ไม่เหนือความคาดหมายสำหรับคอการเมือง เมื่อขบวนการที่พยายามจุดชนวน “14 ตุลาฯโมเดล” ยกระดับการเคลื่อนไหวเข้มข้นขยายวงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หวังให้บานปลายสร้างเงื่อนไขไปสู่การลุกฮือของม็อบที่เปิดช่องให้มวลชนเสื้อแดงร่วมผสมโรง ภายใต้เป้าหมายสั่นคลอนหรือล้มคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และคว่ำการปฏิรูปประเทศ อีกทั้งที่สำคัญคือแผนหยุดบรรดาคดีมหกรรมโคตรโกงทั้งหลายที่มีคนสำคัญของระบอบทักษิณเป็นจำเลยโดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดที่ใกล้คุกจากพิษคดีโครงการรับจำนำข้าว
ขบวนการมาตามนัดล่าสุดก็คือการเผยโฉมของกลุ่มที่เรียกว่าคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 281 คน ซึ่งออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัว 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำอย่างไม่มีเงื่อนไขและให้ยุติดำเนินคดี
แต่เมื่อดูปูมหลังเหล่าคณาจารย์ที่มาตามนัดแล้วส่วนใหญ่ล้วนเป็นขาประจำสายเสื้อแดงหรือแก๊งนิติเรดหน้าเดิมๆ ที่เคยเคลื่อนไหวให้แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยข้อหาหมิ่นเบื้องสูงหรือแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่เว้นร่วมขบวนการมาตามนัดให้กำลังใจกลุ่มนักศึกษาที่ถูกจับ
และที่ขาดไม่ได้ของขบวนการมาตามนัดตามแผนโลกล้อมไทยก็คือ มหาอำนาจมะกันอันตรายที่มาอย่างถูกเวลาเหมาะเจาะด้วยการแถลงผลงานประจำปีชี้ว่าไทยยังมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามด้วยลิ่วล้อมหาอำนาจมะกันอันตรายคือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง นายแบรด อาดัม ผู้อำนวยการองค์กรนิรโทษกรรมสากลประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทาสรับใช้ระบอบทักษิณเจ้าเก่าที่สมคบกับนักสิทธิมนุษยชนขายชาติของไทยบางคนออกมายื่นคำขาดให้ไทยปล่อยตัว 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่อย่างไม่มีเงื่อนไข
แต่การเข้ามาจุ้นแทรกแซงกิจการภายในของไทยของเหล่าขบวนการมาตามนัดตาน้ำข้าวถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ตอกหน้าหงายโดยย้ำอย่างแข็งกร้าวว่า ต่างชาติอย่ามาส.เสือใส่เกือก เพราะเป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายไทย
แก๊งมาตามนัดต่างด้าวขบวนการนี้ให้ท้ายสมคบกับระบอบทักษิณมาตลอดและเหิมเกริมถึงกับสนับสนุนแก๊งนิติเรดให้แก้มาตรา 112 โดยเฉพาะมะกันอันตรายนั้นหนุนระบอบทักษิณให้ขึ้นมามีอำนาจยึดครองประเทศเต็มที่แลกกับการที่ระบอบทักษิณยอมขายชาติให้เป็นทาสรับใช้มะกันอันตรายในการแผ่ขยายอิทธิพลความเป็นอันธพาลโลกของมะกันอันตรายในภูมิภาคนี้
มีสำหรับเหล่านักวิชาการและนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวขาประจำมีข่าวลือสะพัดว่า หลายคนได้รับทุนวิจัยก้อนโต บางคนได้ทุนไปเรียนต่อแดนลุงแซม และได้ผลประโยชน์รูปแบบต่างๆ จากมะกันอันตรายและระบอบทักษิณ
ขณะที่เหล่านักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่หลายคนที่เป็นหัวหอกออกป่วนเมืองโดยมีเป้าหมายแอบแฝง โดยบางคนติดพนันงอมแงมและบางคนมีเงินใช้เสพสุขอย่างสบาย ล่าสุดมีข่าวในโซเชียลมีเดียว่า 1 ใน 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกจับคือ นายพรชัย ยวนยี อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ที่แท้เป็นผีพนันโดยก่อนหน้านี้เพิ่งจะถูกจับข้อหาเล่นการพนันในบ่อนไฮโซในคอนโดฯหรูย่านซอยทองหล่อ สุขุมวิท 24 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา นี่เองทำให้เกิดคำถามว่าเอาเงินมาจากไหนและคนประเภทนี้หรือที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์
การที่ขบวนการป่วนมาตามนัดแบบเล่นไม่เลิกอาจเพราะถือดีว่ามีแบ๊กใหญ่หนุนจึงกล้ายั่วยุท้าทายคสช. ถึงขนาดไม่ยอมขอประกันตัวทั้งๆที่ศาลทหารอนุญาตจนนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ชี้ว่าส่อเจตนาแอบแฝงต้องการให้ปัญหาบานปลาย เพราะฉะนั้นจากนี้ไปขอให้จับตาขบวนการมาตามนัดเพราะมีแนวโน้มว่าจะหาเรื่องจ้องป่วนประเทศหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ทีมข่าวการเมือง
ที่มา:
http://www.naewna.com/creative/166427
ขบวนการมาตามนัด จุดฉนวน '14 ตุลาโมเดล'? ก๊อปแปะ By อดีตหัวหน้าเผ่าฯ
ขบวนการมาตามนัดล่าสุดก็คือการเผยโฉมของกลุ่มที่เรียกว่าคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 281 คน ซึ่งออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัว 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำอย่างไม่มีเงื่อนไขและให้ยุติดำเนินคดี
แต่เมื่อดูปูมหลังเหล่าคณาจารย์ที่มาตามนัดแล้วส่วนใหญ่ล้วนเป็นขาประจำสายเสื้อแดงหรือแก๊งนิติเรดหน้าเดิมๆ ที่เคยเคลื่อนไหวให้แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยข้อหาหมิ่นเบื้องสูงหรือแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่เว้นร่วมขบวนการมาตามนัดให้กำลังใจกลุ่มนักศึกษาที่ถูกจับ
และที่ขาดไม่ได้ของขบวนการมาตามนัดตามแผนโลกล้อมไทยก็คือ มหาอำนาจมะกันอันตรายที่มาอย่างถูกเวลาเหมาะเจาะด้วยการแถลงผลงานประจำปีชี้ว่าไทยยังมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามด้วยลิ่วล้อมหาอำนาจมะกันอันตรายคือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง นายแบรด อาดัม ผู้อำนวยการองค์กรนิรโทษกรรมสากลประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทาสรับใช้ระบอบทักษิณเจ้าเก่าที่สมคบกับนักสิทธิมนุษยชนขายชาติของไทยบางคนออกมายื่นคำขาดให้ไทยปล่อยตัว 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่อย่างไม่มีเงื่อนไข
แต่การเข้ามาจุ้นแทรกแซงกิจการภายในของไทยของเหล่าขบวนการมาตามนัดตาน้ำข้าวถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ตอกหน้าหงายโดยย้ำอย่างแข็งกร้าวว่า ต่างชาติอย่ามาส.เสือใส่เกือก เพราะเป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายไทย
แก๊งมาตามนัดต่างด้าวขบวนการนี้ให้ท้ายสมคบกับระบอบทักษิณมาตลอดและเหิมเกริมถึงกับสนับสนุนแก๊งนิติเรดให้แก้มาตรา 112 โดยเฉพาะมะกันอันตรายนั้นหนุนระบอบทักษิณให้ขึ้นมามีอำนาจยึดครองประเทศเต็มที่แลกกับการที่ระบอบทักษิณยอมขายชาติให้เป็นทาสรับใช้มะกันอันตรายในการแผ่ขยายอิทธิพลความเป็นอันธพาลโลกของมะกันอันตรายในภูมิภาคนี้
มีสำหรับเหล่านักวิชาการและนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวขาประจำมีข่าวลือสะพัดว่า หลายคนได้รับทุนวิจัยก้อนโต บางคนได้ทุนไปเรียนต่อแดนลุงแซม และได้ผลประโยชน์รูปแบบต่างๆ จากมะกันอันตรายและระบอบทักษิณ
ขณะที่เหล่านักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่หลายคนที่เป็นหัวหอกออกป่วนเมืองโดยมีเป้าหมายแอบแฝง โดยบางคนติดพนันงอมแงมและบางคนมีเงินใช้เสพสุขอย่างสบาย ล่าสุดมีข่าวในโซเชียลมีเดียว่า 1 ใน 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกจับคือ นายพรชัย ยวนยี อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ที่แท้เป็นผีพนันโดยก่อนหน้านี้เพิ่งจะถูกจับข้อหาเล่นการพนันในบ่อนไฮโซในคอนโดฯหรูย่านซอยทองหล่อ สุขุมวิท 24 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา นี่เองทำให้เกิดคำถามว่าเอาเงินมาจากไหนและคนประเภทนี้หรือที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์
การที่ขบวนการป่วนมาตามนัดแบบเล่นไม่เลิกอาจเพราะถือดีว่ามีแบ๊กใหญ่หนุนจึงกล้ายั่วยุท้าทายคสช. ถึงขนาดไม่ยอมขอประกันตัวทั้งๆที่ศาลทหารอนุญาตจนนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ชี้ว่าส่อเจตนาแอบแฝงต้องการให้ปัญหาบานปลาย เพราะฉะนั้นจากนี้ไปขอให้จับตาขบวนการมาตามนัดเพราะมีแนวโน้มว่าจะหาเรื่องจ้องป่วนประเทศหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ทีมข่าวการเมือง
ที่มา: http://www.naewna.com/creative/166427