สวัสดีทุกคนนะครับ ผมอยากจะปรึกษาครับว่าผมจะทำอย่างไรให้ความรักของผมผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ความรักเฟส 1 วันที่เราเจอกันครั้งแรก
ผมเจอกับกับแฟนผมครั้งแรกตอนผมอายุ 20 แฟนอายุ 15 ครับ ตอนนั้นผมอยู่ปี 2 เค้าอยู่ ม.3 เราเจอกันโดยบังเอิญที่โรงเรียนกวดวิชาจนผมได้คุยและรู้จีกกัน เราจีบกันยิงมุกเสี่ยวใส่กัน มันเป็นความรักแบบใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กมัธยมกับเด็กมหาลัยไม่มีสิ่งแอบแฝงอย่างแท้จริง สุดท้ายเราก็ได้เป็นแฟนกันเรารักกันมาก โดนพื้นฐานของเราต่างกันมากครับ ชอบอะไรไม่เหมือนกัน ชอบกินอะไรไม่เหมือนกัน แต่มันกลายเป็นความต่างที่ลงตัว เรามีทะเลาะกันงอลกันง้อกัน แต่แล้วผมกลับทำให้เค้าต้องเสียใจเพราะผมหลงผิดแอบไปชอบคนอื่นทำให้เราต้องเลิกกันหลังจากที่เราคบกันมาได้ปีกว่าผมเสียใจมากครับที่ทำให้เค้าต้องเสียใจ และเสียคนที่ผมรัก สุดท้ายผมก็ไม่เหลือใคร
ความรักเฟส 2 วันที่เราได้เจอกันอีกครั้ง
หลังจากที่เราได้เลิกกัน มันทำให้ผมรู้ว่าผมรักเธอมากเพราะผมไม่เคยอยู่กับใครแล้วรู้สึกสบายใจ ไม่เคยรู้สึกลำบากใจ หรือฝืนใจเลยนั่นเพราะว่าหลังเราก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต เราต่างคนต่างมีแฟน แต่ผมกลับรู้สึกยังรักแฟนคนเดิมของผมมากกว่าแฟนคนใหม่ และแฟนคนเดิมของผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน เรายังติดต่อกันอยู่เจอกันอยู่ จนเวลาผ่านไป 1 ปี ผมได้เลิกกับแฟนใหม่เพราะผมคิดว่าผมต้องทำในสิ่งที่ใจเรารู้สึก ส่วนแฟนคนเดิมเวลานั้นเค้าก็ไม่ได้คบใครเราจึงกลับมาคุยกัน และไม่นานเราก็กลับมาเป็นแฟนกัน
ความรักเฟส 3 วันที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิต
วันที่ 20 พ.ย. 2557 เป็นวันครบรอบ 10 ปี ที่เรารู้จักกันมา เราได้ผ่านตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยทำงานทำให้เราเรียนรู้อะไรมาด้วยกันหลายอย่างปรับตัวปรับความเข้าใจกันเยอะมากเราก็คบกันมาต่อจนเข้าปีที่ 11 แต่ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปก็ได้เกิดขึ้นตอน มี.ค 58 ที่ผ่านมานี้
เรื่องเกิดจากผมที่หลังๆเราเริ่มคุยกันน้อยลงด้วยเรื่องของชีวิตจริงที่ต้องรับผิดชอบหลายสิ่ง คนที่ทำงานแล้วคงจะเข้าใจจึงทำให้เราคุยกันน้อยลงมีช่วงปรับความเข้าใจกันน้อยลง มันทำให้ผมเกิดนอกลู่นอกทาง ไปคับกับคนอื่น แต่ผมไม่คิดจริงจังแค่คุยแก้ขัดซึ่งมันทำให้ผมเปลี่ยนไปทำให้แฟนผมรู้สึกใส่ใจเค้าน้อยลง เป็นแบบนี้มาช่วง 1-2ปีหลัง แต่เราก็ยังเจอกัน ปกติ คุยกันปกติ ไปเที่ยวกัน รักกันปกติ
คำว่าปกติ เป็นเหมือนความผิดพลาดครั้งใหญ่ โดยที่หารู้ไม่ว่ามันทำให้เค้ารักผมน้อยลงโดยที่ผมไม่รู้ตัว จนช่วงปลายปี ผมถึงจะรู้สึกว่าเค้าแปลกๆ (ใช่สิสมควรแล้ว) ผมก็ยังไม่พูดอะไรคอยสังเกตุ มันใช่อย่างที่คิดครับ ความรักของเราเกิดปัญหาแล้ว พอผมรู้ตัวผมก็ปรับปรุงตัวใหม่เลิกคุยกับอีกคน กลับมาใส่ใจ ประคองความรักไม่ให้แย่ลง
ผ่านไปได้ 3-4 เดือน ผมคิดว่าคงต้องคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นจะได้ปรับปรุงแก้ไข พอได้คุยกันแทนที่จะได้ปรับปรุงกลับทำให้เค้าบอกเลิกกับผม เพราะเค้ารู้เรื่องที่ผมไปคุยกับคนอื่น ชีวิตเค้าตอนนี้ต้องโฟกัสเรื่องงานมากกว่าอย่างอื่น เค้าไม่ได้มีคนอื่น อยากลองใช้ชีวิตคนเดี่ยว ทำอะไรด้วยตัวเองเพราะเราช่วยเค้ามาตลอด
ผมเสียใจมากๆครับ เสียใจมากที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลย เค้าเป็นจุดมั่งหมายในชีวิตที่ทำให้ผมมีกำลังใจทำงาน สู้กับปัญหาเค้าเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผมเดินไปข้างหน้า ช่วงนั้นร้องให้ทุกวัน เสียใจกับความแย่ ความเลวของตัวเอง หลังจากวันนั้นเค้าไม่ยอมติดต่อกับผมเลย ไม่เจอกัน ไม่รับสาย แต่ยังดีที่เค้าตอบ Line แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แค่คำว่า “ค่ะ” เป็นแบบนี้มา 3 เดือน ทรมานสุดๆเลยครับ
ช่วง 3 เดือนนั้นผมพยามยามง้ออย่างสุดชีวิตครับ ผมยอมทำทุกอย่างอะไรก็ได้ที่จะไม่เสียเค้าไป ช่วงแรกๆ ผมแสดงความรู้สึกสำนึกผิดจริงๆจากหัวใจ แต่จะพยามยามไม่กดดันเค้านะครับ เพราะผมรู้ตัวว่าผมผิดผมควรได้รับบทเรียน ควรได้รับการลงโทษ
หลังจากนั้นก็คอยคอยเอาใจใส่ถามไถ่ ทุกข์สุข เราเริ่มคุยกันมากขึ้นทาง Line เค้ามีปัญหาเยอะมาก ผมก็เข้าคอยไปช่วยเหลือ คอยให้คำปรึกษา จนทุกวันนี้เรากลับมาคุยกันได้ประมาณ 50 % มีเจอกันบ้าง ไปทานข้าว แต่ยังไม่ได้กลับมาคบกัน
ผมอยากจะขอคำปรึกษาว่าควรทำอย่างไรต่อไปดีประเด็นคือ ตอนนี้เค้าอยากใช้ชีวิตด้วยตัวของตัวเอง ส่วนผมไม่อยากเสียเธอไปผมอยากจะดูแล ผู้หญิงคนนี่ เคยพูดกับเค้าแล้วครับ ผมได้รับบททเรียนที่ยิ่งใหญ่แล้ว ผมสำนึกแล้ว พร้อมจะเริ่มกันใหม่ ผมขอโอกาสครั้งสุดท้ายนะ ผมจะคุยหรือจะหาจุดตรงกลางอย่างไงดี และเพราะอีกประมาณ 6 เดือน เค้าจะไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศอีกซีกโลกนึงเป็นเวลา 6 เดือน
ความรัก เฟส 3 จะร่วงหรือจะรอด
ความรักเฟส 1 วันที่เราเจอกันครั้งแรก
ผมเจอกับกับแฟนผมครั้งแรกตอนผมอายุ 20 แฟนอายุ 15 ครับ ตอนนั้นผมอยู่ปี 2 เค้าอยู่ ม.3 เราเจอกันโดยบังเอิญที่โรงเรียนกวดวิชาจนผมได้คุยและรู้จีกกัน เราจีบกันยิงมุกเสี่ยวใส่กัน มันเป็นความรักแบบใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กมัธยมกับเด็กมหาลัยไม่มีสิ่งแอบแฝงอย่างแท้จริง สุดท้ายเราก็ได้เป็นแฟนกันเรารักกันมาก โดนพื้นฐานของเราต่างกันมากครับ ชอบอะไรไม่เหมือนกัน ชอบกินอะไรไม่เหมือนกัน แต่มันกลายเป็นความต่างที่ลงตัว เรามีทะเลาะกันงอลกันง้อกัน แต่แล้วผมกลับทำให้เค้าต้องเสียใจเพราะผมหลงผิดแอบไปชอบคนอื่นทำให้เราต้องเลิกกันหลังจากที่เราคบกันมาได้ปีกว่าผมเสียใจมากครับที่ทำให้เค้าต้องเสียใจ และเสียคนที่ผมรัก สุดท้ายผมก็ไม่เหลือใคร
ความรักเฟส 2 วันที่เราได้เจอกันอีกครั้ง
หลังจากที่เราได้เลิกกัน มันทำให้ผมรู้ว่าผมรักเธอมากเพราะผมไม่เคยอยู่กับใครแล้วรู้สึกสบายใจ ไม่เคยรู้สึกลำบากใจ หรือฝืนใจเลยนั่นเพราะว่าหลังเราก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต เราต่างคนต่างมีแฟน แต่ผมกลับรู้สึกยังรักแฟนคนเดิมของผมมากกว่าแฟนคนใหม่ และแฟนคนเดิมของผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน เรายังติดต่อกันอยู่เจอกันอยู่ จนเวลาผ่านไป 1 ปี ผมได้เลิกกับแฟนใหม่เพราะผมคิดว่าผมต้องทำในสิ่งที่ใจเรารู้สึก ส่วนแฟนคนเดิมเวลานั้นเค้าก็ไม่ได้คบใครเราจึงกลับมาคุยกัน และไม่นานเราก็กลับมาเป็นแฟนกัน
ความรักเฟส 3 วันที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิต
วันที่ 20 พ.ย. 2557 เป็นวันครบรอบ 10 ปี ที่เรารู้จักกันมา เราได้ผ่านตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยทำงานทำให้เราเรียนรู้อะไรมาด้วยกันหลายอย่างปรับตัวปรับความเข้าใจกันเยอะมากเราก็คบกันมาต่อจนเข้าปีที่ 11 แต่ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปก็ได้เกิดขึ้นตอน มี.ค 58 ที่ผ่านมานี้
เรื่องเกิดจากผมที่หลังๆเราเริ่มคุยกันน้อยลงด้วยเรื่องของชีวิตจริงที่ต้องรับผิดชอบหลายสิ่ง คนที่ทำงานแล้วคงจะเข้าใจจึงทำให้เราคุยกันน้อยลงมีช่วงปรับความเข้าใจกันน้อยลง มันทำให้ผมเกิดนอกลู่นอกทาง ไปคับกับคนอื่น แต่ผมไม่คิดจริงจังแค่คุยแก้ขัดซึ่งมันทำให้ผมเปลี่ยนไปทำให้แฟนผมรู้สึกใส่ใจเค้าน้อยลง เป็นแบบนี้มาช่วง 1-2ปีหลัง แต่เราก็ยังเจอกัน ปกติ คุยกันปกติ ไปเที่ยวกัน รักกันปกติ
คำว่าปกติ เป็นเหมือนความผิดพลาดครั้งใหญ่ โดยที่หารู้ไม่ว่ามันทำให้เค้ารักผมน้อยลงโดยที่ผมไม่รู้ตัว จนช่วงปลายปี ผมถึงจะรู้สึกว่าเค้าแปลกๆ (ใช่สิสมควรแล้ว) ผมก็ยังไม่พูดอะไรคอยสังเกตุ มันใช่อย่างที่คิดครับ ความรักของเราเกิดปัญหาแล้ว พอผมรู้ตัวผมก็ปรับปรุงตัวใหม่เลิกคุยกับอีกคน กลับมาใส่ใจ ประคองความรักไม่ให้แย่ลง
ผ่านไปได้ 3-4 เดือน ผมคิดว่าคงต้องคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นจะได้ปรับปรุงแก้ไข พอได้คุยกันแทนที่จะได้ปรับปรุงกลับทำให้เค้าบอกเลิกกับผม เพราะเค้ารู้เรื่องที่ผมไปคุยกับคนอื่น ชีวิตเค้าตอนนี้ต้องโฟกัสเรื่องงานมากกว่าอย่างอื่น เค้าไม่ได้มีคนอื่น อยากลองใช้ชีวิตคนเดี่ยว ทำอะไรด้วยตัวเองเพราะเราช่วยเค้ามาตลอด
ผมเสียใจมากๆครับ เสียใจมากที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลย เค้าเป็นจุดมั่งหมายในชีวิตที่ทำให้ผมมีกำลังใจทำงาน สู้กับปัญหาเค้าเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผมเดินไปข้างหน้า ช่วงนั้นร้องให้ทุกวัน เสียใจกับความแย่ ความเลวของตัวเอง หลังจากวันนั้นเค้าไม่ยอมติดต่อกับผมเลย ไม่เจอกัน ไม่รับสาย แต่ยังดีที่เค้าตอบ Line แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ แค่คำว่า “ค่ะ” เป็นแบบนี้มา 3 เดือน ทรมานสุดๆเลยครับ
ช่วง 3 เดือนนั้นผมพยามยามง้ออย่างสุดชีวิตครับ ผมยอมทำทุกอย่างอะไรก็ได้ที่จะไม่เสียเค้าไป ช่วงแรกๆ ผมแสดงความรู้สึกสำนึกผิดจริงๆจากหัวใจ แต่จะพยามยามไม่กดดันเค้านะครับ เพราะผมรู้ตัวว่าผมผิดผมควรได้รับบทเรียน ควรได้รับการลงโทษ
หลังจากนั้นก็คอยคอยเอาใจใส่ถามไถ่ ทุกข์สุข เราเริ่มคุยกันมากขึ้นทาง Line เค้ามีปัญหาเยอะมาก ผมก็เข้าคอยไปช่วยเหลือ คอยให้คำปรึกษา จนทุกวันนี้เรากลับมาคุยกันได้ประมาณ 50 % มีเจอกันบ้าง ไปทานข้าว แต่ยังไม่ได้กลับมาคบกัน
ผมอยากจะขอคำปรึกษาว่าควรทำอย่างไรต่อไปดีประเด็นคือ ตอนนี้เค้าอยากใช้ชีวิตด้วยตัวของตัวเอง ส่วนผมไม่อยากเสียเธอไปผมอยากจะดูแล ผู้หญิงคนนี่ เคยพูดกับเค้าแล้วครับ ผมได้รับบททเรียนที่ยิ่งใหญ่แล้ว ผมสำนึกแล้ว พร้อมจะเริ่มกันใหม่ ผมขอโอกาสครั้งสุดท้ายนะ ผมจะคุยหรือจะหาจุดตรงกลางอย่างไงดี และเพราะอีกประมาณ 6 เดือน เค้าจะไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศอีกซีกโลกนึงเป็นเวลา 6 เดือน