นิยายเซต 'เบญจมรณา'
เป็นเซตที่ประกอบนิยายด้วยกัน 5 เล่ม
เรื่องราวไม่ต่อกัน ไม่เชื่อมโยงถึงหากัน แต่แนวจะคล้าย ๆ กันครับ
นั้นก็คือ สยองขวัญ - ย้อนอดีต อาจจะมีสืบสวนสอบสวนบางเรื่องประปราย ตามแนวหนังสือผีเนอะ ที่ต้องสืบว่าใครอยู่เบื้องหลัง
แน่นอนล่ะครับ ว่าช่อง 7 ซื้อเซตนี้มาทำละคร
ในความรู้สึกของผม โคตรดีใจเลย ที่ช่องซื้อเซตนี้ และคิดว่าช่องคิดไม่ผิดที่ซื้อเซตนี้มา
เพราะเซตนี้มันสนุกมากกกก ถึงแนวจะคล้าย ๆ กัน แต่เรื่องแต่ละเรื่อง ก็ไม่ซ้ำทางกันเลย
แต่มีอยู่หนึ่งเรื่องในเซตนี้ ที่ผมรู้สึกเฉย ๆ เพราะเนื้อเรื่องเดิม ๆ
ไม่หวือหวา เหมือน 4 เรื่องที่เหลือ ซึ่งนั่นเป็นความท้าทายของคนเขียนบทโทรทัศน์เลยก็ว่าได้
เพราะโครงเรื่องแล้ว มันไม่มีอะไรเลยจริง ๆ เดี๋ยวผมจะบอกตอนท้าย ๆ นะครับ ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องอะไร
เรื่องที่ 1
'บ่วงสไบ' บทประพันธ์ : ภาคินัย
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มนุษย์เราเกิดมาหาได้มีบุญวาสนาเท่าเทียมกันไม่
ดังเช่น พุดจีบ ลูกของ คุณหลวงนฤเดช ซึ่งมีทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา
ผิดกับ แก้ว ลูกเมียทาสที่คุณหลวงหาได้ยอมรับไม่
ความลับที่ไม่เป็นความลับ เป็นสาเหตุให้ นางอิ่ม แม่ของแก้วถูกเฆี่ยนจนตาย
ลูกนางทาสเก็บความแค้นฝังใจ สักวันจะต้องได้ทุกอย่างมาเป็นของตน!
เรื่องอับ - ปรีย์บังเกิด เมื่อพุดจีบแอบลักลอบได้เสียกับ นายมิ่ง ทาสชั้นต่ำ
ซ้ำร้าย คุณเทพ ลูกบุญธรรมที่เรียนจบจากเมืองนอก ดันไปคว้าแก้วมาทำเมีย
เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น สร้างความอับอายมาสู่ครอบครัว จนเกิดโศกนาฏกรรม
พุดจีบโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุนั้น ก่อนจะพบศพเธอใช้ผ้าสไบผูกคอตายที่ต้นจำปี
วิญญาณของเธอยังวนเวียน บ่วงความแค้นยังพันผูก รอคอยการ ‘สะสาง’
กูจักมิปล่อยวาง ‘ความแค้น’ที่สร้าง จักต้อง ‘ทวงคืน!’
บ่วงรัก...พันผูก...ปลูกเสน่หา
บ่วงกรรม...ชักพา...มาชิดใกล้
บ่วงเวร...เร่งเร้า...ร้อนดังไฟ
‘บ่วงสไบ’ผูกเงื่อนตาย...ไว้ที่ ‘เมิง!’
เรื่องที่ 2 'สาปสังคีต' บทประพันธ์ : เจนศิลป์
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การเปลี่ยนโจทย์เพลงที่จะใช้ประกวดในงานสังคีตศิลป์ถิ่นไทย
ทำให้ โฉมยงค์ ผู้ดูแลวงดนตรีของมหาวิทยาลัยต้องไปพบศิษย์เก่าอย่าง ยชญ์
เพื่อขอนำเพลง ‘พรายคลั่ง’ ที่ ครูพุก ตาทวดของยชญ์ประพันธ์ไว้มาใช้
วันหนึ่งโฉมยงค์ได้รับจดหมายปริศนาเตือนว่าห้ามยุ่งกับเพลงพรายคลั่ง
แต่หล่อนไม่เชื่อ กลับนำเพลงนี้มาร้องในคืนวันเพ็ญ ก่อนขาดใจตายในห้องดนตรีไทย!
ต่อมา พวงแพร นักร้องสาวของวงก็ตายคาเวทีประกวดขณะร้องเพลงพรายคลั่ง
สองสาวตายด้วยลักษณะอาการเดียวกัน คือมีเลือดออกจากทวารทั้งเก้า
เงื่อนงำนี้ทำให้ เมญากร นักดนตรีซอสามสาย ต้องช่วยยชญ์ค้นหาคำตอบ
ทั้งคู่พบว่าคนที่แต่งบทร้องพรายคลั่ง แท้จริงไม่ใช่ครูพุก แต่เป็น ครูเทิด
ความลับที่ไม่เคยมีใครรู้คือเขาฝังความพยาบาทไว้ในบทเพลง
และบทเพลงนี้ หากใครรินำมาร้อง...มันต้องแลกด้วยความตาย!
ทางเดียวที่จะยับยั้งคำสาปได้ คือทำลายบทร้องพรายคลั่งให้สิ้นซาก
ไม่มีทางเลือก ยชญ์และเมญากรพยายามหาหนทางหยุดความตายที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
แต่แล้วจู่ ๆ กลับมีหญิงลึกลับขโมยบทร้องเพลงพรายคลั่งไปจากห้องดนตรี
ท่ามกลางความน่าสะพรึงที่ควรหลีกหนี...ไม่มีใครล่วงรู้ว่าหายนะครั้งนี้จะจบลงที่ใด!
เรื่องที่ 3 'วังนางโหง' บทประพันธ์ : เตมัน
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เบื้องหน้าของสายน้ำอาจสวยงาม แต่เบื้องล่างของมันนั้นอาจพรากชีวิต!
เหมือนกับที่มันพรากเอาชีวิตพ่อ พี่ชาย และน้องชายของ ทับ ไปอย่างไม่มีวันกลับ
พ่อของเขาเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาดบนเรือ
โดยก่อนตายได้เตือนลูกๆ เอาไว้ว่า ‘จงอยู่ห่างน้ำ ระวังนางโหง’
ทว่าในเวลาต่อมาทวน และ ทัน พี่ชายและน้องชายของเขาก็เสียชีวิตในน้ำกันทั้งคู่
จากนั้นเรื่องราวประหลาดมากมายก็เกิดขึ้น...
ทับมีลูกสาวสามคน…ดาริกา เป็นหญิงม่าย มีลูกชายชื่อ ดานุ
ดาราเกิดมาหน้าตาขี้ริ้วและเจ้าอารมณ์ ส่วน ดาเรศ เจ็บไข้ได้ป่วยมาตั้งแต่เด็ก
จนกระทั่งคืนหนึ่ง มีหมอหญิงนามว่าพิกุล เดินเข้ามาเพื่อรักษาดาเรศ
การมาถึงของหมอหญิงคนนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ดาริกาเข้าไปในบ้านของบรรพบุรุษ
บ้านเรือนไทยที่บิดาสั่งห้ามลูกหลานเอาไว้ว่า ห้ามกลับไปเด็ดขาด!
ขณะที่ดานุนั้น เขาฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด
ผู้หญิงรูปร่างบอบบางงดงามราวกับนางในวรรณคดี นั่งอยู่บนเรือลำน้อย
เธอลุกขึ้นร่ายระบำขอพรเทวดา เพื่อสาปแช่งให้ตระกูลชั่วช้าพบกับความตายและหายนะ!
ใครจะเชื่อว่า...เรือน้อยลำนั้นกำลังจะนำพาตัวเขากลับไปสู่วันวาน
ไปสู่อดีตกาลในท้องน้ำ...สถานที่ซึ่ง ‘ใครบางคน’เคยฝังร่างและดวงวิญญาณไว้
ที่นั่นเต็มไปด้วยแรงแค้นอันทุกข์ทรมานในหัวใจ...ยาวนานนับกว่าร้อยปี!
เรื่องที่ 4 'สิเน่หารอยคำ' บทประพันธ์ : อาพัชรินทร์
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วงศ์ตะวันนักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่แห่งวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว
ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินและบ้านเรือนเก่าๆ แบบล้านนาในเชียงใหม่
เพื่อสร้างโรงแรมแบบล้านนาประยุกต์ในหมู่บ้านวัวลายแหล่งหัตถกรรมเครื่องเงินชื่อดัง
เมื่อรู้ว่า เรือนปั้นหยา เป็นบ้านของสล่าสาละวิน ช่างทำเครื่องเงินในอดีต
ชายหนุ่มก็ตัดสินใจซื้อมาไว้ในครอบครองทันทีและเพียงวันแรกที่เข้าไปสำรวจนั้น...
เขาก็เจอ วิญญาณสาวชาวล้านนา ต่อมายังพบสลุง หรือขันเงินมากมายในนั้นอีก
น่าประหลาดเมื่อพบว่ารูปรอยสลักในสลุงที่ได้เห็นเป็นเรื่องเล่าของใครบางคนในอดีต
ทันทีที่ได้จับมัน วงศ์ตะวัน ก็ได้เห็นภาพนิมิตของเรื่องราว...
เรื่องราวที่ดุจดั่งตัวเองมีตัวตนอยู่ในภาพนั้น คล้ายภาพฝันทว่ามันก็เหมือนจริงเหลือเกิน
ด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเชิญ นีรา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลายสลุงมาตรวจสอบ
ทว่าเธอกลับเป็นคนหนึ่งในภาพวาดเหล่านั้นและยังเห็นนิมิตเช่นเดียวกับเขา!
ทั้งคู่เริ่มคิดตรงกันว่าภาพสลักในสลุงนั้นเป็นเหมือนเรื่องเล่าและคำสาป
เพื่อหาคำตอบและหนทางแก้ไข พวกเขาจึงต้องเอาสลุงออกมาดูให้หมด
แต่วงศ์ตะวันและนีราจะหลีกหนีคำสาปพวกนั้นได้อย่างไร...
เมื่อภาพสุดท้ายกลับเป็น ความตายของเขาและเธอ!
และเรื่องสุดท้าย เรื่องที่ 5 'ป้อมปางบรรพ์' บทประพันธ์ : เดือนสิงห์
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เข็มหอมถูกหลอกหลอนด้วยความฝันแปลกประหลาดมาตั้งแต่เด็ก
เธอหาคำตอบไม่ได้ กระทั่งวันที่ต้องติดตาม อินทนิล พี่สาวคนสวยไปทำงานต่างจังหวัด
ที่หมู่บ้านเล็กๆ อันเคยเป็นอาณาเขตของอาณาจักรโบราณ มีป้อมปราการที่ถูกลืมเลือน
และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับรักสามเศร้าของหนึ่งชายสองหญิงในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ความรักที่จบลงด้วยเลือดและน้ำตา คำสัญญาซึ่งถูกเลือนไปกับเวลาที่ผ่านเลย
ทั้งคู่ได้พบกับ แดนธรรม ที่นั่น...เขาคือชายหนุ่มที่เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างระหว่างสองพี่น้อง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่รู้ว่านั่นเป็นโชคชะตาหรือว่าความบังเอิญ ?
ทว่าเข็มหอมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่เป็นเหมือนพันธนาการในอดีต
หรือว่าความฝันนั้น คือความจริงที่เธอต้องรับรู้
คำสัญญาที่ติดค้างไว้ในวันวาน...อาจกำลังต้องการให้ชดใช้!
เมื่อ ใครบางคน รอคอยด้วยมั่นในสัญญาแห่งรัก
ใครอีกคนผูกจิตอาฆาตด้วยแรงพยาบาทจากรักที่ถูกหักหลัง
และ ใครคนหนึ่ง ต้องชดใช้เพื่อปลดปล่อยหัวใจรักที่ยึดมั่นมิคลอนคลาย
สัญญารักที่ผูกไว้ด้วยเลือด ความแค้น และความตาย จำต้องจบลงตรงจุดเริ่มต้น!
ได้ข่าวว่า ทางพอดีคำ จะทำเรื่องสาปสังคีต เป็นเรื่องแรกของเซตนี้ *ผิดถูกไม่ทราบขออภัยด้วยละกัน
ความชอบของผมในเซตนี้เรียงลำดับเลยนะครับ
1. บ่วงสไบ
2. สิเน่หารอยคำ
3. วังนางโหง
4. สาปสังคีต
5. ป้อมปางบรรพ์
บ่วงสไบ - วังนางโหง - สาปสังคีต พล็อตสนุกมาก ๆ อ่ะ
ปกติอ่านแต่ของภาคินัย เพิ่งมาได้อ่านของเตมันและเจนศิลป์ ซึ่งเขียนได้สนุกมาก ๆ
สิเน่หารอยคำ ถือเป็นนิยายเรื่องแรกของ อาพัชรินทร์เลยครับ ที่ผมหยิบยกขึ้นมาอ่าน อยากบอกว่า ผมประทับใจกับผลงานชิ้นนี้ของคุณอาพัชรินทร์มาก ๆ ครับ
มันได้ทั้งอารมณ์หลอนนิด ๆ ดราม่ามาเต็มกำลัง บวกผสมกับความรักโรแมนติกของพระนาง ที่สุดซึ้งและกินใจมาก ๆ ครับ
ในความรู้สึกของผมนะครับ อยากให้เก็บเอาไว้เป็นเรื่องสุดท้ายของซีรี่ส์ละคร เพราะมันดีงามจริง ๆ เรื่องนี้
ส่วนที่เฉย ๆ ที่ผมพูดไว้ตั้งแต่ตอนต้น ๆ เป็นเรื่อง ป้อมปางบรรพ์ ครับ
ผมอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเซตนี้เลยครับ ฮ่า ฮ่า
แต่ทำไม พล็อตมันเดิม ๆ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ธรรมดามาก ๆ ตัวละครก็ใช้เยอะ อย่างสิ้นเปลือง
พอคิดว่า เอามาเป็นละคร คนดูจะรู้สึกเบื่อ
เรื่องนี้อยากได้คุณแพรพริมามาเขียนบทละครให้นะครับ (หากพอดีคำทำเซตนี้ทั้งหมด) เพราะดูจากเพื่อนแพงแล้ว ที่บทประพันธ์มีความยาวเพียง 22 หน้า แต่ขยายเรื่องราว ได้สนุกสุด ๆ
ไม่แน่ เวอร์ชั่นละคร ป้อมปางบรรพ์ อาจจะสนุกสุดไปเลยก็ได้นะครับ ฮ่าฮ่า
แต่ขอชมเรื่องป้อมปางบรรพ์ในนิยายอย่างหนึ่งนะครับ คือความปกปิดไว้ข้างในของตัวละครบางตัว หรือบางตัวละครไม่ได้ปกปิดไว้ แต่เหมือนมันมีอะไรอยู่ข้างใน ซึ่งเราอยากรู้ เป็นจุดดีของเรื่องนี้ และตอนจบของเรื่องนี้ ก็แปลกไปกว่าเรื่องอื่น ซึ่งนักอ่านท่านหนึ่งบอกว่า ตอนจบเรื่องนี้ จบแบบงง ๆ
สำหรับผมก็งงเหมือนกัน แต่ชอบในความแปลกใหม่
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ ใครได้อ่านเซตนี้แล้วบ้างเอ่ย ชอบเรื่องไหนกันบ้าง
ส่วนใครที่ยังไม่อ่าน ก็อย่าลืมไปซื้อจับจองกันได้นะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
นิยายเซต 'เบญจมรณา' ที่ช่อง 7 ซื้อลิขสิทธิ์ไปทำละคร มีใครอ่านนิยายเรื่องไหนแล้วบ้าง ชอบเรื่องไหนที่สุด-น้อยสุด มาโหวตกัน
เป็นเซตที่ประกอบนิยายด้วยกัน 5 เล่ม
เรื่องราวไม่ต่อกัน ไม่เชื่อมโยงถึงหากัน แต่แนวจะคล้าย ๆ กันครับ
นั้นก็คือ สยองขวัญ - ย้อนอดีต อาจจะมีสืบสวนสอบสวนบางเรื่องประปราย ตามแนวหนังสือผีเนอะ ที่ต้องสืบว่าใครอยู่เบื้องหลัง
แน่นอนล่ะครับ ว่าช่อง 7 ซื้อเซตนี้มาทำละคร
ในความรู้สึกของผม โคตรดีใจเลย ที่ช่องซื้อเซตนี้ และคิดว่าช่องคิดไม่ผิดที่ซื้อเซตนี้มา
เพราะเซตนี้มันสนุกมากกกก ถึงแนวจะคล้าย ๆ กัน แต่เรื่องแต่ละเรื่อง ก็ไม่ซ้ำทางกันเลย
แต่มีอยู่หนึ่งเรื่องในเซตนี้ ที่ผมรู้สึกเฉย ๆ เพราะเนื้อเรื่องเดิม ๆ
ไม่หวือหวา เหมือน 4 เรื่องที่เหลือ ซึ่งนั่นเป็นความท้าทายของคนเขียนบทโทรทัศน์เลยก็ว่าได้
เพราะโครงเรื่องแล้ว มันไม่มีอะไรเลยจริง ๆ เดี๋ยวผมจะบอกตอนท้าย ๆ นะครับ ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องอะไร
เรื่องที่ 1
'บ่วงสไบ' บทประพันธ์ : ภาคินัย
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 2 'สาปสังคีต' บทประพันธ์ : เจนศิลป์
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 3 'วังนางโหง' บทประพันธ์ : เตมัน
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องที่ 4 'สิเน่หารอยคำ' บทประพันธ์ : อาพัชรินทร์
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเรื่องสุดท้าย เรื่องที่ 5 'ป้อมปางบรรพ์' บทประพันธ์ : เดือนสิงห์
เรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ได้ข่าวว่า ทางพอดีคำ จะทำเรื่องสาปสังคีต เป็นเรื่องแรกของเซตนี้ *ผิดถูกไม่ทราบขออภัยด้วยละกัน
ความชอบของผมในเซตนี้เรียงลำดับเลยนะครับ
1. บ่วงสไบ
2. สิเน่หารอยคำ
3. วังนางโหง
4. สาปสังคีต
5. ป้อมปางบรรพ์
บ่วงสไบ - วังนางโหง - สาปสังคีต พล็อตสนุกมาก ๆ อ่ะ
ปกติอ่านแต่ของภาคินัย เพิ่งมาได้อ่านของเตมันและเจนศิลป์ ซึ่งเขียนได้สนุกมาก ๆ
สิเน่หารอยคำ ถือเป็นนิยายเรื่องแรกของ อาพัชรินทร์เลยครับ ที่ผมหยิบยกขึ้นมาอ่าน อยากบอกว่า ผมประทับใจกับผลงานชิ้นนี้ของคุณอาพัชรินทร์มาก ๆ ครับ
มันได้ทั้งอารมณ์หลอนนิด ๆ ดราม่ามาเต็มกำลัง บวกผสมกับความรักโรแมนติกของพระนาง ที่สุดซึ้งและกินใจมาก ๆ ครับ
ในความรู้สึกของผมนะครับ อยากให้เก็บเอาไว้เป็นเรื่องสุดท้ายของซีรี่ส์ละคร เพราะมันดีงามจริง ๆ เรื่องนี้
ส่วนที่เฉย ๆ ที่ผมพูดไว้ตั้งแต่ตอนต้น ๆ เป็นเรื่อง ป้อมปางบรรพ์ ครับ
ผมอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเซตนี้เลยครับ ฮ่า ฮ่า
แต่ทำไม พล็อตมันเดิม ๆ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ธรรมดามาก ๆ ตัวละครก็ใช้เยอะ อย่างสิ้นเปลือง
พอคิดว่า เอามาเป็นละคร คนดูจะรู้สึกเบื่อ
เรื่องนี้อยากได้คุณแพรพริมามาเขียนบทละครให้นะครับ (หากพอดีคำทำเซตนี้ทั้งหมด) เพราะดูจากเพื่อนแพงแล้ว ที่บทประพันธ์มีความยาวเพียง 22 หน้า แต่ขยายเรื่องราว ได้สนุกสุด ๆ
ไม่แน่ เวอร์ชั่นละคร ป้อมปางบรรพ์ อาจจะสนุกสุดไปเลยก็ได้นะครับ ฮ่าฮ่า
แต่ขอชมเรื่องป้อมปางบรรพ์ในนิยายอย่างหนึ่งนะครับ คือความปกปิดไว้ข้างในของตัวละครบางตัว หรือบางตัวละครไม่ได้ปกปิดไว้ แต่เหมือนมันมีอะไรอยู่ข้างใน ซึ่งเราอยากรู้ เป็นจุดดีของเรื่องนี้ และตอนจบของเรื่องนี้ ก็แปลกไปกว่าเรื่องอื่น ซึ่งนักอ่านท่านหนึ่งบอกว่า ตอนจบเรื่องนี้ จบแบบงง ๆ
สำหรับผมก็งงเหมือนกัน แต่ชอบในความแปลกใหม่
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ ใครได้อ่านเซตนี้แล้วบ้างเอ่ย ชอบเรื่องไหนกันบ้าง
ส่วนใครที่ยังไม่อ่าน ก็อย่าลืมไปซื้อจับจองกันได้นะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ขอบคุณรูปภาพประกอบจากเว็บโซฟาพลับบลิชชิ่งด้วยครับ