+ลุยเดี่ยว+ขี่ฮอนด้าดรีมคุรุสภาขึ้นภูตาจอ+เขาไข่นุ้ย

เมื่อปลายปีที่แล้วช่วงปลายฝนต้นหนาว 30พฤศจิกา57 ตื่นเช้าไปชมสุดยอด2ทะเลหมอกแห่งพังงา เขาไข่นุ้ยและภูตาจอ กับเส้นทางที่ไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อนทั้งสิ้น และไม่รู้แม้แต่ทางขึ้นเขา แต่ใจมันเรียกร้องให้เราต้องไป



เริ่มต้นจากที่ภูเก็ต เติมน้ำมันให้เต็มถังและบันทึกเลขไมล์ก่อนออกเดินทาง เวลาตี5ครึ่งล้อหมุน


ใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึง ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง เอาล่ะ!! หาทางขึ้นเขาไข่นุ้ยให้ได้ซะก่อน...ทำไงล่ะ?
...บังเอิญเจอคนพื้นที่ขี่รถผ่านไปมา ลุงแกก็ใจดีขี่รถนำเราไปส่งถึงปากซอยขึ้นเขาไข่นุ้ย
เยี่ยมเยี่ยม"การถามทางจากคนในพื้นที่ คือระบบนำทางที่ดีกว่าGPSมากๆ"เยี่ยมเยี่ยม


สภาพถนนขึ้นเขาไข่นุ้ยแย่มาก ฝนเพิ่งตกเมื่อกลางคืนก่อนวันนึง ดินเหนียวลื่น ล้อหมุนฟรี ต้องเอาเท้าตะกายไปพลางบิดไปพลาง

ขี่รถขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมงก็ถึงยอดเขาไข่นุ้ย 7.45น. ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นทะเลหมอกฬะฬารตาอย่างนี้ประหลาดใจ



เขาไข่นุ้ย เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมได้ทั้งทะเลหมอกฝั่งทิศตะวันออก ชมทะเลอันดามันฝั่งทิศตะวันตก และชมทะเลดาวยามราตรี ใครได้ขึ้นมาที่นี่ย่อมประทับใจกับ3ทะเลงดงามที่เขาไข่นุ้ย

มองไกลๆออกไปฝั่งทะเลอันดามัน จะเห็นหมู่เกาะสิมิลันอยู่ไกลลิบ


จอดรถขึ้นไปถึงข้างบน มีเต๊นท์บริการนักท่องเที่ยว หมอน ที่นอน อาหารปิ้งย่างพร้อม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เดินไปปลายสวนยาง จากจุดนี้จะมองเห็น"เขาหน้ายักษ์" สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งที่ท้ายเหมือง


สภาพรถ หลังขี่ขึ้นมาถึงยอดเขาไข่นุ้ย เศษดินติดเป็นเทือก

หลังจากเสพบรรยากาศบนเขาไข่นุ้ยเต็มอิ่มแล้ว 9.30น.ก็ลงจากเขาไข่นุ้ยมุ่งหน้าไปภูตาจอเส้นทางไปกะปง
ถนนตัดผ่านภูเขาสีเขียวสดชื่น สวยมาก รถน้อย ขี่ช้าๆเสพบรรยากาศ ขี่กินลมชมวิวสบายๆ เส้นทางไม่คดเคี้ยวไม่แคบเหมือนที่เขานางหงส์


วันนั้นติดกล้องcompactไว้อัดวิดีโอตัวนึง กะว่าจะเอามาทำเป็นคลิปยาวๆ แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยได้เปิดคลิปพวกนั้นดูเลย


ถึงตัวเมืองกะปง ต้องไม่ลืมเติมน้ำมันปั๊มหลอด ลิตรละ40บาท เติมเต็มไว้ถังอุ่นใจกว่า (เพราะระยะทางอีก35กิโลกว่าจะถึงยอดภูตาจอ)

ขี่มาเรื่อยๆราว20กิโล เข้าไปทางตำบลเหล ตามป้ายบอกทางจนถึงด่านกั้นทางเข้าด่านแรก หน่วยพิทักษ์ป่าภูตาจอ

เลี้ยวซ้ายเข้าในซอย เข้าไปอีก6กิโล จะเจอหน่วยพิทักษ์ป่า เสียค่าธรรมเนียมค่าเข้า คนละ20บาท,รถคันละ20บาท

จากจุดนี้ ให้ขอเบอร์โทรติดต่อฉุกเฉินกับทางเจ้าหน้าที่ด้วย

เส้นทางไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อาจจะพบชาวบ้านเพาะเลี้ยงเห็ดขี่รถสวนไปมาบ้าง


ถนนส่วนใหญ่เป็นดินแน่น ระวังหินกรวดหินลอย จะมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคอยเอารถไถเกรตทางให้อยู่แล้ว

ตามทางจะเจอลำคลองไหลผ่านถนนแบบนี้ประมาณ4แห่ง ให้ขี่รถผ่านไปช้าๆ


นอกจากนี้ยังมีlandmarkอีกหลายจุด



อย่างที่บอกว่านี่คือเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน ไว้โอกาสหน้าออกทริปมาหลายๆคันจะพยายามเดินลงไปสำรวจธรรมชาติ

หลังจากนี้ จะวังเวงมากขึ้น เพราะต้องขี่ผ่านป่าไผ่รกทึบเศร้า

ได้แต่ภาวนากับตัวเองขอผ่านไปได้ด้วยดี แล้วจากนั้นก็จะเจอพื้นถนนเป็นทรายขาวมากขึ้นเรื่อยๆ

ทางจะชันขึ้นเรื่อยๆ ควบคุมรถยากขึ้น เปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสม พยายามอย่าให้รถหยุดกลางเนินเด็ดขาด ไม่งั้นอาจจะต้องถอยหลังมาเริ่มขึ้นเนินใหม่อีกครั้ง ถ้าพลาดล่ะก็มีหวังได้กลิ้งลงเนินทั้งคนทั้งรถแน่ๆ

เนินนี้ลื่นมากกก ตบเกียร์1ล้อหมุนฟรีตะกุยดิน เกือบหยุดกลางเนิน

บางช่วงทางชันมาก หินลอย+ร่องน้ำลึกมาก ควรขี่รถหลบหลุมร่องน้ำอย่างระมัดระวัง


ยิ้มอีกนิดเดียวก็จะถึงยอดภูตาจอแล้วกระทิงเริงร่า



ถึงแล้ว ยอดภูตาจอ อมยิ้ม01


ขี่รถเลาะไปเส้นข้างๆ จะไปเจอขุมน้ำสีเขียวมรกต

อาจจะผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ได้ชมทะเลหมอกภูตาจอเลย เพราะกว่าจะถึงยอดภูตาจอเวลาก็ย่ำเข้าบ่าย2ไปแล้ว ร้องไห้ร้องไห้

ยังมีเวลาเหลือ ขากลับหลังลงจากภูตาจอก่อนเข้าตัวอำเภอกะปง แวะเที่ยวบ่อน้ำร้อนซักนิดดดด อมยิ้ม01



ตรงนั้นมีคลอง ขี่รถข้ามคลองไปมาสามรอบเพื่อไปดูบ่อน้ำร้อนอีกบ่อนึง จำได้ตอนนั้นน้ำเข้าท่อไอเสีย เครื่องดับอยู่กลางคลอง ใจหายวาบประหลาดใจ




จบทริป ไม่มีล้มแปะ ไม่มีอุบัติเหตุ ขากลับเจอฝนลงเม็ดนิดหน่อย

รวมระยะทาง 445.4km
รวมปริมาณน้ำมัน 8.9L
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 50.04 Km/L
ค่าน้ำมัน300บาท
เฉลี้ยค่าใช้จ่ายกิโลละ 0.67 บาท
ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่