เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 7 โฮมเสตย์บ้านเขาเหล็ก ถ้ำธารรอดใหญ่ กาญจนบุรี (1/2)

กระทู้สนทนา

ทริปจักรยาน เที่ยวเชิงอนุรักษ์ จักรยานเสือภูเขา บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว

           จากทริป เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 5 ศร.9 น้ำเอ่อ ไกรเกรียง ที่ทิ้งท้ายว่าจะไปสำรวจเส้นทางถ้ำธารรอด หลังจากสำรวจเส้นทางเสร็จ เราก็ประทับใจภาพบรรยากาศ ถ้ำธารลอดใหญ่ เป็นอย่างมาก จึงเป็นที่มา ให้กลับมาเยือนอีกครั้งในเดือน มิถุนายน โดย ครั้งแรก แค่อยากหาที่พักใกล้ๆ ถ้ำธารรอดใหญ่ เราก็พบหมู่บ้าน โฮมเสตย์ บ้านเขาเหล็ก

          บ้านเขาเหล็กเป็นหมู่บ้าน ชาวกะเหรี่ยงเล็ก ๆ อยู่ในตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นหมู่บ้านอยู่ใจกลางหุบเขา ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ มีธรรมชาติสวยงาม ชาวบ้าน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ และหาของป่ามีความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย โดยอาศัยธรรมชาติเป็นหลัก มีประเพณีวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยง ที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา สามารถเดินทางได้ด้วยตนเอง โดยใช้เส้นทางจากบ้านท่าลำใย ขับรถอ้อมขึ้นเขาไปทางอำเภอศรีสวัสดิ์ ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร จะมีถนนลูกรัง แยกเข้าสู่หมู่บ้านเขาเหล็กอีก 14 กิโลเมตร

          ข้อความด้านบนคือข้อมูลที่ค้นหาได้ในอินเตอร์เน็ต ช่างน้อย จริงๆ เมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ แต่ไม่เป็นไร เราต้องการแค่ที่พักใกล้ถ้ำธารลอดใหญ่เท่านั้น เพื่อย่นระยะทางในการปั่น เพราะเด็ก ๆ คงปั่น จากอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสิน ไป ถ้ำธารลอดใหญ่ ไม่ไหว แน่ ๆ ไป 37 โล กลับ อีก รวม ไปกลับ 70 โล เส้นทางขึ้น เขา ยังไง ก็ไม่สามารถ ปั่นได้ เราจึงเลือกที่จะพักที่บ้านเขาเหล็ก ซึ่งห่าง จากถ้ำธารรอดใหญ่เพียง 6.5 กิโลเท่านั้น  ตาม มาชมทริป Unseen บ้านเขาเหล็กโฮมสเตย์ สถานที่ซึ่ง ต้องห่มผ้าห่มนอน ในฤดูร้อน ตามมาดูกันค่ะ

          เช้าวันที่ 20 บ้านปานมณี วางแผนท่องเที่ยวทริปจักรยานไปเที่ยวที่หมู่บ้านเขาเหล็ก กาญจนบุรี เรา ตื่นเต้น และลุ้นกันมากว่า ทริปจะล่มหรือไม่ เพราะว่า ดันมีพยากรณ์อากาศ แจ้งมาว่า มีพายุฝนเข้ามา จะทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น ไปจนถึง วันอาทิตย์ แต่ ยังไง ฟ้าฝน ก็ไม่อาจหยุดทริปเราได้ เพราะว่าถึงฝนตกเราก็จะไป (ไม่รู้จะกังวลทำไม) เพราะเราเตรียมแผนการ ล่วงหน้าจองทุกสิ่งทุกอย่างกันไว้หมดแล้ว
แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างบ้านปานมณี ตื่นเช้า มาวันเสาร์ ตลอดจนถึงวันอาทิตย์ เราแทบไม่เจอฝนหนัก จนทำให้เป็นอุปสรรค์ ต่อการเที่ยวของครอบครัวเราเลย
          ทริปนี้ เป็นทริปพิเศษ เพราะเราพาน้องใหม่ (ต้องบอกว่าใหม่จริง ๆ คะ) ไม่เคยปั่นจักรยาน ออกทริป เลย เคยแต่ปั่นหน้าบ้าน ไปซื้อกับข้าว ไม่เป็นไร ค่ะ บ้านปานมณี ยินดีต้อนรับค่ะ เส้นทางเดิม กับเพื่อนใหม่ ก็จะมีรูปแบบความสนุกและอบอุ่นตื่น เต้น ไปอีกแบบค่ะ น้องใหม่ วันนี้ มีกัน 2 คู่ค่ะ 2 คู่ 4 คน  ค่ะ
          เนื่องจาก ทริปนี้ เป็นทริปรับน้องใหม่ เราจัดทริป ให้เหนื่อยพอประมาณ สนุก เต็มที่ Unseen เต็มตา ปลอดภัยเป็นพิเศษ ตามมาดูกันเลยคะว่า พวกเราสนุกกับเส้นทาง   Unseen กันแค่ไหน
          ระยะทางจากกรุงเทพ ถึงบ้านเขาเหล็ก ประมาณ 270 โลค่ะ

เมื่อเราถึงที่ตัวหมู่บ้าน เราก็พบกับความร่มรื่น อากาศเย็นสบายเหมือนกรุงเทพ หน้าหนาว ก็งงเหมือนกันว่า ทำไม สอบถาม คุณลุงจำลองเจ้าของ โฮมเสตย์ แก บอกว่า ที่นี่เย็นตลอดทั้งปี ยกเว้นหน้าหนาว จะหนาว มาก อุณภูมิ ประมาณ 5 องศา (แอบคิดในใจ หนาว ชนาดภาคเหนือเลยนะเนี่ยะ ต้องมาพิสูจน์ซะแล้ว)

ที่พัก ของเราวันนี้ค่ะ เป็นมุ้งกางเครื่องนอนครบคัน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่แสนประทับใจ คือความสะอาด ต้องบอกว่า คนที่นี่สะอาดมากจริง ๆ ไม่มีฝุ่น หรือหยากไย่ ห้องน้ำ ไม่ได้อยู่ติดกับตัวบ้าน เดินไปสักประมาณ 10 เมตร แต่ความสะอาด นี่ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ ที่นี่ ไม่มี ไฟฟ้า นะคะ คืนนี้ เราจะนอนรับลมธรรมชาติ กันค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ขนาดกลางวันยังไม่ร้อนเลยค่ะ สบาย ๆ
สำรวจที่หลับที่นอนห้องน้ำเสร็จสรรพ เราก็เตรียมตัวยกรถจักรยานลงแล้วค่ะ เด็ก ๆ อยากปั่นไปเที่ยวถ้ำ กันจะแย่อยู่ล้ว ตอนนี้ ก็ซ้อมขึ้นเนิน วอมร่างกายแถวหน้าบ้านพักกันก่อนค่ะ

เตรียมพร้อม ออกเดินทางค่ะ มาดูเส้นทางปั่น นะคะ พอออกจากหมู่บ้านได้ เราก็เลี้ยวซ้าย ปั่นดันเนิน เลยค่ะ เส้นทางดันเนินต่อเนื่อง ประมาณ 3.5 กิโล เส้นทางร่มรื่น สุดๆ ลองชมภาพบรรยากาศนะคะ

จากหมู่บ้าน เราต้องผ่าน ฝายน้ำนี้ก่อนค่ะ พอพ้นฝายน้ำไปแล้ว เราก็พบเส้นทางร่มรื่น ตามภาพเลยค่ะ

ข้อควรระวังสำหรับป่าทึบ ดังเช่นเส้นทางนี้ อยากให้นักปั่น ได้เงยมองหน้าขึ้นไปมองด้านบนเพื่อระวัง ท่อนไม้แห้งตกลงมาด้วยคะ ทริปนี้ พวกเราโชคไม่ดี ที่มีกิ่งไม้ใหญ่ ตกลงมาโดนเพื่อนมือใหม่ ที่กำลังเช็นขึ้นเนิน กิ่งไม้โดนที่ข้อมือพอดี แย่เลยค่ะ ข้อมือเจ็บมาก ยังดีที่มีชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฉีดลดบวม เหตุการนี้เป็นประสบการณ์ทำให้เรารู้เลยว่า ควรระมัดระวัง หากปั่นเข้าป่าทึบ มีต้นไม้ใหญ่ ลมแรง ช่วงที่นั่งพัก ให้มองว่า มีกิ่งไม้ติด อยู่หรือไม่ ค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ โชคดีที่เพื่อนนักปั่นไม่เป็นอะไรมาก หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ

โฉมหน้านักปั่นของเราในทริปนี้ค่ะ

หลังจากขึ้นเนินชันมาต่อเนื่อง 3.5 โล ทีนี้ก็ถึงเวลาสนุกแล้วค่ะ ไหลลงเงินยาว เหมือนกันค่ะ สนุกสนาน กันใหญ๋
ถึงปลายทางถ้ำธารลอดใหญ่แล้วค่ะ ระยะทาง เกือบ 7 กิโล ที่นี่สวยร่มรื่น เราไปไหว้พระ กันแล้วก็เข็นจักรยานไปขอฝากกับแม่ชีเพื่อที่จะ สละสองล้อคู่ใจ เดินเท้าเข้าป่าไปเที่ยวถ้ำ

สังเกตุ ดูดี ๆ นะคะ ทุกคนมองไปด้านหน้า ขึ้นทางด้านบน เพราะตกตะลึงกับภาพที่เห็น ถ้ำใหญ่มหึมา ต้องขอใช้คำว่ามหึมานะคะ

ภาพ มุมกว้าง ทำให้เรารู้สึกว่า พวกเราเป็นสิ่งเล็กๆ บนโลกใบนี้เลยว่าไหมคะ

พวกเราเดินเท้าจากวัดเข้าไป ปากถ้ำ ระยะทางประมาณ 800 เมตร กะโดยประมาณนะคะ ก็จะถึงปากถ้ำ

ถ้ำธารรอด ชื่อนี้มาจาก น้ำที่ลอดถ้ำลงมาจากด้านบน ตอนนี้ไม่มีน้ำแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า เราสามารถปีนขึ้นเข้าเพื่อไปดูปากถ้ำได้ แต่ใช้เวลาเดินพอสมควร พวกเรากลัวเด็ก ๆ ไม่ไหว เพราะมองแล้ว เส้นทางคงสูงชันน่าดูเลยค่ะ เลยตัดสินใจ เลือกที่จะเดินลงไป ทาง ถ้ำธารรอดน้อยมากกว่า ค่ะ

ภาพทางลงค่ะ พอมองแล้ว ก็คิดว่า เอ ตกลงเลือก ผิดเลือกถูกเนี่ยะ ที่เลือกที่จะเดินลงไปถ้ำธารลอดน้อย แทนที่จะเลือกเดินขึ้นไปปากถ้ำ ธารลอดใหญ่ ต้องขอบอกว่า เห็นทางลง ทางชันมากค่ะ แต่เมื่อมาถึงแล้ว ก็ต้องไปค่ะ ไม่งั้นเดี๊ยวเสียเที่ยวแย่เลย เจ้าหน้าที่บอกว่า เดินไปถ้ำธารรอดน้อย 2.7 กิโล พวกเราชะงักนิดนึง แล้วก็ตกลงกันว่า ตอนนี้ บ่าย 2 โมง เดินไปได้แค่ไหน 3 โมงต้องเริ่มเดินออก เพราะยังต้องเผื่อเวลาปั่นรถจักรยานกลับออกไปอีกค่ะ

ทางเดิน ร่มรื่น ธรรมชาติสมบูรณ์ มาก ๆ ค่ะ อาจจะเนื่องจาก เส้นทางมาค่อนข้างยาก เลยไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวเท่าไหร่ แต่หากได้มาแล้ว รับรองติดใจแน่ ๆ ค่ะ

น้ำตกระหว่างทางค่ะ สวยงามจริง ๆ

เดินมาได้ ประมาณ 1กิโล ถึงจุดชมวิว ก็เริ่มเหนื่อยกันแล้วค่ะ เหนื่อยแต่ไม่ร้อนมีลมโชย ๆ ตลอดเวลา มีความสุขจริง ๆ
ถึงตรงนี้เป็นทางลง แต่ทางลงชันมาก ๆๆๆๆ