จากพระยาบริรักษ์ - หลวงสุรบดินทร์ จนถึงหน้าความจริงในประวัติศาสตร์ พระยอดเมืองขวาง

คืนนี้ ขณะที่นั่งดูฉากที่หลวงสุรบดินทร์ลาเมียอยู่ที่หน้าเรือน เพราะต้องไปรับโทษทัณฑ์ที่ทำการหยาบหยามต่อนายห้างหันแตรแห่งเมืองวิลาด มันเจ็บ มันจุกอก จนน้ำตาร่วง นับเป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่ดูละครเรื่องนี้มา ที่น้ำตาร่วง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายฉากที่ทำเอาน้ำตาคลอๆบ้างแต่ไม่ถึงกับร่วง แต่ฉากที่ว่านี้ มันลึกมากจนเข้าไปกระแทกใจเลยทีเดียว... เจ็บ... เศร้า... ที่รับรู้ว่าบรรพบุรุษของเรา ต้องเสียสละมากเพียงไหน กว่าที่เราจะมาเป็นไทยได้ในวันนี้


เมื่อคิดย้อนไปตอนต้นๆเรื่อง ที่พระยาบริรักษ์ จำต้องยอมรับผิดว่าฆ่า กัปตันเจมิสัน ทั้งที่ไม่ได้กระทำ ก็เพื่อมิให้เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โตจนเป็นเหตุให้วิลาดถือเป็นข้ออ้างมาทำศึกรุกรานสยาม เพราะสยามไม่มีสิ่งใดจะต้านทานแสนยานุภาพกองทัพของวิลาดได้ จึงยอมเสียสละตัวเองเพื่อรักษาแผ่นดิน และเกียรติภูมิของแผ่นดินไว้ ซึ่งนั่นทำให้ทั้งครอบครัวต้องสูญสิ้นทุกสิ่งอย่าง กลายมาเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง และพระยาบริรักษ์ต้องตรอมใจตายในที่สุด

ต่อมาจนถึงรุ่นหลวงสุรบดินทร์ เมื่อนายห้างหันแตร กำเริบเสิบสาน ข่มขู่บังคับขายเรือเอ็กซเพรสที่เก่าจนสนิมเขรอะแก่สยาม ในราคาสูงถึง 1,200 ชั่ง หลวงสุรบดินทร์ก็คิดแผนที่จะทำให้นายห้างหันแตร ยอมล้มเลิกความตั้งใจด้วยการหลอกเอาตัวมากักตัวไว้ ถ้าไม่เลิกบังคับขายเรือ ก็ไม่ปล่อยตัวนั้น  เขาก็ได้คิดไว้แล้ว ว่า ตนเองจะต้องได้รับผลเช่นไรจากการกระทำต่อชาววิลาดคนสำคัญเช่นนั้น

หลวงสุรบดินทร์ มิได้เกรงกลัวต่อภัยที่จะมาถึงตัว ตรงกันข้าม กลับยินยอม ที่จะรับผิดชอบทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เพื่อแผ่นดินสยามอันเป็นที่รัก และเมื่อภัยนั้นมาถึง แม้จะมีผู้ใหญ่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ให้หลบหนีไป เจ้าตัวก็หายอมที่จะหลบหนีไปอย่างคนขลาดไม่ แต่ยินดีที่จะเดินเข้าไปรับโทษทัณฑ์นั้น แม้จะรู้ว่า มันหนักหนาเพียงไร หากมิได้มีการซ้อนแผนด้วยการเปลี่ยนตัว ดังที่เห็น หลวงสุรบดินทร์ คงมิได้สิ้นแต่เพียงชื่อ หากแม้นชีวิต ก็มิอาจรักษาไว้ได้

นั่นทำให้ชะตาชีวิตของหลวงสุรบดินทร์ ต้องกลับกลายเป็นคนที่สิ้นเกียรติยศอีกครา ต้องเร้นหลบกายไปอยู่กรุงเก่า หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นควาญช้าง ไม่อาจออกหน้าออกตาให้ผู้คนจดจำได้ หาไม่ภัยจะมาถึงตัวแลครอบครัวได้

เหตุการณ์นี้ในละคร ทำให้คิดไปถึง กรณีพิพาท ไทย-ฝรั่งเศส รศ.112 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญ ในนวนิยายเรื่อง ทวิภพ ซึ่ง จขกท เห็นว่าเป็นเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน คือ พระยอดเมืองขวาง ได้ปกป้องเมืองคำมวน ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่าน จากการรุกรานของฝรั่งเศส เป็นเหตุให้มีทหารฝรั่งเศสและญวน เสียชีวิต และพระยอดเมืองขวางต้องรับโทษ ทั้งๆที่ทำคุณให้แก่บ้านเมือง แม้จะไม่ถึงตาย แต่ก็เป็นที่เจ็บช้ำแก่ฝ่ายไทยมาก (เหตุการณ์ รศ.112 เป็นช่วงที่ไทยต้องเสียดินแดนบางส่วนให้แก่ชาติมหาอำนาจ เพื่อรักษาดินแดนส่วนใหญ่เอาไว้)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องพระยอดเมืองขวางได้จากลิงค์นี้ค่ะ

https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระยอดเมืองขวาง_(ขำ_ยอดเพชร)
http://talk.mthai.com/topic/129691

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น คือ สิ่งที่ทำให้เจ็บ...จนน้ำตาร่วง กับฉากนี้ในคืนนี้ คืนที่ ละครที่งดงามที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิต ได้ปิดฉากลง พร้อมกับความทรงจำดีๆมากมาย ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ในช่วงสมัย รัชกาลที่ 3 ที่หลายๆคน รวมทั้ง จขกท เองก็ไม่เคยได้ทราบมาก่อน
แต่ก็ได้มาทราบ จากความเอื้อเฟื้อ ของสมาชิกพันทิป หลายๆท่านที่ได้กรุณามาพูดคุยต่อยอด ให้ความรู้กันในประเด็นต่างๆมากมาย

และท้ายที่สุด (แม้จะได้กล่าวไปหลายครั้งในกระทู้ต่างๆ) ขอขอบคุณ เจ้าของบทประพันธ์ คุณวรรณวรรธน์ คุณปิ่น ทีวีซีน คุณเอกลิขิต คุณหนุ่ม อรรถพร ทีมนักแสดง ทีมงานเบื้องหลัง และเหล่านักแสดงเอ็กซตร้า ทุกท่าน ที่ได้ร่วมกัน สร้างสรรค์ ละครเรื่อง ข้าบดินทร์ นี้ขึ้นมา ให้คนไทยได้ดู ในยามที่บ้านเมือง ขาดความสมัครสมานสามัคคี เพื่อเตือนใจ ให้ระลึกไว้ว่า กว่าที่ไทยจะเป็นไทยในวันนี้ บรรพชน ได้แลกมาด้วยเลือด และ น้ำตา มากเพียงใด และเราในฐานะ ชนรุ่นหลัง ควรจะต้องทำอย่างไร เพื่อที่จะรักษา ประเทศไทย และ ความเป็น "ไท" เอาไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลานต่อไป มิให้เสียแรง ที่บรรพบุรุษ อุตส่าห์รักษาไว้ให้เรา

ขอขอบคุณจากใจค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่