สวัสดีครับผม วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การเป็นนักท่องเที่ยวสายเดือดในต่างแดนกันน่ะนะฮะ มาเริ่มกันเลยครับผม แต่ขอบอกก่อนนะครับว่า รูปเยอะ และอาจจะยาวมากกกก ~ เอาละ ลุยยย!!! ออกตัวก่อนว่า รูปถ่ายเยอะๆอาจจะไม่ค่อยได้คุณภาพนะครับ อิอิ
เตรียมตัวกันซักนิด
เริ่มจากจำกัดงบอยู่ที่ 12000 บาท (บวกลบนิดหน่อยกันเหนียว) เที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ไปเริ่มที่เมือง ปีนัง-กัวลาลัมเปอร์-มะละกา และตามด้วยก็สิงคโปร์ซิตี้ ใช้เวลารวม 9 วัน 8 คืนครับผมม (จากวันที่ 8 มิ.ย.-17มิ.ย)
แต่สรุปยอดใช้ไปเพียงแค่ 9500 บาท!! (ไม่ได้ซื้อของฝากนะครับ ฮ่าๆ)
ก่อนจะเดินทางก็ต้องไปแลกเงินกันก่อนครับ ผมแลกเงินที่ Superrich ครับผม
มาเลเซียใช้เงินสกุลริงกิต (RM) ครับผม ผมก็แลกมา 3500 บาท จำไม่ได้ว่าได้กี่ริงกิตครับประมาน 350 มั้ง (1 ริงกิตประมาณ 9 บาทกว่าๆ เกือบ 10 ครับ คิดเป็น 10 ไปเลยก็จะง่าย อิอิ)
ส่วนเงินที่จะใช้ที่สิงคโปร์ผมแลกไว้ 3804 บาท ได้มา 150 SD. (1 ดอลล่าห์สิงคโปร์ ประมาณ 24 -25 บาทครับ)
โอเค ไปมาเลเซียกันเถอะ !
ก่อนจะไปเดือดดาลกัน ผมก็จากอีสานบ้านเกิดเมืองนอน ไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงครับ ดอกแรกนี่ก็โดนไป 700 กว่าบาทเลยทีเดียว นั่งไปไม่นานครับ จากคืนวันที่ 7 ไปถึงเช้าวันที่ 8 แล้วก็รอขึ้นรถขบวน 35 จาก Bangkok - Butterworth
ความเดือดดาลแรกมาจากการนั่งรถไฟครับ โดยนั่งรถไฟเส้นทางหัวลำโพง-Butterworth ราคา 1200 บาท มีวันละหนึ่งรอบครับ รถออกประมาน 14.50 ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงในการเดินทางครับ (นั่งกันจนเมื่อยตูดเลยทีเดียว) นอกจากจะใช้ไป 24 ชั่วโมงแล้ว พอเดินทางไปถึงก็ยังต้องปรับเวลาใหม่ตาม GTM+8 ของประเทศมาเลเซียอีกครับ ทำให้รวมๆแล้วเสียเวลาร่วม 25 ชั่วโมง !! แนะนำหาหนังสือไปอ่านรึเอาอะไรซักอย่างไปทำนะครับ อย่างผมนี่ซื้อหนังสือใหม่ แต่ดันไปลืมไว้กับเพื่อนก่อนขึ้นรถซะงั้น สรุปบนรถก็เลยต้องนั่งเซ็ง
มันแต่ทำไรกันอยู่ก็ไม่รู้ เลยไม่ได้ถ่ายรูปตั๋วรถไฟให้ดู อิอิ
เอาบรรยากาศในรถไปดูแทนละกันนะครับ
ผ่านไปซักพักจะไปถึงราชบุรีครับ ไอ่นี่ต้องไปโดนกันครับ ก๋วยเตี๋ยวราชรี!! กล่องละ 10 บาทครับ ประมาน 5 กล่องนี่อิ่มครับ ดีกว่าไปซื้อข้าวบนรถไฟ ท่านก็จะเจอไปจานละ 100+ ครับผม แต่ตอนนั้นผมไม่โลภเลยจัดไป 1 กล่องแล้วมานั่งเสียใจทีหลังเอาครับ T T
หลังจากนั้นพวกเราก็ข้ามเวลากันไป ถึงตอนเย็นไปกินข้าวที่ตู้เสบียงรถไฟ สิ่งนี้คือ
ข้าวผัดรถไฟครับผม ก็หน้าตาประมานนี้แหล่ะครับ โดนกันไปคนละ 100-150 บาทเลยทีเดียวเชียว ทุกคนต่างคิดถึงไอ้เจ้าก๋วยเตี๋ยวราชรีนั่น T T
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ นอนกันยาวๆ .....~ เตียงนอนเตียงล่างของขบวนนี้ก็จะ ใหญ่กว่าขบวนปกตินิดหน่อยครับ ก็นอนสบายดีเลยล่ะ หนาวๆ
ข้ามจากการนอนมาเลยครับ ตื่นเช้ามาใกล้จะถึงชุมทางหาดใหญ่ หาดใหญ่ก็ต้องไอ้นี่เลยครับ "ไก่ทอดหาดใหญ๋" ว่าไปหากินไม่ยากนะครับไก่ทอดหาดใหญ๋เนี่ย แถวบ้านผมก็ยังมีเลย ฮ่าๆ อันนี้ก็เป็นต้นตำรับเขาล่ะครับ น่าจะไก่มีอายุซักหน่อยนะครับนะ หนังเหนียนมาเชียวล่ะ แฮะๆ
หลังจากผ่านสถานีหาดใหญ่มาแล้ว ก่อนด่านปะดังเบซานี่รถไฟเราจะถูกถอดโบกี้ออกครับ ให้เหลือแค่ 3 ตู้ (ตู้อื่นที่เป็นเส้นทางของไทยจะถูกถอดออกที่สถานีหาดใหญ่ครับ) หลังจากนั้นเราก็จะไปที่ด่าน ปะดังเบซาครับ จากกำหนดเดิมน่าจะถึงช่วงเช้าๆ กลายเป็นถึงซะเกือบเที่ยงเลยย ก็เลยได้สั่งอาหารบนรถไฟกินกันครับ โดนไปอีกคนละ 100 เช่นเคยย T T
สำหรับด่านนี้ซึ่งเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง อ่ะก็ลงไปตรวจซะให้เรียบร้อยย
:: ด่านปะดังเบซาครับผม แบ่งกันคนละครึ่งกับมาเลเซียครับ ::
:: ก่อนตรวจก็ถ่ายรูปพอเป็นพิธีครับ คิวยาวก็รอกันไป ::
........ผมเหลือบไปเห็นสโลแกนกของรถไฟที่มาเลเซียครับ แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ "On Time Every Time" เหมือนบ้านเราเชียวล่ะ อิอิ
หลังจากที่เราตรวจพาสปอร์ตและอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นรถต่อ นาทีนี้เราก็เข้าสู่เขตประเทศมาเลเซียแล้วว เย้ๆๆ อย่าลืมปรับนาฬิกาด้วยนะครับ ที่มาเลเซียจะใช้ GTM+ 8 นะครับผม หลังจากนั้นก็ไม่รู้รออะไร นานมากกก ประมานเกือบชั่วโมงนึงครับ นั่งกันจนเบื่อ คุยกับเพื่อนร่วมทางชาวต่างประชาติจนเมื่อยมือกันเลยทีเดียว
:::: สิ่งแรกที่ประทับใจก็คือ รางรถไฟที่นี่ เค้าจะแยกกันอยู่จากถนนเลยครับ ไม่ได้มีไม้กั้นรถไฟแบบบ้านเรานาาา ทำให้เรื่องของอุบัติเหตุทางรถไฟนี่ไม่เกิดขึ้นครับ
เพื่อนร่วมทางของเราครับ ไม่รู้แกชื่ออะไรไม่ได้ถามแก แต่แกมาจากเวลส์ และจะไปปีนังเช่นกันครับผม
นั่งไปนั่งมา วิวด้านข้างยังไม่ต่างอะไรกันกับภาคใต้บ้านเราครับ มีแต่สวนยางเต็มเลย และทุ่งนาทุ่งหญ้าตลอดสองข้างทาง แต่ไม่ยักกะเห็นวัวเห็นควาย แฮะๆ
ถึงมาเลเซียครั้งแรก (1st time in Malaysia)
:: สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งของมาเลเซียที่ผมสังเกตคือ การจัดการเรื่องการคมนาคมนี่เค้าน่าจะทำได้ดีมากพอสมควรครับ สถานีรถไฟของเค้านี่สวยๆ ล้ำทั้งนั้นเลย แฮะๆ เทียบกับบ้านเราที่ เอ่อ.... ไม่พูดละกันเนาะ ไปต่อกันน
ในที่สุดก็ถึงแล้วววว!!! ฺ Butterworth เมื่อยตูดกับการเดินทางมาก ถึงปลายทางเวลา 16.30 ตามเวลาท้องถิ่นครับผม แต่การเดินทางยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะที่พักเราอยู่ที่ปีนัง! อย่ารอช้าครับ รีบไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งไปปีนังครับ ซึ่งราคาถูกแสนถูก 1.2RM หรือประมาน 12 บาทเท่านั้นเองครับผม
ภายในสถานี Butterworth ครับผม เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงท่าเรือเฟอร์รี่ครับ
ประมาน 5-10 นาทีก็ถึงครับ ระหว่างทางก็มีวิวชายฝั่งให้ดูเล่นๆไปก่อนน
ถึงแล้ว! ปีนัง เมืองมรดกโลก
เอาล่ะครับ เมื่อลงจากเรือเฟอร์รี่แล้วก็ได้เดินต่ออีกนิดหน่อยครับ เรากำลังจะไปขึ้นรถประจำทางของที่นี่กัน เขามีชื่อว่า "Rapid Penang" ซึ่งพวกเรา 3 คนไม่รู้เลยว่า นี่แหล่ะรถในตำนาน ยังกะว่า ทาคุมิจาก Initial D มาขับยังไงอย่างงั้นเลยล่ะคุณ!! ด้วยความที่ว่าระบบเค้าดีอ่ะนะครับนะ ก็มีรถบัสอยู่หลายสายเลยล่ะที่วิ่งในเมือง แต่จะมีสายนึงที่วิ่งวนในตัวเมืองครับ มันคือ CAT Bus นั่นเอง ขึ้นฟรีครับ จอดตามป้ายไปเรื่อย แฮะๆ ว่าแล้วก็ไปโลดดด
สภาพหน้าตา AE86 ในคราบรถบัสครับผม
พวกเราไม่มีเน็ตอะไรทั้งนั้นครับ เราลุยโดยใช้แผนที่ล้วนๆ !! ขึ้นแรกเราก็ขึ้นรถ CAT Bus ไปลงฮะ แล้วก็ใช้ความสามารถในการอ่านแผนที่ของพวกเราให้ลงได้ใกล้ที่พักมากที่สุดครับ เป็นฟีลที่ผมชอบมากเลยครับ เดินไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทางไหนเป็นทางไหน แต่เห็นคำว่า Jalan โน่นนี่นั่นเต็มไปหมด (Jalan แปลว่าถนนครับ) ไม่รู้ Jalan ไหนเป็น Jalan ไหน พวกเราต้องการไปที่ Hostel ที่จองไว้บนถนน Jalan เอ่อ Jalan Hutton ครับผม
Hostel ของเราเป็นแบบ capsule hotel ครับ ห้องละประมาน 18 เตียงแต่นอนสบายๆ เลยครับ อ้อในรูปเป็นร้านไวน์ที่อยู่ข้าง ร.ร. นะครับ พอดีหาชื่อ ร.ร. ไม่เจอแฮะๆ
ด้วยความปวดหลัง และปวดตูดมาตลอดการเดินทางมาที่นี่ครับ พอไปถึงที่พักก็เช็คอินเลยครับผม ซึ่ง อุแหม่ ถูกมาก คนละ 20 RM ต่อคืนครับ พวกเราก็นอนพักที่นี่กันสองคืนครับผม เป็นเงิน 40RM มีเน็ตเล่นฟรี เครื่องทำน้ำอุ่น อาหารเช้าครับผม อาหารเช้าก็จะเป็นแบบง่ายๆ ครับ เป็นขนมปังแล้วก็แยม ชา กาแฟ แค่นี้ครับ ส่วนน้ำเปล่า ราคา 1 - 1.5 RM ครับ ส่วนพวกน้ำอัดลมหรือน้ำอย่างอื่นนี่ก็จะประมาน 2-3 RM เลยครับผม
มาดูห้องพักด้วยกันครับผม (ขอบคุณรูปจาก booking.com ครับ)
หน้าตาประมานนี้ครับผม มีผ้าห่มให้ ผ้าเช็ดตัวก็มีให้ครับผม สำหรับผมถือว่าดีเลยล่ะ นอนสบาย
อันนี้เป็นส่วนของห้องน้ำครับ เรียกได้ว่าดีเลยครับผม ผม happy เลยกับราคาแค่นี้
ภาพตรงที่กินอาหารไม่มีซะงั้นน่ะครับ ผมเองก็ไม่ได้ถ่ายรูปในโฮสเทลเลยครับ กลับมาเก็บของ อาบน้ำแล้วก็ออกไปเที่ยว เป็นงี้ทั้ง 2 คืน เลยครับ ออกมาก็เพิ่งนึกได้ว่าจะไปเขียนรีวิวอยู่ แฮะๆ ก็ขออภัยเรื่องรูปมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
::: ควรจะมีขวดน้ำขวดเล็กติดตัวไว้ครับ จำได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อบ่อยครับ สามารถกรอกได้ตามโรงแรมครับผม :::
เอาล่ะครับ หลังจากดูโรงแรมกันแล้ว ได้เวลาที่พวกผมจะต้องออกลุยเที่ยวกันแล้ว ถึงแม้มันจะเย็นมากแล้วก็ตาม อิอิ แผนที่วางไว้วันนี้คือ ไปหาอะไรกิน แล้วก็ซื้อตั๋วรถจากปีนังไปที่ กัวลาร์ลัมเปอร์ครับผม ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปซื้อนั่นก็คือ
Bus Terminal KOMTAR ครับผม เดินจาก ร.ร. ไม่ไกลมากครับ ประมาน 10 นาทีก็ถึง ถือโอกาสชมเมืองไปด้วยในตัว ประมาน 850 เมตรครับผม เอ้าลุยย!!
ไอ้ตึกสูงๆนั่นแหล่ะครับ KOMTAR ที่เค้าว่ากัน ลุยยย!!
เดินไปด้วยก็เก็บภาพไปบ้างบ่างส่วนครับ ตอนค่อนข้างขี้เกียจถ่ายรูปมากครับผม
นานๆทีจะได้เจอรุ้งกินน้ำครับผม จัดซะหน่อย แต่ตอนนั้นแสงเริ่มหมดแล้ว ถ่ายไม่ค่อยได้ครับผม
พอไปถึงที่ KOMTAR เราก็จะเห็นหลายบริษัทเลยครับผม ซึ่งรถไปที่กัวลาร์ลัมเปอร์ก็มีให้เลือกหลายเวลามาก หลายราคาด้วย
พวกเราก็เดินหาด้วยเซนซ์ของเรากันว่าจะไปที่ร้านไหนดีที่ดูน่าเชื่อถือ ถูก และมีรอบที่เราต้องการครับ
เดินไปเดินมาก็ไปจบที่ร้านนี้ครับผม New Asian travel
พวกเราจองกันรอบ เอ่อ ประมานตี 1 ครับ 00.45 หรือ 01.45 นี่แหล่ะจำไม่ได้แล้วว โดนกันไป 38RM ครับผม
<< :: ถ้าถามว่าทำไมเอาบริษัทนี้ผมนี่พูดเลย บริษัทมันเยอะมากครับ รถทัวร์ก็หน้าตาเหมือกันหมด ไม่รู้ขับดีไม่ดีด้วยซ้ำ แต่เรามันรุ่นใหญ่! พร้อมผจญภัยเต็มที่ครับ พอได้ขึ้นจริงๆก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ อิอิ เดี๋ยวจะได้กล่าวถึงในตอนต่อไป :: >>
เอาล่ะครับ มหากาพย์การเดินทางครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นครับคุณผู้ชมครับ พวกเรา
หิว!! ต่อเลยครับ
[CR] :: ปีนัง กัวลาร์ฯ มะละกา --> สิงคโปร์ซิตี้ :: ด้วยรถไฟเส้นทาง Bangkok-Butterworth :: กับงบที่ไม่ถึง 10K !! (รูปเยอะนะ)
เตรียมตัวกันซักนิด
เริ่มจากจำกัดงบอยู่ที่ 12000 บาท (บวกลบนิดหน่อยกันเหนียว) เที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ไปเริ่มที่เมือง ปีนัง-กัวลาลัมเปอร์-มะละกา และตามด้วยก็สิงคโปร์ซิตี้ ใช้เวลารวม 9 วัน 8 คืนครับผมม (จากวันที่ 8 มิ.ย.-17มิ.ย)
แต่สรุปยอดใช้ไปเพียงแค่ 9500 บาท!! (ไม่ได้ซื้อของฝากนะครับ ฮ่าๆ)
ก่อนจะเดินทางก็ต้องไปแลกเงินกันก่อนครับ ผมแลกเงินที่ Superrich ครับผม
มาเลเซียใช้เงินสกุลริงกิต (RM) ครับผม ผมก็แลกมา 3500 บาท จำไม่ได้ว่าได้กี่ริงกิตครับประมาน 350 มั้ง (1 ริงกิตประมาณ 9 บาทกว่าๆ เกือบ 10 ครับ คิดเป็น 10 ไปเลยก็จะง่าย อิอิ)
ส่วนเงินที่จะใช้ที่สิงคโปร์ผมแลกไว้ 3804 บาท ได้มา 150 SD. (1 ดอลล่าห์สิงคโปร์ ประมาณ 24 -25 บาทครับ)
โอเค ไปมาเลเซียกันเถอะ !
ก่อนจะไปเดือดดาลกัน ผมก็จากอีสานบ้านเกิดเมืองนอน ไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงครับ ดอกแรกนี่ก็โดนไป 700 กว่าบาทเลยทีเดียว นั่งไปไม่นานครับ จากคืนวันที่ 7 ไปถึงเช้าวันที่ 8 แล้วก็รอขึ้นรถขบวน 35 จาก Bangkok - Butterworth
ความเดือดดาลแรกมาจากการนั่งรถไฟครับ โดยนั่งรถไฟเส้นทางหัวลำโพง-Butterworth ราคา 1200 บาท มีวันละหนึ่งรอบครับ รถออกประมาน 14.50 ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงในการเดินทางครับ (นั่งกันจนเมื่อยตูดเลยทีเดียว) นอกจากจะใช้ไป 24 ชั่วโมงแล้ว พอเดินทางไปถึงก็ยังต้องปรับเวลาใหม่ตาม GTM+8 ของประเทศมาเลเซียอีกครับ ทำให้รวมๆแล้วเสียเวลาร่วม 25 ชั่วโมง !! แนะนำหาหนังสือไปอ่านรึเอาอะไรซักอย่างไปทำนะครับ อย่างผมนี่ซื้อหนังสือใหม่ แต่ดันไปลืมไว้กับเพื่อนก่อนขึ้นรถซะงั้น สรุปบนรถก็เลยต้องนั่งเซ็ง
หลังจากนั้นพวกเราก็ข้ามเวลากันไป ถึงตอนเย็นไปกินข้าวที่ตู้เสบียงรถไฟ สิ่งนี้คือ ข้าวผัดรถไฟครับผม ก็หน้าตาประมานนี้แหล่ะครับ โดนกันไปคนละ 100-150 บาทเลยทีเดียวเชียว ทุกคนต่างคิดถึงไอ้เจ้าก๋วยเตี๋ยวราชรีนั่น T T
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ นอนกันยาวๆ .....~ เตียงนอนเตียงล่างของขบวนนี้ก็จะ ใหญ่กว่าขบวนปกตินิดหน่อยครับ ก็นอนสบายดีเลยล่ะ หนาวๆ
หลังจากผ่านสถานีหาดใหญ่มาแล้ว ก่อนด่านปะดังเบซานี่รถไฟเราจะถูกถอดโบกี้ออกครับ ให้เหลือแค่ 3 ตู้ (ตู้อื่นที่เป็นเส้นทางของไทยจะถูกถอดออกที่สถานีหาดใหญ่ครับ) หลังจากนั้นเราก็จะไปที่ด่าน ปะดังเบซาครับ จากกำหนดเดิมน่าจะถึงช่วงเช้าๆ กลายเป็นถึงซะเกือบเที่ยงเลยย ก็เลยได้สั่งอาหารบนรถไฟกินกันครับ โดนไปอีกคนละ 100 เช่นเคยย T T
สำหรับด่านนี้ซึ่งเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง อ่ะก็ลงไปตรวจซะให้เรียบร้อยย
........ผมเหลือบไปเห็นสโลแกนกของรถไฟที่มาเลเซียครับ แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ "On Time Every Time" เหมือนบ้านเราเชียวล่ะ อิอิ
หลังจากที่เราตรวจพาสปอร์ตและอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นรถต่อ นาทีนี้เราก็เข้าสู่เขตประเทศมาเลเซียแล้วว เย้ๆๆ อย่าลืมปรับนาฬิกาด้วยนะครับ ที่มาเลเซียจะใช้ GTM+ 8 นะครับผม หลังจากนั้นก็ไม่รู้รออะไร นานมากกก ประมานเกือบชั่วโมงนึงครับ นั่งกันจนเบื่อ คุยกับเพื่อนร่วมทางชาวต่างประชาติจนเมื่อยมือกันเลยทีเดียว
:::: สิ่งแรกที่ประทับใจก็คือ รางรถไฟที่นี่ เค้าจะแยกกันอยู่จากถนนเลยครับ ไม่ได้มีไม้กั้นรถไฟแบบบ้านเรานาาา ทำให้เรื่องของอุบัติเหตุทางรถไฟนี่ไม่เกิดขึ้นครับ
ถึงมาเลเซียครั้งแรก (1st time in Malaysia)
:: สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งของมาเลเซียที่ผมสังเกตคือ การจัดการเรื่องการคมนาคมนี่เค้าน่าจะทำได้ดีมากพอสมควรครับ สถานีรถไฟของเค้านี่สวยๆ ล้ำทั้งนั้นเลย แฮะๆ เทียบกับบ้านเราที่ เอ่อ.... ไม่พูดละกันเนาะ ไปต่อกันน
ในที่สุดก็ถึงแล้วววว!!! ฺ Butterworth เมื่อยตูดกับการเดินทางมาก ถึงปลายทางเวลา 16.30 ตามเวลาท้องถิ่นครับผม แต่การเดินทางยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะที่พักเราอยู่ที่ปีนัง! อย่ารอช้าครับ รีบไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งไปปีนังครับ ซึ่งราคาถูกแสนถูก 1.2RM หรือประมาน 12 บาทเท่านั้นเองครับผม
ถึงแล้ว! ปีนัง เมืองมรดกโลก
เอาล่ะครับ เมื่อลงจากเรือเฟอร์รี่แล้วก็ได้เดินต่ออีกนิดหน่อยครับ เรากำลังจะไปขึ้นรถประจำทางของที่นี่กัน เขามีชื่อว่า "Rapid Penang" ซึ่งพวกเรา 3 คนไม่รู้เลยว่า นี่แหล่ะรถในตำนาน ยังกะว่า ทาคุมิจาก Initial D มาขับยังไงอย่างงั้นเลยล่ะคุณ!! ด้วยความที่ว่าระบบเค้าดีอ่ะนะครับนะ ก็มีรถบัสอยู่หลายสายเลยล่ะที่วิ่งในเมือง แต่จะมีสายนึงที่วิ่งวนในตัวเมืองครับ มันคือ CAT Bus นั่นเอง ขึ้นฟรีครับ จอดตามป้ายไปเรื่อย แฮะๆ ว่าแล้วก็ไปโลดดด
พวกเราไม่มีเน็ตอะไรทั้งนั้นครับ เราลุยโดยใช้แผนที่ล้วนๆ !! ขึ้นแรกเราก็ขึ้นรถ CAT Bus ไปลงฮะ แล้วก็ใช้ความสามารถในการอ่านแผนที่ของพวกเราให้ลงได้ใกล้ที่พักมากที่สุดครับ เป็นฟีลที่ผมชอบมากเลยครับ เดินไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทางไหนเป็นทางไหน แต่เห็นคำว่า Jalan โน่นนี่นั่นเต็มไปหมด (Jalan แปลว่าถนนครับ) ไม่รู้ Jalan ไหนเป็น Jalan ไหน พวกเราต้องการไปที่ Hostel ที่จองไว้บนถนน Jalan เอ่อ Jalan Hutton ครับผม
ด้วยความปวดหลัง และปวดตูดมาตลอดการเดินทางมาที่นี่ครับ พอไปถึงที่พักก็เช็คอินเลยครับผม ซึ่ง อุแหม่ ถูกมาก คนละ 20 RM ต่อคืนครับ พวกเราก็นอนพักที่นี่กันสองคืนครับผม เป็นเงิน 40RM มีเน็ตเล่นฟรี เครื่องทำน้ำอุ่น อาหารเช้าครับผม อาหารเช้าก็จะเป็นแบบง่ายๆ ครับ เป็นขนมปังแล้วก็แยม ชา กาแฟ แค่นี้ครับ ส่วนน้ำเปล่า ราคา 1 - 1.5 RM ครับ ส่วนพวกน้ำอัดลมหรือน้ำอย่างอื่นนี่ก็จะประมาน 2-3 RM เลยครับผม
มาดูห้องพักด้วยกันครับผม (ขอบคุณรูปจาก booking.com ครับ)
ภาพตรงที่กินอาหารไม่มีซะงั้นน่ะครับ ผมเองก็ไม่ได้ถ่ายรูปในโฮสเทลเลยครับ กลับมาเก็บของ อาบน้ำแล้วก็ออกไปเที่ยว เป็นงี้ทั้ง 2 คืน เลยครับ ออกมาก็เพิ่งนึกได้ว่าจะไปเขียนรีวิวอยู่ แฮะๆ ก็ขออภัยเรื่องรูปมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
เอาล่ะครับ หลังจากดูโรงแรมกันแล้ว ได้เวลาที่พวกผมจะต้องออกลุยเที่ยวกันแล้ว ถึงแม้มันจะเย็นมากแล้วก็ตาม อิอิ แผนที่วางไว้วันนี้คือ ไปหาอะไรกิน แล้วก็ซื้อตั๋วรถจากปีนังไปที่ กัวลาร์ลัมเปอร์ครับผม ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปซื้อนั่นก็คือ
พอไปถึงที่ KOMTAR เราก็จะเห็นหลายบริษัทเลยครับผม ซึ่งรถไปที่กัวลาร์ลัมเปอร์ก็มีให้เลือกหลายเวลามาก หลายราคาด้วย
พวกเราก็เดินหาด้วยเซนซ์ของเรากันว่าจะไปที่ร้านไหนดีที่ดูน่าเชื่อถือ ถูก และมีรอบที่เราต้องการครับ
พวกเราจองกันรอบ เอ่อ ประมานตี 1 ครับ 00.45 หรือ 01.45 นี่แหล่ะจำไม่ได้แล้วว โดนกันไป 38RM ครับผม
เอาล่ะครับ มหากาพย์การเดินทางครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นครับคุณผู้ชมครับ พวกเรา หิว!! ต่อเลยครับ