"กระบี่ไปกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ" เพิ่งเข้าใจคำๆนี้ตอนไปเที่ยวกระบี่ครั้งแรกเมื่อกลางปีก่อนค่ะ ก่อนหน้านี้คิดเอาเองว่ากระบี่ก็คงเหมือนๆกับภูเก็ต แต่พอได้มาเที่ยวจริงๆถึงได้รู้ว่า เสน่ห์ของสองจังหวัดนี้ไม่เหมือนกันเลย ทริปนี้เกิดจากการนัดกับเพื่อนๆไปเที่ยวกระบี่ด้วยกันค่ะ เราสองคนนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปลงกระบี่ ส่วนเพื่อนอีก 3 คนขับรถมาจากภูเก็ตเพื่อมาเที่ยวด้วยกัน โดยตอนแรกนัดแนะกันว่าถ้าอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใสจะนั่งเรือออกไปเที่ยวเกาะกัน เนื่องจากคราวที่แล้วที่ไปทัวร์ 4 เกาะ กันยังไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ เพราะพอถึงทะเลแหวกชื่นชมความสวยงามได้ไม่นาน อยู่ดีๆฝนเจ้ากรรมก็ดันตกลงมาซะอย่างนั้น ตอนนั่งเรือหัวโทงกลับลุ้นกันแทบแย่ เพราะฝนแรงมาก คลื่นก็สูงค่ะ
แต่พอถึงวันเดินทางจริงๆ ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สภาพอากาศก็ไม่ได้ดีกว่าหนก่อนเท่าไหร่เลย แถมจะแย่กว่าซะด้วยซ้ำค่ะ ฝนนี่ชุ่มฉ่ำเชียว โปรแกรมที่นั่งเรือออกไปเที่ยวทะเล ไปถ่ายภาพเกาะปอดะแสนสวยในมโนเป็นอันต้องพับไป เพื่อนก็ถามนะคะว่าทำไมชวนมาเที่ยวกระบี่ทีไรต้องมาหน้าฝนทุกทีเลยเนี่ยยย เราก็เออ นั่นสิเนอะ ทำไมมาตอนช่วง Green Season ทุกที แต่ไหนๆก็มาแล้วต้องไม่ให้เสียเที่ยว ถึงฝนตกก็ต้องยังสนุกได้ ที่สำคัญเน้นกินและชิลล์ ของอร่อยต้องไม่พลาดตามสไตล์พวกเราค่ะ เลยเป็นที่มาของรีวิวนี้เดี๋ยวจะสรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวให้ตอนท้ายรีวิวนะคะ
ตอนนี้ตามไปเที่ยวด้วยกันก่อน
คิดถึงนะกระบี่
[CR] * ~ * ~ * เที่ยวกระบี่ Green Season งบ 3,000 ก็สนุก อิ่มอร่อยทุกมื้อได้ * ~ * ~ *
แต่พอถึงวันเดินทางจริงๆ ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สภาพอากาศก็ไม่ได้ดีกว่าหนก่อนเท่าไหร่เลย แถมจะแย่กว่าซะด้วยซ้ำค่ะ ฝนนี่ชุ่มฉ่ำเชียว โปรแกรมที่นั่งเรือออกไปเที่ยวทะเล ไปถ่ายภาพเกาะปอดะแสนสวยในมโนเป็นอันต้องพับไป เพื่อนก็ถามนะคะว่าทำไมชวนมาเที่ยวกระบี่ทีไรต้องมาหน้าฝนทุกทีเลยเนี่ยยย เราก็เออ นั่นสิเนอะ ทำไมมาตอนช่วง Green Season ทุกที แต่ไหนๆก็มาแล้วต้องไม่ให้เสียเที่ยว ถึงฝนตกก็ต้องยังสนุกได้ ที่สำคัญเน้นกินและชิลล์ ของอร่อยต้องไม่พลาดตามสไตล์พวกเราค่ะ เลยเป็นที่มาของรีวิวนี้เดี๋ยวจะสรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวให้ตอนท้ายรีวิวนะคะ
ตอนนี้ตามไปเที่ยวด้วยกันก่อน คิดถึงนะกระบี่