็ได้คำตอบว่าให้เดินไปหน้าหมู่บ้านแล้วให้ติดต่อกับแม่ค้าที่ขายของที่ระลึก ผมจึงไปตามคำแนะนำครับ
เมื่อเดินมาถึงร้านค้าหน้าหมู่บ้าน เห็นสินค้าจึงสอบถามว่าทำมาจากไหน และราคาเท่าไหร่ แม่ค้าได้ตอบว่าทำในหมู่บ้านเหมืองกุงและขายเองในราคาตั้งแต่10บาทถึง400กว่าบาท 400กว่าบาทนี่คือน้ำพุที่เอาไว้โชว์ที่ตั้งในสวน ราคาไม่แพงเลยแถมสวยด้วย
ร้านค้าขายของที่ระลึก
สวยๆงามๆ
แม่ค้าเชียร์ของเก่งมาก
ไม่แพงเลย
เดินเที่ยวชม
เดินชมของเพลินจนเกือบลืมว่าต้องไปวัดพระธาตุดอยคำ แต่เมื่อตั้งสติกลับมาได้จึงได้สอบถามแม่ค้าถึงวิธีที่จะไปวัดพระธาตุ และได้คำตอบว่ามีมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ถ้าจะไปจะเรียกให้ผมจึงตอบตกลง ค่าบริการอยู่ที่80-100บาท
โทรเรียกให้เลยมารับถึงที่