**** กระทู้นี้ ตั้งเพื่อแชร์ชีวิตหลังจบปริญญา และเริ่มเป็นมนุษย์เงินเดือน ยาวไปสักนิดเนอะ ****
วันนี้ว่างนั่งเข้ากระทู้อ่านนู้น ดูนี่ไปเรื่อย แล้วเหลือบเห็นวันที่ เหยยยยยย นี่จะครบ 1 ปีที่รับปริญญามาแล้วนี่หว่าา
ชีวิตช่างรวดเร็วอย่างนี่แหละเนอะ TT
เลยคิดย้อนกลับไปดู ...แล้วปีที่ผ่านมาได้อะไรมาบ้างล่ะ?
.
.
.
อย่างแรก แน่ละ ประสบการณ์ทำงานไงละคะ!
เอาจริงๆตอนเรียนอยู่ก็ทำงานนะ สอนพิเศษ ทำงานร้านกาแฟ บลา บลา บลา ก็ว่าไป แต่มันก็ไม่เหมือนทำงานจริงๆไง เข้าใจฟีลป้ะ
ไอ้ที่ต้องตื่นเช้ามาอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัว นั่งรถไปบริษัท ทำงาน พักเที่ยง ทำงาน นั่งรถกลับหอ อาบน้ำ นอน 6 วัน/สัปดาห์ มันเหนื่อยนะ!!
เหนื่อยแล้วไงล่ะ ก็ต้องทำไง ไม่ทำงาน ก็ไม่มีเงินนะ นี่แหละชีวิต
เข้าเรื่องสิ เข้าเรื่อง
Q : ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่
A : เลขา
Q : จบอะไรมาถึงมาเป็นเลขา
A : ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเลขาสักนิดหรอก TT
Q : แล้วทำไมมาทำงานนี้ล่ะ
A : ชอบทำงานหลายๆอย่าง ไม่จำเจ ทำแบบเดิมทุกวันๆ มันน่าเบื่อนะ แต่เอาจริงๆคือ กดส่งใบสมัครไปสามสี่ที่ ที่นี่เป็นที่ที่ 2 ที่เรียกสัมภาษณ์ แล้วเขารับ ก็ทำเลย
Q : เลขาทำอะไรบ้าง
A : อย่านะ อย่าได้คิดว่าเลขาจะได้นั่งสวยๆ ยิ้มหวานๆไปวันๆ บางทีเห็นนั่งว่างๆเนี่ย มันไม่ว่างนะจะบอก
ชีวิตเลขามีอย่างเดียวที่ต้องทำ คือ.... ทำได้ทุกอย่างที่เจ้านายสั่ง! ไม่ง่ายนะยู ไอ่ที่เขาบอกมาบางอย่างเนี้ย เดินออกจากห้องเจ้านาย แล้วมานั่งงงๆอยู่ที่โต๊ะ เฮ้ยย แล้วนี่ (กรู) จะทำยังไง (ฟะ)
เพราะฉะนั้น ทำงานนี้ ได้สกิลการต่อรอง และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามาเยอะมาก แต่สารภาพเถอะ ทำมาปีนึงแล้ว ยังอ่อนด๋อยอยู่เลยง่ะ TT
นอกจากนั้นนน เมื่อปวดหัวจากการทำงานแล้ว ยังจะต้องเจอคนอีกค่ะ คนผู้มากจากทั่วสารทิศ ร้อยพ่อพันแม่ ความน่าปวดหัวก็อยู่ตรงนี้แหละ มีเพื่อนหลายคนบอกว่า ฉันโอเคกับงานนะแก แต่ฉันไม่โอเคกับคนว่ะ โอเค เราเข้าใจ แต่คิดงี้สิ นั่นก็ทำให้เราเก่งขึ้นด้วยนะ
เอาเป็นว่า เรื่องงานตอนนี้ยังไม่มีอะไรมาก ทำงานนู้น นี่ นั่น ไปเรื่อยๆ สนุกดี ยังแฮปปี้มากๆอยู่ ^^
อย่างที่ 2 มีงานแล้วก็มีเงินสิคะ !
ยินดีต้อนรับสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือน อย่างที่บอกไปแล้วว่าตอนเรียนก็มีทำงานพิเศษอยู่เรื่อยๆ นั่นทำให้รู้ว่า งานพิเศษเนี้ย มันทำงานนะ ใช้เวลาแปบเดียว ได้เงินตั้งเยอะ แต่....มันไม่แน่นอนเลยอ่ะ บ่อยๆที่เราใช้เงินส่วนอื่นไป เพื่อซื้อของที่อยากได้ เพราะคิดว่า เฮ้ย เดี๋ยววันนั้นทำงานก็ได้เงินแล้ว แต่โดนแคนเซิล ตายๆ พังๆ จะเอาเงินไหนกินละเนี้ยยย
เพราะงั้น เราอาจจะคิดสวนทางกับหลายๆคนนะ เราคิดว่า บางทีการเป็นมนุษย์เงินเดือน มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยๆ สิ้นเดือนก็มีเงินเข้ามาแน่ๆแหละ
Q : แล้วตอนนี้เงินเดือนพอใช้มั้ย
A : พอใช้ แต่ไม่พอเก็บ 55555
ก็แหมมม จบปริญญาตรี เงินเดือนมันจะได้สักเท่าไหร่กันล่ะคะ ทางออกทำยังไงล่ะ? ก็กลับไปสอนพิเศษไง TT
นอกจากเหตุผลที่ว่า ได้เงินไม่พอเก็บแล้ว อีกเหตุผลที่กลับไปสอนพิเศษเพราะ ถึงแม้ว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนจะดูมั่นคงแล้ว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าวันนึงโดนให้ออกล่ะ จะเอาจากไหนกิน การหาเงินให้มากกว่า 1 ทางก็เผื่อตรงนี้แหละ
Q : แล้วเอาเวลาตอนไหนไปสอนพิเศษ
A : วันอาทิตย์ไงคะ
Q : งั้นก็ไม่มีวันหยุดเลยอ่ะสิ
A : ถูก TT ชีวิตนี้ทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ค่ะ
ใครที่โอดครวญกับการทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ให้ดีใจเลยค่ะ ยังมีนี่ที่ทำงานทุกวันอยู่ตรงนี้ ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยสิ!! ถามได้ แต่คิดงี้นะ เราเหนื่อยตอนนี้ ตอนที่เรายังมีแรงทำ มันก็ดีกว่าเราต้องเหนื่อยตอนที่เราไม่มีแรงแล้วไม่ใช่หรอ?
ชีวิตคนมันไม่มีสูตรสำเร็จค่ะ คนนั้นทำแบบนั้นแล้วรวย เราทำอาจจะไม่ คนนี้ทำแบบโน้นแล้วประสบความสำเร็จ เราทำอาจจะไม่ เราทำแบบนี้แล้วมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ
Q : งี้ก็มีเงินเยอะ เงินเก็บเยอะแน่ๆเลยดิ
A : ตอนนี้มีเงินเก็บ 15,000 บาทถ้วนค่ะ 55555
ทำไมได้แค่นี้? เราเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ค่ะ มีจะใช้หมด เพราะฉะนั้นเลยต้องเป็นให้มันใช้ยากๆหน่อย
ที่นี้ มาดูที่ใช้ไปแต่ละเดือนสิ
- พอเงินเดือนออกมา อย่างแรกเลยคือ โอนให้แม่ 10,000 บาท เป็นที่เราให้แม่ 6,000 บาท (พ่อกับแม่กระเป๋าเดียวกัน ที่บอกโอนให้แม่คือ ชื่อบัญชีเป็นชื่อแม่ แต่เอทีเอ็มอยู่กับพ่อค่ะ 555) ส่วนอีก 4,000 เป็นค่าแชร์ของเราค่ะ
ทำไมถึงเล่นแชร์? ดอกมันสูงมากนะยู แต่ก็แลกมากับความเสี่ยงสูงมากเหมือนกัน เราเล่นเพื่อเก็บเงินค่ะ เพราะฉะนั้นจะไม่เปีย รอจนเขาจับฉลากนั้นแหละ คาดว่าส่งหมดน่าจะได้ห้าหมื่นกว่าบาทอยู่นะ
- ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซักรีด เบ็ดเสร็จ 4,000 บาท บวกลบนิดหน่อย ทำไมต้องเสียค่าซักรีด ทำเองดีกว่ามั้ย? คำตอบคือ ขี้เกียจค่ะ 555555
- ค่าเดินทางไปทำงาน รถโรงงาน ฟรีฮะ อิอิ (เคยตื่นไม่ทันอยู่ 2 วัน แท๊กซี่โล้ด 5555)
- ค่ากิน ตอนเช้ากินกราโน่ลาแบรนด์นึง ตอนกลางวันกินที่โรงงาน ตอนเย็นซื้อกิน แต่ก็กินบ้างไม่กินบ้าง เบ็ดเสร็จค่ากิน เดือนละ 4,000 โดยประมาณ
- ค่าโทรศัพท์ เดือนละ 700+
รวมเงินที่ต้องง่ายแน่ๆ ประมาณ 19,000 บาทต่อเดือน ซึ่ง...เงินเดือนไม่พอ
เราจัดการตัวเองแบบนี้ค่ะ
พอเงินเดือนออก กด 15,000 บาท โอนให้แม่ จ่ายค่าห้องและค่าโทรศัพท์ เงินที่เหลือก็ค้างไว้ เมื่อได้พอจะซื้อเงินตปท. ก็ถอนไปซื้อ
ส่วนค่ากินและอื่นๆที่อยากได้ ก็เอาจากที่สอนพิเศษได้ค่ะ สอนได้เท่าไหร่ก็ต้องใช้ให้พอ อ่อ ก่อนจะใช้ หยอดกระปุกหมูไว้ไปเที่ยว 500 ด้วยนะ
อย่างที่ 3 ภาษา
ตอนเรียนง่อยภาษาอังกฤษมาก พูดเลย แกรมม่า อ่าน ก็พอได้นะ แต่พูดกับฟังนี่ไม่กระดิกเลยให้ตายเถอะ แล้วทำงาน อีเมลก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ วันดีคืนดี มีสายลูกค้าจากต่างประเทศโทรมาอี๊กก ร้องไห้ไปสิ
ทำไงดี เอาไงๆ
เฮ้ยย เขาบอกว่า ดูซี่รีย์ฝรั่งช่วยได้นะ
อะลองดู ซื้อซีรีส์มาดูจ้า
ตอนนี้กลับถึงห้อง อาบน้ำเรียบร้อย เปิดซีรี่ส์ กระโดดขึ้นเตียง ดูไป (ดูเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ซับไทย) อย่างน้อย 3 ตอน ไม่ครบห้ามนอน บางวันดูเพลินก็จนแผ่นพอดี เฮ้!
ภาษาดีขึ้นมั้ย?? ก็ฟังได้เยอะขึ้นนะ
อย่างที่ 4 โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ และ ทะเล
เอาโทรศัพท์มือถือก่อน ด้วยความที่เครื่องเก่าใช้มา 4 ปี แล้วนางอยากพัก นางเลยช็อตตัวเอง เปิดไม่ติด ก็แบบ เออ..ซื้อใหม่ก็ได้ พักๆไปไป๊
เลยก็ไปได้เครื่องใหม่มา สองหมื่นห้ากว่าๆ ตอนจ่ายนี่น้ำตาจะไหล แต่ก็นั่นแหละ ก็ไม่ได้ซื้อกันบ่อยๆอ่ะนะ
ส่วนทะเล เป็นความอยากส่วนตัวที่ไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลกว่าชะอำ ต้นปีมีโปรนกแอร์เลยจัดไป! หิ้วน้องชายสุดที่รักไปด้วย โดยมีคุณแม่เป็นผู้สนับสนุนตั๋วขาไป นอกนั้นหรอ...จ่ายเองสิคะ โดนไปอีกหมื่นกว่า น้ำตามาจากไหน TT
สองอย่างนี้ ถือเป็นรางวัลจากการทำงานของเราค่ะ ไม่ต้องมาก แค่อย่าง สองอย่างก็พอแล้ว
อย่างสุดท้าย น้ำหนัก!!!
ทำงานไปได้สักพัก พี่ที่ทำงานเริ่มถาม อ้วนขึ้นมั้ย ก็ยังเฉยๆ กลับบ้าน ญาติถาม กินเยอะหรอช่วงนี้ ก็ยังชิลๆ ชั่งน้ำหนักเท่านั้นแหละ
.
.
.
63 !! OH MY GOD!!
.
.
.
ชีวิตไม่เคยน้ำหนักเกิน 60 นี่มันวิกฤตชัดๆ
ด่วนเลย ฟิตเนตด่วนๆ
การควบคุมอาหาร และ เข้าฟิตเนตสัปดาห์นึงอย่างน้อย 3 วันก็ตามมาด้วยประการฉะนี้แล (ต้องเสียค่าฟิตเนต เพราะถ้าไม่เสียตัง จะขี้เกียจค่ะ TT)
หมดละ
1 ปีผ่านไป ได้มาแค่นี้แหละ
.
.
.
หืมม อะไรนะ??
.
.
.
ผู้ชายหรอ???????
.
.
.
คิดว่าใช้ชีวิตแบบนี้ จะมีผู้ชายที่ไหนเข้ามาละคะ ตอบ!!
ล้องห้ายหนักมาก TT
ทำงานมา 1 ปี ได้อะไรมาบ้าง?
วันนี้ว่างนั่งเข้ากระทู้อ่านนู้น ดูนี่ไปเรื่อย แล้วเหลือบเห็นวันที่ เหยยยยยย นี่จะครบ 1 ปีที่รับปริญญามาแล้วนี่หว่าา
ชีวิตช่างรวดเร็วอย่างนี่แหละเนอะ TT
เลยคิดย้อนกลับไปดู ...แล้วปีที่ผ่านมาได้อะไรมาบ้างล่ะ?
.
.
.
อย่างแรก แน่ละ ประสบการณ์ทำงานไงละคะ!
เอาจริงๆตอนเรียนอยู่ก็ทำงานนะ สอนพิเศษ ทำงานร้านกาแฟ บลา บลา บลา ก็ว่าไป แต่มันก็ไม่เหมือนทำงานจริงๆไง เข้าใจฟีลป้ะ
ไอ้ที่ต้องตื่นเช้ามาอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัว นั่งรถไปบริษัท ทำงาน พักเที่ยง ทำงาน นั่งรถกลับหอ อาบน้ำ นอน 6 วัน/สัปดาห์ มันเหนื่อยนะ!!
เหนื่อยแล้วไงล่ะ ก็ต้องทำไง ไม่ทำงาน ก็ไม่มีเงินนะ นี่แหละชีวิต
เข้าเรื่องสิ เข้าเรื่อง
Q : ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่
A : เลขา
Q : จบอะไรมาถึงมาเป็นเลขา
A : ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเลขาสักนิดหรอก TT
Q : แล้วทำไมมาทำงานนี้ล่ะ
A : ชอบทำงานหลายๆอย่าง ไม่จำเจ ทำแบบเดิมทุกวันๆ มันน่าเบื่อนะ แต่เอาจริงๆคือ กดส่งใบสมัครไปสามสี่ที่ ที่นี่เป็นที่ที่ 2 ที่เรียกสัมภาษณ์ แล้วเขารับ ก็ทำเลย
Q : เลขาทำอะไรบ้าง
A : อย่านะ อย่าได้คิดว่าเลขาจะได้นั่งสวยๆ ยิ้มหวานๆไปวันๆ บางทีเห็นนั่งว่างๆเนี่ย มันไม่ว่างนะจะบอก
ชีวิตเลขามีอย่างเดียวที่ต้องทำ คือ.... ทำได้ทุกอย่างที่เจ้านายสั่ง! ไม่ง่ายนะยู ไอ่ที่เขาบอกมาบางอย่างเนี้ย เดินออกจากห้องเจ้านาย แล้วมานั่งงงๆอยู่ที่โต๊ะ เฮ้ยย แล้วนี่ (กรู) จะทำยังไง (ฟะ)
เพราะฉะนั้น ทำงานนี้ ได้สกิลการต่อรอง และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามาเยอะมาก แต่สารภาพเถอะ ทำมาปีนึงแล้ว ยังอ่อนด๋อยอยู่เลยง่ะ TT
นอกจากนั้นนน เมื่อปวดหัวจากการทำงานแล้ว ยังจะต้องเจอคนอีกค่ะ คนผู้มากจากทั่วสารทิศ ร้อยพ่อพันแม่ ความน่าปวดหัวก็อยู่ตรงนี้แหละ มีเพื่อนหลายคนบอกว่า ฉันโอเคกับงานนะแก แต่ฉันไม่โอเคกับคนว่ะ โอเค เราเข้าใจ แต่คิดงี้สิ นั่นก็ทำให้เราเก่งขึ้นด้วยนะ
เอาเป็นว่า เรื่องงานตอนนี้ยังไม่มีอะไรมาก ทำงานนู้น นี่ นั่น ไปเรื่อยๆ สนุกดี ยังแฮปปี้มากๆอยู่ ^^
อย่างที่ 2 มีงานแล้วก็มีเงินสิคะ !
ยินดีต้อนรับสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือน อย่างที่บอกไปแล้วว่าตอนเรียนก็มีทำงานพิเศษอยู่เรื่อยๆ นั่นทำให้รู้ว่า งานพิเศษเนี้ย มันทำงานนะ ใช้เวลาแปบเดียว ได้เงินตั้งเยอะ แต่....มันไม่แน่นอนเลยอ่ะ บ่อยๆที่เราใช้เงินส่วนอื่นไป เพื่อซื้อของที่อยากได้ เพราะคิดว่า เฮ้ย เดี๋ยววันนั้นทำงานก็ได้เงินแล้ว แต่โดนแคนเซิล ตายๆ พังๆ จะเอาเงินไหนกินละเนี้ยยย
เพราะงั้น เราอาจจะคิดสวนทางกับหลายๆคนนะ เราคิดว่า บางทีการเป็นมนุษย์เงินเดือน มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยๆ สิ้นเดือนก็มีเงินเข้ามาแน่ๆแหละ
Q : แล้วตอนนี้เงินเดือนพอใช้มั้ย
A : พอใช้ แต่ไม่พอเก็บ 55555
ก็แหมมม จบปริญญาตรี เงินเดือนมันจะได้สักเท่าไหร่กันล่ะคะ ทางออกทำยังไงล่ะ? ก็กลับไปสอนพิเศษไง TT
นอกจากเหตุผลที่ว่า ได้เงินไม่พอเก็บแล้ว อีกเหตุผลที่กลับไปสอนพิเศษเพราะ ถึงแม้ว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนจะดูมั่นคงแล้ว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าวันนึงโดนให้ออกล่ะ จะเอาจากไหนกิน การหาเงินให้มากกว่า 1 ทางก็เผื่อตรงนี้แหละ
Q : แล้วเอาเวลาตอนไหนไปสอนพิเศษ
A : วันอาทิตย์ไงคะ
Q : งั้นก็ไม่มีวันหยุดเลยอ่ะสิ
A : ถูก TT ชีวิตนี้ทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ค่ะ
ใครที่โอดครวญกับการทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ให้ดีใจเลยค่ะ ยังมีนี่ที่ทำงานทุกวันอยู่ตรงนี้ ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยสิ!! ถามได้ แต่คิดงี้นะ เราเหนื่อยตอนนี้ ตอนที่เรายังมีแรงทำ มันก็ดีกว่าเราต้องเหนื่อยตอนที่เราไม่มีแรงแล้วไม่ใช่หรอ?
ชีวิตคนมันไม่มีสูตรสำเร็จค่ะ คนนั้นทำแบบนั้นแล้วรวย เราทำอาจจะไม่ คนนี้ทำแบบโน้นแล้วประสบความสำเร็จ เราทำอาจจะไม่ เราทำแบบนี้แล้วมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ
Q : งี้ก็มีเงินเยอะ เงินเก็บเยอะแน่ๆเลยดิ
A : ตอนนี้มีเงินเก็บ 15,000 บาทถ้วนค่ะ 55555
ทำไมได้แค่นี้? เราเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ค่ะ มีจะใช้หมด เพราะฉะนั้นเลยต้องเป็นให้มันใช้ยากๆหน่อย
ที่นี้ มาดูที่ใช้ไปแต่ละเดือนสิ
- พอเงินเดือนออกมา อย่างแรกเลยคือ โอนให้แม่ 10,000 บาท เป็นที่เราให้แม่ 6,000 บาท (พ่อกับแม่กระเป๋าเดียวกัน ที่บอกโอนให้แม่คือ ชื่อบัญชีเป็นชื่อแม่ แต่เอทีเอ็มอยู่กับพ่อค่ะ 555) ส่วนอีก 4,000 เป็นค่าแชร์ของเราค่ะ
ทำไมถึงเล่นแชร์? ดอกมันสูงมากนะยู แต่ก็แลกมากับความเสี่ยงสูงมากเหมือนกัน เราเล่นเพื่อเก็บเงินค่ะ เพราะฉะนั้นจะไม่เปีย รอจนเขาจับฉลากนั้นแหละ คาดว่าส่งหมดน่าจะได้ห้าหมื่นกว่าบาทอยู่นะ
- ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซักรีด เบ็ดเสร็จ 4,000 บาท บวกลบนิดหน่อย ทำไมต้องเสียค่าซักรีด ทำเองดีกว่ามั้ย? คำตอบคือ ขี้เกียจค่ะ 555555
- ค่าเดินทางไปทำงาน รถโรงงาน ฟรีฮะ อิอิ (เคยตื่นไม่ทันอยู่ 2 วัน แท๊กซี่โล้ด 5555)
- ค่ากิน ตอนเช้ากินกราโน่ลาแบรนด์นึง ตอนกลางวันกินที่โรงงาน ตอนเย็นซื้อกิน แต่ก็กินบ้างไม่กินบ้าง เบ็ดเสร็จค่ากิน เดือนละ 4,000 โดยประมาณ
- ค่าโทรศัพท์ เดือนละ 700+
รวมเงินที่ต้องง่ายแน่ๆ ประมาณ 19,000 บาทต่อเดือน ซึ่ง...เงินเดือนไม่พอ
เราจัดการตัวเองแบบนี้ค่ะ
พอเงินเดือนออก กด 15,000 บาท โอนให้แม่ จ่ายค่าห้องและค่าโทรศัพท์ เงินที่เหลือก็ค้างไว้ เมื่อได้พอจะซื้อเงินตปท. ก็ถอนไปซื้อ
ส่วนค่ากินและอื่นๆที่อยากได้ ก็เอาจากที่สอนพิเศษได้ค่ะ สอนได้เท่าไหร่ก็ต้องใช้ให้พอ อ่อ ก่อนจะใช้ หยอดกระปุกหมูไว้ไปเที่ยว 500 ด้วยนะ
อย่างที่ 3 ภาษา
ตอนเรียนง่อยภาษาอังกฤษมาก พูดเลย แกรมม่า อ่าน ก็พอได้นะ แต่พูดกับฟังนี่ไม่กระดิกเลยให้ตายเถอะ แล้วทำงาน อีเมลก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ วันดีคืนดี มีสายลูกค้าจากต่างประเทศโทรมาอี๊กก ร้องไห้ไปสิ
ทำไงดี เอาไงๆ
เฮ้ยย เขาบอกว่า ดูซี่รีย์ฝรั่งช่วยได้นะ
อะลองดู ซื้อซีรีส์มาดูจ้า
ตอนนี้กลับถึงห้อง อาบน้ำเรียบร้อย เปิดซีรี่ส์ กระโดดขึ้นเตียง ดูไป (ดูเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ซับไทย) อย่างน้อย 3 ตอน ไม่ครบห้ามนอน บางวันดูเพลินก็จนแผ่นพอดี เฮ้!
ภาษาดีขึ้นมั้ย?? ก็ฟังได้เยอะขึ้นนะ
อย่างที่ 4 โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ และ ทะเล
เอาโทรศัพท์มือถือก่อน ด้วยความที่เครื่องเก่าใช้มา 4 ปี แล้วนางอยากพัก นางเลยช็อตตัวเอง เปิดไม่ติด ก็แบบ เออ..ซื้อใหม่ก็ได้ พักๆไปไป๊
เลยก็ไปได้เครื่องใหม่มา สองหมื่นห้ากว่าๆ ตอนจ่ายนี่น้ำตาจะไหล แต่ก็นั่นแหละ ก็ไม่ได้ซื้อกันบ่อยๆอ่ะนะ
ส่วนทะเล เป็นความอยากส่วนตัวที่ไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลกว่าชะอำ ต้นปีมีโปรนกแอร์เลยจัดไป! หิ้วน้องชายสุดที่รักไปด้วย โดยมีคุณแม่เป็นผู้สนับสนุนตั๋วขาไป นอกนั้นหรอ...จ่ายเองสิคะ โดนไปอีกหมื่นกว่า น้ำตามาจากไหน TT
สองอย่างนี้ ถือเป็นรางวัลจากการทำงานของเราค่ะ ไม่ต้องมาก แค่อย่าง สองอย่างก็พอแล้ว
อย่างสุดท้าย น้ำหนัก!!!
ทำงานไปได้สักพัก พี่ที่ทำงานเริ่มถาม อ้วนขึ้นมั้ย ก็ยังเฉยๆ กลับบ้าน ญาติถาม กินเยอะหรอช่วงนี้ ก็ยังชิลๆ ชั่งน้ำหนักเท่านั้นแหละ
.
.
.
63 !! OH MY GOD!!
.
.
.
ชีวิตไม่เคยน้ำหนักเกิน 60 นี่มันวิกฤตชัดๆ
ด่วนเลย ฟิตเนตด่วนๆ
การควบคุมอาหาร และ เข้าฟิตเนตสัปดาห์นึงอย่างน้อย 3 วันก็ตามมาด้วยประการฉะนี้แล (ต้องเสียค่าฟิตเนต เพราะถ้าไม่เสียตัง จะขี้เกียจค่ะ TT)
หมดละ
1 ปีผ่านไป ได้มาแค่นี้แหละ
.
.
.
หืมม อะไรนะ??
.
.
.
ผู้ชายหรอ???????
.
.
.
คิดว่าใช้ชีวิตแบบนี้ จะมีผู้ชายที่ไหนเข้ามาละคะ ตอบ!!
ล้องห้ายหนักมาก TT