3 เกลอเจอหน้าสาม
ยุคปี 2524 หรือ 2525 แหล่งฮ็อตฮิตแห่งนึงของคนกรุงเต้ปโดยเฉพาะบรรดาขาโจ๋ก็คือ แดนเนรมิตร เพราะเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นอะจ๊าก ๆไว้ต้อนรับมากมาย นอกจานี้แล้ว เค้ายังชอบจัดเทศกาลโดน ๆที่นั่นอีกตะหาก หนึ่งในนั้นก็คือ เช็งเม้ง แหง่ววววว หาใช่ไม่ ลอยเอ๊ยลอยกระทง และแล้วที่นั่น ราวทุ่มเศษ ๆในคืนจันทร์อิ่มเอิบ ก็ปรากฏเงาตะคุ่ม ๆ 3 ร่างที่อาศัยความสลัวรางริมกำแพงรั้วด้านข้างค่อย ๆก้าวเลียบริมผนังคอนกรีตอันสูงใหญ่ มินำพากับน้ำโคลนข้นคลั่กกลิ่นคลุ้งที่อยู่เบื้อล่างแม้เพียงน้อยนิด เพราะเสียงดนตรีที่กระหึ่มอยู่หลังกำแพงดั่งมนต์สวรรค์ที่เชื้อเชิญให้รีบเร่งข้ามไปหาโดยพลัน ว่าแล้ว เมื่อถึงจุดเหมาะเจาะ ทั้งสามร่างก็ใช้วิชาตัวเบาสะบัดเท้าเพียงวูบไหว ก็ลอยละลิ่วข้ามไปดุจจอมยุทธชั้นฟ้า .....เอ่อ ที่จริง มันกลับใช้วิชาตัวหนักค่อย ๆ ตะเกียกตะกายตะกุยกระ

กระสนดิ้นรนข้ามไปด้วยความทุลักทุเลทุเรศทุรังซะ มากกว่า และพลันที่เท้าทั้งสามคู่ลงสัมผัสพื้นอีกฟากฝั่ง ใจก็หล่นฮวบหายไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ ไม้หน้าสามหนึ่งท่อนที่กระชับอยู่ในมือพร้อมตีของโจ๋รายหนึ่ง นาทีนั้น ได้แต่ฝันถึงเตียงโรงพยาบาลพร้อมด้วยนางสาวพยาบาลงามงดอนงค์หนึ่ง " เฮ้ย พวก

รีบเข้าไปล้างขาในห้องน้ำนี่ เสร็จแล้วก็เข้างานไปเลยนะ" โห หัวใจพลันดีดพุ่งขึ้นจากตาตุ่มมาอยู่ที่ตำแหน่งเก่าดังเดิม พวกเราจึงรีบชแว้บเข้าไปล้างเท้าที่เขรอะโคลนในอ่างล้างหน้านั่นแหละ เพราะห้องส้วมถูกยึดครองไปหมดแล้วในตอนนั้น
ฉากข้างบนทั้งหมดก็คือ การแฮ็ปเข้างานชาวบ้านแบบไม่ยอมควักค่าบัตร 35 บาทนั่นเอง ดีที่โจ๋ที่เค้าจ้างมาคุมมาตีมันดันใจดีกับโจ๋ด้วยกัน พวกเราเลยรอดสัมผัสอันนุ่มนวลของไม้หน้าสามมาได้ชนิดใจหายใจคว่ำ ฉากที่เหลือก็เป็นการเดินเที่ยวงาน เหล่สาว หาอะไรกิน แล้วก็ ดิ้น ๆมันเข้าไป ฟลอร์ไหนเพลงมันส์ถูกใจก็เข้าไปกระแด่ว ๆกันซักหน่อย ฉากไม้หน้าสามว่าเสียวแล้ว ยังมีเสียวได้อีก จู่ ๆช็อตนึงไอ้จ่อย มันดันทะเล่อทะล่าไปยืนอยู่กลางรางรถไฟสายสวนสนุกซะงั้น ด้วยเสียงเพลงรอบงานที่ดังกระหึ่ม มันเลยไม่ได้ยินเสียงตะโกนของคนรอบข้าง รวมทั้งเรากับไอ้เกียรติที่ทั้งตะเบ็งเสียงทั้งกระโดดทำมือทำไม้บอกให้มันหลบออกจากวิถีหัวรถไฟที่กำลังห้อตะบึงเข้าหามัน เสียงตะโกนเริ่ม ๆจะเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดร้อง เพราะใคร ๆก็คิดว่า มันโดนแน่ ๆแล้ว ไม่มีทางที่จะเบรคทันแน่ แต่นาทีเป็นนาทีตายหรือพิการคางเหลืองนั้นเอง มันก็หันไปเห็นภาพ 3 มิติ หัวรถไฟที่กำลังพุ่งเข้าหา แล้วก็ดีดตัวออกมาจากฉากสยองได้ชนิดฉิวเฉียดสุด ๆ เฮ้อออออออออ มันเนี่ย ช่างขยันหาเรื่องเสียว ๆมาให้เพื่อนจริง ๆเล้ยยยย พับผ่าสิ
สอบผ่านเพราะน้ำตาลกาแฟ
ตอนรู้ว่าจะได้เรียนวิชากิจกรรมเข้าจังหวะ ประเภทติ๊ดชึ่ง ๆ หรือเริงลีลาศ เรางี้ตื่นเต้นน่าดูเลย เพราะชอบแนวแด๊นซ์โยก ๆเยก ๆอยู่แล้ว แต่พอเริ่มเรียนเท่านั้นแหละ รู้เลยว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ซะเล้ยยย ประเภทได้ขาลืมมือ ได้มือลืมขาอีกแล้ว จะเรียกว่ามีจังหวะนรกในตัวมาแต่เกิดก็คงจะได้ ขนาดว่าบางที ยังตบมือไม่เข้าจังหวะกับใครเค้าเพื่อนอีกตะหาก ที่ชอบสุดคือตอนที่ครูให้จับกลุ่มกันออกแบบท่าทางเต้นกับเพลงมันส์ ๆที่เลือกกันเองนั่นแหละ กลุ่มของเรากับเพื่อนเลือกเต้นเพลง Hands Up ที่มีท่อนฮุคติดหูว่า hands up baby hands up ,give me your heart ......นั่นไง หูยยย พวกเราเอาจริงเอาจังกันน่าดูเลย ประเภทนัดซ้อมตอนเย็นไม่พอ ยังต่อเสาร์อาทิตย์อีกด้วย กะจะเอาถ้วยหรือไงก็ไม่รู้ อันนั้นจบไป ตอนสอบลีลาศ อาจารย์ให้เต้นจังหวะบีกิน ชื่อมันฟังดูง่ายเนาะ แต่ยากส์มากส์ ๆสำหรับคนจังหวะนรกอย่างเรา เต้นไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่ผ่านซักที จนเรานึกถอดใจ ส่วนอาจารย์สาวก็อ่อนระอาใจเต็มที สุดท้ายประโยคทองก็มาถึง " นายนรินทร์ น้ำตาลกาแฟครูหมด เธอช่วยไปซื้อมาให้หน่อยซิ " สวรรค์เปิดทางแน่แล้ว เรารีบแจ้นไปซื้อที่ร้านในโรงอาหารทันที พอกลับขึ้นมา ครูก็บอกว่า " ไหนบีกินให้ดูอีกทีซิ" เราก็กระยุกกระยิกตามจังหวะดาวตูดของเราเหมียนเดิมนั่นแหละ " เอ้า ผ่านได้" เย้เย้
3 คนดังโรงเรียน เท่าที่เรารู้ โรงเรียนของเรามีคนที่มีชื่อเสียงอยู่สามคนคือ แบร๊ด พิทท์ , แองเจลีน่า โจลี่ ,แล้วก็บารัค โอบาม่า....ซะเมื่อไหร่ ดำฟอเรฟเวอร์ เจ้าของเพลงอาม่าอะไรซักอย่างนี่แหละ อีกคนคือ พี่เป็ด ปริญญา สุขชิต อดีตนักเชียร์ทีมชาติที่ชอบใส่ชุดไทยจูงปลากระเบนนั่นไง เดี๋ยวนี้เค้าหันมาเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านงานว่าวระดับนานาชาติที่สปอนเซอร์ โดยเครื่องดื่มมึนเมายี่ห้อหนึ่งที่กินแล้วอยู่ยงคงกระพัน " ฟันไม่เข้า" การันตีโดยทายาทเจ้าของโรงบ่มที่สมรสกับดาราสาวชื่อพ้องกับชื่อสุภาพของ สัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ( ใครรู้คำตอบให้ไปรับรางวัลได้ที่ทายาทรายนั้น พร้อมกับไปตะโกนต่อหน้าด้วยนะว่า " กินแล้วฟันไม่เข้า กินแล้วฟันไม่เข้า" แล้วจะได้ขวดเปล่า ๆ ประดับหัวกลับบ้านเป็นรางวัล ) คนสุดท้ายคือ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ .....มิชิ ๆ ติ๊ก ชีโร่......มิชิ ๆ ติ๊ก กลิ่นสี ตะหากเล่า รายนี้คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากเนาะ ส่วนคนดังรายที่สี่ของโรงเรียนกำลังจะมาในเร็ว ๆนี้แหละ 555 แต่ไม่รู้จะดังตุ้บ ดังตั้บ เปรี้ยงปร้าง หรือว่าฉี่แฉ่ อันนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไป อะแฮ่มมม เอิ๊ก
เกร่อยู่แถวเทเวศร์ บางลำภู บางขุนพรหม ท่าพระอาทิตย์มานานพอดูแล้ว ขมวดปมเลยดีกว่าเนาะ เราก็ลุ่ม ๆดอน ๆกับการเรียนที่นี่ ประเภทผีเข้าผีออก เทอมแรกดี เทอมสองแย่อยู่สองลูป วูบไหวไปตามอารมณ์หนุ่มและฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านบ้างตามประสาวัย หลัก ๆก็มีเรื่องจีบหญิง กินแห้ว แล้วก็ติวหนังสือให้เพื่อน ๆบ้าง กระดิกขาส่งซิกแน่ลบอกคำตอบตอนสอบบ้าง เอาฝิ่นเข้าห้องสอบบ้าง ลุกเดินขึ้นไปลอกกันดื้อ ๆตอนครูเผลอบ้าง เขียนสูตรใส่ไม้โปรบ้าง ใส่ยางลบบ้าง แอบไปเขียนชื่อต่อท้ายรายงานที่เพื่อน ๆอุตส่าห์ช่วยกันทำบ้าง โดนครูคณิตบิดสะดือแบบ 360 องศาบ้าง โดนครูโอลด์เมดไล่ออกจากห้องเพราะไม่ยอมถอดหมวกบ้าง โดนหวดก้นเพราะไม่ยอมตัดผมบ้าง ....ทว่า สุดท้ายแล้ว เราก็สอบเข้ามหา'ลัยกะเค้าจนได้สิน่า อะเฮ้อ ๆ
บันทึกชีวิต แง้มนิด ปิดหน่อยของคนชื่อต๋อง-25/49 จังหวะนรก น้ำตาลกาแฟช่วยชีวิต
ยุคปี 2524 หรือ 2525 แหล่งฮ็อตฮิตแห่งนึงของคนกรุงเต้ปโดยเฉพาะบรรดาขาโจ๋ก็คือ แดนเนรมิตร เพราะเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นอะจ๊าก ๆไว้ต้อนรับมากมาย นอกจานี้แล้ว เค้ายังชอบจัดเทศกาลโดน ๆที่นั่นอีกตะหาก หนึ่งในนั้นก็คือ เช็งเม้ง แหง่ววววว หาใช่ไม่ ลอยเอ๊ยลอยกระทง และแล้วที่นั่น ราวทุ่มเศษ ๆในคืนจันทร์อิ่มเอิบ ก็ปรากฏเงาตะคุ่ม ๆ 3 ร่างที่อาศัยความสลัวรางริมกำแพงรั้วด้านข้างค่อย ๆก้าวเลียบริมผนังคอนกรีตอันสูงใหญ่ มินำพากับน้ำโคลนข้นคลั่กกลิ่นคลุ้งที่อยู่เบื้อล่างแม้เพียงน้อยนิด เพราะเสียงดนตรีที่กระหึ่มอยู่หลังกำแพงดั่งมนต์สวรรค์ที่เชื้อเชิญให้รีบเร่งข้ามไปหาโดยพลัน ว่าแล้ว เมื่อถึงจุดเหมาะเจาะ ทั้งสามร่างก็ใช้วิชาตัวเบาสะบัดเท้าเพียงวูบไหว ก็ลอยละลิ่วข้ามไปดุจจอมยุทธชั้นฟ้า .....เอ่อ ที่จริง มันกลับใช้วิชาตัวหนักค่อย ๆ ตะเกียกตะกายตะกุยกระ
ฉากข้างบนทั้งหมดก็คือ การแฮ็ปเข้างานชาวบ้านแบบไม่ยอมควักค่าบัตร 35 บาทนั่นเอง ดีที่โจ๋ที่เค้าจ้างมาคุมมาตีมันดันใจดีกับโจ๋ด้วยกัน พวกเราเลยรอดสัมผัสอันนุ่มนวลของไม้หน้าสามมาได้ชนิดใจหายใจคว่ำ ฉากที่เหลือก็เป็นการเดินเที่ยวงาน เหล่สาว หาอะไรกิน แล้วก็ ดิ้น ๆมันเข้าไป ฟลอร์ไหนเพลงมันส์ถูกใจก็เข้าไปกระแด่ว ๆกันซักหน่อย ฉากไม้หน้าสามว่าเสียวแล้ว ยังมีเสียวได้อีก จู่ ๆช็อตนึงไอ้จ่อย มันดันทะเล่อทะล่าไปยืนอยู่กลางรางรถไฟสายสวนสนุกซะงั้น ด้วยเสียงเพลงรอบงานที่ดังกระหึ่ม มันเลยไม่ได้ยินเสียงตะโกนของคนรอบข้าง รวมทั้งเรากับไอ้เกียรติที่ทั้งตะเบ็งเสียงทั้งกระโดดทำมือทำไม้บอกให้มันหลบออกจากวิถีหัวรถไฟที่กำลังห้อตะบึงเข้าหามัน เสียงตะโกนเริ่ม ๆจะเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดร้อง เพราะใคร ๆก็คิดว่า มันโดนแน่ ๆแล้ว ไม่มีทางที่จะเบรคทันแน่ แต่นาทีเป็นนาทีตายหรือพิการคางเหลืองนั้นเอง มันก็หันไปเห็นภาพ 3 มิติ หัวรถไฟที่กำลังพุ่งเข้าหา แล้วก็ดีดตัวออกมาจากฉากสยองได้ชนิดฉิวเฉียดสุด ๆ เฮ้อออออออออ มันเนี่ย ช่างขยันหาเรื่องเสียว ๆมาให้เพื่อนจริง ๆเล้ยยยย พับผ่าสิ
สอบผ่านเพราะน้ำตาลกาแฟ
ตอนรู้ว่าจะได้เรียนวิชากิจกรรมเข้าจังหวะ ประเภทติ๊ดชึ่ง ๆ หรือเริงลีลาศ เรางี้ตื่นเต้นน่าดูเลย เพราะชอบแนวแด๊นซ์โยก ๆเยก ๆอยู่แล้ว แต่พอเริ่มเรียนเท่านั้นแหละ รู้เลยว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ซะเล้ยยย ประเภทได้ขาลืมมือ ได้มือลืมขาอีกแล้ว จะเรียกว่ามีจังหวะนรกในตัวมาแต่เกิดก็คงจะได้ ขนาดว่าบางที ยังตบมือไม่เข้าจังหวะกับใครเค้าเพื่อนอีกตะหาก ที่ชอบสุดคือตอนที่ครูให้จับกลุ่มกันออกแบบท่าทางเต้นกับเพลงมันส์ ๆที่เลือกกันเองนั่นแหละ กลุ่มของเรากับเพื่อนเลือกเต้นเพลง Hands Up ที่มีท่อนฮุคติดหูว่า hands up baby hands up ,give me your heart ......นั่นไง หูยยย พวกเราเอาจริงเอาจังกันน่าดูเลย ประเภทนัดซ้อมตอนเย็นไม่พอ ยังต่อเสาร์อาทิตย์อีกด้วย กะจะเอาถ้วยหรือไงก็ไม่รู้ อันนั้นจบไป ตอนสอบลีลาศ อาจารย์ให้เต้นจังหวะบีกิน ชื่อมันฟังดูง่ายเนาะ แต่ยากส์มากส์ ๆสำหรับคนจังหวะนรกอย่างเรา เต้นไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่ผ่านซักที จนเรานึกถอดใจ ส่วนอาจารย์สาวก็อ่อนระอาใจเต็มที สุดท้ายประโยคทองก็มาถึง " นายนรินทร์ น้ำตาลกาแฟครูหมด เธอช่วยไปซื้อมาให้หน่อยซิ " สวรรค์เปิดทางแน่แล้ว เรารีบแจ้นไปซื้อที่ร้านในโรงอาหารทันที พอกลับขึ้นมา ครูก็บอกว่า " ไหนบีกินให้ดูอีกทีซิ" เราก็กระยุกกระยิกตามจังหวะดาวตูดของเราเหมียนเดิมนั่นแหละ " เอ้า ผ่านได้" เย้เย้
3 คนดังโรงเรียน เท่าที่เรารู้ โรงเรียนของเรามีคนที่มีชื่อเสียงอยู่สามคนคือ แบร๊ด พิทท์ , แองเจลีน่า โจลี่ ,แล้วก็บารัค โอบาม่า....ซะเมื่อไหร่ ดำฟอเรฟเวอร์ เจ้าของเพลงอาม่าอะไรซักอย่างนี่แหละ อีกคนคือ พี่เป็ด ปริญญา สุขชิต อดีตนักเชียร์ทีมชาติที่ชอบใส่ชุดไทยจูงปลากระเบนนั่นไง เดี๋ยวนี้เค้าหันมาเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านงานว่าวระดับนานาชาติที่สปอนเซอร์ โดยเครื่องดื่มมึนเมายี่ห้อหนึ่งที่กินแล้วอยู่ยงคงกระพัน " ฟันไม่เข้า" การันตีโดยทายาทเจ้าของโรงบ่มที่สมรสกับดาราสาวชื่อพ้องกับชื่อสุภาพของ สัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ( ใครรู้คำตอบให้ไปรับรางวัลได้ที่ทายาทรายนั้น พร้อมกับไปตะโกนต่อหน้าด้วยนะว่า " กินแล้วฟันไม่เข้า กินแล้วฟันไม่เข้า" แล้วจะได้ขวดเปล่า ๆ ประดับหัวกลับบ้านเป็นรางวัล ) คนสุดท้ายคือ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ .....มิชิ ๆ ติ๊ก ชีโร่......มิชิ ๆ ติ๊ก กลิ่นสี ตะหากเล่า รายนี้คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากเนาะ ส่วนคนดังรายที่สี่ของโรงเรียนกำลังจะมาในเร็ว ๆนี้แหละ 555 แต่ไม่รู้จะดังตุ้บ ดังตั้บ เปรี้ยงปร้าง หรือว่าฉี่แฉ่ อันนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไป อะแฮ่มมม เอิ๊ก
เกร่อยู่แถวเทเวศร์ บางลำภู บางขุนพรหม ท่าพระอาทิตย์มานานพอดูแล้ว ขมวดปมเลยดีกว่าเนาะ เราก็ลุ่ม ๆดอน ๆกับการเรียนที่นี่ ประเภทผีเข้าผีออก เทอมแรกดี เทอมสองแย่อยู่สองลูป วูบไหวไปตามอารมณ์หนุ่มและฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านบ้างตามประสาวัย หลัก ๆก็มีเรื่องจีบหญิง กินแห้ว แล้วก็ติวหนังสือให้เพื่อน ๆบ้าง กระดิกขาส่งซิกแน่ลบอกคำตอบตอนสอบบ้าง เอาฝิ่นเข้าห้องสอบบ้าง ลุกเดินขึ้นไปลอกกันดื้อ ๆตอนครูเผลอบ้าง เขียนสูตรใส่ไม้โปรบ้าง ใส่ยางลบบ้าง แอบไปเขียนชื่อต่อท้ายรายงานที่เพื่อน ๆอุตส่าห์ช่วยกันทำบ้าง โดนครูคณิตบิดสะดือแบบ 360 องศาบ้าง โดนครูโอลด์เมดไล่ออกจากห้องเพราะไม่ยอมถอดหมวกบ้าง โดนหวดก้นเพราะไม่ยอมตัดผมบ้าง ....ทว่า สุดท้ายแล้ว เราก็สอบเข้ามหา'ลัยกะเค้าจนได้สิน่า อะเฮ้อ ๆ