คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
เรียกว่า self-reference paradox ครับ ตัวอย่างเช่น "ประโยคนี้เป็นเท็จ"
1.ถ้าประโยคข้างบนเป็นจริง จะแปลว่ามันเป็นเท็จ
2.แต่ถ้ามันไม่จริง เท็จ+ไม่จริง ก็จะกลายเป็นจริง
3.วนกลับไปข้อหนึ่ง -> loop
1.ถ้าประโยคข้างบนเป็นจริง จะแปลว่ามันเป็นเท็จ
2.แต่ถ้ามันไม่จริง เท็จ+ไม่จริง ก็จะกลายเป็นจริง
3.วนกลับไปข้อหนึ่ง -> loop
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
คุณเคยสงสัยในประโยคฟันธง หรือวลีรวบยอดมัดมือชกบ้างไหม EX.ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
"อะไรก็เกิดขึ้นได้" งั้นความเป็นไปไม่ได้ ก็เกิดขึ้นได้ซิ
"ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง" แล้ว อนิจจังก็อนิจจังใช่ไหม งั้นความมั่นคงเที่ยงแท้ก็มีอยู่จริงซิ ??
ตอนเด็กๆผมคงไม่ถนัดวิชาภาษาไทยเลยมาชวนเสวนา ไม่ได้มาชวนทะเลาะนะครับผม
แท้กผิดห้องก็ขออภัยนะคับ