(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวทางที่จะหลีกเลี่ยงอาการตกหลุมรัก

เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากอ่านบทความแบบนี้กันแน่ๆ ^ ^ แต่แน่นอนว่าความรักก็มีได้ เป็นเรื่องดี เกิดขึ้นได้ง่าย แต่คนที่ตกอยู่ในห้วงของความรักน้อยมากที่จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการตกหลุมรักได้เลย โดยเฉพาะหากคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวด้วยแล้ว ก็สามารถชักจูงพูดคุยให้เข้าสู่โลกแห่งความโรแมนติคได้ง่าย เราลองมาดู 10 อันดับกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้าง













10.ใจเย็นๆและหายใจลึกๆเข้าไว้


เมื่อเราเห็นใครสักคนหนึ่งที่เข้าตาเรา แน่นอนว่าเลือดของเราจะต้องสูบฉีดออกมาจนทำให้เราเกิดความวิตกกังวล และความสับสนก็ถามหาเราตามมา ฉะนั้นทางที่ดี เราก็ต้องนั่งลงแล้วทำตัวเองให้ใจเย็น หายใจลึกๆ ช้าๆ แล้วอย่าไปคิดว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก หรือคิดว่าคนนี้ใช่สำหรับเรา แน่นอนว่าเรื่องที่เราเจอมันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่หักห้ามได้ยาก แต่เราสามารถปรับอารมณ์ตัวเองให้คงที่ได้














9.ตรวจสอบอารมณ์ของตัวเอง


ความรัก โรแมนติคส่วนใหญ่พวกเราจะได้รับอิทธิพลจากสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นหนังหรือนวนิยายต่างๆ เราก็ต้องหมั่นเช็คอารมณ์ของตัวเองให้พร้อม ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ หรือตรวจเช็คแรงดึงดูดทางเพศของเราว่า ตัวเองติดกับอยู่ในห้วงอารมณ์รักหรือเปล่า นี่ถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เรามีสติคิดไต่ตรองได้














8.บอกความรู้สึกในใจของตัวเองออกมา


ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องไปบอกความรู้สึกในใจอีกฝ่ายหนึ่งนะครับ แต่หมายความว่าเราพูดกับตัวเองเกี่ยวกับความรู้สึกในใจที่ตัวเองมีอยู่ว่า สิ่งที่ตัวเองคิดนั้นมันเป็นอารมณ์หรือเหตุผล เพื่อที่จะทำให้เราควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้ โดยที่ไม่ด่วนตัดสินใจรวดเร็วจนเกินไปในสิ่งที่เรากำลังคิดอยู่













7.อย่าไปหลงใหลกับความคิดสวยๆ


ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาจริงๆก็เป็นเรื่องยาก เพราะว่าเอาเข้าจริงๆแล้วการตกหลุมรักใหม่ๆจะทำให้เรามีความรู้สึกกดดันและวิตกกังวลมากในการที่จะทำความรู้จักกับอีกฝ่าย ดีที่สุดก็คือ หยุดคิดเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วก็อย่าไปหลงใหลกับความคิดสวยๆของเราเป็นอันขาด จำไว้ว่าความคิดสวยๆนั้นมันไม่เคยสวยตามโลกแห่งความเป็นจริงที่เราคิดเสมอไป














6.กลับมาดูตัวเองก่อน


บ่อยครั้งที่เรามักจะชอบสร้างอุดมคติความรักให้ดูยิ่งใหญ่อลังการจนเกินไป แน่นอนว่าอะไรที่มันใหญ่ๆ มันก็ต้องทำให้เราเกิดความเครียดบ้างเป็นธรรมดา ฉะนั้นเราอย่าไปสร้างอุดมคติพวกนี้อะไรเลย กลับมาดูตัวเองที่แท้จริงก่อนว่า เป็นยังไงบ้างเวลานี้ ความรู้สึกของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง แล้วก็คิดพิจารณาไต่ตรองให้ถี่ถ้วนว่า สิ่งที่เราคิดนั้นมันส่งผลเสียอย่างไร (เพราะว่าการตกหลุมรักผู้คนส่วนใหญ่มักจะมองแต่ผลดีอย่างเดียว)














5.อย่าไปมองเรื่องพวกนี้เลย


หากเรามีความหวังกับความหวานโรแมนติคหรืออยู่แต่ห้วงความรักมากเกินเหตุ เราก็ต้องมาดูตัวเองด้วยว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้เราคิดแบบนี้อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น เจอคนแปลกหน้าตามสถานที่ต่างๆก็อาจจะทำให้เราตกหลุมรักได้อย่างไร ก็ต้องมาแก้ไขและอย่าไปสนใจ ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้มากเกินไป ทางที่ดีก็คือ อย่าไปมองหาความรักตามสถานที่ต่างๆ แต่จะต้องวางแผนในเรื่องความรักจะดีกว่า














4.ลองถามตัวเองสิว่า คิดดีแล้วเหรอ


น้อยคนมากที่จะทำตัวเองในเรื่องนี้ หากเราอยู่ในอาการตกหลุมรัก ต้องรีบถามตัวเองให้เร็วที่สุดก่อนว่า คิดดีเหรอที่ตกหลุมรักอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะว่าหากปล่อยไว้นาน จะทำให้เราเกิดภวังค์ยากที่จะหลุดพ้นออกจากอาการตกหลุมรักได้ แม้ว่าการคิดบวกจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องมาเช็คข้อดี ข้อเสียด้วยว่า สิ่งที่เราคิดนั้นเป็นอย่างไร














3.ตรวจสอบความรู้สึกว่า อาการของเราตอนนี้เป็นอย่างไร


หลายคนก็มักจะตรวจสอบตัวเองตอนที่ตัวเองรู้สึกอกหักหรือผิดหวังขึ้นมาแล้ว หากเราไปเช็คตอนนั้น มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า แก้ไขเรื่องนี้ยาก จริงๆแล้วการแก้ไขเรื่องนี้จะง่ายลงหากเราหมั่นตรวจเช็คก่อนที่จะเจออาการตกหลุมรักว่า จะทำอย่างไรให้เราไม่มีความเจ็บปวด อย่างเช่น การใช้สมาธิไปกับอีกเรื่องหนึ่งแทนที่จะตกหลุมรักอย่างเดียว เช่นเรียนก่อน ทำงานก่อน สร้างเนื้อสร้างตัวก่อน แบบนี้เป็นต้น














2.แยกแยะให้ออกระหว่างความเพ้อฝันกับความจริง


ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเอาความเพ้อฝันไปปะปนกับความจริง ทำให้หลายคนเกิดอาการผิดหวังกับความรักจนเกิดโรคซึมเศร้า แล้วอาจจะนำไปสู่อะไรมากกว่านั้น ทางที่ดี เราจะต้องรู้ว่า อันไหนมันเพ้อฝัน อันไหนเป็นความจริง การใช้ความรักมันก็มีอยู่ 2 อย่าง ก็คือ ใช้ในตอนที่เราฝันกลางวัน กับใช้ตอนที่ปฎิบัติจริงๆ หากเราใช้ปฎิบัติจริงๆก็ถือเป็นเรื่องดีกว่าการเอาความเพ้อฝันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่าแม้ว่าปฎิบัติจริงๆจะไม่เห็นผลร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทำให้เราฟื้นฟูสภาพจิตใจได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับเอาความเพ้อฝันมาปะปนเข้าไปด้วย














1.พยายามระบายอารมณ์เรื่องนี้ออกมา อย่าไปเก็บกด


แน่นอนว่าการตกหลุมรักหลายคนก็ต้องรู้สึกกดดันบ้าง แต่แน่นอนที่สุดเราก็คงไม่อยากเสียคนที่เราตกหลุมรักไปแน่ๆ อันดับแรกเลย เราจะต้องระบายอารมณ์ตัวเองออกมาตั้งแต่แรก อย่าไปเก็บกด ไม่งั้นมันจะกลายเป็นความอิจฉาริษยากับคนอื่นๆ เราจึงต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองและก็จำไว้ว่า ชีวิตของเรามันมีอะไรดีกว่าการตกหลุมรักอีกมาก ไม่เชื่อพวกเราก็ลองค้นหาดูสิ


ผู้เขียน Mr.lawrence10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่