สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวกระเป๋าใบนึงซึ่งอยู่ในฝันเรามานานมากก จนในที่สุดก็ได้สอยมาครอบครองซะทีค่ะ ^^ ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับกระเป๋าใบนี้ก่อน ใครอยากข้ามไปดูรีวิวสามารถข้ามไปได้เลยนะคะ
ย้อนไปเมื่อประมาณปี 2013 เราได้สอยกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิต คือ Louis Vuitton Wesminster GM (ซึ่งได้รีวิวไว้ในกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/30062363) พอใช้น้องหลุยส์ไปสักพักนึง เราก็เริ่มรู้สึกว่า เราอยากได้กระเป๋าถือ+มีสายสะพายยาว แล้วที่สำคัญคือ คนทั่วไปไม่รู้ว่าเป็นแบรนด์เนมค่ะ อย่างหลุยส์เงี้ย ใครเห็นก็รู้ทันทีว่านี่แบรนด์เนม เราเลยอยากได้กระเป๋าที่ไม่ได้มีลาย monogram หรือสัญลักษณ์อะไรชัดๆว่าเป็นแบรนด์นั้นๆ มากเกินไปน่ะค่ะ
ก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ ทีนี้ไปสะดุดกับน้องเป๋าใบนึงจากรีวิวของพี่คนนี้
http://pantip.com/topic/30038675 ก็เริ่มสนใจในแบรนด์ Saint Laurent ค่ะ เข้าไปลองจับในช็อป ลองถือลองสะพายดูก็ค่อนข้างชอบ แต่ราคาตอนนั้นมันค่อนข้างเกินฐานะเด็กมหาลัยอย่างเรามากๆค่ะ เราเลยตั้งใจว่าเราจะทำงานเก็บเงินให้ได้มากกว่าราคากระเป๋ามากๆก่อนแล้วค่อยมาซื้อ ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็ทำงานพิเศษแล้วก็ใช้ชีวิตประหยัดมากๆค่ะ เก็บเงินครึ่งปีเต็มๆจนได้เงินเท่าราคากระเป๋า แต่เราก็ยังไม่พอใจ เราก็ทำงานต่อไปอีกจนมาถึงวันนี้เราหาเงินได้ตามเป้าแล้ว เลยได้ฤกษ์ถอยกระเป๋าซักใบให้ตัวเองก่อนเรียนจบซะทีค่ะ ^^
ก่อนหน้านี้เราเข้าไปหยิบๆจับๆ Cabas Chyc ในช็อปหลายรอบ แต่อย่างนึงที่เรากังวลคือความย้วยของหนังค่ะ เข้าไปลองอ่านรีวิวเว็บฝรั่ง เห็นสภาพกระเป๋าที่เค้าใช้มาประมาณ 1 ปีก็เห็นเลยว่ากระเป๋าย้วยมาก เราเป็นคนชอบกระเป๋ามีทรงแข็งๆมากกว่าก็ค่อนข้างกังวลใจในจุดนี้ค่ะ เลยยังลังเลไม่ซื้อซะที จนกระทั่ง Saint Laurent ออกรุ่น Sac De Jour นี้มา เราก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะเพราะชอบตั้งแต่แรกเห็น มันเรียบหรูดูดีมาก ดูใช้ได้ทั้งวันธรรมดาและในโอกาสพิเศษ เหมาะสำหรับหิ้วไปทำงานด้วย เราเลยรีบเข้าไปลองหยิบลองจับทันทีค่ะ แต่มันหนักมากกก ขนาดไม่ใส่อะไรเลยยังหนักเลยค่ะ เราก็ไม่อยากได้กระเป๋าหนักๆ ทั้งที่มันสวยมาก ถูกใจทุกอย่าง เราก็เลยได้แต่เก็บทั้งสองใบนี้ไว้พิจารณาค่ะ ลังเลมากๆว่าเราจะเลือกกระเป๋าที่ดู Casual มากๆอย่าง Cabas Chyc ที่ราคาถูกกว่า แต่ใช้ไปนานๆหนังจะย้วยไม่ถูกใจเรา หรือกระเป๋าอย่าง Sac De Jour ซึ่งรูปทรง minimal มากๆ ทรงแข็ง ถูกใจเราทุกอย่าง ยกเว้นราคาที่แพงกว่า กับน้ำหนักที่น่าจะทำเราปวดไหล่ได้สบายๆเลย... ณ ตอนนั้น เรายังเลือกไม่ได้ค่ะ
แต่จากหัวข้อกระทู้ ทุกคนก็คงรู้แล้วเนอะว่าสุดท้ายเราตัดสินใจหยิบใบไหนมา ^^
[CR] (CR) รีวิวกระเป๋า Saint Laurent "Sac De Jour"
ย้อนไปเมื่อประมาณปี 2013 เราได้สอยกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิต คือ Louis Vuitton Wesminster GM (ซึ่งได้รีวิวไว้ในกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/30062363) พอใช้น้องหลุยส์ไปสักพักนึง เราก็เริ่มรู้สึกว่า เราอยากได้กระเป๋าถือ+มีสายสะพายยาว แล้วที่สำคัญคือ คนทั่วไปไม่รู้ว่าเป็นแบรนด์เนมค่ะ อย่างหลุยส์เงี้ย ใครเห็นก็รู้ทันทีว่านี่แบรนด์เนม เราเลยอยากได้กระเป๋าที่ไม่ได้มีลาย monogram หรือสัญลักษณ์อะไรชัดๆว่าเป็นแบรนด์นั้นๆ มากเกินไปน่ะค่ะ
ก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ ทีนี้ไปสะดุดกับน้องเป๋าใบนึงจากรีวิวของพี่คนนี้ http://pantip.com/topic/30038675 ก็เริ่มสนใจในแบรนด์ Saint Laurent ค่ะ เข้าไปลองจับในช็อป ลองถือลองสะพายดูก็ค่อนข้างชอบ แต่ราคาตอนนั้นมันค่อนข้างเกินฐานะเด็กมหาลัยอย่างเรามากๆค่ะ เราเลยตั้งใจว่าเราจะทำงานเก็บเงินให้ได้มากกว่าราคากระเป๋ามากๆก่อนแล้วค่อยมาซื้อ ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็ทำงานพิเศษแล้วก็ใช้ชีวิตประหยัดมากๆค่ะ เก็บเงินครึ่งปีเต็มๆจนได้เงินเท่าราคากระเป๋า แต่เราก็ยังไม่พอใจ เราก็ทำงานต่อไปอีกจนมาถึงวันนี้เราหาเงินได้ตามเป้าแล้ว เลยได้ฤกษ์ถอยกระเป๋าซักใบให้ตัวเองก่อนเรียนจบซะทีค่ะ ^^
ก่อนหน้านี้เราเข้าไปหยิบๆจับๆ Cabas Chyc ในช็อปหลายรอบ แต่อย่างนึงที่เรากังวลคือความย้วยของหนังค่ะ เข้าไปลองอ่านรีวิวเว็บฝรั่ง เห็นสภาพกระเป๋าที่เค้าใช้มาประมาณ 1 ปีก็เห็นเลยว่ากระเป๋าย้วยมาก เราเป็นคนชอบกระเป๋ามีทรงแข็งๆมากกว่าก็ค่อนข้างกังวลใจในจุดนี้ค่ะ เลยยังลังเลไม่ซื้อซะที จนกระทั่ง Saint Laurent ออกรุ่น Sac De Jour นี้มา เราก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะเพราะชอบตั้งแต่แรกเห็น มันเรียบหรูดูดีมาก ดูใช้ได้ทั้งวันธรรมดาและในโอกาสพิเศษ เหมาะสำหรับหิ้วไปทำงานด้วย เราเลยรีบเข้าไปลองหยิบลองจับทันทีค่ะ แต่มันหนักมากกก ขนาดไม่ใส่อะไรเลยยังหนักเลยค่ะ เราก็ไม่อยากได้กระเป๋าหนักๆ ทั้งที่มันสวยมาก ถูกใจทุกอย่าง เราก็เลยได้แต่เก็บทั้งสองใบนี้ไว้พิจารณาค่ะ ลังเลมากๆว่าเราจะเลือกกระเป๋าที่ดู Casual มากๆอย่าง Cabas Chyc ที่ราคาถูกกว่า แต่ใช้ไปนานๆหนังจะย้วยไม่ถูกใจเรา หรือกระเป๋าอย่าง Sac De Jour ซึ่งรูปทรง minimal มากๆ ทรงแข็ง ถูกใจเราทุกอย่าง ยกเว้นราคาที่แพงกว่า กับน้ำหนักที่น่าจะทำเราปวดไหล่ได้สบายๆเลย... ณ ตอนนั้น เรายังเลือกไม่ได้ค่ะ
แต่จากหัวข้อกระทู้ ทุกคนก็คงรู้แล้วเนอะว่าสุดท้ายเราตัดสินใจหยิบใบไหนมา ^^