คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ.....
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ...เพราะถึงแม้ทะเบียนสมรส มันอาจจะเป็นเพียงกระดาษแค่ใบเดียว แต่มันก็มีความสำคัญทางกฏหมายที่ควรจะคุ้มครองคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเพศไหนๆก็ตามไม่ใช่เหรอครับ ผมเคยเห็นตัวอย่างของรุ่นพี่ผมที่สนิทกัน เค้าอยู่กินกับแฟนของเค้าซึ่งเป็นผู้ชาย ช่วยกันทำมาหากิน เริ่มจากไม่มีอะไรจนมีรถมีบ้านมีเงินทองใช้สอย อยู่แบบไม่ลำบาก แต่มาวันหนึ่งแฟนของพี่เค้าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ด้วยความที่ทรัพสินส่วนใหญ่เป็นชื่อของแฟนเค้า ทำให้รุ่นพี่ของผม แทบจะไม่เหลืออะไรเลย ทั้งๆที่ลำบากลำบนช่วยกันสร้างฐานะ แต่กลับเป็นญาติๆฝ่ายแฟนที่ได้สมบัติเหล่านี้ไปโดยที่ไม่เคยช่วยเหลืออะไรเลย ตอนจัดงานศพ รุ่นพี่ผมเปรียบเสมือนคนอื่น ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่มีอะไรเกี่ยวดองกับแฟนของเค้าทั้งสิ้น ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่แฟร์ สำหรับคนสองคนที่อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบๆปี แต่เป็นได้เพียงแค่แขกร่วมงานศพ ตอนเปิดโรงญาติๆขึ้นไปแสดงความเสียใจอยู่หน้าเมรุ แต่รุ่นพี่ผมได้แต่ยืนร้องไห้อยู่ข้างล่าง ร่วมกับแขกที่มาร่วมงาน บ้านที่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ก็โดนพี่น้องฝ่ายแฟนยึดไป มันน่าเศร้านะครับ กับการที่จะต้องมาเริ่มนับศูนย์ใหม่ในอายุที่เกือบจะ 40 แล้ว จริงๆอายุเท่าไรไม่สำคัญ แต่กำลังใจที่จะสู้ต่อสิครับ เค้าจะหาจากไหน เห็นแล้วผมเศร้าแทน...
บางคนอาจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องบุคคลซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่าเรื่องของปัญหาบ้านเมืองมากนัก แต่หากคำว่ากฏหมายจะสามารถคุ้มครองได้แค่ คู่แต่งงานที่เป็นชายและหญิง แล้วเกย์ กระเทย ทอม ดี้ เค้าไม่ใช่คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมเหรอครับ เค้าไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกคุ้มครองโดยกฏหมายเหรอครับ......
คิดอย่างไรถ้า....ประเทศไทย จะสามารถให้คู่ชาย ชาย หรือ หญิง หญิง จดทะเบียนสมรสกันได้เหมือนอเมริกา
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ...เพราะถึงแม้ทะเบียนสมรส มันอาจจะเป็นเพียงกระดาษแค่ใบเดียว แต่มันก็มีความสำคัญทางกฏหมายที่ควรจะคุ้มครองคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเพศไหนๆก็ตามไม่ใช่เหรอครับ ผมเคยเห็นตัวอย่างของรุ่นพี่ผมที่สนิทกัน เค้าอยู่กินกับแฟนของเค้าซึ่งเป็นผู้ชาย ช่วยกันทำมาหากิน เริ่มจากไม่มีอะไรจนมีรถมีบ้านมีเงินทองใช้สอย อยู่แบบไม่ลำบาก แต่มาวันหนึ่งแฟนของพี่เค้าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ด้วยความที่ทรัพสินส่วนใหญ่เป็นชื่อของแฟนเค้า ทำให้รุ่นพี่ของผม แทบจะไม่เหลืออะไรเลย ทั้งๆที่ลำบากลำบนช่วยกันสร้างฐานะ แต่กลับเป็นญาติๆฝ่ายแฟนที่ได้สมบัติเหล่านี้ไปโดยที่ไม่เคยช่วยเหลืออะไรเลย ตอนจัดงานศพ รุ่นพี่ผมเปรียบเสมือนคนอื่น ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่มีอะไรเกี่ยวดองกับแฟนของเค้าทั้งสิ้น ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่แฟร์ สำหรับคนสองคนที่อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบๆปี แต่เป็นได้เพียงแค่แขกร่วมงานศพ ตอนเปิดโรงญาติๆขึ้นไปแสดงความเสียใจอยู่หน้าเมรุ แต่รุ่นพี่ผมได้แต่ยืนร้องไห้อยู่ข้างล่าง ร่วมกับแขกที่มาร่วมงาน บ้านที่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ก็โดนพี่น้องฝ่ายแฟนยึดไป มันน่าเศร้านะครับ กับการที่จะต้องมาเริ่มนับศูนย์ใหม่ในอายุที่เกือบจะ 40 แล้ว จริงๆอายุเท่าไรไม่สำคัญ แต่กำลังใจที่จะสู้ต่อสิครับ เค้าจะหาจากไหน เห็นแล้วผมเศร้าแทน...
บางคนอาจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องบุคคลซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่าเรื่องของปัญหาบ้านเมืองมากนัก แต่หากคำว่ากฏหมายจะสามารถคุ้มครองได้แค่ คู่แต่งงานที่เป็นชายและหญิง แล้วเกย์ กระเทย ทอม ดี้ เค้าไม่ใช่คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมเหรอครับ เค้าไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกคุ้มครองโดยกฏหมายเหรอครับ......