คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
..จากสำนวนการเขียน ..เดาอายุหนู จขกท. ได้ไม่ยาก ..โดยไม่ต้องเปิดดูประวัติด้วยซ้ำ
ว่า..ยังเป็นเด็ก เป็นแม่วัยรุ่นแน่ๆ ..ซื้อหวยไม่ยักกะถูก..นะเรา ..
ด้วยอายุหนูแค่คนคราวลูก คราวหลานของน้า .. น้าขอแนะนำแบบนี้นะ...
..เรื่องความรัก ที่หักห้ามใจกันไม่ได้ รีบสร้างครอบครัวซะตั้งแต่อายุแค่นี้ ..ถึงไม่แนะนำให้ทำ ..
แต่การกระทำ มันสำเร็จไปหมดทุกเรื่องแล้ว ..ก็คงได้แต่ทำวันนี้ สถานการณ์ตอนนี้ให้ดีที่สุด ..ตามหน้างาน..
พร้อมๆ กับการคิดถึงอนาคตด้วย ..ว่าจะไปในทิศทางไหน
แต่ความที่หนูอายุยังน้อย ..วุฒิการศึกษา ..เต็มที่ก็ ม.6 ..ด้วยความรู้แค่นี้ ในยุคสมัยที่คนจบปริญญายังตกงานกันระนาว
หรือยังได้เงินเดือนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถ้าไม่มีผลการเรียน หรือผลงานที่โดดเด่น หรือเรียนมาในสายวิชาชีพเฉพาะทาง
..คุณสมบัติแบบหนู คือทั้งเรียนไม่สูง แถมมีลูกซึ่งต้องดูแล ..จะมากจะน้อย มันย่อมเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
ทางเลือกของหนู ..หากหนูยังคงคิดจะอยู่ในสภาพนี้ ..มันจะไม่มีให้เลือกมากนัก
แถมหนูยังอุตส่าห์จำกัดทางเลือก ที่มีน้อยอยู่แล้ว ..ให้มันเหลือน้อยเข้าไปอีก ด้วยการเลี้ยงลูกเอง โดยไม่คิดพึ่งพาพ่อแม่
..ซึ่งที่จริง น้าเองก็เลือกที่จะเลี้ยงลูกเองเหมือนกันนะ แต่น้าและสามี มีความพร้อมกว่าครอบครัวหนูมาก และในทุกด้าน
เพราะน้ากว่าจะมีลูกคนแรก ..ปาไป 32 ..ความมั่นคงทางอารมณ์ ความพร้อมในการเป็นพ่อเป็นแม่ มีครบ
เห็นวิธีการเลี้ยงลูกหลานมาแล้วทั้งแบบที่ดี ..เด็กโตขึ้นมาเป็นเด็กดี และแบบที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เด็กโตมางี่เง่า เหลือขอ
ฐานะก็มั่นคงแล้ว หน้าที่การงานของสามีก็ระดับจัดการ ถึงน้าลาออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก เงินเดือนสามีน้าก็พอเลี้ยงลูกเมียได้
แถมน้ากับคุณสามี ยังพูดจากันรู้เรื่อง เพราะโตๆ กันแล้ว รู้ผิดชอบชั่วดี ใช้เหตุใช้ผลในการตัดสินใจ ..ไม่ได้เอาแต่อารมณ์ล้วนๆ
เช่น หาไม่พอกินพอใช้ แต่ยังไม่คิดขยับขยาย หาทางแก้ปัญหา ..ยัง "อยาก" ให้เป็นแบบนั้น แบบนี้ ให้ได้ดั่งใจตัวเอง
ซึ่งนี่มันคือนิสัยของเด็ก..ชัดๆ
ดังนั้น ก่อนที่หนู จขกท. จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ว่าจะทำอะไรหารายได้เสริมดีนะ ..
หนูไปจับเข่าคุยกับแฟนหนูซะให้เข้าใจตรงกัน ..เอาเหตุผล เอาข้อเท็จจริงของชีวิต เป็นที่ตั้ง ..
อย่าโลกสวยแบบไร้เหตุผล ..มันจะพากันตายหมู่
..สถานการณ์ครอบครัวตัวเองเป็นยังไง ..แฟนหารายได้คนเดียว ..ได้เท่าไหร่ ..
ค่ากิน-ใช้ภายในครอบครัว มีอะไรบ้าง เท่าไหร่ ..list มาดูกัน
ถ้าข้อเท็จจริงมันตำหูตำตาอยู่ทนโท่ ว่า "ติดลบ" ทุกเดือน ..ก็ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำยังไง
ทางที่ง่ายกว่า คือดูเรื่อง "ลดค่าใช้จ่าย" ..มีอะไรบีบลงได้อีกบ้าง ..ถ้าพอลดได้ ..ถึงหาได้เท่าเดิม ..แต่รอดตัว ..ก็ผ่านไป
แต่ถ้าลดไม่ได้ ทุกวันนี้ก็อดๆ อยากๆ อยู่แล้ว ..ก็ต้อง "เพิ่มรายได้"
ซึ่งก็ต้องถามแฟนหนูว่าเค้าหารายได้เพิ่มได้มั้ยล่ะ เช่น ทำ OT หรือไปรับจ้างตามความถนัดในวันหยุด หรือหลังเลิกงาน..ได้มั้ยล่ะ
ถ้าแฟนหนูทำได้ ..ก็ถามเค้าสิ ว่าถ้าเธอต้องเหนื่อยเพิ่ม เธอไหวมั้ยล่ะ ..ถ้าบอกว่าไหว ..อะ งั้นเธอก็ทำงานให้มากขึ้นละกัน
แต่ถ้าแฟนบอกว่า ทุกวันนี้ก็จะรากเลือดแล้วว้อยยย.. ถ้างั้นก็แสดงว่า คนเดียว ..เอาไม่อยู่..
ดังนั้น ถ้าลำพังหาคนเดียว เลี้ยงครอบครัวไม่รอด ..เราก็ต้องช่วยกันสิ ..จริงมั้ย
..จึงมีเหตุผลที่หนักแน่นพอ ที่เมียจะต้องทำมากกว่านั่งๆ นอนๆ เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน
ถ้าด่านนี้..ไม่ผ่าน ..แฟนหนูยังคงยืนความคิดเดิมของเค้า ..แต่หนูรู้ว่าขืนปล่อยไว้แบบนี้ ก็จะพากันอดตายในที่สุด
หนูก็ต้องกลับขึ้นไปเริ่มใหม่ ..อธิบายกันใหม่ จนกว่าหนูจะมีปัญญาโน้มน้าวแฟนหนู ให้เห็นด้วยกับหนูได้ซะก่อน
ไม่งั้นนะ ขอบอกเลยว่า คู่ที่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่แรก เห็นไม่ตรงกันตั้งแต่แรก
..เวลาที่ "พลาด" ..จะโดนกระทืบซ้ำ และจะโดนย้อนให้ว่า กรูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำ ..เห็นมั้ยทำแล้วก็เจ๊งไม่เป็นท่า ฯลฯ ฯลฯ
เค้าจะสรรหาคำพูดที่มาบั่นทอนความรู้สึก และกำลังใจ อย่างมากมาย ..ขอเตือนไว้เลยค่ะ
ถ้าพวกหนูสามารถคุยกันได้รู้เรื่อง เข้าใจความจำเป็นนี้ได้ตรงกันเมื่อไหร่
..หนูค่อยมานั่ง list ดูสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพื่อพิจารณาว่าควรจะทำอะไรดี
- ความรู้ ความสามารถพิเศษ ความถนัดของหนูเอง
- เงินลงทุน
- ข้อจำกัดด้านเวลา
- กำลังคน ที่ต้องใช้ในการทำงาน
เพราะเรื่องเหล่านี้ เป็นสิ่งที่หนูต้องไปทำการบ้านเอง ..ใครจะไปรู้ดีกว่าตัวหนูล่ะ ..จริงมั้ย ?
แต่ถ้าน้าจะขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของน้าเอง ..[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันก็เลยย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ที่น้าพูดแต่แรกเลยไงว่า ..หนูมีต้นทุนน้อยไปนะ
ความรู้ก็น้อยนิด เงินทองก็ไม่ได้มั่งมี ..ความมั่นคงอะไรก็ไม่มีสักอย่าง แม้กระทั่งความมั่นคงทางอารมณ์
..แฟนก็น่าจะอายุยังน้อยเช่นกัน ..ถึงยังคิดอะไรตื้นๆ สั้นๆ ..ยังขาดวิจารณญานในการแก้ไขปัญหา
โดยสรุป ..เพราะมันยาวมากแล้ว ( ที่จริงเรื่องนี้ให้บ่นทั้งวันก็ยังได้ ) ..
หนูต้องหัดมองการณ์ให้ไกลกว่านี้ ..คิดให้มาก ว่าอนาคตของหนู ของลูก ..อยู่ตรงไหน
..ถ้าพอจะหาเวลาไปเรียน ไปฝึกอบรม เสริมทักษะให้มันมีมากกว่านี้ ..ค่อยริจะทำงาน จะดีกว่ามั่วๆ งงๆ
แล้วอ่านไม่ขาด หรือจับจด ทำอะไรก็เจ๊ง ก็ล้มเหลว เพราะไม่มีหลักอะไรให้ยึดเหนี่ยวเลย
จะดีกว่ามั้ย ??
ลองไปไตร่ตรองดูดีๆ นะ
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ

ว่า..ยังเป็นเด็ก เป็นแม่วัยรุ่นแน่ๆ ..ซื้อหวยไม่ยักกะถูก..นะเรา ..
ด้วยอายุหนูแค่คนคราวลูก คราวหลานของน้า .. น้าขอแนะนำแบบนี้นะ...
..เรื่องความรัก ที่หักห้ามใจกันไม่ได้ รีบสร้างครอบครัวซะตั้งแต่อายุแค่นี้ ..ถึงไม่แนะนำให้ทำ ..
แต่การกระทำ มันสำเร็จไปหมดทุกเรื่องแล้ว ..ก็คงได้แต่ทำวันนี้ สถานการณ์ตอนนี้ให้ดีที่สุด ..ตามหน้างาน..
พร้อมๆ กับการคิดถึงอนาคตด้วย ..ว่าจะไปในทิศทางไหน
แต่ความที่หนูอายุยังน้อย ..วุฒิการศึกษา ..เต็มที่ก็ ม.6 ..ด้วยความรู้แค่นี้ ในยุคสมัยที่คนจบปริญญายังตกงานกันระนาว
หรือยังได้เงินเดือนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถ้าไม่มีผลการเรียน หรือผลงานที่โดดเด่น หรือเรียนมาในสายวิชาชีพเฉพาะทาง
..คุณสมบัติแบบหนู คือทั้งเรียนไม่สูง แถมมีลูกซึ่งต้องดูแล ..จะมากจะน้อย มันย่อมเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
ทางเลือกของหนู ..หากหนูยังคงคิดจะอยู่ในสภาพนี้ ..มันจะไม่มีให้เลือกมากนัก
แถมหนูยังอุตส่าห์จำกัดทางเลือก ที่มีน้อยอยู่แล้ว ..ให้มันเหลือน้อยเข้าไปอีก ด้วยการเลี้ยงลูกเอง โดยไม่คิดพึ่งพาพ่อแม่
..ซึ่งที่จริง น้าเองก็เลือกที่จะเลี้ยงลูกเองเหมือนกันนะ แต่น้าและสามี มีความพร้อมกว่าครอบครัวหนูมาก และในทุกด้าน
เพราะน้ากว่าจะมีลูกคนแรก ..ปาไป 32 ..ความมั่นคงทางอารมณ์ ความพร้อมในการเป็นพ่อเป็นแม่ มีครบ
เห็นวิธีการเลี้ยงลูกหลานมาแล้วทั้งแบบที่ดี ..เด็กโตขึ้นมาเป็นเด็กดี และแบบที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เด็กโตมางี่เง่า เหลือขอ
ฐานะก็มั่นคงแล้ว หน้าที่การงานของสามีก็ระดับจัดการ ถึงน้าลาออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก เงินเดือนสามีน้าก็พอเลี้ยงลูกเมียได้
แถมน้ากับคุณสามี ยังพูดจากันรู้เรื่อง เพราะโตๆ กันแล้ว รู้ผิดชอบชั่วดี ใช้เหตุใช้ผลในการตัดสินใจ ..ไม่ได้เอาแต่อารมณ์ล้วนๆ
เช่น หาไม่พอกินพอใช้ แต่ยังไม่คิดขยับขยาย หาทางแก้ปัญหา ..ยัง "อยาก" ให้เป็นแบบนั้น แบบนี้ ให้ได้ดั่งใจตัวเอง
ซึ่งนี่มันคือนิสัยของเด็ก..ชัดๆ
ดังนั้น ก่อนที่หนู จขกท. จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ว่าจะทำอะไรหารายได้เสริมดีนะ ..
หนูไปจับเข่าคุยกับแฟนหนูซะให้เข้าใจตรงกัน ..เอาเหตุผล เอาข้อเท็จจริงของชีวิต เป็นที่ตั้ง ..
อย่าโลกสวยแบบไร้เหตุผล ..มันจะพากันตายหมู่
..สถานการณ์ครอบครัวตัวเองเป็นยังไง ..แฟนหารายได้คนเดียว ..ได้เท่าไหร่ ..
ค่ากิน-ใช้ภายในครอบครัว มีอะไรบ้าง เท่าไหร่ ..list มาดูกัน
ถ้าข้อเท็จจริงมันตำหูตำตาอยู่ทนโท่ ว่า "ติดลบ" ทุกเดือน ..ก็ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำยังไง
ทางที่ง่ายกว่า คือดูเรื่อง "ลดค่าใช้จ่าย" ..มีอะไรบีบลงได้อีกบ้าง ..ถ้าพอลดได้ ..ถึงหาได้เท่าเดิม ..แต่รอดตัว ..ก็ผ่านไป
แต่ถ้าลดไม่ได้ ทุกวันนี้ก็อดๆ อยากๆ อยู่แล้ว ..ก็ต้อง "เพิ่มรายได้"
ซึ่งก็ต้องถามแฟนหนูว่าเค้าหารายได้เพิ่มได้มั้ยล่ะ เช่น ทำ OT หรือไปรับจ้างตามความถนัดในวันหยุด หรือหลังเลิกงาน..ได้มั้ยล่ะ
ถ้าแฟนหนูทำได้ ..ก็ถามเค้าสิ ว่าถ้าเธอต้องเหนื่อยเพิ่ม เธอไหวมั้ยล่ะ ..ถ้าบอกว่าไหว ..อะ งั้นเธอก็ทำงานให้มากขึ้นละกัน
แต่ถ้าแฟนบอกว่า ทุกวันนี้ก็จะรากเลือดแล้วว้อยยย.. ถ้างั้นก็แสดงว่า คนเดียว ..เอาไม่อยู่..
ดังนั้น ถ้าลำพังหาคนเดียว เลี้ยงครอบครัวไม่รอด ..เราก็ต้องช่วยกันสิ ..จริงมั้ย
..จึงมีเหตุผลที่หนักแน่นพอ ที่เมียจะต้องทำมากกว่านั่งๆ นอนๆ เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน
ถ้าด่านนี้..ไม่ผ่าน ..แฟนหนูยังคงยืนความคิดเดิมของเค้า ..แต่หนูรู้ว่าขืนปล่อยไว้แบบนี้ ก็จะพากันอดตายในที่สุด
หนูก็ต้องกลับขึ้นไปเริ่มใหม่ ..อธิบายกันใหม่ จนกว่าหนูจะมีปัญญาโน้มน้าวแฟนหนู ให้เห็นด้วยกับหนูได้ซะก่อน
ไม่งั้นนะ ขอบอกเลยว่า คู่ที่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่แรก เห็นไม่ตรงกันตั้งแต่แรก
..เวลาที่ "พลาด" ..จะโดนกระทืบซ้ำ และจะโดนย้อนให้ว่า กรูบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำ ..เห็นมั้ยทำแล้วก็เจ๊งไม่เป็นท่า ฯลฯ ฯลฯ
เค้าจะสรรหาคำพูดที่มาบั่นทอนความรู้สึก และกำลังใจ อย่างมากมาย ..ขอเตือนไว้เลยค่ะ
ถ้าพวกหนูสามารถคุยกันได้รู้เรื่อง เข้าใจความจำเป็นนี้ได้ตรงกันเมื่อไหร่
..หนูค่อยมานั่ง list ดูสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพื่อพิจารณาว่าควรจะทำอะไรดี
- ความรู้ ความสามารถพิเศษ ความถนัดของหนูเอง
- เงินลงทุน
- ข้อจำกัดด้านเวลา
- กำลังคน ที่ต้องใช้ในการทำงาน
เพราะเรื่องเหล่านี้ เป็นสิ่งที่หนูต้องไปทำการบ้านเอง ..ใครจะไปรู้ดีกว่าตัวหนูล่ะ ..จริงมั้ย ?
แต่ถ้าน้าจะขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของน้าเอง ..[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันก็เลยย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ที่น้าพูดแต่แรกเลยไงว่า ..หนูมีต้นทุนน้อยไปนะ
ความรู้ก็น้อยนิด เงินทองก็ไม่ได้มั่งมี ..ความมั่นคงอะไรก็ไม่มีสักอย่าง แม้กระทั่งความมั่นคงทางอารมณ์
..แฟนก็น่าจะอายุยังน้อยเช่นกัน ..ถึงยังคิดอะไรตื้นๆ สั้นๆ ..ยังขาดวิจารณญานในการแก้ไขปัญหา
โดยสรุป ..เพราะมันยาวมากแล้ว ( ที่จริงเรื่องนี้ให้บ่นทั้งวันก็ยังได้ ) ..
หนูต้องหัดมองการณ์ให้ไกลกว่านี้ ..คิดให้มาก ว่าอนาคตของหนู ของลูก ..อยู่ตรงไหน
..ถ้าพอจะหาเวลาไปเรียน ไปฝึกอบรม เสริมทักษะให้มันมีมากกว่านี้ ..ค่อยริจะทำงาน จะดีกว่ามั่วๆ งงๆ
แล้วอ่านไม่ขาด หรือจับจด ทำอะไรก็เจ๊ง ก็ล้มเหลว เพราะไม่มีหลักอะไรให้ยึดเหนี่ยวเลย
จะดีกว่ามั้ย ??
ลองไปไตร่ตรองดูดีๆ นะ
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ

แสดงความคิดเห็น
อยากมีรายได้เสริม เลี้ยงลูกไปด้วย ทำงานไปด้วย
ใครพอจะมีงานอะไรแนะนำบ้างมั้ยค้ะ เลี้ยงลูกอยู่บ้านเฉยๆ เงินไม่พอใช้
แฟนก้อทำงานคนเดียว ไม่ให้เราทำ ให้เราเลี้ยงลูกไปก่อน
แต่..เราก้อยากจะช่วยหาเงิน ไม่อยากรอเวลา
รู้สึกว่ามันเปลืองเวลาและเสียเวลาเปล่า
คิดอยากจะขายของ ขายขนม ขายแซนวิช ฯลฯ แฟนก้อไม่สนับสนุน
กลัวจะไม่มีเวลาดูลูกหรือทำของขายไม่สะดวก
จะไปซื้อแฟรนชายมาลงทุน ก้อไม่มีเงินลงทุน [ ขอพ่อ พ่อก้อยังไม่ให้ทำ ]
เลยคิดว่าอยากจะหาอะไรทำที่บ้าน ประกอบกับเลี้ยงลูกไปด้วย [ แฟนน่าจะ Ok ]
ความจริงเราทำอะไรก้อได้ที่ได้เงิน ไม่เกี่ยงเลย
แต่ติดที่แฟนเรานี่แหละ บอกให้รอเวลาไปทำงานจริงๆจังๆดีกว่า
มาทำเล่นทำเสียแบบนี้ มันเสียเวลา [ ก้อเราอยากช่วยหาเงิน หาคนเดียวมันไม่พอใช้หรอก
แถมเหนื่อยมาก เราก้อสงสารและเป็นห่วง เราคิดว่า ถึงจะได้น้อยแต่มันก้อเป็นเงินป้ะ
ค่อยๆ เก็บเล็ก เก็บน้อย ไปก้อได้ แฟนก้อว่าเราอีก เป็นคนไม่เก็บเงิน ( คนเราพอถึง
จุดเปลี่ยนต้องเปลี่ยนป้ะ ) ความคิดไม่ตรงกันสักที ]
สรุปเลยแล้วกัน บ่นอะไร ไม่รู้ยาวมาก คือ...อยากทำงาน อยากมีรายได้เสริม
อยากมีเงินเป็นของตัวเอง อยากช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย
วางแผนไว้ว่า จะซื้อนุ้น ทำนี่ ไหนจะใช้เวลาเก็บเงินอีก
อยากช่วยให้ความคิด ความฝัน สำเร็จ และ เป็นจริง เร็วๆ
ใครพอมีงานอะไรแนะนำ บอกได้เลยน้ะค้ะ ช่วยแนะนำน่อยคะ
ลูกเรายังเล็กจะไปทำงานข้างนอกมันก้อไม่สะดวก
[ เลี้ยงลูกเองคะ ทั้งเราและแฟน อยากเลี้ยงเอง อดทนต่อความคิดถึงไม่ไหว
ถึงจะเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย เลี้ยง ก้ออดไม่ได้อยู่ดี ยังไงก้อไม่เหมือนเราเลี้ยงเอง ]
จะทำงาน ทำอะไร ขายอะไร ยังไงก้อช่วยแนะนำ แนวทาง น่อยน้ะค้ะ
[ ความจริงเราคิดจะทำตั้งหลายอย่าง แต่ก้อด้วยหลายๆ เหตุผล ขัดกับแฟนบ้าง
ไม่มีเงินลงทุนบ้าง ไม่มีอุปกรณ์บ้าง สถานที่ไม่เพียงพอบ้าง ]
( ทำไมอยากทำอะไรถึงได้ติดขัดไปหมดก้อไม่รู้ เห้อ )
ท่ามีแบบต้นทุ่นต่ำๆ ก้อยิ่งดีคะ จะได้ประหยัดเงินขั้นเบื้องต้น
[ ก้ออย่างที่บอก แฟนทำงานคนเดียว เราจะขอเอาไปทำไรเยอะๆ เค้าจะหาว่าเรา
เอาเงินไปใช้มั่วซั่ว ไร้สาระ ไรงี้ ]
ขอบคุณสำหรับคนที่แวะมาอ่านน้ะคะ
ท่ามีงานอะไร ทำที่บ้าน ได้ [ ไม่ต้องไปข้างนอกก้อดีค้ะ ลำบากลูก ส่ง ปณ. เอา )
ยินดีรับงาน ไว้พิจารณาค้ะ. ขอบคุณล่วงหน้าคะ