ภนฺเต, อาวุโส ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง ?

บทที่ 1
โดยหลักธรรมชาติทั่วไปแล้ว เวลาที่เราจะใช้ของสิ่งใด
เราต้องรู้ข้อบ่งใช้ของสิ่งนั้นเสียก่อนว่าใช้สำหรับทำอะไร ใช้ในกาลไหน จึงจะถูกต้อง
มิฉะนั้นแล้ว จะถูกนำไปใช้ผิดกับวัตถุประสงค์ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร หรือก็เกิดแต่น้อยที่สุด

วันนี้ผมอยากจะพูดถึง ศัพท์ 2 ศัพท์ คือ ภนฺเต และ อาวุโส ที่ปัจจุบันใช้กันดาดดื่น
โดยเฉพาะท่านที่ใช้ตามวัดนาป่าพง ก็จะใช้คำนี้เรียกพระตามลำดับพรรษา
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการเรียก พระภิกษุด้วยกันตามพระพุทธเจ้าตรัสไว้

ประการแรก
ข้อที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ให้เรียกผู้มีพรรษาน้อยว่า อาวุโส
เรียกผู้มีพรรษามากกว่าว่า ภนฺเต นั้น
ข้อนี้ตรัสไว้โดยชอบแล้ว กระผมขอน้อมรับด้วยเศียรเกล้า

โดยหลักการทางภาษาบาลี การจะใช้ศัพท์ใด
เราต้องรู้ว่า ศัพท์นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อย่างไรเสียก่อน
ต้องรู้ก่อนว่าศัพท์นั้น คือ ศัทพ์ชนิดใด
เพราะมิฉะนั้นแล้ว จะถูกนำไปใช้ผิด

ภนฺเต และ อาวุโส เรียกว่า นิบาตบอกอาลปนะ
ซึ่งแปลว่า แนะ, ดูก่อน/ดูกร, ข้าแต่ เช่น ข้าแต่ท่านผู้เจริญ แน่ะผู้มีอายุ,
ดูก่อน/ดูกรท่านผู้มีอายุ/ทั้งหลาย เป็นต้น

หลักการใช้อาลปนะที่ถูกต้อง คือ ใช้เมื่อเราต้องการสนทนากับผู้ใดฺแล้วเรียกบุคคลนั้น
เช่น ภนฺเต ในประโยคดังนี้ สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ "สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ เอวํ วเทสีติ.

"สจฺจํ ภนฺเตติ. แปลว่า พระศาสดารับสั่งให้เรียกภิกษุนั้นมา
แล้วตรัสถามว่า
ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่า เธอกล่าวเช่นนั้น จริงหรือ ?

ภิกษุนั้นกราบทุลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์กล่าวเช่นนั้น จริง (หรือจะแปลว่า จริงพระเจ้าข้า เช่นนี้ก็ได้)

ตัวอย่างการใช้ อาวุโส เช่น

อิตโร ตํ ภิกฺขํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตกาเล อาห "อาวุโส สีลํ เต ภินฺนนฺติ.

แปลว่า ภิกษุนอกนี้ได้กล่าวกะภิกษุนั้นในเวลาที่มาสู่สำนักของตนว่า "ท่านผู้มีอายุ ศีลของท่าน ขาดแล้ว ฯ

สิ่งที่วัดนาป่าพงใช้คำ ภนฺเต และ อาวุโส ผิด
เพราะเข้าใจว่า 2 ศัพท์นี้เป็นสรรพนาม

เวลาใช้ จึงใช้เรียกบุคคลที่ไม่ได้สนทนาด้วย

คือ เมื่อพูดถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้สนทนาด้วยก็ใช้ ภนฺเต อาวุโส เช่น อาวุโสมาร์ค ภันเตโต เป็นต้น

ทั้งที่สองคนนี้ไม่ได้คุยด้วยเลย แต่อยู่อีกสถานที่หนึ่ง
การใช้แบบนี้ ถือว่าใช้ผิดหลักภาษาบาลี

2 ศัพท์นี้ ใช้เฉพาะกับบุคคลที่เราสนทนาด้วยเท่านั้น
ไม่ใช้ในฐานะที่เป็นสรรพนาม

เพราะศัพท์ที่ใช้ในฐานะสรรพนามตามภาษาบาลีนั้นมีจัดไว้ต่างหาก
อาทิ ต ศัพท์(ถ้าไม่ได้เรียนก็จะงง)

ดังนั้น เมื่อจะพูดถึงบุคคลที่ 3 จะไม่ใช้ นิบาตอาปลนะ
เพราะ อาลปนะ คือ คำเรียก ใช้สำหรับเรียกบุคคลที่เราสนทนาด้วยเท่านั้น

ท่านพระคึกฯ ไม่เคยเรียนภาษาบาลี
จึงไม่เข้าใจวิธีการใช้ศัพท์ 2 ศัพท์นี้
ลูกศิษย์ท่านก็พลอยนำไปใช้ผิดด้วย
และถูกนำไปใช้จนดาดดื่น
คลาดเคลื่อนผิดไปจากพุทธประสงค์ของพระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้โดยชอบแล้ว
โดยเฉพาะสำหรับท่านที่อ้างว่า "ทำตามพุทธวจน" ยิ่งทำให้ผิดมากยิ่งขึ้น
ผิดอย่างไร .... อ่านต่อบทที่ 2 ครับ

ที่มา  .https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=458208917672208&id=444879189005181&fref=nf
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่