สวัสดีคะ บัวเพิ่งเขียนรีวิวในเพจของพันทิปเป็นครั้งแรกคะ หากแท็กผิดหรือเขียนรีวิวผิดพลาดตรงไหน รบกวนชาวพันทิปรุ่นพี่แจ้งบัวด้วยคะ ทั้งนี้บัวขออภัยในความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าด้วยคะ
บัวได้รีวิวงานหมั้นและงานแต่งงานในเวปเพจของ เวดดิ้งสแควร์ มาก่อนหน้านี้คะ และก็มีหลายเสียงให้บัวเขียนรีวิวในพันทิปด้วย เพื่อไว้เป็นข้อมูลสำหรับท่านที่สนใจคะ
ก่อนจะเกิดงานทั้งหมดขึ้น บัวและแฟนมีความเห็นตรงกันว่า ต้องการจัดงานให้ออกมาตามความชอบของเราสองคน (ส่วนใหญ่ก็ความชอบของบัวคะ 5555 แต่บัวจะให้แฟนบัวสกรีนก่อนนะคะ ว่าเค้าโอเคไหม ถ้าไม่ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ต้องตกลงด้วยเหตุผลและงบที่เป็นตัวแปรสำคัญของการจัดงานคะ) ซึ่งเราทั้งสองคนเริ่มจากธีมงาน และธีมงานของเราคือ "Everything is Connected" ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์เรื่อง Cloud Atlas คะ
ซึ่งมีเนื้อหาและข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิต ที่เราสามารถเลือกที่จะนำไปใช้ได้คะ เพราะเรา 2 คนเชื่อว่า ทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเป็นเหตุเป็นผลกัน การกระทำใดๆของเราก็ตามในอดีตย่อมมีผลจนถึงปัจจุบันรวมทั้งอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย เปรียบได้กับการที่เราทั้งคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน อันเนื่องมาจาก ตลอดระยะเวลาที่เราคบหากันมา นอกจากความรัก ความเอื้ออาทร และการให้เกียรติกันแล้ว เราให้ความสำคัญกับครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่ายด้วยคะ ซึ่งเหตุผลทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราทั้งคู่มั่นใจและตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันคะ เพราะถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึง หรือทั้งสองฝ่ายไม่เข้าใจกันและปฏิบัติต่อกันไม่ดี ไม่เกรงใจกัน เราก็คงไม่เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างแน่นอนคะ
ดังนั้นเราจึงนำแรงบันดาลใจจากภาพยนต์เรื่องนี้นำมาเป็นหัวข้อในการถ่ายงาน Pre-wedding // ธีมงานหมั้น // ธีมงานแต่งงาน เราเลือกใช้สีกรมท่า แทน เจ้าบ่าว // สีขาว แทนเจ้าสาว เป็นธีมสีหลักค่ะ เนื่องจากทั้ง 3 งานเราใช้หัวข้อเดียวกันเพื่อความไม่จำเจน่าเบื่อ เราเลยออกแบบและตกแต่งให้แต่ละงานออกมาแตกต่างกัน แต่ยังคงไปในทิศทางเดียวกันคะ
เริ่มจากงานหมั้นกันเลยคะ BUAJAH ENGAGEMENT and Blessing Ceremony at THE PENINSULA BANGKOK ซึ่งเราจัดงานหมั้นและรดน้ำสังข์เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2557 คะ (ส่วนรีวิวงานแต่งงานตามลิงค์นี้ได้เลยคะ
http://pantip.com/topic/33976752)
สถานที่: THE PENINSULA BANGKOK โรงแรมเพนินซูล่า ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญนคร ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ครั้งแรกที่เยี่ยมชมสถานที่ เพือใช้สำหรับงานเช้า พี่จ๋าและบัวเห็นตรงกันว่าที่นี่เหมาะสมสำหรับงานเช้าของเราทั้งสองคนที่สุด เนื่องจากเราไม่ได้แต่งชุดไทยคะ ซึ่งเราทั้งสองตัดสินใจเลือกใช้โรงแรมนี้ตามข้อดีและข้อเสียดีงนี้คะ
ข้อดี
1. ที่จอดรถสะดวกสบาย ใกล้บ้านเจ้าสาว
2. การตกแต่งห้อง สวยงามอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าตกแต่งอื่นๆเพิ่มเติมคะ
3. เจ้าหน้าที่เซลล์น่ารักมากคะ ติดตามงาน ช่วยเหลือบัว ด้านการจัดงาน ตกแต่งทุกอย่างดีมากไม่มีขาดตกบกพร่อง รวมไปถึงวันงานด้วยเจ้าหน้าที่ โรงแรมทุกท่านตั้งแต่พนักงานเสริฟ พนักงานต้อนรับ พนักงานทุกคนในโรงแรม ให้บริการแขกที่มาร่วมงานอย่าง 5 ดาวเลยคะ
4. อาหารอร่อยคะ เเขกที่มาร่วมงานชมว่าอาหารอร่อยถูกปากคะ
ข้อเสีย
1. ราคาสูง สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ซึ่งจริงๆแล้ว สำหรับคนมีเงินก็คงไม่คิดว่าเป็นข้อเสียอะไร แต่สำหรับเราสองคนคิดว่า มันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากๆ คะเพราะเราได้รับการบริการที่ดีเลิศมากกว่าเงินที่เสียไปด้วยซ้ำคะ
หลังจากที่เราสรุป สถานที่ที่ใช้จัดงานได้ เราจึงคิดรูปแบบการจัดงานคะ เนื่องจากที่โรงแรม มีห้องจัดเลี้ยงให้เลือกใช้งานหลายห้องเลยคะ ซึ่งแต่ละห้องมีรูปแบบเฉพาะตัว และสวยงามต่างกันไป สำหรับเราเลือกใช้ห้องเจสเตอร์ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวห้องเป็น Duplex ตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง ขาว ซึ่งเหมาะกับธีมสีงานหลักที่เราเลือกไว้ และบัวก็เพิ่มสีมิ้นโกล์เพื่อความสดใสสำหรับงานเช้าให้ออกมามีอารมณ์แบบจิบน้ำชายามบ่ายผสมวินเทจคะ
ดังนั้นสีของธีมงานเช้าที่เราได้ คือ สีขาวแทนเจ้าสาว สีกรมท่าแทนเจ้าบ่าว และสีเขียวมิ้นโกล์ แทนเพื่อนเจ้าสาวและความยินดีของแขกที่เข้ามาร่วมงานของเราคะ ส่วนการตกแต่งบัวใช้ดอกไม้สีขาวทั้งหมด สำหรับผ้าและโบว์ที่ตกแต่งภายในห้องจัดเลี้ยงเป็นสีกรมท่า และให้เพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดสีเขียวมิ้น ร่วมทั้งแขกภายในงานหากหาได้ ของประดับตกแต่งอื่นๆให้คุมโทนเป็น กรมท่า มิ้นโกล์ และขาวคะ
อันดับถัดไปเราก็มาดูรายละเอียดเรื่องการจัดงานพิธีและจัดเลี้ยงคะ ก่อนอื่นเราสรุปเรื่องแขกที่มาร่วมงานก่อน เนื่องจากเราจัดงานหมั้นและงานแต่งงานแยกวันกันคะ เหตุผลมาจากฤกษ์ที่เราได้รับมา และวันหมั้นของเราจัดใกล้กับช่วงวันสิ้นปี ดังนั้นเราจึงเชิญแค่แขกผู้ใหญ่และญาติสนิท เพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายร่วมงานเท่านั้น ซึ่งไม่เกิน 100 ท่านพอเราสรุปจำนวนแขกที่มางานได้ ก็มาดูเรื่องกำหนดการงานพิธีในวันนั้นต้องทำอะไรบ้างคะ ซึ่งงานของเรามีกำหนดการดังนี้คะ
เวลา 07:00 – 08:00น. พิธีสงฆ์ ห้องจินตหรา
นิมนต์พระสงฆ์ 9 องค์ รวมรับส่งพระสงฆ์
เตรียมอาหารเช้าสำหรับพระสงฆ์ 9 องค์
เวลา 07:30 – 08:45น. อาหารเช้าสำหรับแขกที่มาร่วมพิธีสงฆ์ ห้องจินตหรา
เสริฟโจ๊กฮ่องกง + น้ำสมุนไพร
เวลา 08:45 – 09:00น. เตรียมขบวนขันหมาก ห้องเจสเตอร์
เวลา 09:00 – 09:30น. แห่ขันหมาก พิธีหมั้นสวมแหวน และทานขนมอี๋
เวลา 09:30 – 10:30น. พิธีส่งตัว บ่าวสาว และญาติผู้ใหญ่ ขึ้นห้องพักเพื่อทำพิธีส่งตัว
เวลา 10:30 – 11:00น. พิธีรับไหว้ และ ยกน้ำชา
เวลา 11:00 – 12:00น. พิธีรดน้ำสังข์ และ ถ่ายรูปร่วมกัน
เวลา 12:00 - 14:30น. รับประทานอาหารกลางวัน
พอเราสรุปกำหนดการต่างๆ แล้วเราก็มาดูราคาค่าใช้จ่ายงานพิธีต่างๆ และ ค่าอาหาร เครื่องดื่มที่ใช้สำหรับจัดเลี้ยงคะ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คะ
ค่าใช้จ่ายสำหรับงานพิธี
- พิธีหมั้น 28,000 net
- พิธีรดน้ำสังข์ 28,000 net
- พิธีสงฆ์ 15,000 net
ค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับแขกในงาน เราเลือกเป็นซุ้มอาหารคะ (ขั้นต่ำซุ่มละ 100 ท่าน) เพราะ เราลองคำนวนดูแล้วถ้าเลือกใช้ซุ้มอาหาร รวมแล้วจะถูกกว่าโต๊ะจีน คอกเทล หรือบุฟเฟ่คะ อีกอย่างเราจัดใกล้ปีใหม่เลยไม่แน่ใจว่าแขกที่เราเชิญจะสามารถมาได้หรือไม่คะ และเป็นการประหยัดงบตรงนี้ได้อีกทางด้วยคะ รายการอาหารและเครื่องดื่มที่เราเลือกมีดังนี้คะ
- ซอฟดริ้งตลอดงาน 100 ท่าน ท่านละ 200++
- ซุ้มโจ๊กฮ่องกง 1 ซุ้ม ซุ้มละ 10,000 ++ สำหรับแขกที่ร่วมพิธีสงฆ์ในตอนเช้าคะ
- ซุ้มอาหารจานเดียว 3 ซุ้มค่ะ
ข้าวหมูแดงหมูกรอบ 9,500++
เกี๊ยวกุ้ง 16,000++
บาบีคิว 3 อย่างมีเป็ดย่าง หมูแดง ไก่เเช่เหล้า 12,000++
- ภัตราหารสงฆ์ 9 องค์ องค์ละ 980++ (บัวเตรียมอาหารสำหรับฉันเพลด้วยสำหรับถวายท่านนำกลับไปฉันที่วัดคะ โดยสั่ง S and P เพื่อประหยัดคะ ทางโรงแรมไม่ได้ชาร์ตค่าบริการใดๆคะ)
สำหรับของหวานและผลไม้บัวขอเซลช่วยนิดหน่อยคะ
- ใช้ขนมไทยจากพานขันหมาก ซึ่งเป็นร้านขนมไทยเจ้าอร่อยทำสดคะ ให้ทางโรงแรมจัดเสริฟแขกเป็นของหวานคะ (สำหรับขนมจากพานขันหมากบัวแนะนำให้ปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนเสริฟนะคะ เพราะบางบ้านถือคะ ว่าคนยังไม่แต่งงานทานแล้วไม่ดี บางคนถือคะ แต่บ้านเราสองคนไม่ซีเรียสคะ เสียดายของมากกว่าเพราะ ขนมมงคลตั้ง 4 ถาดใหญ่เจ้าภาพจะเอาไปไหนคะ ไม่เเจกแขกกลับบ้านก็ต้องทิ้ง บัวเลยนำเสริฟในงานดีกว่า เพราะจะได่ไม่ต้องซื้อของหวานจากทาง โรงแรมคะ)
- ขนมมาการง ซึ่งเป็นมาการงที่ใช้เป็นของชำร่วยวันหมั้น บัวสั่งที่ร้านมาเพิ่มเพื่อเสริฟในงาน และขอทางโรงแรมจัดเรียงให้สวยงามเสริฟในไลน์อาหารคะ
- บัวเสริมผลไม้นำมาเองคะ เป็นองุ่นไร้เมล็ด กับเชอรี่ กรณีนี้น้องบัวขอจากทางเซล์คะ เพราะไม่ต้องเตรียมไรมากแค่ ล้างและใส่ถาดสวยๆ นำมาวางเสริฟที่เคาเตอร์ก็พอคะ โชคดีเซลบัวอนุญาติเลยไม่เสียค่าใช้จ่ายคะ
*** ราคาที่แจ้งไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีนะคะ ***
เมื่อเราทราบว่าในวันนั้นต้องทำพิธีอะไรอย่างไรบ้าง บัวก็คิดว่าห้องเจสเตอร์เล็กไปสำหรับจัดพิธีทั้งหมดคะ บัวเลยอยากได้ห้องจินตราเพิ่มสำหรับงานพิธีสงฆ์และทานอาหารเช้า เพราะต้องมีเวทีสงฆ์ บัวคิดว่าเมื่อทำพิธีสงฆ์เสร็จต้องรื้อเวทีออก และทำพิธีหมั้นต่อ ทำให้บัวรู้สึกว่าดูวุ่นวายและกลัวว่าจะเคลื่อนย้ายไม่ทันเวลาคะ ซึ่งโรงแรมก็บอกว่าทันแน่นอนแต่ใจบัวก็ยังกังวลอยู่ เลยตัดสินใจของห้องจินตราเพิ่มค่ะ (ห้องจินตราอยู่ชั้น 2 เหนือห้องเจสเตอร์คะ)
ซึ่งปกติยอดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อห้องจัดเลี้ยงคะ ซึ่งยอดค่าใช้จ่ายงานจัดเลี้ยงจะอยู่ประมานแสนห้าแสนหกแล้ว ดังนั้นทางเซลล์เลยแจ้งว่าหากทำยอดเกิน แสนแปดก็จะสามารถใช้ได้ทั้งสองห้อง ดังนั้นบัวเลยเพิ่มดอกไม้ใช้สำหรับตกแต่งสถานที่และงานพิธีให้ ยอดเกินแสนแปดเพื่อแลกกับการที่บัวสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ห้องคะ
เมื่อเราทั้งสองคนได้รายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายและพิธีการต่างๆที่ต้องเตรียมแล้ว บัวก็แยกค่าใช้จ่ายเป็น 2 ส่วนคะ คือ ค่าใช้จ่ายของโรงแรม และ ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ของโรงแรม เพราะว่า ค่าใช้จ่ายของโรงแนมจะเป็นเงินก้อนใหญ่และบัวต้องใช้เวลาในการหมุนเงินคะ
สำหรับเพนินซูล่านั้น มีวิธีการชำระเงินแบบนี้ค่ะ
1. วางมัดจำ 30% จากยอดค่าใช้จ่ายจัดเลี้ยงทั้งหมดค่ะ เพื่อเป็นการจองวันที่ใช้ห้องจัดงานค่ะ
2. วางมัดจำ 40% จากยอดค่าใช้จ่ายจัดเลี้ยงทั้งหมดเช่นเดียวกันค่ะ ล่วงหน้า 30 วันก่อนวันงาน
3. ชำระส่วนที่เหลือหลังเสร็จงานค่ะ
สำหรับบัวคิดว่าเป็นการทยอยจ่ายเงินที่ดีนะคะ เพราะเราไม่ต้องจ่ายทีเดียววันงานซึ่งจำนวนเงินไม่ใช่น้อยๆคะ อีกอย่างเรามีเวลาให้เราได้หมุนเงินด้วย บัวจึงคิดว่าบัวคิดถูกที่เริ่มตั้งแต่เนิ่นๆ ค่อยๆเชคข้อมูลและพอมีปัญหาเรื่องสถานที่แรกที่บัวตั้งใจ บัวยังมีเวลาที่จะหาสถานที่ต่อไปและมีเวลาได้คิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปไหมคะ
บัวไม่รู้ว่าเป็นวิธีที่ถูกหรือเปล่า แต่สำหรับบัวส่วนไหนที่ชำระด้วยบัตรเครดิตได้ บัวจะเลือกชำระด้วยเครดิตการ์ด และก่อนชำระจะถามด้วยว่ามีโปรโมชั้นของธนาคารไหนไหม ณ ตอนที่จ่ายเงินคะ เพื่อจะเก็บเงินสดไว้จ่ายค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ แถมเราได้สะสมแต้มของบัตรนั้นๆ ถ้าโชคดีอาจมีโปรโมชั่นบัตรเครดิตร่วมกับโรงแรมหรือร้านค้าที่เราจ่ายก็ได้คะ ซึ่งหลังจากนั้นบัวจะนำเงินสดที่เตรียมไว้จ่ายบัตรต่อไปคะ เป็นวิธีการหมุนเงินของบัวคะ
เป็นภาพห้องจินตรานะคะ ที่บัวเลือกใช้สำหรับพิธีสงฆ์และทานอาหารเช้าคะ
เป็นภาพห้องเจสเตอร์ที่บัวใช้ทำพิธีหมั้นจนทานอาหารกลางวันคะ
[CR] รีวิวงานหมั้นและงานแต่งงาน ทำเองตั้งแต่แรกจนจบ Part 1
บัวได้รีวิวงานหมั้นและงานแต่งงานในเวปเพจของ เวดดิ้งสแควร์ มาก่อนหน้านี้คะ และก็มีหลายเสียงให้บัวเขียนรีวิวในพันทิปด้วย เพื่อไว้เป็นข้อมูลสำหรับท่านที่สนใจคะ
ก่อนจะเกิดงานทั้งหมดขึ้น บัวและแฟนมีความเห็นตรงกันว่า ต้องการจัดงานให้ออกมาตามความชอบของเราสองคน (ส่วนใหญ่ก็ความชอบของบัวคะ 5555 แต่บัวจะให้แฟนบัวสกรีนก่อนนะคะ ว่าเค้าโอเคไหม ถ้าไม่ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ต้องตกลงด้วยเหตุผลและงบที่เป็นตัวแปรสำคัญของการจัดงานคะ) ซึ่งเราทั้งสองคนเริ่มจากธีมงาน และธีมงานของเราคือ "Everything is Connected" ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์เรื่อง Cloud Atlas คะ
ซึ่งมีเนื้อหาและข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิต ที่เราสามารถเลือกที่จะนำไปใช้ได้คะ เพราะเรา 2 คนเชื่อว่า ทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเป็นเหตุเป็นผลกัน การกระทำใดๆของเราก็ตามในอดีตย่อมมีผลจนถึงปัจจุบันรวมทั้งอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย เปรียบได้กับการที่เราทั้งคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน อันเนื่องมาจาก ตลอดระยะเวลาที่เราคบหากันมา นอกจากความรัก ความเอื้ออาทร และการให้เกียรติกันแล้ว เราให้ความสำคัญกับครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่ายด้วยคะ ซึ่งเหตุผลทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราทั้งคู่มั่นใจและตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันคะ เพราะถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึง หรือทั้งสองฝ่ายไม่เข้าใจกันและปฏิบัติต่อกันไม่ดี ไม่เกรงใจกัน เราก็คงไม่เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างแน่นอนคะ
ดังนั้นเราจึงนำแรงบันดาลใจจากภาพยนต์เรื่องนี้นำมาเป็นหัวข้อในการถ่ายงาน Pre-wedding // ธีมงานหมั้น // ธีมงานแต่งงาน เราเลือกใช้สีกรมท่า แทน เจ้าบ่าว // สีขาว แทนเจ้าสาว เป็นธีมสีหลักค่ะ เนื่องจากทั้ง 3 งานเราใช้หัวข้อเดียวกันเพื่อความไม่จำเจน่าเบื่อ เราเลยออกแบบและตกแต่งให้แต่ละงานออกมาแตกต่างกัน แต่ยังคงไปในทิศทางเดียวกันคะ
เริ่มจากงานหมั้นกันเลยคะ BUAJAH ENGAGEMENT and Blessing Ceremony at THE PENINSULA BANGKOK ซึ่งเราจัดงานหมั้นและรดน้ำสังข์เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2557 คะ (ส่วนรีวิวงานแต่งงานตามลิงค์นี้ได้เลยคะ http://pantip.com/topic/33976752)
สถานที่: THE PENINSULA BANGKOK โรงแรมเพนินซูล่า ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญนคร ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ครั้งแรกที่เยี่ยมชมสถานที่ เพือใช้สำหรับงานเช้า พี่จ๋าและบัวเห็นตรงกันว่าที่นี่เหมาะสมสำหรับงานเช้าของเราทั้งสองคนที่สุด เนื่องจากเราไม่ได้แต่งชุดไทยคะ ซึ่งเราทั้งสองตัดสินใจเลือกใช้โรงแรมนี้ตามข้อดีและข้อเสียดีงนี้คะ
ข้อดี
1. ที่จอดรถสะดวกสบาย ใกล้บ้านเจ้าสาว
2. การตกแต่งห้อง สวยงามอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าตกแต่งอื่นๆเพิ่มเติมคะ
3. เจ้าหน้าที่เซลล์น่ารักมากคะ ติดตามงาน ช่วยเหลือบัว ด้านการจัดงาน ตกแต่งทุกอย่างดีมากไม่มีขาดตกบกพร่อง รวมไปถึงวันงานด้วยเจ้าหน้าที่ โรงแรมทุกท่านตั้งแต่พนักงานเสริฟ พนักงานต้อนรับ พนักงานทุกคนในโรงแรม ให้บริการแขกที่มาร่วมงานอย่าง 5 ดาวเลยคะ
4. อาหารอร่อยคะ เเขกที่มาร่วมงานชมว่าอาหารอร่อยถูกปากคะ
ข้อเสีย
1. ราคาสูง สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ซึ่งจริงๆแล้ว สำหรับคนมีเงินก็คงไม่คิดว่าเป็นข้อเสียอะไร แต่สำหรับเราสองคนคิดว่า มันคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากๆ คะเพราะเราได้รับการบริการที่ดีเลิศมากกว่าเงินที่เสียไปด้วยซ้ำคะ
หลังจากที่เราสรุป สถานที่ที่ใช้จัดงานได้ เราจึงคิดรูปแบบการจัดงานคะ เนื่องจากที่โรงแรม มีห้องจัดเลี้ยงให้เลือกใช้งานหลายห้องเลยคะ ซึ่งแต่ละห้องมีรูปแบบเฉพาะตัว และสวยงามต่างกันไป สำหรับเราเลือกใช้ห้องเจสเตอร์ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวห้องเป็น Duplex ตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง ขาว ซึ่งเหมาะกับธีมสีงานหลักที่เราเลือกไว้ และบัวก็เพิ่มสีมิ้นโกล์เพื่อความสดใสสำหรับงานเช้าให้ออกมามีอารมณ์แบบจิบน้ำชายามบ่ายผสมวินเทจคะ
ดังนั้นสีของธีมงานเช้าที่เราได้ คือ สีขาวแทนเจ้าสาว สีกรมท่าแทนเจ้าบ่าว และสีเขียวมิ้นโกล์ แทนเพื่อนเจ้าสาวและความยินดีของแขกที่เข้ามาร่วมงานของเราคะ ส่วนการตกแต่งบัวใช้ดอกไม้สีขาวทั้งหมด สำหรับผ้าและโบว์ที่ตกแต่งภายในห้องจัดเลี้ยงเป็นสีกรมท่า และให้เพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดสีเขียวมิ้น ร่วมทั้งแขกภายในงานหากหาได้ ของประดับตกแต่งอื่นๆให้คุมโทนเป็น กรมท่า มิ้นโกล์ และขาวคะ
อันดับถัดไปเราก็มาดูรายละเอียดเรื่องการจัดงานพิธีและจัดเลี้ยงคะ ก่อนอื่นเราสรุปเรื่องแขกที่มาร่วมงานก่อน เนื่องจากเราจัดงานหมั้นและงานแต่งงานแยกวันกันคะ เหตุผลมาจากฤกษ์ที่เราได้รับมา และวันหมั้นของเราจัดใกล้กับช่วงวันสิ้นปี ดังนั้นเราจึงเชิญแค่แขกผู้ใหญ่และญาติสนิท เพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายร่วมงานเท่านั้น ซึ่งไม่เกิน 100 ท่านพอเราสรุปจำนวนแขกที่มางานได้ ก็มาดูเรื่องกำหนดการงานพิธีในวันนั้นต้องทำอะไรบ้างคะ ซึ่งงานของเรามีกำหนดการดังนี้คะ
เวลา 07:00 – 08:00น. พิธีสงฆ์ ห้องจินตหรา
นิมนต์พระสงฆ์ 9 องค์ รวมรับส่งพระสงฆ์
เตรียมอาหารเช้าสำหรับพระสงฆ์ 9 องค์
เวลา 07:30 – 08:45น. อาหารเช้าสำหรับแขกที่มาร่วมพิธีสงฆ์ ห้องจินตหรา
เสริฟโจ๊กฮ่องกง + น้ำสมุนไพร
เวลา 08:45 – 09:00น. เตรียมขบวนขันหมาก ห้องเจสเตอร์
เวลา 09:00 – 09:30น. แห่ขันหมาก พิธีหมั้นสวมแหวน และทานขนมอี๋
เวลา 09:30 – 10:30น. พิธีส่งตัว บ่าวสาว และญาติผู้ใหญ่ ขึ้นห้องพักเพื่อทำพิธีส่งตัว
เวลา 10:30 – 11:00น. พิธีรับไหว้ และ ยกน้ำชา
เวลา 11:00 – 12:00น. พิธีรดน้ำสังข์ และ ถ่ายรูปร่วมกัน
เวลา 12:00 - 14:30น. รับประทานอาหารกลางวัน
พอเราสรุปกำหนดการต่างๆ แล้วเราก็มาดูราคาค่าใช้จ่ายงานพิธีต่างๆ และ ค่าอาหาร เครื่องดื่มที่ใช้สำหรับจัดเลี้ยงคะ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้คะ
ค่าใช้จ่ายสำหรับงานพิธี
- พิธีหมั้น 28,000 net
- พิธีรดน้ำสังข์ 28,000 net
- พิธีสงฆ์ 15,000 net
ค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับแขกในงาน เราเลือกเป็นซุ้มอาหารคะ (ขั้นต่ำซุ่มละ 100 ท่าน) เพราะ เราลองคำนวนดูแล้วถ้าเลือกใช้ซุ้มอาหาร รวมแล้วจะถูกกว่าโต๊ะจีน คอกเทล หรือบุฟเฟ่คะ อีกอย่างเราจัดใกล้ปีใหม่เลยไม่แน่ใจว่าแขกที่เราเชิญจะสามารถมาได้หรือไม่คะ และเป็นการประหยัดงบตรงนี้ได้อีกทางด้วยคะ รายการอาหารและเครื่องดื่มที่เราเลือกมีดังนี้คะ
- ซอฟดริ้งตลอดงาน 100 ท่าน ท่านละ 200++
- ซุ้มโจ๊กฮ่องกง 1 ซุ้ม ซุ้มละ 10,000 ++ สำหรับแขกที่ร่วมพิธีสงฆ์ในตอนเช้าคะ
- ซุ้มอาหารจานเดียว 3 ซุ้มค่ะ
ข้าวหมูแดงหมูกรอบ 9,500++
เกี๊ยวกุ้ง 16,000++
บาบีคิว 3 อย่างมีเป็ดย่าง หมูแดง ไก่เเช่เหล้า 12,000++
- ภัตราหารสงฆ์ 9 องค์ องค์ละ 980++ (บัวเตรียมอาหารสำหรับฉันเพลด้วยสำหรับถวายท่านนำกลับไปฉันที่วัดคะ โดยสั่ง S and P เพื่อประหยัดคะ ทางโรงแรมไม่ได้ชาร์ตค่าบริการใดๆคะ)
สำหรับของหวานและผลไม้บัวขอเซลช่วยนิดหน่อยคะ
- ใช้ขนมไทยจากพานขันหมาก ซึ่งเป็นร้านขนมไทยเจ้าอร่อยทำสดคะ ให้ทางโรงแรมจัดเสริฟแขกเป็นของหวานคะ (สำหรับขนมจากพานขันหมากบัวแนะนำให้ปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนเสริฟนะคะ เพราะบางบ้านถือคะ ว่าคนยังไม่แต่งงานทานแล้วไม่ดี บางคนถือคะ แต่บ้านเราสองคนไม่ซีเรียสคะ เสียดายของมากกว่าเพราะ ขนมมงคลตั้ง 4 ถาดใหญ่เจ้าภาพจะเอาไปไหนคะ ไม่เเจกแขกกลับบ้านก็ต้องทิ้ง บัวเลยนำเสริฟในงานดีกว่า เพราะจะได่ไม่ต้องซื้อของหวานจากทาง โรงแรมคะ)
- ขนมมาการง ซึ่งเป็นมาการงที่ใช้เป็นของชำร่วยวันหมั้น บัวสั่งที่ร้านมาเพิ่มเพื่อเสริฟในงาน และขอทางโรงแรมจัดเรียงให้สวยงามเสริฟในไลน์อาหารคะ
- บัวเสริมผลไม้นำมาเองคะ เป็นองุ่นไร้เมล็ด กับเชอรี่ กรณีนี้น้องบัวขอจากทางเซล์คะ เพราะไม่ต้องเตรียมไรมากแค่ ล้างและใส่ถาดสวยๆ นำมาวางเสริฟที่เคาเตอร์ก็พอคะ โชคดีเซลบัวอนุญาติเลยไม่เสียค่าใช้จ่ายคะ
*** ราคาที่แจ้งไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีนะคะ ***
เมื่อเราทราบว่าในวันนั้นต้องทำพิธีอะไรอย่างไรบ้าง บัวก็คิดว่าห้องเจสเตอร์เล็กไปสำหรับจัดพิธีทั้งหมดคะ บัวเลยอยากได้ห้องจินตราเพิ่มสำหรับงานพิธีสงฆ์และทานอาหารเช้า เพราะต้องมีเวทีสงฆ์ บัวคิดว่าเมื่อทำพิธีสงฆ์เสร็จต้องรื้อเวทีออก และทำพิธีหมั้นต่อ ทำให้บัวรู้สึกว่าดูวุ่นวายและกลัวว่าจะเคลื่อนย้ายไม่ทันเวลาคะ ซึ่งโรงแรมก็บอกว่าทันแน่นอนแต่ใจบัวก็ยังกังวลอยู่ เลยตัดสินใจของห้องจินตราเพิ่มค่ะ (ห้องจินตราอยู่ชั้น 2 เหนือห้องเจสเตอร์คะ)
ซึ่งปกติยอดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อห้องจัดเลี้ยงคะ ซึ่งยอดค่าใช้จ่ายงานจัดเลี้ยงจะอยู่ประมานแสนห้าแสนหกแล้ว ดังนั้นทางเซลล์เลยแจ้งว่าหากทำยอดเกิน แสนแปดก็จะสามารถใช้ได้ทั้งสองห้อง ดังนั้นบัวเลยเพิ่มดอกไม้ใช้สำหรับตกแต่งสถานที่และงานพิธีให้ ยอดเกินแสนแปดเพื่อแลกกับการที่บัวสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ห้องคะ
เมื่อเราทั้งสองคนได้รายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายและพิธีการต่างๆที่ต้องเตรียมแล้ว บัวก็แยกค่าใช้จ่ายเป็น 2 ส่วนคะ คือ ค่าใช้จ่ายของโรงแรม และ ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ของโรงแรม เพราะว่า ค่าใช้จ่ายของโรงแนมจะเป็นเงินก้อนใหญ่และบัวต้องใช้เวลาในการหมุนเงินคะ
สำหรับเพนินซูล่านั้น มีวิธีการชำระเงินแบบนี้ค่ะ
1. วางมัดจำ 30% จากยอดค่าใช้จ่ายจัดเลี้ยงทั้งหมดค่ะ เพื่อเป็นการจองวันที่ใช้ห้องจัดงานค่ะ
2. วางมัดจำ 40% จากยอดค่าใช้จ่ายจัดเลี้ยงทั้งหมดเช่นเดียวกันค่ะ ล่วงหน้า 30 วันก่อนวันงาน
3. ชำระส่วนที่เหลือหลังเสร็จงานค่ะ
สำหรับบัวคิดว่าเป็นการทยอยจ่ายเงินที่ดีนะคะ เพราะเราไม่ต้องจ่ายทีเดียววันงานซึ่งจำนวนเงินไม่ใช่น้อยๆคะ อีกอย่างเรามีเวลาให้เราได้หมุนเงินด้วย บัวจึงคิดว่าบัวคิดถูกที่เริ่มตั้งแต่เนิ่นๆ ค่อยๆเชคข้อมูลและพอมีปัญหาเรื่องสถานที่แรกที่บัวตั้งใจ บัวยังมีเวลาที่จะหาสถานที่ต่อไปและมีเวลาได้คิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปไหมคะ
บัวไม่รู้ว่าเป็นวิธีที่ถูกหรือเปล่า แต่สำหรับบัวส่วนไหนที่ชำระด้วยบัตรเครดิตได้ บัวจะเลือกชำระด้วยเครดิตการ์ด และก่อนชำระจะถามด้วยว่ามีโปรโมชั้นของธนาคารไหนไหม ณ ตอนที่จ่ายเงินคะ เพื่อจะเก็บเงินสดไว้จ่ายค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ แถมเราได้สะสมแต้มของบัตรนั้นๆ ถ้าโชคดีอาจมีโปรโมชั่นบัตรเครดิตร่วมกับโรงแรมหรือร้านค้าที่เราจ่ายก็ได้คะ ซึ่งหลังจากนั้นบัวจะนำเงินสดที่เตรียมไว้จ่ายบัตรต่อไปคะ เป็นวิธีการหมุนเงินของบัวคะ
เป็นภาพห้องจินตรานะคะ ที่บัวเลือกใช้สำหรับพิธีสงฆ์และทานอาหารเช้าคะ
เป็นภาพห้องเจสเตอร์ที่บัวใช้ทำพิธีหมั้นจนทานอาหารกลางวันคะ